<h2>เอพี ไทยแลนด์ ตอกย้ำศักยภาพการเป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัยชั้นนำของไทย ด้วยยอดขายไตรมาสแรกของปี 2567 ที่ 17,526 ล้านบาท เตรียมเดินหน้าเปิด 22 โครงการใหม่ไตรมาสสองนี้</h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;วิทการ จันทวิมล&nbsp;รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานกลยุทธ์องค์กรและ การสร้างสรรค์ บมจ. เอพี ไทยแลนด์ กล่าวว่า ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ไตรมาส 1 ที่ผ่านมาเริ่มเห็น เซนติเมนต์ในเชิงบวกมากขึ้นในตลาดระดับกลางถึงบน ซึ่งสะท้อนได้จากยอดขายที่ผ่านมาของบริษัทที่สามารถสร้างยอดขายได้มากถึง 17,526 ล้านบาท <div class="se-component se-image-container __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/04/soRiC7HvxKkcrfjoRrd3.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="soRiC7HvxKkcrfjoRrd3.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="0" origin-size="720,480"><figcaption><div>วิทการ จันทวิมล</div></figcaption></figure></div>​&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;แบ่งเป็นยอดขายจากโครงการแนวราบ 13,632 ล้านบาท และโครงการคอนโดมิเนียม 3,894 ล้านบาท ซึ่งเกิดจากดีมานด์ของลูกค้าที่เชื่อมั่นใน ทุกโครงการเครือเอพี ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮม และคอนโดมิเนียมของเครือเอพี เปิดแผนขับเคลื่อนองค์กร สร้างรายได้ต่อเนื่อง&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;สำหรับในไตรมาส 2 บริษัทฯ เตรียมเปิดตัว 22 โครงการใหม่ มูลค่ารวมประมาณ 27,710 ล้านบาท โดยเป็นทาวน์โฮม 8 โครงการ มูลค่า 6,910 ล้านบาท บ้านแฝด 5 โครงการ มูลค่า 3,650 ล้านบาท บ้านเดี่ยว 5 โครงการ มูลค่า 8,550 ล้านบาท และคอนโดมิเนียม 4 โครงการ มูลค่า 8,600 ล้านบาท และโครงการที่อยู่ระหว่างการขาย (ongoing projects) จำนวน 160 โครงการ ซึ่งจะเป็นคีย์สำคัญในการสร้างรายได้อย่างต่อเนื่อง (cash inflow)​ <div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/04/BA9DQbUnYnP9QWmXzP6c.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="BA9DQbUnYnP9QWmXzP6c.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="1" origin-size="720,480"></figure></div> &nbsp; &nbsp; วิทการกล่าวเสริมว่า “เศรษฐกิจไทยปี 2567 ยังถือมีความท้าทายรออยู่อีกมาก และเชื่อว่าจะเป็นอีกปีที่ไม่ได้ง่าย ด้วยปัจจัยต่างๆ  ที่ส่งผลกระทบต่อเนื่องมาจากปีที่แล้วอย่างเลี่ยงไม่ได้ และจะเป็นอีกหนึ่งปีที่จะพิสูจน์การเป็นตัวจริงของธุรกิจ ซึ่ง ณ วันนี้ บริษัทให้ความสำคัญอย่างมากกับ 5 มิติ เพื่อขับเคลื่อนองค์กรให้ไปตามเป้าหมายที่วางไว้”&nbsp; &nbsp; โดย 5 มิติ ได้แก่&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;1) การบริหารจัดการกระแสเงินสด ที่ส่งผลต่อเสถียรภาพและความน่าเชื่อถือขององค์กร ซึ่งเราเชื่อว่าวันนี้เรามีความเข้มแข็งมีเสถียรภาพทางการเงิน และสภาพคล่องที่เพียงพอ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;2) การกระจายพอร์ตสินค้าที่หลากหลาย และครอบคลุมทุกเซกเมนต์ของตลาด&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;3) People - Structure - Process การบริหารจัดการคน โครงสร้างองค์กร และโพรเซสการทำงานที่แม่นยำ เพื่อสนับสนุนต่อการทำงานที่รวดเร็วทันทุกการเปลี่ยนแปลง&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;4) การมีพันธมิตรทางธุรกิจที่มีวิสัยทัศน์เดียวกัน เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนธุรกิจก้าวสู่ความเป็นหนึ่ง&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;5) Supply Chain Management ที่พร้อมสนับสนุนให้การเติบโตของธุรกิจเป็นไปอย่างต่อเนื่องตามแผนการพัฒนาและส่งมอบโครงการ ​ <div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/04/HepzpzjuaxKzdiwa3qax.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="HepzpzjuaxKzdiwa3qax.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="2" origin-size="720,480"></figure></div> เป้าหมายปี 67 ขยายพอร์ตทั่วไทย ชิงยอดขายหลักหมื่นล้าน&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;บมจ. เอพี ไทยแลนด์ ตั้งเป้าปี 2567 ขยายพอร์ตสินค้าในเครือเอพีพร้อมขายกระจายทั่วประเทศไทย  รวมกว่า 200 โครงการ โดยเป็นโครงการพัฒนาใหม่ จำนวน 48 โครงการ มูลค่าประมาณ 58,000  ล้านบาท ซึ่งแบ่งเป็น บ้านเดี่ยว 15 โครงการ มูลค่า 23,000 ล้านบาท, ทาวน์โฮมและบ้านแฝด 23 โครงการ มูลค่า 19,300 ล้านบาท, คอนโดมิเนียม 6 โครงการ มูลค่า 12,500 ล้านบาท และโครงการในต่างจังหวัด  4 โครงการ มูลค่า 3,200 ล้านบาท&nbsp; &nbsp; อีกทัั้งยังมีโครงการที่อยู่ระหว่างการขาย (ongoing projects) จำนวน 160 โครงการ ซึ่งจะเป็นคีย์สำคัญในการสร้างรายได้อย่างต่อเนื่อง (cash inflow) โดยตั้งเป้ายอดขาย 57,000 ล้านบาท เป้ารายได้รวม 100% JV ที่ 53,700 ล้านบาท &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ทั้งนี้ ในไตรมาส 1 ที่ผ่านมาบริษัทฯ เปิดตัวโครงการใหม่ไปแล้วทั้งสิ้น 4 โครงการ มูลค่าประมาณ 5,100 ล้านบาท ไตรมาส 2 เตรียมเปิดตัว 22 โครงการใหม่ มูลค่ารวมประมาณ 27,710 ล้านบาท เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : <a href="https://www.forbesthailand.com/news/marketing/komehyo-opened-the-5th-branch-in-thailand" alt="ตลาดแบรนด์เนมมือสองเมืองไทยโตดี “KOMEHYO” ร้านญี่ปุ่นร่วมทุนเครือสหพัฒน์ เปิดสาขาที่ 5 ในไทยแล้ว">ตลาดแบรนด์เนมมือสองเมืองไทยโตดี “KOMEHYO” ร้านญี่ปุ่นร่วมทุนเครือสหพัฒน์ เปิดสาขาที่ 5 ในไทยแล้ว</a>​​<a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

AP Thai อวดผลประกอบการ Q1/67 ยอดขาย 1.7 หมื่นล้าน เตรียมเปิดตัว 22 โครงการใหม่ใน Q2

เอพี ไทยแลนด์ พร้อมรุกตลาดบ้านเดี่ยวระดับ 100 ล้าน ตั้งเป้าปี 67 ยอดขาย 5.7 หมื่นล้านบาท

<h2>เอพี ไทยแลนด์ เผยผลการดำเนินงาน 9 เดือนแรก ปี 2566 โตต่อเนื่อง มีรายได้รวม 37,141 ล้านบาท พร้อมทิ้งท้ายช่วงปลายปีด้วยการเปิดตัวอสังหาริมทรัพย์ทั้งแนวราบและคอนโดใหม่อีก 23 โครงการมูลค่ารวมประมาณ 35,740 ล้านบาท </h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;วิทการ จันทวิมล รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานกลยุทธ์องค์กรและ การสร้างสรรค์ บริษัท เอพี ไทยแลนด์ จำกัด (มหาชน) ผู้นำธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ไทย กล่าวว่า ผลการดำเนินงาน 9 เดือนแรกของปี 2566 บริษัทฯ มีอัตราการเติบโตเป็นที่น่าพอใจ โดยมีรายได้รวมจากสินค้ากลุ่มแนวราบ กลุ่มคอนโดมิเนียม (100% JV) และธุรกิจอื่นๆ ได้สูงถึง 37,141 ล้านบาท กำไรสุทธิเท่ากับ 4,719 ล้านบาท&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ทั้งนี้ ณ ไตรมาส 3 ที่ผ่านมาบริษัทฯ สามารถสร้างรายได้รวมจากสินค้ากลุ่มแนวราบ กลุ่มคอนโดมิเนียม (100% JV) และธุรกิจอื่นๆ ได้สูงถึง 13,285 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วที่มีรายได้รวมเท่ากับ 12,290 ล้านบาท ด้านกำไรสุทธิ 1,697 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วที่มีกำไรสุทธิรวมเท่ากับ 1,418 ล้านบาท สูงถึง 19.6%​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/11/cwCpjUq1yVNn8j2e8bBR.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="cwCpjUq1yVNn8j2e8bBR.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="0"></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;โดยที่ผ่านมา นอกจากสินค้ากลุ่มแนวราบอย่างทาวน์โฮมและบ้านเดี่ยว ที่ถือเป็นคีย์ไดรฟ์สำคัญ ในการเติบโตทางรายได้และกำไรอย่างแข็งแกร่งแล้ว สินค้ากลุ่มคอนโดมิเนียม ก็ถือเป็นอีกหนึ่งกำลังสำคัญในการสร้างการเติบโตให้เกิดขึ้น โดยไตรมาส 3 ที่ผ่านมา กลุ่มธุรกิจคอนโดมิเนียมเริ่มทยอยรับรู้รายได้จาก 2 โครงการใหม่ที่พร้อมโอนกรรมสิทธิ์ ได้แก่ ASPIRE ปิ่นเกล้า-อรุณอมรินทร์ และ THE ADDRESS สยาม-ราชเทวี ตลอดจน 7 คอนโดมิเนียมพร้อมอยู่ที่ทยอยรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่อง <div class="se-component se-image-container __se__float-center" contenteditable="false" style="width: 50%; min-width: 100%;"><figure style="margin: auto; width: 50%;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/11/wNbjiLwtYMbWZuMTkPfH.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="wNbjiLwtYMbWZuMTkPfH.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="50%," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="50," style="width: 100%;" data-index="1"></figure></div>​&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;สำหรับไตรมาสสุดท้ายของปี บริษัทฯ เตรียมเปิดตัว 23 โครงการใหม่ มูลค่ารวมประมาณ 35,740 ล้านบาท โดยเป็นทาวน์โฮม 11 โครงการ มูลค่า 11,050 ล้านบาท บ้านเดี่ยว 9 โครงการ มูลค่า 16,450 ล้านบาท คอนโดมิเนียม 2 โครงการ มูลค่า 7,300 ล้านบาท และโครงการต่างจังหวัด 1 โครงการ มูลค่า 940 ล้านบาท ส่งผลให้โค้งสุดท้ายของปีนี้บริษัทฯ จะมีโครงการพร้อมขายทั้งใน กรุงเทพฯ และต่างจังหวัดมากกว่า 169 โครงการ มูลค่ากว่า 130,630 ล้านบาท​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto; width: 720px;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/11/En7rD2djYabCJ3prc6Hh.jpg" alt="" data-proportion="true" data-size="720px,375px" data-align="center" data-file-name="En7rD2djYabCJ3prc6Hh.jpg" data-file-size="0" origin-size="720,375" data-origin="720px,375px" style="width: 720px; height: 375px;" data-index="2"></figure></div> ​ เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ :&nbsp;<a href="https://www.forbesthailand.com/news/property/rml-luxury-condo-tait-sathorn-12-sale-exceed-target-2-6-billions-bath" alt="ไรมอน แลนด์ ปลื้ม &quot;เทตต์ สาทร ทเวลฟ์&quot; ยอดขายทะลุ 97% คาดยอดโอนสิ้นปีทะลุเป้า 2.6 พันล้าน">ไรมอน แลนด์ ปลื้ม "เทตต์ สาทร ทเวลฟ์" ยอดขายทะลุ 97% คาดยอดโอนสิ้นปีทะลุเป้า 2.6 พันล้าน</a> <a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

เอพี ไทยแลนด์ อวดรายได้ 9 เดือนแรก 3.7 หมื่นล้าน เตรียมทิ้งทวนส่งท้ายปี 23 โครงการใหม่

บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และนวัตกรรมการอยู่อาศัยของคนเมือง ประกาศ “บ้านเดี่ยวเครือเอพี” ขยับขึ้นแท่นผู้นำอันดับหนึ่งในตลาดบ้านเดี่ยว ที่ครองส่วนแบ่งการตลาดด้วยยอดขายรวมมากที่สุดในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา พร้อมเผยแผนบุกตลาดสู่การเติบโตต่อเนื่องในปี 2563 ด้วยการเปิดตัวบ้านเดี่ยว 17 โครงการใหม่ มูลค่า 20,050 ล้านบาท ภายใต้    พันธกิจใหญ่ขององค์กร ‘AP EMPOWER LIVING’ ที่พร้อมสนับสนุนให้ทุกคนในสังคมสามารถเติมเต็มการชีวิตได้ตามที่ปรารถนา ผ่านการผนึกบ้านนวัตกรรมที่เข้าใจทุกชีวิต (Hybrid Living 2020) เข้ากับการพัฒนาโครงการที่ตอบโจทย์คนเฉพาะกลุ่ม มุ่งสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน

<figure><img class="wp-image-27646 size-full" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/03/รูปแทรกกก-1.jpg" alt="" width="720" height="480" /><figcaption> รัชต์ชยุตม์ นันทโชติโสภณ รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานพัฒนาธุรกิจ กลุ่มสินค้าบ้านเดี่ยว บมจ. เอพี (ไทยแลนด์)</figcaption></figure>

นายรัชต์ชยุตม์ นันทโชติโสภณ รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานพัฒนาธุรกิจกลุ่มสินค้าบ้านเดี่ยว บมจ. เอพี (ไทยแลนด์) เปิดเผยว่า “สินค้าบ้านเดี่ยวเครือเอพีได้รับการตอบรับและความไว้วางใจที่ดีอย่างต่อเนื่องจากดีมานด์ครอบครัวเมือง โดยล่าสุดกับความสำเร็จในปี 2562 ที่สามารถสร้างท็อปฟอร์มรับรู้รายได้สินค้าบ้านเดี่ยวสูงสุดเป็นประวัติการณ์ขยับขึ้นสู่หลัก 10,000 ล้านบาท ก้าวสู่การเป็นเบอร์หนึ่งผู้นำตลาดบ้านเดี่ยวในเมืองที่ครองส่วนแบ่งการตลาด (Market Share) ด้วยยอดขายรวมสูงสุดในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา โดยบริษัทประสบความสำเร็จได้รับการตอบรับที่ดีในทุกตลาดที่เราโฟกัส ได้แก่ แบรนด์ “THE PALAZZO” คฤหาสน์หรูโมเดลใหม่ในเซ็กเมนต์ซูเปอร์ลักชัวรี่ที่มาพร้อมสุนทรียะในการอยู่อาศัยระดับราคาขาย 35-60 ล้านบาท แบรนด์ “THE CITY” บ้านเดี่ยวดีไซน์ใหม่ในเซ็กเมนต์ไฮเอนด์ระดับราคาขาย 11-30 ล้านบาท และโดยเฉพาะ แบรนด์ “CENTRO” บ้านเดี่ยวสองชั้นดีไซน์โมเดิร์นสำหรับการเริ่มต้นครอบครัวเซ็กเมนต์กลางบน ระดับราคาขาย 5-10 ล้านบาท ที่สามารถตอบโจทย์การอยู่อาศัยได้อย่างตรงจุดจนสามารถได้รับความเชื่อมั่นจากลูกค้า จนเป็นแบรนด์ที่สามารถสร้างการเติบโตด้านยอดขายได้โดดเด่นที่สุดในกลุ่มสินค้าราคาเดียวกันในปีที่ผ่านมา”

และเพื่อเป็นการสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ในปี 2563 กลุ่มธุรกิจบ้านเดี่ยวเอพีพร้อมเดินหน้าสู่พันธกิจใหญ่ ‘เอพี เอ็มพาวเวอร์ ลิฟวิ่ง (AP EMPOWER LIVING)’ สนับสนุนให้ทุกคนในสังคมสามารถเติมเต็มการใช้ชีวิตได้ตามที่ปรารถนา พร้อมเดินหน้ารุกตลาดด้วยแผนเปิดสินค้าบ้านเดี่ยวโครงการใหม่ทั้งสิ้น 17 โครงการ มูลค่ารวม 20,050 ล้านบาท โดยแบ่งเปิดในครึ่งปีแรกจำนวน 10 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 12,105 ล้านบาท ซึ่งเป็นมูลค่าการเปิดตัวที่เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าถึง 90% ผ่านการพัฒนาและส่งมอบโครงการบ้านเดี่ยว ภายใต้การพัฒนาและออกแบบเพื่อให้สอดรับกับความต้องการและพฤติกรรมของดีมานด์ในแต่ละพื้นที่ ด้วย 2 กลยุทธ์หลัก ได้แก่
<ol>
 	<li>Hybrid Living 2020 - บ้านนวัตกรรมที่เข้าใจทุกชีวิต ชูจุดเด่นโดยตั้งต้นจากอินไซต์การใช้ชีวิตจริงของลูกค้าบ้านเดี่ยวที่มีทั้งไลฟ์สไตล์และช่วงวัยที่เฉพาะตัวในแต่ละทำเล และนำนวัตกรรมเหล่านั้นมาเชื่อมต่อในทั้งพื้นที่ส่วนกลางเพื่ออำนวยประโยชน์และความสะดวกสูงสุดแก่ผู้อยู่อาศัย และการผสมผสานนวัตกรรมเพื่อชีวิตเข้าสู่สเปซต่างๆ ภายในตัวบ้านเพื่อให้มั่นใจว่าทุกๆ สเปซในบ้านเดี่ยวเครือเอพีพร้อม เอ็มพาวเวอร์สู่การเติมเต็มทุกๆ เป้าหมายชีวิตได้ตามที่ปรารถนาอย่างแท้จริง โดยมุ่งเน้นใน 4 มิติหลัก ได้แก่ Security – ระบบรักษาความปลอดภัยอัจฉริยะภายในบ้าน เช่น ระบบเซ็นเซอร์ประตู หน้าต่าง เซ็นเซอร์ตรวจจับความเคลื่อนไหว ระบบ Digital Door Lock และปุ่มเรียกฉุกเฉินในยามคับขัน 2. Comfort – ระบบสั่งการอัจฉริยะภายในบ้านผ่านการเชื่อมต่อสมาร์ทเทคโนโลยีที่สามารถควบคุมโดยแอพพลิเคชั่น เช่น ระบบควบคุมไฟแสงสว่าง ระบบพัดลม Air Flow ระบบควบคุมเครื่องกรองอากาศอัจฉริยะ ระบบตั้งเวลา Sprinkle รดน้ำต้นไม้อัจฉริยะ 3. Cost Saving – เทคโนโลยีตอบรับเทรนด์รักษ์โลก กับคลับเฮาส์พลังงานแสงอาทิตย์ และเทคโนโลยีการบำบัดน้ำเสียเพื่อใช้ในการรดน้ำต้นไม้ในโครงการ ช่วยลดภาระเรื่องค่าใช้จ่ายส่วนกลางให้ลูกบ้าน 4. Community – นวัตกรรมดีไซน์แห่งคุณภาพชีวิต ที่ทำให้โครงการที่อยู่อาศัยของเอพี เป็นชุมชนแห่งความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง ด้วยการสื่อสารผ่าน Katsan Platform ที่ทำหน้าที่แจ้งเตือนมายังมือถือ เมื่อมีแขกมาเยือน และคัดกรองรถต้องสงสัยพร้อมติดตามความเคลื่อนไหว</li>
 	<li>Dynamic Personalized Model การออกแบบและพัฒนาโครงการที่จะปรับเปลี่ยนรูปแบบและคอนเซ็ปต์ดีไซน์ตามลิฟวิ่งแพทเทิร์น (Living Pattern) ที่แตกต่างกันของกลุ่มเป้าหมายในแต่ละทำเล ที่ไม่ได้มองแค่ demographics หรือ segment ของลูกค้าเป็นที่ตั้ง แต่เป็นการศึกษาอย่างลึกซึ้งผ่านกระบวนการคิดเชิงออกแบบ เพื่อค้นหาความต้องการแฝงที่ช่วยให้เราสามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์และประสบการณ์การอยู่อาศัยที่เฉพาะเจาะจงสำหรับลูกค้าในแต่ละย่าน ซึ่งเป็นผลลัพธ์ที่มีความคุ้มค่าทั้งเชิงสเปซฟังก์ชั่นภายในบ้านและพื้นที่ส่วนกลาง พร้อมการบริหารแพ็คเกจราคาขายที่โดนใจตลาดตรงกับที่ลูกค้ามองหา</li>
</ol>
“ถึงแม้สถานการณ์โดยรวมตั้งแต่ต้นปีจะมีความท้าทายที่อยู่นอกเหนือการควบคุม แต่บริษัทมีความมั่นใจว่าดีมานด์ที่มองหาบ้านเดี่ยวพร้อมอยู่ และโครงการใหม่ๆ ยังมีอยู่ต่อเนื่อง การันตีจากจำนวนลูกค้าเข้าเยี่ยมชมโครงการบ้านเดี่ยวเครือเอพีเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 280 ครั้ง / สัปดาห์ โดยเฉพาะการตอบรับอย่างดีในช่วงของการเปิดพรีเซลบ้านเดี่ยว 4 โครงการใหม่ล่าสุด ที่สามารถสร้างยอดขายได้กว่า 460 ล้านบาทในเวลาเพียง 2 วัน ในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ได้แก่

<figure><img class="wp-image-27651 size-full" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/03/5.CENTRO-Bangna-Kingkaew.jpg" alt="" width="720" height="480" /><figcaption> โครงการ CENTRO บางนา-กิ่งแก้ว</figcaption></figure>

(1) CENTRO บางนา-กิ่งแก้ว มูลค่า 1,930 ล้านบาท แบบบ้านซีรีส์ใหม่ที่มาพร้อมฟังก์ชั่น ที่ลงตัวและการออกแบบภายใต้นวัตกรรมที่เข้าใจชีวิต ตั้งอยู่บนขนาดที่ดิน 61 ไร่ จำนวน 294 หลัง เพียง 10 นาที จากสุวรรณภูมิและเมกาบางนา เริ่มต้น 7.5 - 12 ล้านบาท

<figure><img class="wp-image-27655 size-full" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/03/6.CENTRO-Chaiyapruek-345.jpg" alt="" width="720" height="480" /><figcaption> โครงการ CENTRO ชัยพฤกษ์ 345</figcaption></figure>

(2) CENTRO ชัยพฤกษ์ 345 มูลค่า 870 ล้านบาท บนทำเลที่ดีที่สุดในการเชื่อมต่อกรุงเทพฯ นนทบุรี ปทุมธานี ตั้งอยู่บนที่ดินขนาด 33 ไร่ จำนวน 161 หลัง 10 นาที ถึงทางด่วนศรีรัช และอุดรรัถยา เริ่มต้น 5.59 - 8 ล้านบาท

<figure><img class="wp-image-27656 size-full" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/03/3The-City-Maha-Chesadabodindranusorn-Bridge.jpg" alt="" width="720" height="480" /><figcaption> โครงการ The City สะพานมหาเจษฎาบดินทร์</figcaption></figure>

(3) The City สะพานมหาเจษฎาบดินทร์ มูลค่า 1,165 ล้านบาท บ้านเดี่ยวซีรีย์ล่าสุด ในทำเลติดสะพานมหาเจษฏาบดินทร์ฯ 20 นาทีถึงจตุจักร และใกล้รถไฟฟ้าสถานีไทรม้าเพียง 5 นาที ตั้งอยู่บนที่ดินขนาด 27 ไร่ จำนวน 76 หลัง เริ่มต้น 15.9 - 25.9 ล้านบาท และ

<figure><img class="wp-image-27657 size-full" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/03/4.The-City-Suksawat-64.jpg" alt="" width="720" height="480" /><figcaption> โครงการ The City สุขสวัสดิ์ 64</figcaption></figure>

(4) THE CITY สุขสวัสดิ์ 64 บ้านเดี่ยวหรูดีไซน์ใหม่ เชื่อมต่อทุกการใช้ชีวิต เพียง 20 นาทีจากสาทร มูลค่า 1,240 ล้านบาท ตั้งอยู่บนที่ดินขนาด 30 ไร่ จำนวน 116 หลัง เริ่มต้น 9 – 20 ล้านบาท”

“ส่งผลให้เอพีสามารถกวาดยอดขายรวมแนวราบ (ณ วันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2563) ได้แล้วกว่า 3,780 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นผลงานที่สะท้อนดีมานด์ตลาดและความมั่นใจลูกค้าครอบครัวที่มองหาที่อยู่อาศัยโครงการใหม่ และความมั่นใจต่อสินค้าเครือเอพีได้เป็นอย่างดี เราเชื่อว่าทั้ง 2 กลยุทธ์ที่เราจะนำมาใช้ในปีนี้ จะสะท้อน ไปยังสินค้าและบริการที่พร้อมเอ็มพาวเวอร์ทุกมิติของชีวิต และทำให้เอพีสามารถรักษาการเติบโตและความเป็นเบอร์ 1 ผู้นำตลาดบ้านเดี่ยวได้อย่างยั่งยืน” นายรัชต์ชยุตม์ กล่าวสรุป

เอพี ไทยแลนด์ ภายใต้พันธกิจ ‘EMPOWER LIVING'  ที่เติมเต็มทุกเป้าหมายของชีวิตด้วยนวัตกรรมสินค้าและบริการที่มีคุณค่าและมีความหมาย

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events