ฮาคูโฮโด เผยอินไซด์ คนไทยใช้จ่ายช่วงปลายปีมากขึ้นเพื่อฮีลใจจากปี 2568 ที่เหนื่อยล้า เติมพลังชีวิตไปต่อในปีใหม่ โดยแต่ละช่วงวัยพร้อมเติบโตในแบบของตัวเอง เปิดโอกาสให้แบรนด์เจาะกลุ่มลูกค้าต่างวัยได้ด้วยแคมเปญที่มากกว่าการขาย
ตลอดทั้งปีที่ผ่านมา คนไทยใช้ชีวิตกันหลากหลายโหมด ไม่ว่าจะเป็น การเอาตัวรอดจากพิษเศรษฐกิจ และภัยพิบัติทางธรรมชาติ การฮีลใจจากความเหนื่อยล้า ชี้ให้เห็นว่าคนไทยพร้อมรับทุกสถานการณ์ แต่การที่จะก้าวต่อไปให้ดีขึ้นนั้น ควรต้องมีพลังและทักษะในตัวเอง ทั้งการจัดการใจ การเงิน ความยืดหยุ่น รวมไปถึงการพึ่งพาตัวเองให้มากขึ้น
สถาบันวิจัยความเป็นอยู่ ฮาคูโฮโด อาเซียน (ประเทศไทย) หรือ Hakuhodo Institute of Life and Living ASEAN (THAILAND) ได้ทำการศึกษาเกี่ยวกับการคาดการณ์พฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภคในประเทศไทยทุกๆ สองเดือน โดยผลสำรวจล่าสุดประจำเดือนธันวาคม 2568 ชี้ให้เห็นว่าภาพรวมของปีนี้ถือเป็นปีแห่งการเติบโตของคนไทย แม้จะต้องเผชิญกับสถานการณ์ต่างๆ มาตลอดทั้งปี แต่การใช้จ่ายช่วงปลายปีกลับเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
โดยภาพรวมของการใช้จ่ายในเดือนธันวาคมนี้ เพิ่มขึ้น 4 คะแนน จาก 65 เป็น 69 เมื่อเทียบกับผลสำรวจเดือนตุลาคมที่ผ่านมา สะท้อนให้เห็นว่าตอนนี้ถึงช่วงเวลาของใครหลายคนที่จะได้พักหายใจ หายเหนื่อย หลังเจอเรื่องหนักหนามาตลอดทั้งปี
ผู้บริโภคยอมใช้จ่ายเพื่อฮีลใจไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยวในประเทศ การทานอาหารมื้อพิเศษนอกบ้าน การซื้อของตั้งแต่เครื่องใช้ไฟฟ้าไปจนถึงเครื่องดับประดับ สิ่งเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่าช่วงปลายปีคือช่วงเวลาเพิ่มพลังใจของคนไทยอย่างแท้จริง
ทั้งนี้ เมื่อเจาะลึกถึงแนวโน้มในการใช้จ่ายของคนไทยในช่วงครึ่งปีแรก แนวโน้มการใช้จ่ายของผู้บริโภคอยู่ที่ 65 คะแนน ก่อนที่จะพุ่งขึ้นเป็น 67 คะแนนในช่วงครึ่งปีหลัง ความเปลี่ยนแปลงนี้แสดงให้เห็นว่าคนไทยพร้อมใจกันเปิดกระเป๋ากลับมาใช้จ่ายอีกครั้ง โดยมีแรงหนุนมาจากโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจจากรัฐบาล
อีกทั้งในช่วงปลายปีมีเทศกาลปีใหม่ที่ทั้งเมืองเต็มไปด้วยสีสัน แสงไฟ และกิจกรรมต่างๆ ก็ยิ่งเติมแรงบันดาลใจให้ทุกคนได้ออกไปใช้ชีวิตกันอย่างเต็มที่ ร่วมสนุกไปกับทุกโมเมนต์ เก็บเกี่ยวทุกความสุข หลังเจอความเหนื่อยล้าที่สะสมมาตลอดทั้งปี
แบรนด์ต้องทำมากกว่าการขาย
ช่วงเวลาปลายปีนี้เองยังถือเป็นโอกาสอันดีของแบรนด์ในการปรับตัวให้เข้ากับความต้องการของผู้บริโภค อรุณโรจน์ เหล่าเจริญวงศ์ รองผู้อำนวยการฝ่ายวางแผนกลยุทธ์ สถาบันวิจัยความเป็นอยู่ฮาคูโฮโด อาเซียน (ประเทศไทย) เชื่อว่า ยิ่งแบรนด์เข้าถึงผู้บริโภคมากเท่าใด ก็ยิ่งกลายเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างความผูกพันที่ยั่งยืน
พร้อมทั้งกล่าวว่า ช่วงส่งท้ายปีแบรนด์ควรเป็นพลังใจให้คนไทย เพราะปลายปีคือช่วงเวลาที่ผู้บริโภคอยากพักใจหลังเผชิญกับความหนักหนามาตลอดทั้งปี แบรนด์จึงควรชื่นชมความเข้มแข็งของคนไทย และช่วยออกแบบโมเมนต์ดีๆ ส่งท้ายปี ที่ไม่ใช่แค่การขายเพียงอย่างเดียว
ยกตัวอย่างเช่น Year-End Gratitude Film ที่ขอบคุณผู้บริโภคที่สู้มาด้วยกัน หรือ Encouragement Card ที่สร้างข้อความให้กำลังใจเฉพาะบุคคล และ Healing Day ที่ลดราคาสินค้าเพื่อเติมพลังใจให้แก่ผู้บริโภค เป็นต้น
การทำสิ่งเหล่านี้ จะทำให้แบรนด์กลายเป็นเพื่อนร่วมทางในวันที่เหนื่อยล้า และช่วยให้คนไทยเริ่มต้นปีหน้าได้อย่างมีพลังและมีความสุขไปพร้อมกัน
ทำแคมเปญเจาะช่วงวัย สร้างความผูกพันผู้บริโภค
ผลสำรวจของฮาคูโฮโด อาเซียน (ประเทศไทย) ยังระบุอีกว่า แบรนด์สามารถทำให้ชีวิตดีขึ้นทุกวัย ด้วยแคมเปญที่ช่วย Upgrade Life เพราะเมื่อคนในแต่ละช่วงวัยต้องการทักษะที่แตกต่างกัน การทำแคมเปญตามแต่ละวัยจะช่วยให้แบรนด์เข้าใจผู้คนลึกขึ้นและสร้างความผูกพันกับผู้บริโภคได้มากขึ้น
สำหรับช่วงวัย 20 - 29 ปี แบรนด์สามารถทำเครื่องมือช่วยรู้จักตัวเอง (Self-Discovery Tools) หรือ Emotional Check-in เพื่อจัดการใจที่เชื่อมกับสินค้าในฐานะตัวช่วยเริ่มต้นเส้นทางชีวิต
ช่วงวัย 30 -39 ปี แบรนด์สามารถสร้าง Productivity Kits หรือ Career Boost Tips เพื่อให้สินค้าเป็นตัวช่วยให้ทำงานเร็วขึ้น หรือจัดการชีวิตได้ง่ายขึ้น
ช่วงวัย 40 - 49 ปี แบรนด์สามารถออกแบบ Financial & Health Planning Content ที่ใช้สินค้าเป็นเครื่องมือในการสร้างความมั่นคงของชีวิตได้
ช่วงวัย 50 - 59 ปี แบรนด์สามารถทำ Retirement Readiness Guide ที่วางสินค้าเป็นเพื่อนคู่คิด ช่วยเตรียมพร้อมชีวิตหลังเกษียณในระยะยาวได้
5 ทักษะ ที่คนไทยอยากพัฒนาในปีหน้า
“ตลอดทั้งปีที่เราเจอแต่สิ่งเหนื่อยล้าและต้องเอาตัวรอด ผู้คนในแต่ละช่วงวัยต้องการทักษะเพื่อเส้นทางการเติบโตที่ไม่เหมือนกัน ซึ่งคนไทยส่วนใหญ่เลือกพัฒนาทักษะเชิงปฏิบัติมากกว่าทักษะทางอารมณ์เพราะช่วยเสริมความมั่นคงแบบจับต้องได้” อรนลิน กล่าว
โดยได้สรุป 5 อันดับทักษะที่คนไทยอยากพัฒนาในปีหน้า และเป็นทักษะที่อยู่รอดได้จริงและเห็นผลทันที ดังนี้
อันดับ 1 พบว่า 44% คนไทยอยากพัฒนาทักษะอาชีพใหม่ หารายได้เสริม เพิ่มสกิล เพื่อรายได้ เพิ่มโอกาสรอดในเศรษฐกิจที่คาดเดาไม่ได้
อันดับ 2 ในจำนวนที่เท่ากัน 44% อยากดูแลสุขภาพกายและใจอย่างสม่ำเสมอ กายและใจที่ดีคือพลังสำคัญในการขับเคลื่อนทุกอย่างในชีวิต
อันดับ 3 ที่ 43% ต้องการวางแผนการเงินอย่างมีเป้าหมาย รู้ทันเรื่องการเงิน คิดไกลเพื่ออนาคตที่มั่นคงและสบายใจ
อันดับ 4 พบว่า 30% ต้องกาาตั้งเป้าและทำให้สำเร็จ ไม่ใช่เพียงแค่ฝัน แต่ลงมือทำให้เห็นผลชัดๆ
สุดท้าย อันดับ 5 จำนวน 26% ต้องการใช้เทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพชีวิต รู้ทันเทรนด์ใหม่ ให้ชีวิตไวขึ้น และง่ายขึ้นในยุคที่ต้องแข่งกับเวลา
“ถึงแม้ในปีนี้ ชีวิตจะวุ่นวายและมีหลายอย่างที่เปลี่ยนแปลง แต่คนไทยยังคงรักษาความสุขของตัวเองได้ด้วยการรักษาบาลานซ์ชีวิตและการดูแลตัวเอง เป็นเครื่องพิสูจน์แล้วว่าวิธีนี้ทำให้คนไทยมีความสุขต่อเนื่อง ถือเป็นสัญญาณอันดีที่คนไทยปรับตัวพร้อมกับมือกับทุกสถานการณ์และทุกการเติบโต พร้อมที่จะรับมือกับสิ่งใหม่ ๆ ที่จะเกิดขึ้นในปีต่อไป” อรนลิน กล่าว
เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : ตลาดโปรดักต์ HIGH PROTEIN ในไทยพุ่งแรง! มูลค่าแตะ 4,300 ล้านบาท หลังกระแสออกกำลังกายมาแรง ความต้องการเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพพุ่ง
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine

