BC พัฒนาระบบบิ๊กดาต้าประมวลข้อมูลราคาซื้อ-ขาย-ปล่อยเช่าเจาะลึกรายโครงการ พ่วงเครื่องมือบริหารพอร์ตคอนโดฯ สำหรับนักลงทุน พร้อมสู้ศึก-ตีตลาดรีเซล ปี 2563 หลังดีเวลอปเปอร์ต่างชะลอเปิดอาคารชุด
ขยล ตันติชาติวัฒน์ ผู้อำนวยการ บริษัท บางกอกซิตี้สมาร์ท จำกัด หรือ BC เอเย่นต์ซื้อ-ขาย-เช่าอสังหาริมทรัพย์ในเครือ บมจ.เอพี (ไทยแลนด์) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการพัฒนาภายในบริษัทว่า ปีนี้ BC ได้ลงทุนพัฒนาแพลตฟอร์มเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อส่งเสริมการบริการให้ดียิ่งขึ้น
สำหรับการบริการที่ BC มีในปัจจุบันแบ่งเป็น 3 ส่วน คือ
1.การซื้อขายยูนิตรีเซล (นับรวมทั้งการขายดาวน์และการขายกรรมสิทธิ์หลังการโอน) ซึ่งขณะนี้มีพอร์ตบริหารรวม 20,000 ยูนิต มูลค่ารวม 1.4 แสนล้านบาท ในจำนวนนี้แบ่งเป็นสินค้าของเอพี 25% และของดีเวลอปเปอร์อื่น 75% และส่วนใหญ่ 69% เป็นคอนโดฯ ในกลุ่มราคา 1.5 แสนบาท/ตร.ม. ขึ้นไป
2.Sole Agent บริหารงานขาย 80% เป็นโครงการของเอพี และ 20% เป็นยูนิตของบริษัทอื่น ในปีนี้ BC ได้รับสิทธิบริหารงานขายเพิ่ม 11 โครงการ จากที่มีอยู่แล้วในพอร์ต 20 โครงการ มูลค่ารวมโดยประมาณ 9.3 หมื่นล้านบาท
3.บริหารการเช่า มีพอร์ตบริหารอยู่ 10,000 ยูนิต มูลค่ารวม 3.96 พันล้านบาท
ทั้งนี้ ขยลกล่าวว่า จากพอร์ตอสังหาฯ ทั้ง 3 ส่วน บริษัทสามารถสร้างมูลค่าการขายและปล่อยเช่าได้ 1.2 หมื่นล้านบาทเมื่อปี 2561 และตั้งเป้าที่ 1.5 หมื่นล้านบาทในปีนี้
ในช่วง 3 ไตรมาสแรก บริษัทมียอดขายแล้ว 9 พันล้านบาท คาดว่าในโค้งสุดท้ายไตรมาส 4 จะสามารถทำยอดขายได้ตามเป้า เนื่องจากโครงการไลฟ์ วัน ไวร์เลส มูลค่าโครงการ 7.9 พันล้านบาทที่ BC เป็นเอเย่นต์ขายกำลังจะโอนกรรมสิทธิ์ ทำให้มีโอกาสสร้างมูลค่าเพิ่มจากการรีเซลห้องชุดของลูกค้าโครงการ
เพิ่มเทคโนโลยี ตีตลาดรีเซล
ขยลยังกล่าวถึงเป้าหมายมูลค่ายอดขายปี 2563 บริษัทตั้งเป้าเติบโต 20% คิดเป็นมูลค่า 1.8 หมื่นล้านบาท
สถานการณ์ตลาดปีหน้ามองว่าต้องเน้นงานรีเซลมากขึ้นเช่นเดียวกับปีนี้ โดยปี 2562 สัดส่วนยอดขายมีการปรับเปลี่ยนกว่าปีที่ผ่านๆ มา แบ่งเป็นการขายพอร์ตรีเซล 50% และงานเอเย่นต์โครงการใหม่ 50% จากปกติแล้วงานเอเย่นต์โครงการใหม่จะสูงกว่า 70%
สภาวะนี้เกิดจากดีเวลอปเปอร์ต่างระมัดระวังการเปิดโครงการคอนโดฯ ใหม่ ทำให้ BC มีงานเอเย่นต์ลดลง แต่บริษัทโดยรวมยังเติบโตได้จากการเติมพอร์ตรีเซล นำไปสู่การพัฒนาเครื่องมือและเทคโนโลยีเพื่อให้ลูกค้ากลุ่มรีเซลเลือกใช้บริการของ BC มากยิ่งขึ้น
ขยลกล่าวถึงแพลตฟอร์มใหม่ๆ ที่น่าสนใจ เช่น BC Intelligent Platform เป็นการนำดาต้าตลอด 14 ปีที่บริษัทมีการซื้อ-ขาย-เช่า รวมถึงบทวิเคราะห์ของนักวิจัยในบริษัทมารวบรวมในระบบบิ๊กดาต้า ทำให้ลูกค้าสามารถคลิกสำรวจราคาซื้อขายและเทรนด์การเติบโตของโครงการในบริเวณนั้น รวมถึงคาดการณ์การเติบโตของราคาได้
อีกแพลตฟอร์มหนึ่งคือ BC Membership Dashboard สำหรับให้นักลงทุนรวบรวมอสังหาฯ ในพอร์ตไว้ในจุดเดียว เป็นการจัดระเบียบพอร์ต เห็นราคาซื้อ ขาย ปล่อยเช่าของแต่ละยูนิต และอนาคตจะพัฒนาให้แพลตฟอร์มนี้เชื่อมต่อกับการชำระค่าส่วนกลาง ค่าน้ำ ค่าไฟฟ้าได้
“แพลตฟอร์มนี้จะมีประโยชน์มากกับนักลงทุนที่อยู่ต่างประเทศในการมอนิเตอร์และบริหารจัดการพอร์ตของตัวเอง ซึ่งปัจจุบัน BC มีผู้ซื้อต่างชาติอยู่ 25% ส่วนใหญ่เป็นคนจีน ฮ่องกง” ขยลกล่าว
โดยทั้งสองแพลตฟอร์มดังกล่าวบริษัทเปิดให้ใช้ทั่วไป เพียงสมัครสมาชิก (ไม่มีค่าใช้จ่าย) ตั้งเป้าจำนวนสมาชิกปีนี้ 10,000 คน
รีเซลห้องอาจต้องหวังการขายหลังโอน
ด้านตลาดรีเซลโดยรวมช่วงปีนี้และต่อเนื่องถึงปีหน้า ขยลกล่าวว่า ผลกระทบจากมาตรการคุมเข้ม LTV ของภาครัฐที่เริ่มใช้ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2562 มีผลต่อตลาดรีเซลโดยตรง
“ไม่ถึงกับทำให้นักลงทุนไม่ซื้อโดยสิ้นเชิง แต่ชะลอการตัดสินใจเพราะเมื่อถือหลายห้องเขาจะกู้ไม่ได้มากเท่าเดิม สุดท้ายแล้วต้องดูโครงการ ถ้าดีพอก็ยังขายดีอยู่” ขยลกล่าว
ดังนั้น การขายดาวน์ห้องชุดก่อนโอนกรรมสิทธิ์จะลดรอบการขายลง เฉลี่ยแล้วจะเปลี่ยนมือได้ 1 ครั้งก่อนโอน
“ถ้าห้องที่ทิศและมุมไม่โดดเด่นมากก็อาจจะขายก่อนโอนไม่ได้เลย แต่ถ้าเป็นห้องที่มุมดีอาจจะได้ถึง 2-3 รอบ ดังนั้นเฉลี่ยแล้วผมคิดว่า 1 รอบ”
ขยลยังให้คำแนะนำกับนักลงทุนที่ต้องการซื้อห้องตั้งแต่รอบพรีเซลในพ.ศ.นี้ด้วยว่า ควรศึกษาข้อมูลให้แน่ชัด โดยเปรียบเทียบโครงการที่สนใจกับโครงการอื่นในทำเลเดียวกันและเซ็กเมนต์เดียวกัน หากโครงการเทียบเคียงมีอัตราการขาย (take up rate) ที่ 80-90% ถือว่าน่าสนใจในการซื้อ
เขายังแนะนำทำเลที่ยังขายดีของ BC ได้แก่ ทำเลอโศก-พระราม 9 พญาไท-ราชเทวี และรัชดา-ลาดพร้าว และที่คาดว่าจะเริ่มมาแรงคือพื้นที่พระราม 4 และบางหว้า เนื่องจากมีการเปิดรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย ทำให้แนวรถไฟฟ้า MRT กลับมาคึกคัก อย่างไรก็ตาม สำหรับพื้นที่บางหว้าต้องระมัดระวังมากเนื่องจากซัพพลายสูง ควรศึกษาละเอียดในแต่ละโครงการ
ไม่พลาดเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ของเรา ติดตามเราได้ที่ เพจเฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine