ปพิตชญา สุวรรณดี ต่อจิ๊กซอว์เมืองในฝัน “เมกาซิตี้” ตอบโจทย์ทุกความต้องการ

ปพิตชญา สุวรรณดี ต่อยอดปั้นเมกาบางนาสู่ Meeting Place ปักหมุดสร้างเมืองแห่งการใช้ชีวิตครบวงจร พร้อมยกระดับ “เมกาซิตี้” ตอบโจทย์ทุกความต้องการ ด้วยการจับมือนักลงทุนและพันธมิตรร่วมเติมเต็มแลนด์มาร์กโซนกรุงเทพตะวันออก

https://youtu.be/WYKSOpUz0kk

&nbsp;

<hr />

รับชมบทสัมภาษณ์ของบุคคลที่น่าสนใจ กดติดตามแชลเนลวิดีโอของเราบนยูทูบได้ที่ <a href="https://www.youtube.com/user/ForbesThai">Forbes Thailand Magazine</a>

ปพิตชญา สุวรรณดี ต่อจิ๊กซอว์เมืองในฝัน “เมกาซิตี้” (Video)

<h2>บริษัท ทีจี เอสอีเอ ดีเวล็อปเมนต์ จำกัด เตรียมนำประสบการณ์ ท็อปกอล์ฟ สู่กรุงเทพฯ ไตรมาสที่ 2 ปี 2565 เป็นท็อปกอล์ฟแห่งแรกในอาเซียน ตั้งอยู่ติดกับศูนย์การค้าเมกาบางนา</h2>
-"ท็อปกอล์ฟ เมกาซิตี้" เปิดตัวที่ไทยเป็นประเทศแรกในอาเซียน
-เมกาบางนา มีผู้ใช้บริการ 50 ล้านคนต่อปี เป็นกลุ่มครอบครัวที่มีกำลังซื้อสูง
-ลูกกอล์ฟของท็อปกอล์ฟ ฝังไมโครชิปเพื่อเก็บคะแนนแบบเรียลไทม์
"ท็อปกอล์ฟ เมกาซิตี้" กางแผนเตรียมว่าจ้างงานบุคลากรมากกว่า 400 คน เป็นศูนย์รวมความบันเทิงสูง 3 ชั้นครอบคลุมพื้นที่มากกว่า 47,000 ตารางเมตร (ราว 29 ไร่) ซึ่งมีพื้นที่ใหญ่เกือบเท่ากับสนามฟุตบอล 7 สนามรวมกัน รวมทั้งฮิตติ้งเบย์กลางแจ้งถึง  98 ช่อง รองรับผู้เล่นกว่า 600 คน ตลอดวัน ภายในศูนย์รวมความบันเทิงครบครัน ในปัจจุบัน ลูกค้าสามารถเพลิดเพลินกันประสบการณ์ท็อปกอล์ฟได้ใน 5 ประเทศ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร ออสเตรเลีย เม็กซิโก และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ดูไบ)

<img class="alignnone size-full wp-image-43565" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/03/ท็อปกอล์ฟ_005.jpg" alt="" width="450" height="338" />

“การนำเสนอประสบการณ์ความบันเทิงระดับไอคอนิกแห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ถือเป็นส่วนหนึ่งของแผนรุกขยายธุรกิจของเราเพื่อมอบช่วงเวลาอันน่าประทับใจแก่ผู้ที่ชื่นชอบกีฬากอล์ฟ รวมไปถึงบุคคลทั่วไปที่แม้จะไม่ได้เล่นกอล์ฟก็ตาม โดยลูกค้ามากกว่า 20 ล้านคนจากทั่วโลกได้ใช้บริการของท็อปกอล์ฟเกือบ 70 แห่งในแต่ละปี ทั้งที่ลาสเวกัสไปจนถึงโกลด์โคสต์ ออสเตรเลีย และจากไมอามีไปจนถึงดูไบ เราจึงมั่นใจว่าการนำเสนอแหล่งสังสรรค์ในแบบฉบับท็อปกอล์ฟจะเป็นที่ถูกใจลูกค้าชาวไทยอย่างแน่นอน” แอนดรูว์ นาธาน กรรมการผู้จัดการ ทีจี เอสอีเอ ดีเวล็อปเมนต์ กล่าว

<img class="alignnone size-full wp-image-43563" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/03/ท็อปกอล์ฟ_003.jpg" alt="" width="450" height="402" />

ด้าน มร.ทิม โบดา ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการ ท็อปกอล์ฟ ประเทศไทย กล่าวเสริมว่า “ไม่ว่าคุณจะเป็นนักกอล์ฟตัวจริงหรือผู้เล่นหน้าใหม่ในเกมกีฬาชนิดนี้ ก็จะหลงรักการใช้เวลาว่างที่ดีร่วมกัน ทั้งครอบครัวและเด็กๆ จะได้สนุกสนานเพลิดเพลินไปกับเกมมากมาย ในขณะที่นักกอล์ฟจะได้สัมผัสกับเทคโนโลยีการติดตามผลและการวิเคราะห์วงสวิงเพื่อช่วยเพิ่มประสบการณ์และปรับปรุงการเล่นได้อย่างยอดเยี่ยม นอกจากนี้ ห้องประชุมของเรามีทางเลือกที่หลากหลายรูปแบบให้บริษัท เพื่อเป็นวิธีใหม่ในการประชุม พบปะสังสรรค์ และเลี้ยงฉลองในวาระสำคัญ

“ถือเป็นสิ่งที่น่าตื่นเต้นเสมอที่จะได้นำประสบการณ์ที่มีเอกลักษณ์ของท็อปกอล์ฟมาสู่ชุมชนแห่งใหม่ และเรายินดีขึ้นไปอีกที่ได้เป็นพันธมิตรกับทีจี เอสอีเอ ในการนำท็อปกอล์ฟมาเปิดตัวให้คนไทยรู้จัก” สตีฟ เลน รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ฝ่ายกลยุทธ์ต่างประเทศและบริหารแฟรนไชส์ของท็อปกอล์ฟกล่าว “การเปิดตัวครั้งนี้ถือเป็นความก้าวหน้าครั้งสำคัญในเส้นทางการขยายธุรกิจในระดับโลก และเราหวังที่จะได้เห็นการเติบโตทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้”

<img class="alignnone wp-image-37770" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/11/01-ปพิตชญา-สุวรรณดี.jpg" alt="" width="450" height="300" />

“ความร่วมมือกันกับท็อปกอล์ฟในครั้งนี้ เราเชื่อว่าการมาของท็อปกอล์ฟ จะมาเติมเต็มและเสริมความแข็งแกร่งของเมกาบางนา และโครงการเมกาซิตี้ และเป็นการตอกย้ำความเป็น The Great Meeting Place ที่เป็นมากกว่าสถานที่ช้อปปิ้ง ที่พร้อมจะรองรับลูกค้าจากทุกพื้นที่ ไม่ใช่เฉพาะกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออกเท่านั้น แต่จะตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่ม จากทุกพื้นที่ รวมถึงลูกค้าจากในเมือง

ด้วยขนาดของพื้นที่และทำเล เมกาบางนาจะเป็นศูนย์การค้าที่สามารถมอบประสบการณ์ที่หาจากศูนย์การค้าอื่นไม่ได้ และด้วยศักยภาพของลูกค้าโดยที่ผ่านมามีลูกค้าใช้บริการถึง 50 ล้านคนต่อปี เป็นกลุ่มครอบครัวที่มีกำลังซื้อสูง เป็นฐานลูกค้าที่มีศักยภาพ จะช่วยต่อยอดเป้าหมายทางธุรกิจให้กับท็อปกอล์ฟได้เป็นอย่างดี

คาดว่าสามารถรองรับผู้เข้ามาใช้บริการในโครงการเมกาซิตี้ได้เพิ่มถึงวันละ 250,000 คนและท็อปกอล์ฟจะเป็นเดสติเนชั่นใหม่ที่โดดเด่นและแตกต่างจากที่อื่น ด้วยแนวคิดที่ผสานทั้งกีฬากอล์ฟ และเอ็นเตอร์เทนเมนท์ไลฟ์สไตล์เต็มรูปแบบแห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งจะดึงดูดกลุ่มลูกค้าได้หลากหลายกลุ่มให้เข้ามาสัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆ ได้อย่างแน่นอน” ปพิตชญา สุวรรณดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ศูนย์การค้าเมกาบางนาและเมกาซิตี้ กล่าว

<img class="alignnone wp-image-43561" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/03/ท็อปกอล์ฟ_001.jpg" alt="ท็อปกอล์ฟ" width="450" height="240" />

ท็อปกอล์ฟก่อตั้งขึ้นบนแนวคิดที่ให้ความสำคัญด้านนวัตกรรม ความสนุกสนาน และการใช้เวลาร่วมกันของผู้คน ท็อปกอล์ฟเป็นเกมสำหรับผู้เล่นทุกระดับความสามารถ อาทิ ผู้เล่นสามารถเล่นเกมเก็บคะแนนด้วยการแข่งขันตีลูกกอล์ฟที่ฝังไมโครชิปให้เข้าเป้าที่คล้ายกับเป้าลูกดอกขนาดยักษ์ที่ตั้งอยู่ในสนาม ยิ่งตีลูกกอล์ฟเข้าไปใกล้ตำแหน่งศูนย์กลางหรือ “เป้า” และยิ่งตีได้ระยะไกลมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งได้คะแนนมากเท่านั้น

นอกจากนี้ ลูกค้ายังสามารถเลือกเล่นเกมอื่นๆ ได้อีกมากมาย เพื่อเติมเต็มประสบการณ์ความสนุกในแบบฉบับของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นเกมกอล์ฟแบบคลาสสิกแบบท็อปกอล์ฟ, เกม Jewel Jam ยอดฮิต หรือ Angry Birds ที่เพิ่งเปิดตัวในรูปแบบใหม่และกำลังได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่คนรักเกม

ในฐานะผู้บุกเบิกอุตสาหกรรมความบันเทิงด้านกีฬา ผลงานที่เปี่ยมความคิดสร้างสรรค์และความเป็นผู้นำทางธุรกิจได้ทำให้บริษัทเติบโตและมีชื่อเสียงอย่างมากในด้านประสบการณ์เกมกอล์ฟทั้งที่เน้นการเคลื่อนไหวของร่างกายและเกมระบบดิจิทัลแบบเสมือนจริง ท็อปกอล์ฟได้ประกาศจับมือเป็นพันธมิตรกับ ทีจี เอสอีเอ ในช่วงต้นปีนี้ ซึ่งมีแผนการพัฒนาเพิ่มท็อปกอล์ฟให้ครอบคลุมทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ทั้งนี้ บริษัท ทีจี เอสอีเอ ดีเวล็อปเมนต์ จำกัด (TG SEA Development Pte Ltd) คือผู้พัฒนาท็อปกอล์ฟแต่เพียงผู้เดียวในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ครอบคลุมอินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลปปินส์ สิงคโปร์ ไทยและเวียดนาม บริษัทก่อตั้งและนำโดยคณะผู้บริหารของ Parkview Entertainment &amp; Leisure, JLM Financial Partners (JLM) และ Chaucer Global ซึ่งเป็นกลุ่มผู้สนับสนุนเดียวกันของ SEAL ผู้พัฒนาแต่เพียงผู้เดียวและดูแลแฟรนไชส์ธุรกิจท็อปกอล์ฟในจีนแผ่นดินใหญ่ โดยมี โทนี หวัง จากบริษัท Parkview Group บริษัทผู้พัฒนาโครงการในฮ่องกง รับตำแหน่งประธานกรรมการของทีจี เอสอีเอ

ส่วนบริษัท JLM ซึ่งนำโดยแลร์รี่ เมเยอร์, เทรย์ โอเวน, เจฟฟ์ อีเซลล์, และแอนดรูวส์ เฮอร์เซกอร์น เป็นบริษัทลงทุนเอกชนในเมือง Austin รัฐ Texas นำเสนอบริการพัฒนาธุรกิจหลากรูปแบบทั้งในสหรัฐฯ และเอเชีย โดยเน้นที่ธุรกิจด้านสุขภาพและเวลล์เนส ไลฟ์สไตล์/ความบันเทิง และสันทนาการ ส่วนบริษัท Chaucer Global ซึ่งก่อตั้งโดย โจ แคนเทอเบอรี่ ผู้มีบทบาทสำคัญในการขยายธุรกิจสตาร์บัคส์ในเอเชียและทั่วโลก คือผู้ให้บริการสนับสนุนผู้บริโภคและแบรนด์ด้านไลฟ์สไตล์ในการขยายธุรกิจทั้งในสหรัฐอเมริกาและเอเชีย

อ่านเพิ่มเติม: <a href="https://forbesthailand.com/news/other/gfc-%e0%b9%80%e0%b8%9c%e0%b8%a2%e0%b9%84%e0%b8%97%e0%b8%a2%e0%b8%a1%e0%b8%b5%e0%b9%81%e0%b8%99%e0%b8%a7%e0%b9%82%e0%b8%99%e0%b9%89%e0%b8%a1%e0%b8%ad%e0%b8%b1%e0%b8%95%e0%b8%a3%e0%b8%b2%e0%b8%81.html">GFC คาดไทยมีอัตราการเจริญพันธุ์เหลือ 1.5 เทียบเคียงญี่ปุ่น</a>

<hr />

<a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/">ไม่พลาดเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ของเรา ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

ท็อปกอล์ฟ กางแผนในไทยเปิดตัวที่"เมกาบางนา"กลางปี'65

“เมกาบางนา” 8 ปี พัฒนาโครงการด้านความยั่งยืน

<h2>กว่าครึ่งหนึ่งของพอร์ตรายได้ของ Siam Future Development มาจากการเติบโตของ ศูนย์การค้าเมกาบางนา ที่บริษัทมีสัดส่วนการลงทุนอยู่จำนวน 49% ภายใต้การบริหารงานของแม่ทัพหญิงวัยเพียง 37 ปี ชื่อ สโรชา ลายสุวรรณ CEO บริษัท เอสเอฟ ดีเวลอฟเมนต์ จำกัด ผู้บริหารศูนย์การค้าเมกาบางนา</h2>
“พื้นฐานการทำ retail ทำให้เราสามารถนำมุมมองของผู้เช่า หรือ tenant มาปรับใช้  เราเป็น tenant มาก่อน ทำให้รู้ว่า tenant ต้องการอะไรจากศูนย์การค้า เราต้องทำอะไรเพื่อตอบสนองความต้องการของเขาได้ นอกจากนั้น อีกส่วนที่เราได้คือ เวลาทำ retail เรามีความใกล้ชิดกับลูกค้า end user เยอะ ทำให้รู้ feedback สามารถนำมาปรับใช้ได้”

ก่อนจะบริหารงานเต็มตัว สโรชามีเวลาเรียนรู้งาน 6 เดือนควบคู่ไปกับ คริสเตียน โอลอฟเซน (Christian Olofsson) อดีต CEO ศูนย์การค้าเมกาบางนา ผู้ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของเมกาบางนามากว่า 3 ปี  ก่อนที่เธอจะเข้ารับตำแหน่ง CEO อย่างเป็นทางการในเดือนกันยายน ทำหน้าที่ดูแลภาพรวมการทำงานของศูนย์การค้าทั้งหมด ทั้งด้านนโยบายการบริหารจัดการและโครงสร้างศูนย์การค้าเมกาบางนา

นอกจากนี้ สโรชา ยังมองเห็นจุดเด่นหรือจุดแข็งของเมกาบางนา เริ่มตั้งแต่ภาพลักษณ์และการบริหารจัดการศูนย์อย่างชัดเจนภายใต้คอนเซปต์ “พื้นที่แห่งความสุขสำหรับทุกคนในครอบครัว” ด้วยการมองหาสินค้าที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าให้มากที่สุด สำหรับทุกเพศ ทุกวัย ซึ่งโครงสร้างของพื้นที่ของศูนย์ฯ  ที่เป็นแนวราบ ด้วยความสูงเพียงสองชั้น อีกหนึ่งจุดเด่นที่ทำให้เมกาบางนาแตกต่างจากศูนย์การค้าอื่น คือ พันธมิตร และผู้เช่าหลักที่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็น อิเกีย, โฮมโปร, โรบินสัน บิ๊กซี เอ็กซ์ตร้า และเมกา ซีนีเพล็กซ์

<a href="http://goo.gl/34CFmJ">อ่าน "สโรชา ลายสุวรรณ ผู้นำหญิงแห่งเมกาบางนา" ฉบับเต็ม Forbes Thailand ฉบับ MARCH 2015</a>

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events