<h2>สถาบันวิจัยความเป็นอยู่ฮาคูโฮโด อาเซียน (ประเทศไทย) หรือ Hakuhodo Institute of Life and Living ASEAN (THAILAND) เผยผลสำรวจเรื่องการคาดการณ์พฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภคในประเทศไทยประจำเดือนธันวาคม พ.ศ.2566 ว่า คะแนนความต้องการใช้จ่ายพุ่งสูงขึ้นเมื่อเทียบกับผลสำรวจฉบับเดือนตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา โดยคะแนนที่พุ่งสูงขึ้นนี้เองเป็นผลมาจากข่าวสารการเมืองเริ่มคลี่คลายและเทศกาลแห่งการเฉลิมฉลองต่างๆ เช่น คริสต์มาส หรือปีใหม่ ที่กำลังใกล้เข้ามา</h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ภาพรวมคนไทยอยากจับจ่ายซื้อของขวัญ พาครอบครัวไปเที่ยวภายในประเทศ หรือซื้อของเป็นรางวัลให้กับตัวเองจากความเหนื่อยลาทั้งปีที่ผ่านมา คะแนนความต้องการใช้จ่ายที่พุ่งสูงขึ้นนี้ ส่งผลเป็นอย่างมากกับเศรษฐกิจไทยในช่วงท้ายปีให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;จากแนวโน้มที่ออกมาจากผลสำรวจนี้ “พร้อมพร สุภัทรวณิช” ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ฝ่ายวิจัยการตลาดและวางแผนกลยุทธ์ ได้ให้คำแนะนำกับแบรนด์ต่างๆ เพื่อใช้ในการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ จัดแคมเปญ หรือจัดกิจกรรมให้ตอบโจทย์ต่อความต้องการของคนไทย ดังนี้ 1.สร้างไอเดียเตรียมจับ-จ่าย เงินดิจิทัล 10,000 บาท&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;จากความยุ่งเหยิงของสถานการณ์ทางการเมืองได้คลี่คลายลง ด้วยกระแสความคาดหวังจากนโยบายเงินดิจิทัล 10,000 บาท แบรนด์สามารถนำเสนอไอเดียในการนำเงินไปใช้ได้หลายรูปแบบ เช่น “Family fun package” สร้างประสบการณ์ที่น่าจดจำกับครอบครัว หรือ “วิธีใช้เงินลงทุนก้อนแรก” เพื่อแนะนำให้คนไทยใช้เงินอย่างชาญฉลาด ซึ่งจะช่วยสร้างเสริมการรับรู้ที่ดีต่อแบรนด์ทั้งในแง่การเติมสุขและสนับสนุนด้านการเสริมสร้างศักยภาพทางการเงินได้อีกด้วย&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; 2.ซัพพอร์ตไปกับกระแส “Thai Pride”&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ความตื่นตัวของคนไทยที่มีต่อสื่อบันเทิงภายในประเทศในช่วงนี้ แบรนด์สามารถต่อยอดได้ด้วยการ tie-in วัฒนธรรมความเป็นไทยให้เขากับตัวตนของแบรนด์ ผ่านกิจกรรมการตลาดทั้งในแบบ online และ offline วิธีนี้จะช่วยสร้างมุมมองเชิงบวก และนำความสุขมาสู่คนไทยในช่วงเวลาเทศกาลแห่งความสุขนี้ได้อีกด้วย&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;จากผลสำรวจที่น่าสนใจในครั้งนี้ สถาบันวิจัยฮาคูโฮโด อาเซียน ประเทศไทย ได้นำเสนออินไซด์ของคนไทยผ่านผลสำรวจไว้ 1 ประเด็นหลัก คือ สัญญาณสีเขียว! คนไทยมองบวก ดันความอยากช้อปพุ่งสูงสุดในรอบปี และเกือบ 50% เชื่อว่าจะมีความสุขมากขึ้นในอีกสามเดือนข้างหน้า <div class="se-component se-image-container __se__float-none" contenteditable="false"><figure style="margin: 0px;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/12/TW8agKVg5Sw8gFsMRuPg.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="none" data-file-name="TW8agKVg5Sw8gFsMRuPg.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="0"></figure></div>​ &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ภาพรวมคนไทยในตอนนี้อยากจับจ่ายซื้อของขวัญ พาครอบครัวไปเที่ยวภายในประเทศ หรือซื้อของเป็นรางวัลให้กับตัวเองจากความเหนื่อยลาในปีที่ผ่านมา&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;โดยถ้าแบ่งจำเพาะเป็นเพศ คือ คุณผู้ชายมีความต้องการอยากซื้อ ของชิ้นใหญ่และของทดแทน เช่น รถยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า มือถือ ส่วนคุณผู้หญิงถูก drive ด้วยโปรโมชันลดราคา และการซื้อของให้คนในครอบครัว รวมถึงสินค้าแฟชั่น เพื่อจะสวยรับเทศกาล เสริมสร้างความมั่นใจและพร้อมเริ่มต้นปีใหม่ด้วยการรักตัวเองรับปีใหม่ที่กำลังจะมาถึงนี้&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;คนต่างจังหวัดเตรียมใช้จ่ายจัดเต็มรับปีใหม่ หลังจากที่เฝ้าระวังเรื่องเศรษฐกิจมานาน เน้นกลับบ้านหาครอบครัว เที่ยวในประเทศ ในส่วนของคนกรุงยังคงคึกคักตามเดิม สนใจอยากเที่ยวนอกประเทศ เพื่อพักผ่อนร่างกายและจิตใจที่เหนื่อยล้ามาตลอดทั้งปี&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;สถาบันวิจัยฮาคูโฮโด อาเซียน ประเทศไทย ได้เผยอินไซด์เพิ่มเติมเกี่ยวกับความสนใจของคนไทยในขณะนี้ไว้ว่า “ข่าวสงครามอิสราเอล-ฮามาส” ยังคงยึดพื้นที่สื่อ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ส่วนข่าวการเมืองในประเทศลดความร้อนแรงลง เน้นสนับสนุนสื่อบันเทิงในประเทศ และคนไทยหวังเงินดิจิทัลช่วยปรับให้เกิดสภาพคล่องส่วนตัว และคนไทยหลายกลุ่มมีความสนใจเป็นพิเศษในกลุ่มข่าวบันเทิง ทั้งเรื่องดาราในและนอกประเทศ รวมถึงกระแสภาพยนตร์และละครสัญชาติไทย ที่แสดงให้เห็นว่าคนไทยมีความชื่นชอบและภาคภูมิใจในสื่อ Made in Thailand ​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-none" contenteditable="false"><figure style="margin: 0px;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/12/rCjZWdQMqxCtHiosMBND.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="none" data-file-name="rCjZWdQMqxCtHiosMBND.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="1"></figure></div> เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ :&nbsp;<a target="_blank" href="https://forbesthailand.com/news/marketing/grab-thailand-food-grocery-trends-2023" alt="Grab เผย 6 เทรนด์พฤติกรรมผู้บริโภคปี 2566 ชี้ Omnicommerce มาแรง">Grab เผย 6 เทรนด์พฤติกรรมผู้บริโภคปี 2566 ชี้ Omnicommerce มาแรง</a> <a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

คนไทยพร้อมเปย์หนักรับปีใหม่ อยากซื้อของขวัญเป็นรางวัลให้ตัวเองหลังจากเหนื่อยล้ามาทั้งปี

&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;สถาบันวิจัยความเป็นอยู่ฮาคูโฮโด อาเซียน (ประเทศไทย) หรือ Hakuhodo Institute of Life and Living ASEAN (THAILAND) เผยผลสำรวจเรื่องการคาดการณ์พฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภคในประเทศไทยประจำเดือนมิถุนายน พ.ศ.2566 ว่า หลังผ่านการเฉลิมฉลองฉลองช่วงต้นปีมาอย่างจัดเต็ม ส่งผลให้ภาพรวมการอยากใช้จ่ายของคนไทยในช่วงกลางปีลดลง&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;และในปีนี้ประเทศไทยมีแนวโน้มอุณหภูมิสูงขึ้นเหมือนเช่นทุกๆ ปี ส่งผลให้หน้าร้อนปีนี้อากาศร้อนยิ่งกว่าเมื่อปีที่ผ่านมา ทำให้ผู้บริโภคมองหาวิธีดับร้อนที่แตกต่างกันออกไป แต่สิ่งที่เห็นได้ชัดจากผลสำรวจคือ หลายคนเลือกที่จะเก็บตัวอยู่บ้านหลบร้อน เซฟตัวเอง เซฟเงินในกระเป๋าที่ใช้จ่ายอย่างหนักหน่วงไปเมื่อเทศกาลต่างๆ ในต้นปีที่ผ่านมา &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;สถานการณ์ของคนไทยในปัจจุบันอ้างอิงจากผลสำรวจ สรุปได้ว่า แต่ละเพศมีการรับมือกับอากาศร้อนที่แตกต่างกัน เช่น ผู้หญิงในทุกวัยหันมาใส่ใจเรื่องผิวหน้าและกายมากขึ้น เนื่องจากผลกระทบจากรังสี UV ความร้อน และมลภาวะที่ทำให้ผิวแห้งและเกิดสิว ฝ้า กระ แต่ในผู้ชายส่วนใหญ่จะเลือกซื้อสินค้าในกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าช่วยคลายร้อน เป็นต้น โดย <div class="se-component se-image-container __se__float-none" contenteditable="false"><figure style="margin: 0px;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/06/UNR8q9RExhKcw7dJgjFH.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="none" data-file-name="UNR8q9RExhKcw7dJgjFH.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" origin-size="1920,1920" style="" data-index="0"></figure></div>​ &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;สถาบันวิจัยความเป็นอยู่ฮาคูโฮโด อาเซียน (ประเทศไทย) ได้แบ่งปันมุมมองใหม่ให้กับแบรนด์ เพื่อให้ปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์นี้ไว้ว่า &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;1.	โควิดลดลง แต่การดูแลตัวเองต้องไปต่อ: Self-care is health care! 	&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ในขณะนี้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 มีแนวโน้มลดลง แต่การดูแลสุขภาพของเราก็ยังคงต้องดำเนินต่อ ถึงแม้ว่าโควิดจะเบาลง แต่ยังมีสิ่งอื่นรอบตัวที่อาจส่งผลกระทบกับร่างกายโดยตรง อาทิ อากาศร้อน และ ฝุ่น PM 2.5 ซึ่งในจุดนี้เอง แบรนด์สามารถส่งเสริมให้ผู้บริโภคไม่ละเลยที่จะดูแลตัวเองอย่างสม่ำเสมอผ่านกิจกรรมที่ทำได้ง่ายและเร็วทั้งในเรื่องสุขภาพและความสวยงาม เช่น การเสนอให้มีการออกกำลังกายในร่มเพื่อหลีกเลี่ยงการพบเจอแสงแดด อากาศร้อน และฝุ่น จากภายนอกโดยตรง หรือนำเสนอไอเดียเรื่องการดูแลและปกป้องผิวพรรณจากความร้อน รังสี UV ที่อาจเข้ามากระทบผิวเราโดยตรงอีกทั้งยังต้องส่งเสริมเรื่องผิวต้องการความชุ่มชื่นจากน้ำอีกด้วย&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;2.	แนะนำไอเดียอยู่บ้านหนีร้อนแบบสบายกระเป๋า: Inexpensive In-home Joy to beat heat 	&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ปัจจุบันนี้คนไทยอยู่ท่ามกลางสภาพอากาศที่ร้อนจัดและมีแนวโน้มที่จะร้อนขึ้นในทุกๆ ปี แบรนด์สามารถใช้โอกาสนี้ในการเข้าไปมีส่วนร่วมเพื่อช่วยสร้างความสุข สนุก สดชื่น ให้เกิดขึ้นภายในบ้านได้ โดยสามารถสร้างผ่านการแนะนำในการใช้ผลิตภัณฑ์วิธีใหม่ เช่น แนะนำความสดชื่นรูปแบบใหม่ ที่เปลี่ยนเครื่องดื่มธรรมดาให้เป็นเป็นเมนูหวานเย็นได้ง่ายๆ เพื่อเพิ่มสีสันใหม่ๆ ในการรับประทาน หรือแบรนด์จะเน้นการทำโปรโมชั่นรูปแบบ Family Pack ในช่องทางออนไลน์ให้มากขึ้น เพื่อความสะดวก คุ้มค่า และสร้างโมเมนต์แห่งความสุขร่วมกันได้ภายในครอบครัว​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-none" contenteditable="false"><figure style="margin: 0px;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/06/TTyiSxSi5LJbpaVduCsB.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="none" data-file-name="TTyiSxSi5LJbpaVduCsB.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" origin-size="1920,1920" style="" data-index="1"></figure></div> เมื่อเจาะลึกลงในรายละเอียดของผลสำรวจประจำเดือนมิถุนายน พ.ศ.2566 เผยให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงของผลสำรวจใน 2 หัวข้อใหญ่ที่ทาง สถาบันวิจัยความเป็นอยู่ฮาคูโฮโด อาเซียน ประเทศไทย ให้ข้อมูลไว้อ้างอิงนั่นก็คือ &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;1.	แนวโน้มความต้องการในการใช้จ่ายลดลงกว่า 5% ส่งสัญญาณเตือนให้คนไทยต้องเซฟเงินในบัญชี 	&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;เมื่อเทียบกับผลสำรวจของเดือนกุมภาพันธ์และเดือนเมษายน 2566 ที่ผ่านมา ทำให้เห็นได้ชัดว่า คนไทยผ่านการเฉลิมฉลองในช่วงเทศกาลและใช้เงินกันมาอย่างหนักหน่วง เนื่องจากปีนี้เองเป็นปีแรกในรอบ 3 ปี ที่คนไทยได้กลับมาเฉลิมฉลองกันอย่างเต็มที่โดยไม่กังวลเรื่องการแพร่ระบาดของโควิด นั่นจึงเป็นเหตุผลสำคัญที่แสดงให้เห็นว่า เมื่อเข้าสู่ช่วงเดือนมิถุนายนหรือกลางปี มีการส่งสัญญาณจากเงินในบัญชีว่าให้พักเรื่องการใช้จ่าย ซึ่งส่งผลโดยตรงกับคะแนนความต้องการใช้จ่ายในภาพรวมที่ลดลง อีกหนึ่งผลกระทบที่ทำให้ใครหลายคนต้องเซฟเงินในบัญชีคือเรื่องสินค้าราคาแพงและค่าไฟในช่วงนี้สูงขึ้นกว่าหลายๆ เดือนที่ผ่านมา&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;2.	กระแสโควิดซาลง แต่อากาศร้อนและปัญหาฝุ่นยังคงอยู่ ต้องดูแลสุขภาพกันต่อไป 	&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;เนื่องจากสถานการณ์โควิดมีแนวโน้มที่ดีขึ้น ทำให้คนไทยหลายคนเริ่มละเลยเรื่องการใส่ใจสุขภาพของตนเอง คนไทยบางส่วนเลิกทำกิจกรรมเพื่อสุขภาพนอกบ้าน เช่น การเดิน วิ่ง จ๊อกกิ๊ง ยังรวมไปถึงการเลิกทานวิตามินซีหรือเลิกทานผลิตภัณฑ์เสริมเพื่อสุขภาพ ซึ่งอย่างไรก็ตามการดูแลสุขภาพของตนเองและครอบครัวยังคงเป็นสิ่งที่สำคัญ เนื่องจากปัญหาฝุ่นที่ยังคงอยู่ สภาพอากาศที่ร้อนจัดและเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา อาจส่งกระทบต่อสุขภาพของคนไทยได้ แบรนด์ควรแนะหรือนำเสนอทางออกที่ดีต่อสุขภาพที่สามารถทำเองได้ง่ายๆ ที่บ้าน เช่น การทานผักและผลไม้ ทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ รวมไปถึงการดื่มน้ำให้เพียงพอในหนึ่งวัน เพียงเท่านี้ก็จะสามารถสร้างเสริมให้คนไทยมีสุขภาพที่ดีไปด้วยกัน&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ถึงอย่างไรก็ตาม แม้ผลสำรวจเรื่องแนวโน้มความต้องการใช้จ่ายมีเปอร์เซ็นต์ลดลง แต่ในขณะเดียวกันมีความน่าสนใจว่าผู้ให้สำรวจในกลุ่มอายุ 20 - 29 ปี หันมาเน้นจับจ่ายใช้สอยเพื่อเตรียมตัวต้อนรับเปิดเทอมเตรียมซื้อของใหม่เข้าหอ ซื้อสินค้าอัพลุคใหม่ให้เป๊ะ ปัง ต้อนรับการเปิดเทอมแบบ On-site อย่างเต็มรูปแบบ <div class="se-component se-image-container __se__float-none" contenteditable="false"><figure style="margin: 0px;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/06/MKujtxs6V7n25RcsfveH.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="none" data-file-name="MKujtxs6V7n25RcsfveH.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" origin-size="1920,1920" style="" data-index="2"></figure></div>​ &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;พร้อมพร สุภัทรวณิช ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ฝ่ายวิจัยการตลาดและวางแผนกลยุทธ์ ได้พูดถึงข่าวที่คนไทยให้ความสนใจมากในขณะนี้ไว้ว่า “ข่าวการเมืองและการเลือกตั้งยึดพื้นที่สื่อแทบจะทั้งหมด คนไทยทั่วประเทศออกมาใช้สิทธิ์ใช้เสียงกันตามกฏหมายอย่างเนืองแน่น ถือเป็นสัญญาณที่ทำให้เห็นว่า คนไทยตระหนักเรื่องการเมืองเป็นสำคัญ อยากเห็นความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นหลังการเลือกตั้งในครั้งนี้ จึงต้องมารอลุ้นผลกันต่อไปว่า ท้ายที่สุดแล้วทิศทางของประเทศไทยในอนาคตจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้าง” &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;อ่านเพิ่มเติม :&nbsp;"<a href="https://forbesthailand.com/preview/70425" alt="&quot;ส่งออกไทย&quot; เดือน พ.ค. หดตัวน้อยกว่าคาด จับตา &quot;เศรษฐกิจจีน&quot; ยังแผ่ว">"ส่งออกไทย" เดือน พ.ค. หดตัวน้อยกว่าคาด จับตา "เศรษฐกิจจีน" ยังแผ่ว</a>&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;<a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>​

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events