&nbsp; &nbsp; ผ่านไปแล้วอย่างสวยงาม สำหรับงานเสวนาใหญ่ประจำปีของ Forbes Thailand ในปีนี้ กับเวที The&nbsp;Next Tycoons 2025: Investing Beyond The Downturn ที่จัดขี้นเมื่อวันที่ 26 ส.ค.2568 ที่โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ แอทเซ็นทรัลเวิลด์ ด้วยวัตถุประสงค์เพื่อเปิดเวทีแลกเปลี่ยนข้อมูล ความรู้ ประสบการณ์ และร่วมประเมินทิศทางการลงทุนแห่งอนาคต ในยุคที่เศรษฐกิจผันผวน ลงทุนอะไรถึงจะเป็นคำตอบที่ใช่ของวันนี้และอนาคต&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;Forbes Thailand The Next Tycoons 2025: Investing Beyond The Downturn ครั้งนี้ได้รับเกียรติจากวิทยากร 4 ท่านจาก 4 ธุรกิจ เริ่มด้วยตัวแทนธุรกิจทองคำ กีรดิต หิรัณยศิริ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด (MTS) ตัวแทนธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล นิรันดร์ ฟูวัฒนานุกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร BINANCE TH ตัวแทนด้าน VC กับเทรนด์ธุรกิจสตาร์ทอัพ เรืองโรจน์ พูนผล&nbsp;ประธาน กสิกร บิสซิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป (KBTG) และตัวแทนด้านการท่องเที่ยว&nbsp;Edison Chen&nbsp;รองประธาน Trip.com Group <div class="se-component se-image-container __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/08/AVBUfG2W5EguFcSZFGJH.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="AVBUfG2W5EguFcSZFGJH.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" origin-size="720,480" style="" data-index="0"><figcaption><div>​กีรดิต หิรัณยศิริ&nbsp;ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด (MTS)</div></figcaption></figure></div>​ทองคำ-บิตคอยน์มาแรง&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;วิทยากรทั้ง 4 ท่านแลกเปลี่ยนมุมมมองที่น่าสนใจต่ออนาคตของแต่ละธุรกิจ เริ่มจากทองคำ กีรดิต ย้ำว่าชั่วโมงนี้ยังเป็นเวลาที่สามารถลงทุนในทองคำได้ เพราะแนวโน้มราคาเชื่อว่าจะยังคงปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องและเป็นไปได้สูงว่าราคาทองคำจาก 51,000 บาทต่อบาททองคำในปัจจุบัน จะปรับขึ้นไปถึง 58,000 บาทภายในปีนี้ ในขณะที่หลายคนมองว่าอาจจะไปถึง 60,000 บาท ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย โดยเฉพาะปัจจัยลบ ไม่ว่าจะเป็นสงครามในหลายภาคพื้น แนวโน้มอัตราดอกเบี้ย ทุกครั้งที่มีปัจจัยลบราคาทองคำมักปรับตัวสูงขึ้นเสมอ เพราะถือเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย ความเสี่ยงน้อยกว่าการลงทุนอื่นๆ แนะนำให้มีไว้ในพอร์ตราว 10-15% เหตุเพราะไม่หวือหวาร้อนแรงนัก ลงทุนระยะยาวได้​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/08/1d51dUBByZfeaP8YNY55.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="1d51dUBByZfeaP8YNY55.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" origin-size="720,480" style="" data-index="1"><figcaption><div>​นิรันดร์ ฟูวัฒนานุกูล&nbsp;ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร BINANCE TH</div></figcaption></figure></div>&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ด้านธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล โดยเฉพาะบิตคอยน์ นิรันดร์ บอกว่ามีความคล้ายคลึงกับทองคำ แต่เป็นเทรนด์ที่ร้อนแรงกว่า ราคาบิตคอยน์ปีนี้ดีดตัวสูงขึ้น และหากอ้างอิงตามนโนบายของ Donald Trump ประธานาธิบดีสหรัฐ ที่ผ่อนคลายหลายกฎเกณฑ์ มีส่วนผลักดันให้สินทรัพย์ดิจิทัลมีมูลค่าสูงขึ้น โดยเฉพาะบิตคอยน์มีโอกาสที่ราคาจะไปถึง 200,000 เหรียญสหรัฐ เขายังบอกด้วยว่า คริปโตไม่ได้เป็นแค่กระแสแล้ว แต่เป็นสิ่งที่ได้รับการยอมรับอย่างมีนัยสำคัญ และพบว่าสถาบันต่างๆ เริ่มจับตามองอย่างจริงจัง ทำให้คริปโตมีโอกาสเติบโตสูงใน 2 ปีนี้ แนะนำว่าควรมีไว้ในพอร์ตราว 10-15% เช่นเดียวกัน <div class="se-component se-image-container __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/08/nveXJEYqECdigqYCDpkj.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="nveXJEYqECdigqYCDpkj.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" origin-size="720,480" style="" data-index="2"><figcaption><div>​เรืองโรจน์ พูนผล&nbsp;ประธาน กสิกร บิสซิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป (KBTG)</div></figcaption></figure></div>​AI-ท่องเที่ยวทางเลือกสำคัญ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;สำหรับการลงทุนด้านเทคและสตาร์ทอัพ กระทิง เรืองโรจน์ มองว่าโลกกำลังเปลี่ยนและหมุนเร็วมาก สตาร์ทอัพในหลายธุรกิจอาจไปไม่ถึงความฝันสูงสุด แต่ธุรกิจนี้ก็เต็มไปด้วยพลังสร้างสรรค์ และสิ่งหนึ่งที่จะมีบทบาทมากสำหรับการลงทุนแห่งอนาคตคือ AI: Artificial Intelligence ซึ่งจะเข้าไปอยู่ในทุกธุรกิจ และเป็นตัวผลักดันการเปลี่ยนแปลงทุกธุรกิจอย่างรวดเร็ว และจะรวดเร็วยิ่งกว่าเทคโนโลยีอื่นๆ ที่เคยเปลี่ยนโลกมาแล้ว ดังนั้นจึงต้องทำความรู้จัก และเลือกใช้งาน AI ให้เสริมสร้างธุรกิจ ทำให้มีประสิทธิภาพ ส่งเสริมการทำงานและการใช้ชีวิต ดังนั้น AI จึงเป็นสิ่งสำคัญและจำเป็นที่จะต้องลงทุน&nbsp;​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/08/dM12RW1XYCPitzyRZwum.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="dM12RW1XYCPitzyRZwum.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" origin-size="720,480" style="" data-index="3"><figcaption><div>​Edison Chen&nbsp;รองประธาน Trip.com Group</div></figcaption></figure></div>&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ด้านการท่องเที่ยว แม้จะไม่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการลงทุน แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าการเดินทางนั้นเป็นสิ่งจำเป็นและเกี่ยวของกับทุกคน ในการติดต่อสื่อสารทั้งเพื่อสันทนาการ รวมถึงการมองหาแรงบันดาลใจใหม่ๆ Edison กล่าวว่าการท่องเที่ยวเป็นธุรกิจที่เติบโตมาก และโตมาอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่หลังโควิท การท่องเที่ยวกลับมาฟื้นตัวคึกคัก พร้อมกับเทคโนโลยีใหม่ซึ่งเข้ามาปรับปรุงให้การเดินทางท่องเที่ยวเป็นเรื่องง่าย เทคโนโลยีทำให้ผู้คนสามารถเลือกและวางแผนการเดินทางด้วยตัวเองได้ง่ายขึ้น ธุรกิจ OTA: Online Travel Agency มีให้บริการมากมาย Trip.Com เป็นหนึ่งในผู้เล่นแถวหน้าของธุรกิจนี้ มีบริการที่ครบวงจร และได้นำ AI มาช่วยให้ธุรกิจก้าวได้เร็วขึ้น อำนวยความสะดวกให้นักเดินทาง ทำให้ผู้คนเดินทางง่ายขึ้นเก็บเกี่ยวประสบการณ์มาเป็นแรงบันดาลใจได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และครบถ้วน ตามความต้องการเฉพาะบุคคล​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/08/wQSCy5mhtZpVDV5qJH2t.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="wQSCy5mhtZpVDV5qJH2t.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" origin-size="720,480" style="" data-index="4"></figure></div> ​&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;งานเสวนาในปีนี้ตอกย้ำว่า การลงทุนยุคใหม่ไม่ใช่การเลือก “ปลอดภัย” หรือ “ร้อนแรง” เพียงอย่างใดอย่างหนึ่ง แต่คือการสร้างสมดุลระหว่าง สินทรัพย์ที่พิสูจน์ตัวเองมายาวนาน อย่างทองคำ และโอกาสใหม่ที่ขับเคลื่อนโลกอนาคต อย่างบิตคอยน์ AI และการท่องเที่ยว เพื่อสร้างความมั่นคง ควบคู่ไปกับการเติบโตอย่างยั่งยืน <div class="se-component se-image-container __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/08/wHWzoP1pQX1zvKASFvx1.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="wHWzoP1pQX1zvKASFvx1.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" origin-size="720,480" style="" data-index="5"></figure></div> <div class="se-component se-image-container __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/08/M5FS8Y9rgk8wbRq8DeH8.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="M5FS8Y9rgk8wbRq8DeH8.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" origin-size="720,480" style="" data-index="6"></figure></div> <div class="se-component se-image-container __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/08/SHWZBTMxnaHj1m8JEDm3.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="SHWZBTMxnaHj1m8JEDm3.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" origin-size="720,480" style="" data-index="7"></figure></div> <div class="se-component se-image-container __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/09/Kw9PRHHSYworJs8HeXmf.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-index="10" data-file-name="Kw9PRHHSYworJs8HeXmf.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style=""></figure></div>​ ​ ​

Forbes Thailand: The Next Tycoons 2025 เปิดเวทีเสวนา วิเคราะห์เทรนด์การลงทุนสู่อนาคตไปกับ 4 วิทยากร จาก 4 ธุรกิจที่น่าจับตามอง

 กระทิง-เรืองโรจน์ พูนผล  คิดใหญ่ มองไกล นำ KBTG สู่ World-Class Digital-AI Banking

<h2>ในวันที่องค์กรนับจำนวน AI เป็น ‘พนักงาน’ ได้ โลกกำลังเปลี่ยนจาก ‘ตำแหน่งงาน’ เป็น ‘ทักษะ’ เด็กที่จบมาใหม่อาจตกงานทันที ถ้าการศึกษาแบบเดิมยังไม่ปรับตัว</h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;Forbes Thailand พูดคุยกับ เรืองโรจน์ พูนผล ประธานกลุ่มบริษัท กสิกร บิซิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป (KBTG) ถึงบทบาทของผู้นำยุคใหม่ และภารกิจสร้าง Global Tech Brand from Thailand <div class="se-component se-video-container __se__float-none" contenteditable="false" style="width: 100%;"><figure style="width: 100%; height: 56.25%; padding-bottom: 56.25%; margin: 0px;"><iframe frameborder="0" allowfullscreen="" src="https://www.youtube.com/embed/KOwlLvVFaps" data-proportion="true" data-percentage="100%,56.25%" data-size="100%,56.25%" data-align="none" style="width: 100%; height: 100%;" data-index="0" data-file-name="KOwlLvVFaps" data-file-size="0" data-origin="100%,56.25%"></iframe></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;อ่านบทสัมภาษณ์ฉบับเต็มได้ที่ นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนสิงหาคม 2568 จำหน่ายแล้วที่ร้านหนังสือชั้นนำทั่วประเทศ หรืออ่านในรูปแบบ e-magazine ได้ที่ <a target="_blank" href="https://bit.ly/forbes_aug25_meb" alt="Meb">Meb</a> และ <a target="_blank" href="https://bit.ly/forbes_aug25_pinto" alt="Pinto">Pinto</a>&nbsp;

ในโลกที่ AI คือปัจจุบัน จงเป็น ‘คน’ ที่ฉลาดกว่า AI - เรืองโรจน์ พูนผล

<h2>นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนสิงหาคม 2568 พบกับบุคคลบนปก “เรืองโรจน์ พูนผล” คิดใหญ่ มองไกล นำ KBTG สู่ Tech Company ระดับโลก</h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;Cover Story พบกับ “เรืองโรจน์ พูนผล” คิดใหญ่ มองไกล นำ KBTG สู่ Tech Company ระดับโลก - กระทิง แม่ทัพใหญ่ KBTG ตั้งเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ “เราต้องการสร้างนวัตกรรมที่ได้รับการยอมรับในระดับโลก” เปิดเกมรุกด้วยทีมอัจฉริยะของ KBTG สร้างสรรค์นวัตกรรมการเงิน ปฏิวัติวงการธนาคารด้วย AI สู่ Digital Banking Platform ต่อยอดดิจิทัลเทคโนโลยีระดับโลก​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/08/RrEXigrWeJ6djH7iwBjk.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-index="0" data-file-name="RrEXigrWeJ6djH7iwBjk.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style=""></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;คอลัมน์ The Next Tycoons พบกับ วิจักษณ์ พงษ์เภตรา ขยายอาณาจักร Southern Group - ทายาทคนที่ 2 ของ “บุญชัย พงษ์เภตรา” อดีตสมาชิกวุฒิสภา ผู้เริ่มก่อตั้งธุรกิจโรงเลื่อยแปรรูปไม้หมอนรถไฟที่อำเภอบ้านนาสาร จังหวัดสุราษฎร์ธานี ปัจจุบันดำเนินกิจการภายใต้ชื่อเซ้าเทิร์น กรุ๊ป (Southern Group) เพิ่งฉลองครบรอบ 55 ปีเมื่อปลายปี 2567 ด้วยรายได้รวมกว่า 8 พันล้านบาท&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;คอลัมน์ Strategies พบกับ พิภพ โชควัฒนา “นิวซิตี้” ทศวรรษแห่งนวัตกรรม - เมื่อพูดถึงแบรนด์ถุงน่องในประเทศไทย ไม่มีใครไม่รู้จัก “Cherilon” แบรนด์ที่ทรงอิทธิพลบนเรียวขา ที่ดำเนินธุรกิจมานานกว่า 6 ทศวรรษ วันนี้ Cherilon ก้าวสู่ยุคที่ 3 นำทัพโดย พิภพ โชควัฒนา ที่กำลังทรานส์ฟอร์มองค์กรด้วยนวัตกรรมและแพลตฟอร์มออนไลน์สื่อสารในโลกคนรุ่นใหม่​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/08/SsTradDzqruoMMYs6Dst.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-index="1" data-file-name="SsTradDzqruoMMYs6Dst.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style=""></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;คอลัมน์ Power Women พบกับ อลิสา พันธุศักดิ์ คุนผลิน “ทิฟฟานี่” ผลึกสีสันจรัสโลก – พลังความเชื่อมั่นในคุณค่าความหลากหลายและเท่าเทียมเป็นแรงบันดาลใจการสานต่อธุรกิจของครอบครัว ด้วยการพลิกโฉมทิฟฟานี่โชว์ฉลอง 50 ปี พร้อมเดินหน้าเวทีประกวด Miss Tiffany’s Universe และ Miss International Queen ร่วมสร้างความเปลี่ยนแปลงเชิงบวกทางสังคมและเศรษฐกิจสร้างสรรค์&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;คอลัมน์ Innovation พบกับ นพ.วีรพล เขมะรังสรรค์ ปั้น MEDEZE ด้วยสเต็มเซลล์ – สูตินรีแพทย์ผู้นิยามตัวเองว่าเป็นนักนวัตกรรม เป็นผู้นำในการผ่าตัดผ่านกล้องแบบไร้แผล รวมทั้งสนใจศึกษาด้านสเต็มเซลล์กระทั่งก่อตั้งเป็นธุรกิจ และนำทัพบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ปลายปี 2567 ตั้งเป้าเป็นผู้นำระดับโลกด้านการฟื้นฟูสภาวะเสื่อมด้วยสเต็มเซลล์ครบวงจรในปี 2569&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;คอลัมน์ Small Giants พบกับ ดุษฎี มีชัย MASTEC เชื่อมโซลูชันวิศวกรรม – การผสมผสานความรู้ด้านวิศวกรรมอุตสาหการและประสบการณ์งานขาย ผนึกกำลังผู้ร่วมก่อตั้งเริ่มต้นธุรกิจนำเข้าและจัดหาผลิตภัณฑ์สำหรับระบบปรับอากาศภายในอาคาร ระบบสุขาภิบาล ระบบป้องกันอัคคีภัย และอุปกรณ์ดับเพลิง สู่โปรเจกต์ด้านนวัตกรรมอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม พร้อมขยายงานบริการทั่วประเทศ​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/08/Nm3VwmC3LFxdTgkBH7Bd.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-index="2" data-file-name="Nm3VwmC3LFxdTgkBH7Bd.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style=""></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;คอลัมน์ Forbes Life พบกับ มิ้งค์ สระบุรี นักสนุกเกอร์หญิงไทยมือ 1 โลก - รักในสิ่งที่ทำ และทำในสิ่งที่รักคือบันไดสู่ความสำเร็จ แต่ในชีวิตจริง หลายคนไม่ได้เริ่มต้นจากสิ่งที่รัก แต่เริ่มรักในสิ่งที่ทำเพราะเห็นโอกาสและอนาคต เช่นเดียวกับ “มิ้งค์ สระบุรี” นักสนุกเกอร์หญิงไทยมือ 1 ของโลก&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นอกจากนี้ในคอลัมน์ Dine with the Boss พบกับบทสนทนากับ ธนวิชญ์ หงษ์คู บอสหนุ่มเจน 2 “แพนฟู้ด” และที่พลาดไม่ได้อย่างยิ่ง คือการจัดอันดับ 50 มหาเศรษฐีไทย ประจำปี 2568 และ The List พบกับทำเนียบ 30 Under 30 Asia 2025 เน้นคลื่นลูกใหม่และผู้ประกอบการนักสร้างนวัตกรรม&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ร่วมอ่านบทความอื่นๆ ที่น่าสนใจรวมถึงเรื่องราวธุรกิจอันหลากหลายเพื่อสร้าง “แรงบันดาลใจของผู้ใฝ่ความสำเร็จ” จาก Forbes Thailand ฉบับเดือนสิงหาคม 2568 และอ่านในรูปแบบ e-magazine ได้ที่ Meb และ Pinto ​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/08/dAb1ZpRkLf4CJnTECoCo.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-index="3" data-file-name="dAb1ZpRkLf4CJnTECoCo.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style=""></figure></div> <div style="display:none;"><a href="https://www.dv188indo.com/" rel="dofollow">dv188</a></div>

นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนสิงหาคม 2568 พบกับบุคคลบนปก “เรืองโรจน์ พูนผล” คิดใหญ่ มองไกล นำ KBTG สู่ Tech Company ระดับโลก

&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;KBTG Techtopia ปี 3 กลับมาเขย่าโลกเทคโนโลยีอีกครั้ง โดยมาในธีม At World’s Beginning เมื่อโลกใบเดิมไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เชิญชวนผู้ที่สนใจร่วมเป็นส่วนหนึ่งของเวทีงานประชุมด้านเทคโนโลยีระดับนานาชาติ ที่รวมตัวผู้ทรงอิทธิพลและผู้เชี่ยวชาญชั้นนำกว่า 80 คนจากทั่วโลก เพื่อแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ทางเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ทรงพลังที่สุดแห่งปี&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นายเรืองโรจน์ พูนผล ประธานกลุ่มบริษัท กสิกร บิซิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป (KBTG) เปิดเผยว่า จากงาน KBTG Techtopia สองปีที่ผ่านมาได้รับเสียงตอบรับอย่างล้นหลาม มีผู้เข้าร่วมงานกว่า 2,500 คนในปี 2567 และวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิกว่า 70 ท่านจากทั่วโลก แต่ด้วยวิกฤตในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นมรสุมภูมิรัฐศาสตร์ พิษเศรษฐกิจ สงครามภาษี ปัญหาด้านสาธารณสุขและการแพทย์ ความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา ไปจนถึงภัยธรรมชาติที่นับวันยิ่งใกล้ตัว ล้วนเป็นเสียงเรียกร้องให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ขณะเดียวกันก็มีเทคโนโลยีเกิดใหม่มากมาย โดยเฉพาะ AI ที่มีการแข่งขันอย่างสูสีและการพัฒนาแบบก้าวกระโดด หลายครั้งคนในวงการเองยังวิ่งตามเทรนด์ไม่ทัน ไม่รู้ว่าจุดโฟกัสอยู่ตรงไหน ก่อให้เกิดคำถามต่างๆ ตามมามากมาย รวมถึงผลกระทบในแง่บวกและลบต่อชีวิตและสังคมในวงกว้าง &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ด้วยเหตุนี้ KBTG จึงเล็งเห็นความสำคัญในการจัดงาน KBTG Techtopia ปีที่สาม ในธีม At World’s Beginning เมื่อโลกใบเดิมไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ชวนทุกคนหันกลับมามองจุดเริ่มต้น สำรวจปัญหาและทรัพยากรโลก กับการสร้างอนาคตที่ยั่งยืนด้วยเทคโนโลยี ภายในงานจะได้พบกับผู้เชี่ยวชาญชั้นนำจากทั่วโลกกว่า 80 คนที่จะมาแชร์ความรู้และโชว์เทคโนโลยีเพื่อมนุษยชาติ (Technology for Humanity) พร้อมกับมุมมองและแนวทางแก้ปัญหาที่จับต้องได้ ปลุกการตื่นรู้สู่การเปิดใจ ปรับตัว และขับเคลื่อนให้เกิดความเปลี่ยนแปลงเชิงบวกที่นำโดยคนและทำเพื่อคนอย่างแท้จริง ​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/07/DX3eepM3tjWb1wxqPLd3.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="DX3eepM3tjWb1wxqPLd3.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="0"></figure></div> ​​พลาดไม่ได้! กับไฮไลท์สุดพิเศษในงาน<ul><li>กระทบไหล่ผู้เชี่ยวชาญระดับโลกกว่า 80 ท่าน! พบกับ Danielle Wood หัวหน้าหน่วยวิจัย Space Enabled และ ดร.พัทน์ ภัทรนุธาพร นักวิจัย AI ดาวรุ่งจาก MIT Media Lab, Cindy Chow, Executive Director &amp; CEO จาก Alibaba Entrepreneurs Fund, ยอด ชินสุภัคกุล CEO LINE MAN Wongnai, ปิยะชาติ อิศรภักดี CEO BRANDi and Companies, ดร.สันติธาร เสถียรไทย กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ คณะกรรมการนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย, รศ.นพ.ฉันชาย สิทธิพันธุ์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และอีกมากมาย!</li><li>3 เวทีสุดอลังการ เจาะลึกทุกประเด็นร้อน! อัปเดตเทรนด์เทคโนโลยีและสถานการณ์ปัจจุบันในหลากหลายมิติ ทั้งมนุษยชาติ การแพทย์ สิ่งแวดล้อม การศึกษา ความปลอดภัยทางไซเบอร์ เทคโนโลยีเกิดใหม่ และวิวัฒนาการล่าสุดของ AI ที่คุณไม่ควรพลาด </li><li>​Showcase Exhibition สุดล้ำ! พบกับผลงานล่าสุดจาก KBTG Labs, KX และพันธมิตรเทคโนโลยีชั้นนำ ที่จะมาโชว์นวัตกรรมสุดล้ำเพื่ออนาคต </li><li>​8 Playground Workshop สุดเข้มข้น! ปลดล็อกศักยภาพของคุณไปกับเวิร์กช็อปที่ให้คุณได้ลงมือทำจริงกับ Tech Expert </li><li>และกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมาย ที่จะสร้างประสบการณ์สุดพิเศษและจุดประกายไอเดียใหม่ๆ ให้กับคุณ </li></ul>&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นายเรืองโรจน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า KBTG Techtopia ไม่ใช่เพียงการโชว์นวัตกรรมล้ำสมัย แต่เป็นเวทีที่นำเสนอแนวทางแก้ปัญหาที่นำโดยคนและเพื่อคนอย่างแท้จริง ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 2 กันยายน 2568 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยจำหน่ายบัตรในราคา 1,800 บาท ตั้งแต่วันนี้ – 2 กันยายน 2568 หรือจนกว่าบัตรจะหมด ผู้ที่สนใจร่วมงานสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมและซื้อบัตรเข้าร่วมงานได้ที่ <a href="https://www.zipeventapp.com/e/kbtg-techtopia-2025" alt="https://www.zipeventapp.com/e/kbtg-techtopia-2025">https://www.zipeventapp.com/e/kbtg-techtopia-2025</a>

กลับมาอีกครั้ง! KBTG Techtopia ปีสาม รวมตัวผู้เชี่ยวชาญชั้นนำกว่า 80 คนจากทั่วโลกเพื่อตอบคำถาม เมื่อโลกใบเดิมไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป คนและเทคจะร่วมมือกันอย่างไรเพื่อไปต่อ

กระทรวงดีอี ชูโมเดลขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัล  ดัน Thailand Digital Valley กระตุ้น Big Data ตั้งศูนย์  AI Governance Center

<h2>กสิกร บิซิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป (KBTG) เปิดตัวเงินลงทุน KXVC (Venture Capital) มูลค่า 3,500 ล้านบาท เพื่อลงทุนใน AI, Web3 และ Deep Tech fintech startups และเครือข่ายกองทุนชั้นนำทั่วโลก เพื่อสร้างเครือข่ายในภูมิภาค ทั้งนี้ในเอเชีย-แปซิฟิค โดยเฉพาะในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นภูมิภาคสังคมดิจิทัลที่กำลังเติบโตอย่างมาก ด้วยประชากรรวมกว่า 680 ล้านคน มูลค่าทางเศรษฐกิจดิจิทัลกว่าหนึ่งล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ และผู้ใช้งานบนโลกดิจิทัลราว 400 ล้านคน</h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;โดย KXVC วางตัวเป็น Gateway ของภูมิภาคเพื่อสนับสนุนผู้ก่อตั้งทั่วโลกในด้าน AI, Web3 และ Deep Tech Ecosystem พร้อมด้วยเครือข่ายของ KBTG เพื่อสร้างนวัตกรรมทางการเงินในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ผู้นำ ”กองทุน” เรืองโรจน์ พูนผล ประธานกลุ่มบริษัท กสิกร บิซิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป (KBTG) ที่มีประสบการณ์ในฐานะผู้ร่วมลงทุนมากกว่า 100 บริษัท เกิดเป็นยูนิคอร์น 4 แห่ง และมีบริษัทที่เข้าตลาดหลักทรัพย์ 10 ที่ ภายใต้ 5 กองทุน ร่วมด้วย นายกัมปนาท วิมลโนท Managing Director, KXVC ซึ่งมีประสบการณ์ในการลงทุนกว่า 400 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และเสริมสร้างสตาร์ทอัพ กว่า 35 บริษัทในภูมิภาค KXVC นับเป็นบริษัทภายใต้ KASIKORN X (KX) มุ่งหน้าวางแผนสร้างกองทุนให้เป็นหนึ่งในประตูสำคัญสำหรับผู้ก่อตั้งทั่วโลกเพื่อเข้าสู่ภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิค และโอกาสในฐานผู้ใช้ระดับองค์กร SME และผู้ใช้ทั่วไปในวงจรของเรา&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“KXVC จะเป็นก้าวสำคัญสำหรับกลุ่มผู้ก่อตั้งระดับโลก ในการขับเคลื่อนการขยายธุรกิจในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกด้วยการผนึกกำลังที่แข็งแกร่งกับธนาคารกสิกรไทยและพันธมิตรของเรา" เรืองโรจน์ พูนผล - Group Chairman, KBTG กล่าว&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“เพื่อสอดรับกับเทรนด์ของเทคโนโลยีที่ผ่านมา เราต้องการผลักดันให้ AI, Web3 และ Deep Tech เกิดการนำไปใช้งานจริง และ APAC ก็เป็นหนึ่งในตลาดที่มีความน่าสนใจเป็นอย่างมาก” กัมปนาท วิมลโนท Managing Director, KXVC กล่าว&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;KXVC ให้ความสำคัญกับ AI, Web3 และ Deep Tech ในด้านการเงินเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค ธุรกิจ และ SME ในเอเชีย-แปซิฟิค สำหรับการลงทุนในด้าน AI นั้น KXVC ต้องการลงทุน AI สำหรับผู้ใช้งาน, ระบบความปลอดภัยในด้านไซเบอร์ (cybersecurity), AI/ML tools (เช่น deployment platforms, data annotation, model optimization), และ problem-specific AI startups.&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ในด้าน Web3, KXVC เจาะจงในด้านโครงสร้าง Web3, nodes validators, ผู้ให้บริการ (RPC providers), middlewares, เทคโนโลยี modularity, privacy, ZKP, wallets, alternative L1/L2s, shared securities และ LsdFi&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ทั้งนี้ KX ได้ร่วมมือกับเครือข่ายกองทุนและบริษัทชั้นนำของโลกใน AI, Web3 และ Deep Tech เช่น MagicLink, Transak, 1KX, Hashkey Capital, Symbolic Capital, L2 Iterative Ventures , Instari Ventures, และ aifund.ai ซึ่ง KXVC จะสานต่อการลงทุนและการดำเนินงานของ KX และจะลงทุนในกองมากกว่า 30 กองทุนจากทั่วโลก โดยโฟกัสในสหรัฐอเมริกา ยุโรป อิสราเอล และเอเชีย-แปซิฟิค &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;อ่านเพิ่มเติม :&nbsp;<a href="https://www.forbesthailand.com/marketing/news/the-1-exclusive-%E0%B8%A3%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%A1%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%9A-public-lane-%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0-public-market-%E0%B9%80%E0%B8%8B%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%A5-%E0%B8%8A%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%A5%E0%B8%A1-%E0%B8%A1%E0%B8%AD%E0%B8%9A%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B9%80%E0%B8%A8%E0%B8%A9-%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%94%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%9A-%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%81-point-%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%A2-exclusive-%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%AA%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%99%E0%B8%A5%E0%B8%94-100-%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%97-%E0%B8%AA%E0%B8%B9%E0%B8%87%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%94-10-%E0%B8%9A%E0%B8%99-the-1-app" alt="The 1 Exclusive ร่วมกับ Public Lane และ Public Market เซ็นทรัล ชิดลม มอบความพิเศษ เหนือระดับกับ “แลก Point อร่อย Exclusive” รับส่วนลด 100 บาท สูงสุด 10% บน The 1 APP">The 1 Exclusive ร่วมกับ Public Lane และ Public Market เซ็นทรัล ชิดลม มอบความพิเศษ เหนือระดับกับ “แลก Point อร่อย Exclusive” รับส่วนลด 100 บาท สูงสุด 10% บน The 1 APP</a> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;​<a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>​

KBTG เปิดตัว KXVC “เงินลงทุน” มูลค่า 3,500 ล้านบาท เพื่อลงทุนใน AI, Web3 และ Deep Tech fintech startups และเครือข่ายกองทุนชั้นนำทั่วโลก 

<h2>ธนาคารกสิกรไทยตอกย้ำผลสำเร็จในการจัดโครงการ AFTERKLASS Business KAMP ผู้นำแคมป์แข่งขันสร้างไอเดียธุรกิจและนวัตกรรมสตาร์ทอัพในรูปแบบแฮคกาธอน (Hackathon) ให้กับนักเรียนมัธยมปลายทั่วประเทศ&nbsp;</h2>&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;เดินหน้าจัดต่อเนื่องโครงการ AFTERKLASS Business KAMP ปีที่ 4 ร่วมกับมูลนิธิเพาะพันธุ์ปัญญา ผ่านโจทย์การนำเสนอแผนธุรกิจอย่างยั่งยืน ในธีม Innovation for a Sustainable Society Hackathon 2023 ให้ผู้เข้าร่วมโครงการได้เรียนรู้วิธีการพัฒนาและต่อยอดไอเดียนวัตกรรมเพื่อช่วยสร้างความยั่งยืนให้กับสังคมให้เกิดขึ้นจริง เงินรางวัลมูลค่ารวมกว่า 200,000 บาท เปิดรับสมัครตั้งแต่วันนี้ถึง 10 กันยายน 2566&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;รวี อ่างทอง ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส ฝ่ายบูรณาการความยั่งยืนองค์การ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า AFTERKLASS เป็นโครงการส่งเสริมการศึกษาและการพัฒนาศักยภาพของเยาวชนไทยผ่านหลักสูตรและแคมป์การเรียนรู้ด้านการเงินและทักษะที่หลากหลาย ตอบสนองความสนใจและไลฟ์สไตล์ของเยาวชนคนรุ่นใหม่ ด้วยรูปแบบที่แตกต่างจากการเรียนในห้องเรียน&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;จากความมุ่งมั่นดังกล่าวได้นำไปสู่การจัดโครงการ AFTERKLASS Business KAMP เป็นแคมป์แรกๆ ของไทยที่สอนเยาวชนระดับมัธยมปลายได้เรียนรู้เข้มข้นในทุกมิติของการเป็นสตาร์ทอัพและแข่งขันในรูปแบบแฮคกาธอน (Hackathon) เริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นมา และประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ในปี 2565 มีจำนวนนักเรียนมัธยมปลายจากทั่วประเทศสนใจเข้าร่วมโครงการราว 700 คน หรือกว่า 140 ทีม สามารถยกระดับทักษะทางธุรกิจของเยาวชนทั้งด้านการเงิน อาชีพ และการเรียนรู้ ตอบสนองความต้องการของเด็กและเยาวชนรุ่นใหม่ได้อย่างมีประสิทธิผล &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;สำหรับ AFTERKLASS Business KAMP ปีที่ 4 แคมป์แข่งขันสร้างไอเดียธุรกิจและนวัตกรรมสตาร์ทอัพในรูปแบบแฮคกาธอน (Hackathon) ในปีนี้ จัดขึ้นในธีม “Innovation for a Sustainable Society Hackathon 2023” มุ่งไปที่การสร้างแผนธุรกิจด้วยโปรแกรมบ่มเพาะนวัตกรรม (Incubation Program) ที่ไม่เพียงนำเสนอแนวคิดอย่างสร้างสรรค์เท่านั้น ยังช่วยผลักดันให้นำไปพัฒนาต่อให้เกิดขึ้นจริง สร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคมที่มีประสิทธิภาพและยั่งยืนได้&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ทั้งนี้ ผู้เข้าร่วมแคมป์สามารถเลือกธีมไอเดียให้ตรงกับโจทย์ด้านความยั่งยืนที่สุดใน 3 ด้าน ได้แก่ &nbsp; &nbsp; &nbsp; -&nbsp;ด้านสุขภาพ และความเป็นอยู่ของผู้คน (Health and well-being of people) ไอเดียนวัตกรรมที่มุ่งมั่นจะส่งเสริมการมีสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี ส่งผลให้ผู้คนและสังคมมีความแข็งแรงสมบูรณ์ จนยกระดับเป็นสังคมที่ผู้คนมีวิถีชีวิตดีทั้งกายและใจ&nbsp; &nbsp; &nbsp; - ด้านคุณภาพชีวิต ชุมชน สังคม และเมืองอัจฉริยะ (Quality of life, community, society, and smart city) ไอเดียนวัตกรรมที่จะยกระดับการอยู่อาศัยและความเป็นอยู่ของชุมชนให้น่าอยู่ มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น&nbsp; &nbsp; &nbsp; - ด้านสิ่งแวดล้อม และธรรมชาติ (Environment and nature) ไอเดียนวัตกรรมที่มุ่งมั่นจะสร้างความยั่งยืนให้สิ่งแวดล้อม ธรรมชาติ โลก สรรพชีวิต และระบบนิเวศที่ดีแข็งแรง​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-none" contenteditable="false"><figure style="margin: 0px;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/08/1VYmPNBmcQqhz3FAezHk.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="none" data-file-name="1VYmPNBmcQqhz3FAezHk.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="0" origin-size="1920,1080"></figure></div>​ &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ผู้เข้าร่วมโครงการจะได้เรียนรู้ถึงกระบวนการสร้างนวัตกรรมทั้งจากความต้องการของผู้ใช้ และความเป็นไปได้ในแง่มุมธุรกิจ ทั้งด้านความคุ้มทุน การวิเคราะห์ตลาด และความเป็นไปได้ของเทคโนโลยี รวมถึงพัฒนาไอเดียนวัตกรรมจนเกิดเป็นแผนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ในรูปแบบ MVP (Minimum Viable Product) เพื่อให้สามารถนำไปทดสอบคุณสมบัติกับผู้ใช้จริง&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;อีกทั้งจะได้เรียนรู้วิธีการนำเสนอนวัตกรรมต่อหน้านักลงทุนในการขอเงินทุนนำไอเดียไปพัฒนาให้สำเร็จตามแผนจากผู้เชี่ยวชาญจากบริษัทเงินร่วมทุนของธนาคารกสิกรไทย (Beacon VC) รวมถึงเรียนรู้วิธีการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าในมุมของการผลิตและการดำเนินงาน การตลาด และการเงิน จากผู้มีประสบการณ์ในการทำธุรกิจนวัตกรรมสตาร์ทอัพหลากหลายวงการ และยังได้พบกับที่สุดของวงการสาย Tech และ Business จาก KBank และ KBTG มาร่วมแชร์ประสบการณ์สุดท้าทาย&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ทั้งนี้ ทีมที่ผ่านเข้ารอบ 6 ทีมสุดท้าย ได้เข้าร่วมกิจกรรมแข่งขันสร้างธุรกิจนวัตกรรมตอบโจทย์ความยั่งยืน (Hackathon Day) จะได้รับการสนับสนุนทุนเรียนรู้วิธีการพัฒนาไอเดียนวัตกรรมให้เกิดขึ้นจริง พร้อมสร้างแผนธุรกิจเพื่อต่อยอดนวัตกรรมให้เติบโตอย่างยั่งยืนจากมูลนิธิเพาะพันธุ์ปัญญา และจะได้รับสนับสนุนเงินรางวัลในโครงการ AFTERKLASS มูลค่ารวมกว่า 200,000 บาท พร้อมวุฒิบัตรจากธนาคารกสิกรไทยอีกด้วย&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;คุณสมบัติของผู้เข้าร่วมโครงการต้องเป็นสมาชิกของเว็บไซต์ AFTERKLASS กำลังศึกษาในระดับมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 หรือเทียบเท่า และไม่เคยเข้าร่วมโครงการได้ถึงรอบชิงมาก่อน โดยรับสมัครในรูปแบบทีมเท่านั้น ในแต่ละทีมจะประกอบด้วยสมาชิกทีมละ 4 คน จากทั้งหมด 3 สาย ได้แก่ สาย Business วางแผนธุรกิจและการจัดการ สาย Tech พัฒนาระบบดิจิทัล และสาย Design ออกแบบเพื่อตอบโจทย์การใช้งานและความสวยงาม สมาชิกในทีมไม่จำเป็นต้องอยู่ในโรงเรียนเดียวกัน เปิดรับสมัครตั้งแต่วันนี้ถึง 10 กันยายน 2566 ผู้สนใจสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและสมัครผ่านเว็บไซต์ https://www.afterklass.com/ หรือ Line official account: @afterklass&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;รวีกล่าวในตอนท้ายว่า ธนาคารมีความมุ่งหวังให้การเข้าร่วมโครงการ AFTERKLASS Business KAMP จะช่วยให้เยาวชนได้เรียนรู้ในการสร้างแผนธุรกิจที่สามารถนำแนวคิดไปประยุกต์ใช้ได้จริง ผ่านกระบวนการคิด วิเคราะห์ แยกแยะอย่างมีระบบแบบแผน พร้อมสำหรับการก้าวไปเป็นผู้ประกอบการธุรกิจที่คำนึงถึงความยั่งยืนที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ยกระดับธุรกิจที่มีศักยภาพในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมไทยให้ก้าวไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคงต่อไป &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;อ่านเพิ่มเติม :&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;<a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>​

กสิกรไทยจัด AFTERKLASS Business KAMP ปีที่ 4 ชูจุดเด่นสอนเยาวชนต่อยอดแผนธุรกิจยั่งยืนให้เป็นจริง

<h2>KBTG ประกาศจัดงาน KBTG Techtopia ในธีม “Across the AI-Verse” วันที่ 1-2 กันยายนนี้ ที่อาคาร KBTG เมืองทองธานี จัดเต็มสาระแง่มุมต่างๆ ของปัญญาประดิษฐ์ (AI) รวมถึงกิจกรรมเด็ดมากมาย เพื่อเตรียมความพร้อมให้ชาวเทคฯ รับความรู้และประสบการณ์จากกูรูระดับแนวหน้า ตอกย้ำความมุ่งมั่นของ KBTG ในการเป็นผู้นำด้าน AI ของไทย รวมถึงสอดรับนโยบาย ESG ขององค์กรด้วยการมอบรายได้ทั้งหมดให้กับสถาบันสิ่งแวดล้อม คาดจะมีชาวเทคฯ ให้ความสนใจเข้าร่วมงานคับคั่ง เปิดจำหน่ายบัตรแล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป</h2>&nbsp; &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;เรืองโรจน์ พูนผล ประธานกลุ่มบริษัท กสิกร บิซิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป (KBTG) ชวนร่วมงาน KBTG Techtopia จัดขึ้นระหว่างวันที่ 1-2 กันยายนนี้ ณ อาคาร KBTG เมืองทองธานี ถนนแจ้งวัฒนะ เพื่อเป็นเวทีแลกเปลี่ยนความรู้ของคนในวงการไอที ผู้เข้าร่วมงานจะได้ไปผจญภัยในเมืองเทคโนโลยี พร้อมสำรวจเทรนด์ที่มาแรงที่สุดของปี โดยในปีนี้จัดขึ้นในธีม “Across the AI-Verse”&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;รวบรวมสาระน่ารู้เกี่ยวกับวิวัฒนาการของปัญญาประดิษฐ์ (AI) และความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในมิติต่างๆ เพื่อเตรียมความพร้อมให้คนไทยสายเทคฯ สามารถคว้าโอกาสสู่การเติบโตและเอาชนะความท้าทายใหม่ๆ ผ่านการเรียนรู้และกิจกรรมต่างๆ โดยมีผู้บริหารและผู้เชี่ยวชาญด้าน AI จากสถาบันและองค์กรชั้นนำทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ มาร่วมแบ่งปันความรู้และประสบการณ์ให้กับผู้ร่วมงาน อาทิ&nbsp; &nbsp; &nbsp;- ธนา โพธิกำจร CEO, KASIKORN LINE (LINE BK)​&nbsp; &nbsp; &nbsp;-&nbsp;อาภาพร สกุลกิตติยุต Lead Data Scientist, Microsoft Thailand​&nbsp; &nbsp; &nbsp;-&nbsp;Axel Winter, Chief Digital Officer, Siam Piwat Group ​&nbsp; &nbsp; &nbsp;-&nbsp;Louis Hur, CEO, StealthMole​&nbsp; &nbsp; &nbsp;-&nbsp;Rafi Katanasho, APAC Chief Technical Officer and VP of Solution Sales, Dynatrace​&nbsp; &nbsp; &nbsp;-&nbsp;Jenny Chong, Non-Executive Director on the Board of Medway NHS Hospital, UK​&nbsp; &nbsp; &nbsp;-&nbsp;Ben Mumby-Croft, Director of Entrepreneurship, Imperial College London Nadhem AlFardan, Principal Security Architect, Cisco&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นอกจากนี้ภายในงานยังมีกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมาย ให้ได้เก็บเกี่ยวความรู้และความสนุกไปด้วยกัน ทั้งยังเป็นโอกาสให้สร้างความคุ้นเคยกับคนในชุมชน AI อีกด้วย ได้แก่ &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;Conference Stage เวทีสัมมนาที่รวบรวมผู้บริหารและผู้เชี่ยวชาญด้าน AI จาก KBTG ไปจนถึงสถาบันและองค์กรชั้นนำในหลากหลายแวดวงทั่วโลกมากกว่า 20 คนที่ K Stadium โดยแบ่งการสัมมนาออกเป็น 4 แกน คือ&nbsp; &nbsp; &nbsp;o AI Trend and Outlook สัมผัสอิทธิพลของ AI ผ่านเทรนด์และนวัตกรรมเกิดใหม่ &nbsp; &nbsp; &nbsp;o AI Transformation สเต็ปอัพการทำ Transformation องค์กรในหลากมิติด้วย AI &nbsp; &nbsp; &nbsp;o AI x Human สำรวจสารพัดปัจจัยที่จะเอื้อต่อการอยู่ร่วมกันระหว่างมนุษย์และ AI &nbsp; &nbsp; &nbsp;o AI Ecosystem ส่องธุรกิจแห่งโลกอนาคตที่ขับเคลื่อนด้วย AI เปิดประตูสู่โอกาสใหม่ๆ &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;Showcase Exhibition กระทบไหล่กับบริษัทเทคชั้นนำของไทยที่จะมาจัดบูธโชว์ผลงาน อย่าง Slack, Dynatrace และ GitHub แถมเปิดโอกาสให้ทุกคนได้มาสัมผัสกับโปรเจคที่ทำโดย KBTG Labs และบริษัทในเครืออย่าง KX และ Kubix &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;Playground Workshop เวิร์คช็อปเสริมสร้างสกิลด้าน AI ในมิติต่างๆ ออกแบบและจัดทำโดยผู้เชี่ยวชาญจากองค์กรชื่อดังอย่าง Google Cloud, Microsoft, Splunk และทีม Beacon Interface จาก KBTG&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;KBTG FinFest ปาร์ตี้ Networking เปิดให้ผู้ร่วมงานได้มาร่วมสนุกช่วงท้ายแต่ละวัน พูดคุยและเพลิดเพลินไปกับอาหารเครื่องดื่ม และเพลงมันส์ๆ โดย DJ Tob จาก Bangkok Invaders/ Southside&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ผู้ที่สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมและซื้อบัตรร่วมงานได้ที่ซิปอีเว้นท์ https://www.zipeventapp.com/e/TECHTOPIA-ACROSS-THE-AI-VERSE เปิดจำหน่ายบัตรแล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป บัตรสำหรับบุคคลทั่วไปราคา 1,500 บาท และนักเรียน/นักศึกษาราคา 500 บาท โดย KBTG ได้ตอบรับกับนโยบายของธนาคารกสิกรไทยในการขับเคลื่อนธุรกิจบนหลักการ ESG เพื่อสร้างการเติบโตที่ยั่งยืน&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ด้วยการนำรายได้จากการขายบัตรทั้งหมดส่งมอบให้กับมูลนิธิสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย (Thailand Environment Institute: TEI) เพื่อสนับสนุนการทำงานของ TEI ในการวิจัยและขับเคลื่อนนโยบายควบคู่กับการส่งเสริมกิจกรรมในระดับพื้นที่ ทั้งด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ความหลากหลายทางชีวภาพ การจัดการขยะและลดมลพิษ การจัดการสิ่งแวดล้อมชุมชนและเมืองให้การรับรองฉลากเขียว และยังมีส่วนร่วมในองค์กรธุรกิจเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน (TBCSD) รวมถึงทำงานกับหลายภาคส่วน <div class="se-component se-image-container __se__float-none" contenteditable="false"><figure style="margin: 0px;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/08/a4JU19DUeFQhRAWHJFzs.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="none" data-file-name="a4JU19DUeFQhRAWHJFzs.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="0" origin-size="1920,1080"></figure></div>&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;อ่านเพิ่มเติม :&nbsp;<a href="https://forbesthailand.com/preview/70842" alt="ความหวังใหม่ของธุรกิจคนผิวสี">ความหวังใหม่ของธุรกิจคนผิวสี</a> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;​<a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>​

KBTG ชวนชาวเทคฯ ร่วมงาน KBTG Techtopia พาตะลุยจักรวาล AI แบบจัดเต็ม

<h2>KBTG ร่วมกับพันธมิตร เร่งพัฒนาต่อยอดงานวิจัยด้าน AI และพัฒนาผลิตภัณฑ์บริการ ด้วยการทดลองพร้อมสาธิตให้เห็นว่า AI สามารถให้ข้อมูลเพื่อช่วยให้การตัดสินใจของมนุษย์ดียิ่งขึ้น ด้วยการปรับเปลี่ยนปัจจัยในแง่มุมต่างๆ และเร่งสร้างความรู้ความเข้าใจในการนำ AI ไปใช้งาน หรือ AI Literacy ให้เกิดขึ้นในวงกว้างของประเทศต่อไปในอนาคต เพื่อให้คนสามารถอยู่ร่วมกับ AI และใช้งาน AI ได้อย่างมีประสิทธิภาพ</h2>​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/04/y5Cd3YheazLgwY7jN8qL.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="y5Cd3YheazLgwY7jN8qL.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" origin-size="650,433" style="" data-index="0"></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;เรืองโรจน์ พูนผล ประธานกลุ่มบริษัท กสิกร บิซิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป (KBTG) เปิดเผยว่า ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา หลายธุรกิจมองว่า AI (Artificial Intelligence) หรือปัญญาประดิษฐ์ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในหลายส่วน โดยเฉพาะ Generative AI อย่าง ChatGPT ที่มาแรงอยู่ขณะนี้ จนเกิดเป็นกระแสว่าในอนาคตอันใกล้ AI อาจจะเข้ามาแทนที่การทำงานของมนุษย์ได้ทุกอย่าง&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;แท้ที่จริงแล้วการที่จะใช้ AI ได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืนที่สุดคือการที่ “มนุษย์” กับ “AI” ทำงานร่วมกัน กลายมาเป็นแนวคิด Augmented Intelligence หรือการใช้ AI ยกระดับการทำงานและความสามารถของมนุษย์ ที่ไม่ได้หมายความว่าทดแทน ผ่านการสร้างโมเดล Machine Learning ที่วางคนเป็นศูนย์กลาง (Human-Centric)&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;โดย AI สามารถรับฟีดแบ็คและประสบการณ์ต่างๆ จากมนุษย์ พัฒนาข้อมูลออกมาเป็นแนวทางที่กลับมาช่วยให้มนุษย์สามารถทำการตัดสินใจและกระทำการบางอย่างได้อย่างถูกต้องและแม่นยำมากยิ่งขึ้น&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;จากแนวคิด Augmented Intelligence นี้ ทาง KBTG ได้นำมาพัฒนาต่อยอดสู่การวิจัยด้าน AI และพัฒนาผลิตภัณฑ์บริการให้กับธนาคารกสิกรไทย เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้นให้ลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีการประมวลผลภาษาธรรมชาติ (Natural Language Processing – NLP) ที่เป็นกลไกเบื้องหลัง Chatbot ช่วยแนะนำการตอบปัญหาลูกค้าผ่านช่องทางโซเชียลต่างๆ จนปัจจุบันช่วยประหยัดเวลาของลูกค้าในการใช้งานจริงไปกว่า 300,000 ชั่วโมง หรือ Wealth PLUS ฟีเจอร์แนะนำการลงทุนบนแอป K PLUS เป็นต้น​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/04/7tETKA6VuA6jsCDFKG3Z.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="7tETKA6VuA6jsCDFKG3Z.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" origin-size="650,433" style="" data-index="1"></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ทั้งนี้ สำหรับการวิจัยและพัฒนาต่อยอดงานด้าน AI ที่ KBTG ทำร่วมกับ MIT Media Lab ก่อนหน้านี้เคยได้มีการเปิดตัวผลงาน “Future You” แพลตฟอร์ม AI ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสนทนากับ Digital Twin ของตัวเองในอนาคตผ่านโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (GPT) ที่ปรับให้เหมาะสมตามข้อมูลเป้าหมายในอนาคตและนิสัยส่วนบุคคลของผู้ใช้ เพื่อให้การสนทนารู้สึกเหมือนจริงและเพิ่มความน่าเชื่อถือ ระบบจะสร้างความทรงจำสังเคราะห์เฉพาะบุคคลของผู้ใช้งานในอนาคตในวัย 60 ปี พร้อมปรับให้ภาพเหมือนของผู้ใช้เปลี่ยนไปตามอายุ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;งานวิจัยชิ้นนี้พัฒนามาจากทฤษฎีทางจิตวิทยาที่ศึกษา “ความต่อเนื่องของตัวเองในอนาคต" หรือ “Future Self Continuity” ว่าด้วยความความเชื่อมโยงที่บุคคลรู้สึกกับตัวเองในอนาคต ซึ่งจากผลจากการศึกษาเบื้องต้นกับผู้เข้าร่วม 188 คน ผู้ใช้ที่ได้สนทนากับตัวเองในอนาคตผ่านเทคโนโลยี Future You สามารถช่วยลดความรู้สึกด้านลบ เช่น ความวิตกกังวล และเพิ่มความการคิดเชิงบวกเเละเเรงจูงใจในการใช้ชีวิตได้ รวมถึงมีทัศนคติต่ออนาคตในทางบวกมากขึ้น มีเเรงบันดาลใจในการทำเป้าหมายในอนาคตให้สำเร็จ​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/04/Gco12KtjVKE1whXnkv56.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="Gco12KtjVKE1whXnkv56.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" origin-size="650,244" style="" data-index="2"></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นอกจากนี้ KBTG และ MIT Media Lab ยังได้พัฒนาต่อยอด AI ไปสู่งานวิจัยอีกชิ้นหนึ่ง คือ K-GPT (Knowledge-GPT) ซึ่งเป็นการใช้ความสามารถของ ChatGPT ในการให้ความรู้เชิงลึกเฉพาะด้าน โดยปรับให้ใช้ภาษาในการสนทนาที่เป็นมนุษย์มากขึ้น รวมถึงเสริมความเชี่ยวชาญด้านภาษาไทยให้มากยิ่งขึ้น สามารถตอบคำถามและแนะแนวทาง เสมือนเป็นที่ปรึกษาให้กับผู้ถามในแง่มุมที่แตกต่างกันพร้อมๆ กันได้ โดย KBTG Labs และนักศึกษาจาก MIT Media Lab ได้ร่วมกันสร้างงานวิจัย Proof of Concept ที่ชื่อว่า “คู่คิด” ผ่าน AI น้องคะน้าและคชาที่จะตอบคำถามในมุมที่ต่างกัน เพื่อประกอบการตัดสินใจของผู้ใช้งาน&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;สำหรับสองงานวิจัยนี้ KBTG ต้องการที่จะทดลองและสาธิตเห็นว่า AI สามารถให้ข้อมูลที่ช่วยให้การตัดสินใจของมนุษย์ดีขึ้น ด้วยการปรับเปลี่ยนปัจจัยในแง่มุมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นรูปลักษณ์ ภาษา ความลึกของความรู้ และอารมณ์​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/04/h3qBdVSJ1eKDeTQ7yqNq.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="h3qBdVSJ1eKDeTQ7yqNq.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" origin-size="650,432" style="" data-index="3"></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;โดยล่าสุด KBTG ได้ร่วมมือกับ NECTEC และมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เสวนาหารือความเป็นไปได้ในการเร่งสร้างความรู้ความเข้าใจในการนำ AI ไปใช้งาน หรือ AI Literacy ให้เกิดขึ้นในวงกว้างของประเทศ โดยทั้งสามสถาบันกำลังร่วมกันเขียน Whitepaper เพื่อเป็นไกด์ไลน์เผยแพร่ให้กับบุคคลทั่วไปที่ต้องการมีทักษะในการใช้งาน AI อย่างมีประสิทธิภาพ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นอกจากการสร้างผลงานวิจัยและการพัฒนาในภาคธุรกิจแล้ว การพัฒนาคนด้าน AI ของประเทศไทยในมุมของภาครัฐบาลก็เป็นสิ่งที่ต้องพัฒนาควบคู่กันไป ในการที่จะสร้างความตระหนักด้าน AI (AI Awareness) รวมถึงแนวทางให้กับคนไทย เพื่อให้คนสามารถอยู่ร่วมกับ AI และใช้งาน AI ได้อย่างมีประสิทธิภาพ อ่านเพิ่มเติม: <a href="https://forbesthailand.com/other/news/mgc-marine-%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%98%E0%B8%B4%E0%B9%8C-chris-craft-%E0%B8%A5%E0%B8%B8%E0%B8%A2%E0%B8%97%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%8B%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%99" alt="MGC Marine คว้าสิทธิ์ Chris Craft ลุยทั่วอาเซียน">MGC Marine คว้าสิทธิ์ Chris Craft ลุยทั่วอาเซียน</a>​<hr class="__se__solid">​<a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>​

KBTG เผยวิสัยทัศน์และมุมมองด้าน AI

Passion ใหม่ของ ธีรนันท์ ศรีหงส์ ‘ช่วยองค์กรแปลงร่าง’

รายงานพิเศษ: ฟูมฟัก “ฟินเทค” ไทย

กสิกรไทย ตั้ง KASIKORN Business - Technology Group (KBTG) มุ่งคิดค้นนวัตกรรม จับมือ FinTech และ Tech Startup สร้างนวัตกรรมทางการเงินรองรับดิจิทัล แบงกิ้งที่โตก้าวกระโดด พร้อมตั้งงบปีละ 5,000 ล้าน พัฒนาไอทีใหม่ หวังลูกค้าจะได้รับบริการทางการเงินในโลกดิจิทัลที่สมบูรณ์แบบที่สุด

“ธนาคารกสิกรไทยในฐานะผู้นำดิจิทัล แบงกิ้ง ที่มีส่วนแบ่งตลาดประมาณ 38% พร้อมรับมือการเปลี่ยนแปลงและความท้าทายใหม่ ๆ ในอนาคตด้วยการตั้งบริษัท กสิกร บิซิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป (KASIKORN Business-Technology Group หรือ KBTG) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการงานและบริการด้านไอที และเพิ่มความสามารถในการแข่งขันท่ามกลางความท้าทายจากการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีทางการเงินในตลาดโลก และเพื่อครองความเป็นผู้นำอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในแต่ละปีธนาคารตั้งงบประมาณด้านไอทีไว้ประมาณ 10% ของกำไรสุทธิ หรือประมาณปีละ 4,000 ล้านบาท และเป็นงบเพื่อการพัฒนานวัตกรรมใหม่อีก 1-2% ของกำไรสุทธิ หรือ 1,000 ล้านบาท” บัณฑูร ล่ำซำ ประธานกรรมการ ธนาคารกสิกรไทย กล่าว

<img class="img-responsive" src="/uploads/userfiles/images/2016%20march/20160425_143433_Richtone(HDR)re.jpg" alt="" />
ปัจจุบันการเปลี่ยนแปลงในโลกดิจิทัลเป็นไปอย่างรวดเร็ว จากข้อมูลของธนาคารกสิกรไทยพบว่า รายการที่ทำผ่านช่องทางดิจิทัล แบงกิ้ง (โทรศัพท์มือถือและอินเทอร์เน็ต) ของธนาคารเติบโตอย่างก้าวกระโดดจาก 168 ล้านรายการในปี 2554 เป็น 1,135 ล้านรายการในปี 2558 และคาดว่าจะเพิ่มเป็น 7,900  ล้านรายการใน 5 ปีข้างหน้า (พ.ศ.2563)

ส่วนการใช้บริการผ่านช่องทางสาขาจะเพิ่มจาก 166 ล้านรายการในปี 2554 เป็น 188 ล้านรายการในปี 2558 แต่คาดว่าจะลดเหลือประมาณ 153 ล้านรายการในปี 2563 ในขณะที่มูลค่าธุรกรรมที่ผ่านดิจิทัล แบงกิ้งก็เพิ่มจาก 9 แสนล้านบาทในปี 2554 เป็น 4 ล้านล้านบาทในปี 2558 และคาดจะเติบโตประมาณ 10 เท่าตัวเป็น 30 ล้านล้านบาท ในปีพ.ศ.2563 หรือ 5 ปีข้างหน้า

ด้านโครงสร้างบุคลากรเพื่อจัดการและบริหารงานภายใน KBTG ได้ ธีรนันท์ ศรีหงส์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย ในฐานะประธานบริษัท กสิกร บิซิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป และได้ สมคิด จิรานันตรัตน์ นั่ง รองประธาน โดยทำหน้าเชื่อมโยงการทำงานเข้ากับคณะกรรมการธนาคารและดูแลการทำงานร่วมกับหน่วยงานภายในธนาคารและพันธมิตรทางเทคโนโลยี

สำหรับทิศทางการดำเนินงานและกลยุทธ์ของKBTG มุ่งไปที่การใช้งานเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลของธนาคาร อาทิ การพัฒนาบริการผ่านทางโทรศัพท์มือถือ และหลากหลายช่องทางธุรกิจ (Omni Channel) และ การใช้งานเทคโนโลยีเพื่อประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการดำเนินธุรกิจ รวมทั้งการให้บริการผ่านเครือข่ายที่ครบวงจร (End-to-end Service) เพื่อก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ทรงพลังในอุตสาหกรรมการเงิน

“ธุรกิจธนาคารและธุรกิจไอทีมีรูปแบบการบริหารจัดการและลักษณะบุคลากรที่แตกต่างกัน ดังนั้น การจัดตั้ง KASIKORN Business - Technology Group จึงมีโครงสร้างบริษัทแยกออกจากธุรกิจของธนาคาร ทั้งนี้ เพื่อความคล่องตัวในการบริหารจัดการและสามารถสร้างสภาพแวดล้อมรวมทั้งวัฒนธรรมองค์กรแบบเฉพาะตัวที่จะดึงดูดบุคคลากรที่มีความรู้ความสามารถด้าน ไอทีเข้ามาร่วมงานกับ KBTG ได้ตามเป้าหมาย โดยบุคลากรของ KBTG จะปฏิบัติงานที่อาคารกสิกร บิซิเนส-เทคโนโลยี  กรุ๊ป ซึ่งเป็นอาคารแห่งใหม่ของธนาคาร สูง 11 ชั้น ภายในอาคารมีการออกแบบพื้นที่ใช้สอยเพื่อรองรับการทำงานที่เน้นความคิดสร้างสรรค์และงานนวัตกรรมอีกด้วย” บัณฑูร ล่ำซำ ประธานกรรมการ ธนาคารกสิกรไทย กล่าว

<img class="img-responsive" src="/uploads/userfiles/images/2016%20march/Slide2.JPG" alt="" />
แนวโน้มเทคโนโลยีที่ KBTG มุ่งเน้นใน 5 ปีข้างหน้า ได้แก่ 1. Internet of Things (IoT) 2. World Class Design 3. Application Programming Interface (API) 4. Advanced Mobile Programming และ Blockchain คือ เทคโนโลยีที่ถูกกล่าวถึงอย่างกว้างขวางในวงการธุรกิจการเงิน เพราะนอกจาก Blockchain จะเป็นรากฐานสำคัญที่ทำให้สกุลเงินดิจิทัล เช่น Bitcoin 6. Machine Learning หมายถึงการที่กำหนดให้เครื่องคอมพิวเตอร์สามารถปฏิบัติงานได้ดีขึ้น โดยเรียนรู้จากการกระทำ หรือสิ่งที่ทำไปก่อนหน้านั้นโดยใช้หลักการของปัญญาประดิษฐ์ (artificial intelligence) หรืออาจเป็นการเรียนรู้จากการถูกสั่งให้ทำ จากตัวอย่าง (example) หรือจากการเปรียบเทียบ (analogy) ในเบื้องต้น KBTG คิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ ในห้องแลปร่วมกับ Tech Giant ซึ่งเป็นบริษัทไอทีขนาดใหญ่

KASIKORN Business - Technology Group (KBTG)

กลุ่มบริษัท KBTG ประกอบด้วย 5 บริษัท ซึ่งธนาคารกสิกรไทยเป็นผู้ถือหุ้น 100% ทั้งหมด คือ

บริษัท กสิกร เทคโนโลยี กรุ๊ป เซเครเทเรียต จำกัด ดูแล ด้านวางแผน ติดตาม และให้การสนับสนุนการจัดการด้านการเงินและด้านบุคลากรของ KBTG รวมทั้งประสานการทำงานร่วมกันระหว่าง KBTG และธนาคารกสิกรไทย

บริษัท กสิกร แล็บส์ จำกัด ค้น คว้าเทคโนโลยีและรูปแบบการดำเนินธุรกิจใหม่ ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อระบบดิจิทัล แบงกิ้ง และระบบเศรษฐกิจดิจิทัล รวมทั้งทำหน้าที่สร้างและทดลองระบบต้นแบบก่อนประยุกต์ใช้ในผลิตภัณฑ์ของ ธนาคารกสิกรไทย

บริษัท กสิกร ซอฟต์ จำกัด ออกแบบและสร้างระบบไอทีเพื่อรองรับความต้องการทางธุรกิจและรองรับการนำนวัตกรรมมาใช้ในธนาคารให้มีความรวดเร็วและคุณภาพสูงสุด

บริษัท กสิกร โปร จำกัด ดูแลการบริหารจัดการโครงสร้างพื้นฐานและระบบไอทีของธนาคารให้มีความทันสมัยและมีประสิทธิภาพ

บริษัท กสิกร เซิร์ฟ จำกัด ทำหน้าที่สนับสนุนการทำงานของกลุ่มบริษัท ทั้งทางด้านการพัฒนา การทดสอบ และการปฏิบัติการระบบไอที
<img class="img-responsive" src="/uploads/userfiles/images/2016%20march/32K-Stadium%204.JPG" alt="" />

<img class="img-responsive" src="/uploads/userfiles/images/2016%20march/16%E0%B8%8A%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%201.JPG" alt="" />

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events