<h2>หลายคนอาจเคยเห็นข่าว ‘สารัชถ์ รัตนาวะดี’ มหาเศรษฐีแนวหน้าของไทยที่ทั้งมูลค่าทรัพย์สิน และธุรกิจต่างขยายตัวแบบก้าวกระโดด โดยเฉพาะธุรกิจหลักอย่าง GULF หรือ บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ที่เป็น Holding Company ซึ่งมุ่งเน้นในธุรกิจด้านพลังงานจนขึ้นชื่อว่าเป็นผู้ผลิตไฟฟ้ารายใหญ่ของไทย</h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ล่าสุด ยังมีกระแสข่าวที่หลายคนสนใจว่า GULF ได้มีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นอันดับที่ 14 ของธนาคารกสิกรไทย โดยถือหุ้นจำนวนกว่า 20,542,400 หุ้น คิดเป็น 0.87% (ข้อมูล ณ 14 มี.ค. 67) ทำให้หลายคนอาจสงสัยว่า GULF จะขยายธุรกิจในด้านใหม่ๆ อย่างไร&nbsp;&nbsp; &nbsp; หากดูโครงสร้างของ GULF จะแบ่งธุรกิจหลักออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่ ธุรกิจพลังงาน เช่น การผลิตไฟฟ้า, แก๊ส, พลังงานหมุนเวียนต่างๆ (พลังลม, พลังน้ำ พลังงานแสงอาทิตย์) และโรงไฟฟ้าชีวมวล ต่อมาคือ ธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานและสาธารณูปโภค เช่น การพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง โครงการบริการเดินรถและซ่อมบำรุงมอเตอร์เวย์ระหว่างเมือง บางใหญ่ - กาญจนบุรี (M81) ฯลฯ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;และส่วนสุดท้าย ธุรกิจดิจิทัล ซึ่งรวมถึงโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล เช่น อินเตอร์เน็ต ฯลฯ รวมถึง พัฒนาธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจอวกาศใหม่ๆ ซึ่ง GULF ได้เข้าเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ใน &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;- ถือหุ้นในบริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ INTUCH มีการถือหุ้น 1,340 ล้านหุ้น คิดเป็น สัดส่วนถึง 41.80% โดย INTUCH เป็นบริษัทแม่ที่ถือหุ้นใหญ่ใน ADVANCE หรือ AIS &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;- ถือหุ้นในบริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) หรือ THCOM มีการถือหุ้น 450 ล้านหุ้น คิดเป็น สัดส่วนถึง 41.14% (ถือหุ้นผ่าน บริษัท กัลฟ์ เวนเชอร์ส จำกัด)&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ที่สำคัญช่วงต้นปีที่ผ่านมา GULF ยังเปิดตัวแพลตฟอร์มศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset Exchange) และนายหน้าซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างเป็นทางการ ในชื่อ Binance TH by Gulf Binance โดยชูจุดขายที่มีความร่วมมือกับ Digital Asset Exchange ชั้นนำของโลกอย่าง Binance ที่มีทั้งความเชี่ยวชาญในโลกคริปโต และอื่นๆ จะช่วยดึงดูดนักลงทุนให้มาใช้บริการได้มากขึ้น โดยตั้งเป้าหมายจะขึ้นแท่นอันดับ 1 ของไทยในอนาคต &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;*Gulf Binance เป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง Binance Capital Management Co.,Ltd. (ในเครือของ Binance ของ CZ) และ Gulf Innova Co., Ltd. (ในเครือ GULF)&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;อย่างไรก็ตาม ในปี 2567 นี้ GULF ยังมีข่าวที่จะขยายธุรกิจด้านการเงิน โดยเตรียมตัวยื่นขอใบอนุญาต Virtual Bank (ธนาคารพาณิชย์ไร้สาขา) กับทางธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ซึ่งจะผ่านความร่วมมือกับพันธมิตรอย่าง AIS และธนาคารกรุงไทย โดยตามเงื่อนไขแล้วจะต้องมีเงินทุนจดทะเบียนที่ 5,000 บาท (คาดว่าจะถือหุ้นรายละ 30%)&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ทั้งนี้ เบื้องต้นความร่วมมือด้าน Virtual Bank ระหว่าง 3 บริษัท ยังไม่ได้คุยรายละเอียดกันอย่างชัดเจน แต่เชื่อว่าการเข้าถึงฐานลูกค้าของกรุงไทยและ AIS ได้จะข่วยสร้างโอกาสทางธุรกิจให้มากขึ้น&nbsp; &nbsp; เมื่อธุรกิจยักษ์ใหญ่ต่างมองหาโอกาสใหม่ๆ ในการขยายธุรกิจที่ต่างจากเดิม ไม่ว่าจะสินทรัพย์ดิจิทัล หรือภาคการเงิน หลังจากนี้คงต้องติดตามกันว่า GULF จะเดินหน้าธุรกิจไปในทิศทางใด และจะปรับใช้จุดร่วม-จุดแข็งในแต่ละธุรกิจมาใช้ประโยชน์ได้อย่างไร เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : <a href="https://www.forbesthailand.com/news/finance-and-investment/sarath-ratanavadi-binance-virtual-bank" alt="“ผมไม่ได้ซื้อคริปโต” คำต่อคำ ‘สารัชถ์ รัตนาวะดี’ ตั้งแต่สินทรัพย์ดิจิทัลจนถึง Virtual Bank">“ผมไม่ได้ซื้อคริปโต” คำต่อคำ ‘สารัชถ์ รัตนาวะดี’ ตั้งแต่สินทรัพย์ดิจิทัลจนถึง Virtual Bank</a>​ <a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

Gulf หุ้นพลังงานใหญ่ของไทย นอกจากเป็นผู้ถือหุ้นอันดับ 14 ของ KBank ยังมีธุรกิจอะไรอีก

<h2>เปิดงบธนาคารกรุงไทย ไตรมาส 1 ปี 2567 พบกำไรสุทธิที่ 11,079 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ทั้งรายได้ - สินเชื่อเติบโตอย่างสมดุล และบริหารจัดการคุณภาพสินทรัพย์อย่างระมัดระวังและยืดหยุ่น ชูนโยบายแก้ปัญหาหนี้ให้ข้าราชการ ประชาชน</h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย&nbsp;หรือ KTB เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยปี 2567 ขับเคลื่อนโดยการทยอยฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว และมาตรการสนับสนุนเศรษฐกิจของภาครัฐ แต่ยังมีความเสี่ยงที่เศรษฐกิจจะเติบโตในอัตราที่ชะลอลง จากปัญหาเชิงโครงสร้าง หนี้ครัวเรือนสูง ธุรกิจ SME บางส่วนเปราะบาง อีกทั้งมีความเสี่ยงจากปัจจัยนอกประเทศ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;จากความเสี่ยงเหล่านี้ทำให้ธนาคารกรุงไทย มุ่งเน้นการเติบโตแบบยั่งยืน ผ่านพอร์ตสินเชื่อที่เติบโตอย่างระมัดระวัง พร้อมบริหารจัดการคุณภาพสินทรัพย์อย่างระมัดระวัง และยืดหยุ่นอย่างต่อเนื่อง โดยรักษา Coverage Ratio ในระดับสูง เพื่อรองรับความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ในไตรมาสที่ 1 ปี 2567 ธนาคารและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของธนาคาร 11,079 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน มาจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิที่เติบโต 15.4% รายได้ค่าธรรมเนียมสุทธิและบริการสุทธิ เติบโต&nbsp;8.5% และรายได้จากการดำเนินงานอื่นๆ เติบโต&nbsp;23.3%&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ในด้านค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานอื่นๆ อยู่ที่ 17,731 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมี Cost to Income ratio เท่ากับ 43.6% โดยค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่เป็นผลจากบริหารจัดการทรัพย์สินรอการขายอย่างระมัดระวัง โดยธนาคารตั้งค่าเผื่อด้อยค่าทรัพย์สินรอการขายตามศักยภาพของทรัพย์สินอย่างเหมาะสมในไตรมาสที่ 1/2567 และยังคงลงทุนด้านเทคโนโลยีและดิจิทัลเพื่อรองรับการเติบโตของอุตสาหกรรม&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ทั้งนี้ ธนาคารและบริษัทย่อยตั้งสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในไตรมาส 1/2567 ที่ 8,029 ล้านบาท ลดลงจากสิ้นปีก่อนที่ 38.6% (ลดลง 0.9%YoY) จากการที่ธนาคารได้ตั้งสำรองสำหรับลูกค้ารายใหญ่รายหนึ่งและกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกันที่มีแนวโน้มของคุณภาพสินเชื่อที่เสื่อมค่าลงในไตรมาสที่ 4/2566 แต่ยังคงรักษา Coverage ratio ที่ราว 181% ซึ่งเป็นระดับเดียวกันกับเมื่อสิ้นปี 2566 พร้อมทั้งบริหารจัดการคุณภาพสินทรัพย์อย่างยืดหยุ่นและระมัดระวังต่อเนื่อง โดยมี สินเชื่อด้อยคุณภาพเท่ากับ 98,815 ล้านบาท ลดลงจาก ณ วันที่ 31 ธ.ค. 2566 และอัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพต่อสินเชื่อรวม (NPLs Ratio) เท่ากับ 3.14%&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ณ 31 มี.ค. 2567 ธนาคารมีเงินกองทุนชั้นที่ 1 ที่ 17.33% ของสินทรัพย์ถ่วงน้ำหนักตามความเสี่ยง และมีเงินกองทุนทั้งสิ้น 20.50% ของสินทรัพย์ถ่วงน้ำหนักตามความเสี่ยง&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;อย่างไรก็ตาม ในด้านการแก้ปัญหาหนี้ ล่าสุด ได้ออกโครงการ “สินเชื่อรวมหนี้ข้าราชการยั่งยืน” เพิ่มเติมจากมาตรการช่วยเหลือข้าราชการที่ทำต่อเนื่อง เพื่อช่วยเหลือข้าราชการที่มีภาระหนี้สูง &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ในด้านดิจิทัลและนวัตกรรม แอปพลิเคชัน Krungthai NEXT ที่มีผู้ใช้งาน 17.8 ล้านราย แอปฯเป๋าตัง 40 ล้านราย และแอปฯ ถุงเงิน 2 ล้านราย เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : <a href="https://forbesthailand.com/finance-and-investment/news/bay-q-1-2024" alt="​แบงก์กรุงศรี เผยไตรมาส 1 ปี 67 กำไรสุทธิหดตัว 13.1% ผลจากตั้งสำรองเพิ่ม 12,271 ล้านบาท">​แบงก์กรุงศรี เผยไตรมาส 1 ปี 67 กำไรสุทธิหดตัว 13.1% ผลจากตั้งสำรองเพิ่ม 12,271 ล้านบาท</a>​​<a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

กรุงไทย ชูกำไรสุทธิไตรมาส 1/67 ที่ 11,079 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% แม้ตั้งสำรอง 8,029 ล้านบาท

<h2>หลังจากเมื่อวานนี้ ทางรัฐบาลได้ประกาศรายละเอียดเบื้องต้นของโครงการ Digital wallet ที่จะให้วงเงิน 10,000 บาทแก่ประชาชนไทยกว่า 50 ล้านคน และคาดว่าจะมีเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจกว่า 5 แสนล้านบาท ซึ่งจะเริ่มให้ใช้จ่ายได้ในไตรมาส 4/2567 โดย Krungthai COMPASS มองว่าโครงการนี้จะช่วยพยุงเศรษฐกิจไทยที่โตต่ำได้ หนุนธุรกิจค้าปลีกรายย่อยเข้าสู่ระบบ และจะช่วยลดขนาดเศรษฐกิจนอกระบบที่ปัจจุบันไทยมีสัดส่วนถึง 48.4% สูงเป็นอันดับที่ 14 ของโลก</h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;Krungthai COMPASS ประเมินว่า มาตรการกระเป๋าเงินดิจิทัลหรือ Digital Wallet เป็นเครื่องมือที่จะอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจเพื่อกระตุ้นอุปสงค์ภายในประเทศ มีเป้าหมายกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกลุ่มผู้มีรายได้ปานกลางถึงระดับล่าง ซึ่งจะสร้างการใช้จ่ายในร้านค้าปลีกท้องถิ่น คาดว่าจะเริ่มใช้จ่ายจริงในไตรมาส 4/2567 โดยมูลค่าในโครงการฯ อยู่ที่ 500,000 ล้านบาท (คิดเป็น 2.8% ของ GDP) คาดว่าจะสร้าง Fiscal Multiplier (ตัวคูณทวีทางการคลัง) อยู่ที่ประมาณ 0.4-0.7 เท่า และส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของ GDP ที่ทางการประเมินไว้ที่ 1.2-1.6%&nbsp; &nbsp; ทั้งนี้ Krungthai COMPASS ยังให้น้ำหนักว่านโยบายนี้เป็นมาตรการ Quick-win ที่จะกระุต้นอุปสงค์ภายในประเทศ และความเชื่อมั่นต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจในระยะข้างหน้า ในด้านผลกระทบมองว่าอาจต้องคำนึงผลของการโยกเงินงบประมาณ 2567 ผ่านการจัดสรรเม็ดเงินที่นำมาจากโครงการอื่น รวมถึง Crowding out effect จากต้นทุนทางการเงินที่อาจเพิ่มสูงขึ้นตามการเร่งระดมทรัพยากรการเงินของภาครัฐ โดยมองความท้าทายหลักคือการเร่งรัดโครงการนี้ฯ ว่าจะสามารถเกิดขึ้นจริงทั้งการโอนเงินให้กับประชาชนและร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการในช่วงไตรมาสที่ 4/2567&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นอกจากนี้ ยังประเมินว่า Digital Wallet จะช่วยหนุนให้กิจกรรมการค้าปลีกรายย่อยเข้าสู่ระบบ ซึ่งจะเป็นแหล่งรายได้ภาษีและที่มาของรายได้รัฐบาลในอนาคต และยังช่วยผลักดันให้เกิดการพัฒนาระบบฐานข้อมูลและการใช้จ่ายอิเล็กทรอนิกส์ ที่พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัลของไทย&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ขณะเดียวกันโครงการ Digital wallet อาจเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยผันเศรษฐกิจนอกระบบเข้าสู่ในระบบมากยิ่งขึ้น จากปัจจุบันเศรษฐกิจนอกระบบของไทยมีขนาดใหญ่ คิดเป็นสัดส่วนมากถึง 48.4% ของ GDP มากเป็นอันดับ 14 ของโลก ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของโลกที่อยู่ที่ 32.7% และสูงกว่าเกือบทุกประเทศในเอเชีย เช่น มาเลเซีย อินโดนีเซีย เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และเกาหลีใต้ ซึ่งมีสัดส่วนเศรษฐกิจนอกระบบต่อ GDP ที่เฉลี่ยเพียง 26.7%&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;จากฐานข้อมูลพบว่า ไทยมีข้อมูลประชาชนและธุรกิจ SME ที่อยู่ในระบบค่อนข้างน้อย ส่วนหนึ่งสะท้อนจากการมีผู้ที่อยู่ในฐานระบบภาษีน้อย&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;- ไทยมีผู้ยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเพียง 10-11 ล้านคน จากประชากรทั้งหมด 66 ล้านคน&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;- ไทยมีธุรกิจนอกระบบจำนวนมาก ปัจจุบันมีจํานวน SME อยู่ราว 3.2 ล้านราย แต่เป็นนิติบุคคลเพียง 8.4 แสนราย หรือคิดเป็น 26% ซึ่งนั่นหมายความว่ามี SME จำนวนมากถึงเกือบ 2.4 ล้านราย หรือ 74% ที่ไม่มีข้อมูลงบการเงินในระบบฐานข้อมูลของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า&nbsp; &nbsp; อย่างไรก็ตาม ประเทศที่มีเศรษฐกิจนอกระบบขนาดใหญ่ มักมีจะปัญหาทางเศรษฐกิจและสังคมหลายด้าน โดย จากการศึกษาของ World Bank พบว่าประเทศที่มีเศรษฐกิจนอกระบบขนาดใหญ่มักจะมีรายได้ต่อหัวในระดับต่ำกว่า มีปัญหาความยากจนและความเหลื่อมล้ำสูงกว่า มีการกำกับดูแลและธรรมาภิบาลที่แย่กว่า มี Productivity ทั้งมิติของภาคธุรกิจและแรงงานที่ต่ำกว่า มีการปรับตัวเพื่อรับมือต่อวิกฤตต่างๆ ต่ำกว่า และมีการพัฒนาอย่างยั่งยืนที่ช้ากว่าประเทศที่มีเศรษฐกิจนอกระบบขนาดเล็ก ดังนั้น ภาครัฐต้องให้ความสำคัญกับการผันเศรษฐกิจนอกระบบเข้ามาในระบบมากยิ่งขึ้น ซึ่งอาจต่อยอดไปสู่ Data driven economy และ Digital economy ได้มากขึ้น&nbsp; &nbsp; อย่างไรก็ตาม&nbsp;สาเหตุที่ภาครัฐออกมาตรการนี้เพราะมองว่า การเติบโตเศรษฐกิจไทยอยู่ในระดับต่ำกว่าศักยภาพมาอย่างต่อเนื่อง โดย GDP ล่าสุดในไตรมาสที่ 4/2566 เติบโต 1.7%YoY จากปีก่อน และเมื่อเทียบรายไตรมาสแล้วหดตัวลง -0.6%QoQSA จากช่วงไตรมาสก่อน ขณะที่ตัวเลขทั้งปี 2566 เศรษฐกิจไทยขยายตัวเพียง 1.9% ชะลอลงจาก 2.5% ในปี 2565 นอกจากนี้ยังมีปัจจัยท้าทายทั้งการส่งออกที่ฟื้นตัวอย่างอ่อนแอ งบประมาณปี 67 ที่ล่าช้า และการบริโภคภาคเอกชนยังมีทิศทางชะลอตัวลงตามรายได้ที่ยังฟื้นตัวได้ไม่ทั่วถึงและภาระหนี้ครัวเรือน​ <a href="https://www.freepik.com/free-photo/side-view-adult-paying-with-card_41253176.htm#fromView=search&amp;page=1&amp;position=31&amp;uuid=a324bbf3-2f79-4598-9935-7565ed2fca50">Image by freepik</a> เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : <a href="https://www.forbesthailand.com/news/finance-and-investment/update-digital-wallet-apr-2024" alt="อ่านเงื่อนไข “Digital Wallet” พร้อมแจก 10,000 บาทใน 50 ล้านคน คาดเริ่มใช้จ่ายไตรมาส 4/67">อ่านเงื่อนไข “Digital Wallet” พร้อมแจก 10,000 บาทใน 50 ล้านคน คาดเริ่มใช้จ่ายไตรมาส 4/67</a>&nbsp; ​<a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="​ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">​ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>​

กรุงไทยเชื่อ ‘Digital wallet’ ช่วยดึงรายย่อยเข้าระบบภาษี ช่วยลดเศรษฐกิจนอกระบบที่ไทยครองอันดับ 14 ของโลก

<h2>แม้การใช้จ่ายผ่านช่องทางดิจิทัลจะเติบโตอย่างก้าวกระโดดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่ช่วงสงกรานต์ถือเป็นอีกหนึ่งในเทศกาลที่การใช้ธนบัตรจะพุ่งสูงขึ้น ดังนั้น ทั้งธนาคารแห่งประเทศไทย และธนาคารพาณิชย์ต่างๆ จึงเร่งเตรียมสำรองธนบัตรไว้ให้ประชาชนสามารถเบิกใช้ได้อย่างทั่วถึง</h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นายสมบูรณ์ จิตเป็นธม ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายออกบัตรธนาคาร ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่มีความต้องการใช้ธนบัตรอยู่ในระดับที่สูงกว่าปกติ ธปท. จึงเตรียมสำรองธนบัตรชนิดราคาต่าง ๆ เพื่อรองรับความต้องการของประชาชนไว้แล้ว ทั้งนี้ยังประมาณการว่าในช่วงหนึ่งสัปดาห์ก่อนเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ ธนาคารพาณิชย์จะเบิกจ่ายธนบัตรจาก ธปท. คิดเป็นมูลค่าราว 30,000-35,000 ล้านบาท โดยพิจารณาจากจำนวนวันหยุดยาวที่เพิ่มขึ้น และมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวของภาครัฐ &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ขณะที่ธนาคารพาณิชย์ของไทยต่างประกาศตัวเลขการเตรียมสำรองเงินสดรองรับการใช้จ่ายช่วงเทศกาลสงกรานต์เช่นกัน&nbsp; &nbsp; 1. ธนาคารกรุงเทพ สำรองเงินสดรวม 40,000 ล้านบาท (ไม่ได้ระบุจำนวนในแต่ละช่องทาง)&nbsp; &nbsp; 2. ธนาคารกสิกรไทยเตรียมสำรองเงินสดรวม 30,750 ล้านบาท แบ่งเป็นการสำรองเงินสดผ่านช่องทางสาขาจำนวน 7,950 ล้านบาท (ในเขตกรุงเทพฯ 3,375 ล้านบาท และในเขตภูมิภาค 4,575 ล้านบาท) ขณะที่ช่องทางเอทีเอ็ม สำรองเงินสดรวม 22,800 ล้านบาท (ในเขตกรุงเทพฯ 8,300 ล้านบาท และในเขตภูมิภาค 14,500 ล้านบาท) ทั้งนี้ปัจจุบันธนาคารกสิกรไทยมี 813 สาขา และมีเครื่องเอทีเอ็มจำนวนกว่า 9,100 เครื่อง&nbsp; &nbsp; 3. ธนาคารไทยพาณิชย์&nbsp;เตรียมสำรองธนบัตร รวม 29,400 ล้านบาท แบ่งเป็นในเขตกรุงเทพมหานคร 8,890 ล้านบาท และในเขตต่างจังหวัด 20,510 ล้านบาท ทั้งนี้เป็นการสำรองเงินผ่านเครื่องเอทีเอ็ม 21,700 ล้านบาท และสาขา 7,700 ล้านบาท ปัจจุบันธนาคารมีสาขาทั้งสิ้น 722 สาขา และมีเครื่องเอทีเอ็มรวม 10,952 เครื่อง (ข้อมูล ณ มี.ค. 2567)&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;4. ธนาคารกรุงไทย เตรียมสำรองเงินสด จำนวน 25,990 ล้านบาท แบ่งเป็นการสำรองในเขตกรุงเทพฯ จำนวน 4,160 ล้านบาท และเขตภูมิภาคจำนวน 21,830 ล้านบาท ขณะที่แบ่งการสำรองในช่องทางสาขาจำนวน 2,800 ล้านบาท และสำรองสำหรับเครื่องเอทีเอ็มจำนวน 23,190 ล้านบาท&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;5. ธนาคารทหารไทยธนชาต หรือ ttb สำรองธนบัตรรวม 13,500 ล้านบาท ประกอบด้วย ช่องทางเครื่องเอทีเอ็ม จำนวน 9,000 ล้านบาท และช่องทางสาขา จำนวน 4,500 ล้านบาท โดยปัจจุบัน ttb มีสาขาจำนวน 532 สาขา และเครื่องเอทีเอ็ม จำนวน 3,015 เครื่อง (ข้อมูล ณ ธ.ค. 2566)&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;6. ธนาคารกรุงศรีอยุธยา เตรียมสำรองเงินสดรวม 9,628 ล้านบาท แบ่งเป็นช่องทางเครื่องกรุงศรี เอทีเอ็ม จำนวน 6,131 ล้านบาท (ในกรุงเทพฯ 2,161 ล้านบาท และในเขตภูมิภาค 3,970 ล้านบาท) และช่องทางสาขาของธนาคารจำนวน 3,497 ล้านบาท (ในกรุงเทพฯ 1,582 ล้านบาท และในเขตภูมิภาค 1,915 ล้านบาท) ทั้งนี้ ปัจจุบัน กรุงศรีฯ มีสาขาจำนวน 543 สาขา และเครื่องกรุงศรี เอทีเอ็ม จำนวน 5,565 เครื่อง (ข้อมูล ณ 31 มี.ค. 2567) เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ :&nbsp;<a href="https://forbesthailand.com/newsfinance-and-investment/kbank-qrcode-lao-th-apr-2024" alt="กสิกรไทยเปิดให้นักท่องเที่ยวลาวจ่ายเงินผ่าน QR ได้ทั่วไทย คาดยอดใช้บริการปีนี้โต 30%">กสิกรไทยเปิดให้นักท่องเที่ยวลาวจ่ายเงินผ่าน QR ได้ทั่วไทย คาดยอดใช้บริการปีนี้โต 30%</a>​ ​<a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>​

สงกรานต์ปี 67 เงินสดยังสะพัด! ธปท. สำรองธนบัตร 30,000-35,000 ล้านบาท ส่วน 6 แบงก์พาณิชย์เตรียมเงินสดหลักหมื่นล้าน

&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“รวินทร์ บุญญานุสาสน์” ผู้บริหารสายงานธุรกิจตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ภาพรวมการลงทุนในปี 2566 ยังมีความผันผวน โดยผู้ลงทุนคาดการณ์ว่า อัตราดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐมีโอกาสปรับลดลงในอนาคตอันใกล้&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ส่งผลให้สินทรัพย์อื่นๆ ที่ไม่ใช่ดอลลาร์สหรัฐ มีความน่าสนใจมากขึ้น โดยเฉพาะสินทรัพย์ประเภททองคำ ที่ถูกจัดเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยและให้ผลตอบแทนที่เหมาะสม ในช่วงที่ตลาดผันผวนจากความเสี่ยงของภาวะเศรษฐกิจขาลง ปัญหาฟองสบู่ในภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีน รวมถึงความยืดเยื้อของสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน และความขัดแย้งระหว่างอิสราเอล-ปาเลสไตน์&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ธนาคารกรุงไทย ในฐานะผู้นำการลงทุนบนช่องทางดิจิทัล พัฒนาบริการ Gold Wallet บนแอปพลิเคชันเป๋าตัง เพื่อตอบโจทย์การลงทุนทองออนไลน์แบบครบวงจร ซื้อขายทองออนไลน์ 99.99% ได้ง่าย แบบเรียลไทม์ ด้วยสกุลเงินบาทและดอลลาร์สหรัฐ อ้างอิงราคาตลาดโลก ลงทุนขั้นต่ำเพียง 0.1 ออนซ์ หรือ 6,000 บาท (ขึ้นอยู่กับอัตราแลกเปลี่ยน ณ วันซื้อขาย)&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;จุดเด่นยังรวมถึงการเปิดบัญชีออนไลน์ได้ทุกที่ ทุกเวลา โดยเปิดบัญชี Gold Wallet เพียงบัญชีเดียว สามารถซื้อขายกับพันธมิตรร้านค้าทองชั้นนำ 3 แห่งได้ทันที ได้แก่ MTS Gold, YLG Corporation และ Aurora Gold Trading ซึ่งได้รับการตอบรับจากผู้ลงทุนอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมีผู้ใช้บริการมากกว่า 200,000 บัญชี&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;สำหรับผู้ลงทุนที่สนใจสามารถสมัครใช้บริการและลงทุนทองออนไลน์ผ่าน Gold Wallet บนแอปพลิเคชัน เป๋าตัง ได้ง่ายๆ เพียง 4 ขั้นตอน1) ดาวน์โหลดและติดตั้งแอพลิเคชันเป๋าตัง รองรับทั้งระบบ iOS และ Android 2) ทำการสมัครบริการ Gold Wallet และยืนยันตัวตน 3) ผูกบัญชีหรือเปิดบัญชีกรุงไทยเพื่อใช้แลกสกุลเงิน USD 4) เปิดบัญชีซื้อขายกับร้านทองซึ่งสามารถเลือกเปิดได้ถึง 3 แห่ง คือ MTS Gold, YLG Corporation และ Aurora จากนั้นสามารถส่งคำสั่งซื้อ-ขายทองออนไลน์กับร้านทองได้ทันที เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ :&nbsp;<a target="_blank" href="https://forbesthailand.com/news/finance-and-investment/4-reasons-support-thai-stock-market-increase" alt="จับตา 4 ปัจจัยหนุนหุ้นไทยเริ่มฟื้นตัว">จับตา 4 ปัจจัยหนุนหุ้นไทยเริ่มฟื้นตัว</a> <a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

“กรุงไทย” ตอกย้ำผู้นำลงทุนดิจิทัล ชู “เทรดทอง” บนเป๋าตัง ซื้อง่าย ขายเร็ว

<h2>หลังเกิดเหตุระบบล่มของแอปพลิเคชั่น K PLUS ธนาคารกสิกรไทย ในวันที่ 31 พฤษภาคม 2566 ที่ผ่านมา ส่งผลให้ลูกค้าของธนาคารจำนวนมากไม่สามารถทำธุรกรรมทางการเงินผ่านระบบได้จนกลายเป็นประเด็นร้อนขึ้นติดเทรนด์บนโลกโซเชียล ล่าสุด ธนาคารไทยพาณิชย์ และธนาคารกรุงไทย จึงได้ออกมาประกาศล่วงหน้า ถึงวันและเวลาในการปิดปรับปรุงระบบชั่วคราว เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาความเดือดร้อนต่อกลุ่มลูกค้าผู้ใช้งาน​ </h2>&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;จากกรณีความเดือดร้อนของกลุ่มลูกค้าผู้ใช้งานผ่านแอปพลิเคชั่น K PLUS ธนาคารกสิกรไทย ไม่สามารถทำธุรกรรมทางการเงินผ่านระบบได้เกือบตลอดทั้งวันเป็นเวลากว่า 10 ชั่วโมง ในวันที่ 31 พฤษภาคม 2566 ที่ผ่านมา เนื่องจากระบบเกิดความขัดข้อง โดยประเด็นดังกล่าวทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ผ่านโลกออนไลน์เป็นจำนวนมากด้วยการโพสต์ทวีตข้อความพร้อมติดแฮชแท็ก #กสิกรล่ม จนกลายเป็นเทรนด์ฮิตติดกระแสอยู่ในทวิตเตอร์​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/06/b8Sdi7qWgF5fXUwRFPZQ.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="b8Sdi7qWgF5fXUwRFPZQ.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="0"></figure></div>​ &nbsp; &nbsp; ทั้งนี้ ทางธนาคารกสิกรไทยเอง ได้มีการโพสต์แจ้งข่าวสารผ่านเฟซบุ๊ก KBank Live โดยระบุ ขออภัยในความไม่สะดวก ธนาคารอยู่ระหว่างเร่งดำเนินการแก้ไข เพื่อให้กลับมาใช้งานได้ตามปกติโดยเร็ว โดยต่อมาในเวลา 22.02 น. ก็ได้มีการโพสต์อัปเดตความคืบหน้าอีกครั้ง ว่าระบบดังกล่าวสามารถใช้งานได้ตามปกติแล้ว พร้อมขออภัยในความไม่สะดวกที่เกิดขึ้น&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;อย่างไรก็ตาม ล่าสุด ธนาคารทั้ง 2 แห่ง ได้แก่ ธนาคารไทยพาณิชย์ หรือ SCB และ ธนาคารกรุงไทย จึงได้ประกาศอัปเดต ให้กลุ่มลูกค้าผู้ใช้งานแอปพลิเคชั่นของธนาคาร ได้ทราบถึงวันและเวลาที่จะมีการ “ปิดปรับปรุงระบบชั่วคราว” ล่วงหน้าด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้ปัญหาต่างๆ เกิดขึ้นซ้ำรอยธนาคารกสิกรไทย​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/06/vPgEHfXRZ8GPgceLfyJM.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="vPgEHfXRZ8GPgceLfyJM.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="1"></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;โดยธนาคารไทยพาณิชย์ หรือ SCB ขอแจ้งปิดบริการ SCB EASY App ชั่วคราว ในวันเสาร์ที่ 10 มิถุนายน 2566 ตั้งแต่เวลา 00.00-06.00 น. ซึ่งหลังจากช่วงเวลาดังกล่าว ลูกค้าจะสามารถใช้บริการ SCB EASY App ได้ตามปกติ​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/06/VYbdnVJhqGueyM37AZHC.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="VYbdnVJhqGueyM37AZHC.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="2"></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ขณะที่ ธนาคารกรุงไทย จะทำการพัฒนาระบบแอปพลิเคชั่น เป๋าตุงกรุงไทย โดยแบ่งเป็น 2 รอบ ในช่วงวันพฤหัสบดีที่ 8 มิถุนายน 2566 เวลา 22.00 น. ถึงวันศุกร์ที่ 9 มิถุนายน 2566 เวลา 01.00 น. และ ในช่วงวันศุกร์ที่ 9 มิถุนายน 2566 เวลา 22.00 น. ถึงวันเสาร์ที่ 10 มิถุนายน 2566 เวลา 01.00 น. ซึ่งในช่วงเวลาดังกล่าวจะทำให้ไม่สามารถเช็คดูรายการชำระเงินได้ชั่วคราว ส่วนบริการอื่นๆ สามารถใช้บริการได้ตามปกติ อ่านเพิ่มเติม: <a href="https://www.forbesthailand.com/news/marketing/%E0%B8%8B%E0%B8%B4%E0%B8%8B%E0%B8%8B%E0%B8%B2-%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B8%E0%B9%8A%E0%B8%9B-%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B9%83%E0%B8%88%E0%B8%88%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B9%81%E0%B8%82%E0%B9%87%E0%B8%87-%E0%B8%A5%E0%B8%87%E0%B8%97%E0%B8%B8%E0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%9A%E0%B8%9A-ip-%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%A3%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%A1-%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%94%E0%B8%A1-%E0%B9%81%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%99%E0%B8%94%E0%B9%8C-%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%99-%E0%B8%9A%E0%B8%B5%E0%B8%8A-%E0%B8%A0%E0%B8%B9%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B9%87%E0%B8%95" alt="“ซิซซา กรุ๊ป” มั่นใจจุดแข็งการลงทุนแบบ IP เป็นเจ้าของร่วม “วินแดม แกรนด์ ในหาน บีช ภูเก็ต”">“ซิซซา กรุ๊ป” มั่นใจจุดแข็งการลงทุนแบบ IP เป็นเจ้าของร่วม “วินแดม แกรนด์ ในหาน บีช ภูเก็ต”</a>​<hr class="__se__solid">​<a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

 ไทยพาณิชย์ กรุงไทย แจ้ง “ปิดปรับปรุงระบบชั่วคราว” ล่วงหน้า ป้องกันกระแสดราม่าผ่านโซเชียล

<h2>เนื่องด้วยวันหยุดยาวระหว่างวันที่ 13-17 เมษายน 2566 ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เหล่าธนาคารพาณิชย์ยักษ์ใหญ่ของไทยจำนวน 4 แห่ง ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ, ธนาคารกรุงไทย, ธนาคารกสิกรไทย และ ธนาคารไทยพาณิชย์ ต่างเตรียมพร้อมสำรองเงินสดเพื่อให้บริการแก่ประชาชนทั่วประเทศ รวม 128,810 ล้านบาท</h2>&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;สมบูรณ์ จิตเป็นธม ผู้ช่วยผู้ว่าการสายออกบัตรธนาคาร ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ความต้องการใช้ธนบัตรของประชาชนจะอยู่ในเกณฑ์สูงกว่าปกติ จึงได้เตรียมสำรองธนบัตรชนิดราคาต่างๆ เพื่อรองรับความต้องการไว้อย่างเพียงพอ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;โดยในปีนี้ประมาณการว่าธนาคารพาณิชย์ จะเบิกจ่ายธนบัตรจาก ธปท.ในช่วงหนึ่งสัปดาห์ก่อนเทศกาลสงกรานต์ เป็นมูลค่า 25,000 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการของปีก่อนหน้าในปี 2565 ที่อยู่ในระดับ 67%​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/04/qev58pwVUgafq5RVZbEq.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="qev58pwVUgafq5RVZbEq.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="0"></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ทั้งนี้ ในส่วนของทางธนาคารกรุงเทพ ได้จัดสรรเงินสดสำรองให้บริการลูกค้าเป็นจำนวน 40,000 ล้านบาท ผ่านสาขาธนาคารและตู้เอทีเอ็ม 10,000 จุดทั่วประเทศ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ด้านธนาคารกรุงไทยเตรียมสำรองเงินสด จำนวน 21,710 ล้านบาท แบ่งเป็นการสำรองในเขตกรุงเทพฯ 3,060 ล้านบาท และเขตภูมิภาค 18,650 ล้านบาท&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ขณะที่ ธนาคารกสิกรไทย สำรองเงินสด ในสาขาและเครื่องเอทีเอ็มรวม 29,600 ล้านบาท โดย แบ่งเป็นการสำรองเงินสดผ่านช่องทางสาขา 8,800 ล้านบาท และผ่านตู้เอทีเอ็ม 9,000 เครื่องทั่วประเทศรวม 20,800 ล้านบาท&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;และสำหรับธนาคารไทยพาณิชย์สำรองเงินสดรวม 37,500 ล้านบาท แบ่งเป็นในกรุงเทพฯ 10,675 ล้านบาท และในต่างจังหวัด 26,825 ล้านบาท แบ่งเป็นการสำรองเงินผ่านเครื่องเอทีเอ็ม 31,000 ล้านบาท และสาขา 6,500 ล้านบาท&nbsp;&nbsp; &nbsp; ถือเป็นการสำรองเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 10% เพื่อรองรับการใช้จ่ายของประชาชน จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ อ่านเพิ่มเติม: <a href="https://www.forbesthailand.com/news/it/%E0%B8%AB%E0%B8%B8%E0%B9%89%E0%B8%99-alibaba-%E0%B8%82%E0%B8%B6%E0%B9%89%E0%B8%99-3-12-%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%A7-tongyiqianwen-%E0%B8%AA%E0%B8%B9%E0%B9%89-chatgpt" alt="หุ้น Alibaba พุ่งขึ้น 3.12% หลังเปิดตัว Tongyi Qianwen สู้ ChatGPT">หุ้น Alibaba พุ่งขึ้น 3.12% หลังเปิดตัว Tongyi Qianwen สู้ ChatGPT</a> <hr class="__se__solid"><a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

4 แบงก์พาณิชย์สำรองเงิน 1.28 แสนล้านบาท ต้อนรับ “สงกรานต์”

<h2>ทุกๆ ปีนิตยสาร Forbes จะมีการจัดอันดับ Global 2000 บริษัทจดทะเบียนขนาดใหญ่ที่สุดทั่วโลก 2 พันบริษัท โดยคำนวณขนาดทั้งจากรายได้ กำไร มูลค่าสินทรัพย์ และมูลค่าบริษัทตามราคาตลาด สำหรับปี 2017 มีบริษัทของไทยติดลิสท์ระดับโลกทั้งหมด 14 บริษัทจากหลากหลายกลุ่มธุรกิจ</h2>
&nbsp;

เปรียบเทียบจากการจัดอันดับ Global 2000 ประจำปี 2016 จำนวนบริษัทไทยที่ติดอันดับลดลงจาก 15 บริษัทเหลือ 14 บริษัท มีบริษัทใหม่ที่เข้ามาติดอันดับได้แก่ อินโดรามา เวนเจอร์ส ส่วนบริษัทที่หลุดโผออกไปคือ ธนาคารทหารไทย และธนาคารธนชาต

หมายเหตุ: ได้ทำการแก้ไขลบข้อมูลเกี่ยวกับจำนวนพนักงานออก เนื่องจากคาดว่าข้อมูลมีความคาดเคลื่อน ขออภัยในความผิดพลาดมา ณ ที่นี้ (แก้ไขวันที่ 17 ก.ย.60)

&nbsp;
<h2>1. ปตท.</h2>
<img src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/c45a1ce1e4a2b9bac6ae6142c4816542.png" alt="" />

อันดับปี 2017: 190
อันดับปี 2016: 337
กลุ่มธุรกิจ: น้ำมันและก๊าซธรรมชาติ
ก่อตั้ง: 2544
ซีอีโอ: เทวินทร์ วงศ์วานิช
รายได้: 4.87 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ
กำไร: 2.6 พันล้านเหรียญสหรัฐ
มูลค่าสินทรัพย์: 6.34 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ
มูลค่าตามราคาตลาด: 3.24 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ

&nbsp;
<h2>2. เอสซีจี</h2>
<img src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/f38d99808cce99226232bcc67a9bb153.png" alt="" />

อันดับปี 2017: 604
อันดับปี 2016: 622
กลุ่มธุรกิจ: เคมิคอลส์ ปูนซีเมนต์ และบรรจุภัณฑ์กระดาษ
ก่อตั้ง: 2456
ซีอีโอ: รุ่งโรจน์ รังสิโยภาส
รายได้: 1.2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ
กำไร: 1.6 พันล้านเหรียญสหรัฐ
มูลค่าสินทรัพย์: 1.51 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ
มูลค่าตามราคาตลาด: 1.91 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ

&nbsp;
<h2>3. ธนาคารไทยพาณิชย์</h2>
<img src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/51c2c163bab5092abf0d996aa4810521.png" alt="" />

อันดับปี 2017: 616
อันดับปี 2016: 535
กลุ่มธุรกิจ: ธนาคาร
ก่อตั้ง: 2450
ซีอีโอ: อาทิตย์ นันทวิทยา
รายได้: 4.9 พันล้านเหรียญสหรัฐ
กำไร: 1.3 พันล้านเหรียญสหรัฐ
มูลค่าสินทรัพย์: 8.13 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ
มูลค่าตามราคาตลาด: 1.61 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ

&nbsp;
<h2>4. ธนาคารกสิกรไทย</h2>
<img src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/305d13e7aafde65c610a339fde3f9659.png" alt="" />

อันดับปี 2017: 642
อันดับปี 2016: 566
กลุ่มธุรกิจ: ธนาคาร
ก่อตั้ง: 2488
ซีอีโอ: บัณฑูร ล่ำซำ
รายได้: 5.4 พันล้านเหรียญสหรัฐ
กำไร: 1.1 พันล้านเหรียญสหรัฐ
มูลค่าสินทรัพย์: 7.95 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ
มูลค่าตามราคาตลาด: 1.34 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ

&nbsp;
<h2>5. ธนาคารกรุงไทย</h2>
<img src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/8660d48200c1e664464008b0625f9721.png" alt="" />

อันดับปี 2017: 672
อันดับปี 2016: 846
กลุ่มธุรกิจ: ธนาคาร
ก่อตั้ง: 2509
ซีอีโอ: ไกรฤทธิ์ อุชุกานนท์ชัย
รายได้: 4.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ
กำไร: 915 ล้านเหรียญสหรัฐ
มูลค่าสินทรัพย์: 7.51 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ
มูลค่าตามราคาตลาด: 1.7 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ

&nbsp;
<h2>6. ธนาคารกรุงเทพ</h2>
<img src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/f0a73f0fbb897369e72c866fdc94e706.png" alt="" />

อันดับปี 2017: 804
อันดับปี 2016: 779
กลุ่มธุรกิจ: ธนาคาร
ก่อตั้ง: 2487
ซีอีโอ: ชาติศิริ โสภณพนิช
รายได้: 4.3 พันล้านเหรียญสหรัฐ
กำไร: 902 ล้านเหรียญสหรัฐ
มูลค่าสินทรัพย์: 8.22 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ
มูลค่าตามราคาตลาด: 1.01 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ

&nbsp;
<h2>7. ซีพี ออลล์</h2>
<img src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/a801fd18765eddb4975f1606e67cd526.png" alt="" />

อันดับปี 2017: 985
อันดับปี 2016: 1068
กลุ่มธุรกิจ: รีเทลด้านอาหาร
ก่อตั้ง: 2531
ซีอีโอ: ธานินทร์ บูรณมานิต
รายได้: 1.23 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ
กำไร: 473 ล้านเหรียญสหรัฐ
มูลค่าสินทรัพย์: 9.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ
มูลค่าตามราคาตลาด: 1.6 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ

&nbsp;
<h2>8. พีทีที โกลบอล เคมิคอล</h2>
<img src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/0a182937ceaf367d7d7ccc30a3b36061.png" alt="" />

อันดับปี 2017: 1026
อันดับปี 2016: 1013
กลุ่มธุรกิจ: เคมิคอลส์
ก่อตั้ง: 2521
ซีอีโอ: สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์
รายได้: 9.9 พันล้านเหรียญสหรัฐ
กำไร: 726 ล้านเหรียญสหรัฐ
มูลค่าสินทรัพย์: 1.1 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ
มูลค่าตามราคาตลาด: 9.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ

&nbsp;
<h2>9. ไทยเบฟเวอเรจ</h2>
<img src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/f5407d73425539a719bffa74d7056ef4.png" alt="" />

อันดับปี 2017: 1107
อันดับปี 2016: 1129
กลุ่มธุรกิจ: เครื่องดื่ม
ก่อตั้ง: 2546
ซีอีโอ: ฐาปน สิริวัฒนภักดี
รายได้: 5.3 พันล้านเหรียญสหรัฐ
กำไร: 757 ล้านเหรียญสหรัฐ
มูลค่าสินทรัพย์: 5.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ
มูลค่าตามราคาตลาด: 1.71 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ

&nbsp;
<h2>10. เจริญโภคภัณฑ์อาหาร (ซีพีเอฟ)</h2>
<img src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/98f30b721b9c52e49d07b649c1a317c9.png" alt="" />

อันดับปี 2017: 1149
อันดับปี 2016: 1295
กลุ่มธุรกิจ: อาหาร
ก่อตั้ง: 2521
ซีอีโอ: อดิเรก ศรีประทักษ์
รายได้: 1.32 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ
กำไร: 417 ล้านเหรียญสหรัฐ
มูลค่าสินทรัพย์: 1.63 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ
มูลค่าตามราคาตลาด: 6.3 พันล้านเหรียญสหรัฐ

&nbsp;
<h2>11. แอดวานซ์ อินโฟ เซอร์วิส (เอไอเอส)</h2>
<img src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/adeb1583a9939d8b99bebef95f9e36f8.png" alt="" />

อันดับปี 2017: 1196
อันดับปี 2016: 1104
กลุ่มธุรกิจ: โทรคมนาคม
ก่อตั้ง: 2529
ซีอีโอ: สมชัย เลิศสุทธิวงศ์
รายได้: 4.3 พันล้านเหรียญสหรัฐ
กำไร: 869 ล้านเหรียญสหรัฐ
มูลค่าสินทรัพย์: 7.7 พันล้านเหรียญสหรัฐ
มูลค่าตามราคาตลาด: 1.5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ

&nbsp;
<h2>12. ท่าอากาศยานไทย</h2>
<img src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/1094c458e3bf9b41135f6dc00f7c7a90.png" alt="" />

อันดับปี 2017: 1353
อันดับปี 2016: 1312
กลุ่มธุรกิจ: ขนส่ง
ก่อตั้ง: 2446
ซีอีโอ: ประสงค์ พูนธเนศ
รายได้: 1.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ
กำไร: 568 ล้านเหรียญสหรัฐ
มูลค่าสินทรัพย์: 4.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ
มูลค่าตามราคาตลาด: 1.64 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ

&nbsp;
<h2>13. ไทยออยล์</h2>
<img src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/3cc570328a40831e250fab95e9a04efc.png" alt="" />

อันดับปี 2017: 1509
อันดับปี 2016: 1765
กลุ่มธุรกิจ: น้ำมันและก๊าซธรรมชาติ
ก่อตั้ง: 2504
ซีอีโอ: อธิคม เติบศิริ
รายได้: 7.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ
กำไร: 602 ล้านเหรียญสหรัฐ
มูลค่าสินทรัพย์: 6.1 พันล้านเหรียญสหรัฐ
มูลค่าตามราคาตลาด: 4.4 พันล้านเหรียญสหรัฐ

&nbsp;
<h2>14. อินโดรามา เวนเจอร์ส</h2>
<img src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/ffdcaeea489d17a2694de42ee6da7832.png" alt="" />

อันดับปี 2017: 1757
อันดับปี 2016: N/A (เคยติดลิสท์นี้เมื่อปี 2012)
กลุ่มธุรกิจ: เคมิคอลส์
ก่อตั้ง: 2546
ซีอีโอ: Aloke Lohia
รายได้: 7.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ
กำไร: 429 ล้านเหรียญสหรัฐ
มูลค่าสินทรัพย์: 7.3 พันล้านเหรียญสหรัฐ
มูลค่าตามราคาตลาด: 4.9 พันล้านเหรียญสหรัฐ

&nbsp;

วิธีการคำนวณอันดับ Forbes Global 2000 คือการจัดอันดับบริษัทจดทะเบียนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของโลกโดยวัดจากตัวเลขรายได้ กำไรสุทธิ สินทรัพย์และมูลค่าตามราคาตลาด ณ วันที่ 7 เมษายน โดยอิงจากข้อมูลของ Factset Research Systems เราให้น้ำหนักเกณฑ์การประเมินทั้ง 4 ข้อเท่ากันและจากนั้นจะนำมาคำนวณหาคะแนนรวม

ทั้งนี้ การจัดอันดับไม่รวมถึงรูปแบบบริษัทที่มีพนักงานเป็นผู้ถือหุ้นหรือสหกรณ์ เช่น Huawei จากจีนและ Fonterra จากนิวซีแลนด์ บริษัทที่จัดตั้งในรูปแบบห้างหุ้นส่วนจำกัด อย่างเช่น บริษัทเพื่อการลงทุนในหุ้นนอกตลาดขนาดใหญ่บางแห่งจะไม่ถูกนำมาจัดอันดับเนื่องจากใช้มาตรฐานทางบัญชีแตกต่างกัน ผลการดำเนินการภายหลังวันที่ 7 เมษายนไม่มีผลต่อการจัดอันดับ

&nbsp;

อ่านเพิ่มเติม:

<a href="http://forbesthailand.com/world-detail.php?did=1945">10 อันดับแรกของ Global 2000 ประจำปี 2017</a>
<a href="http://forbesthailand.com/world-detail.php?did=1171">บริษัทไทยใน Global 2000 ประจำปี 2016</a>

14 บริษัทไทยที่ติดทำเนียบการจัดอันดับบริษัท “ขนาดใหญ่” ที่สุดของโลกปี 2017

<h2>ปลายเดือนธันวาคม วรภัค ธันยาวงษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย ปลีกเวลามาร่วมรับประทานอาหารค่ำกับทีมงาน Forbes Thailand ที่ร้านอาหารฝรั่งเศส Le Beaulieu ย่านเพลินจิต ในวาระครบรอบ 2 ปี ของตำแหน่งปัจจุบันมาได้ไม่นาน ถือเป็นโอกาสดีที่จะได้สอบถามความสำเร็จในครึ่งแรกของวาระ 4 ปี กับผู้ลั่นวาจาไว้ว่าจะพาธนาคารกรุงไทยไปสู่เป้าหมายกำไร 6 หมื่นล้านบาทใน 3 ปี หนึ่งใน “3 ยอดเขา” เพื่อก้าวสู่ธนาคารอันดับหนึ่งของไทย</h2>
“เราเปรียบว่าเป็นภารกิจไปดวงจันทร์ แต่ถ้าทำไม่ได้อย่างน้อยก็ต้องไปถึงดวงดาว”

เขาเล่าว่ากรุงไทยกำลังปีนป่ายจนใกล้จะปักธงบนยอดเขาลูกแรกแล้ว ส่วนหนึ่งของเส้นทางพิชิตเขาลูกแรกคือ ปฏิบัติการทวงคืนลูกค้าธนาคาร หรือ KTB Transformation เจาะจงการดูแลกลุ่มลูกค้ารายย่อย และธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) ให้ดีขึ้น

“กลยุทธ์รุกรายย่อยของเราคือเน้น ขุดบ่อเดิมให้ลึกและกว้างขึ้น ไม่ต้องออกไปหาลูกค้าใหม่ แต่เลือกทำการตลาดกับบุคลากรของกลุ่มลูกค้าสถาบันที่เป็นบริษัทเอกชน ซึ่งมีอัตราส่วนที่ใหญ่ไม่น้อยเมื่อเทียบกับกลุ่มธุรกิจลูกค้าสถาบันทั้งหมด”

วรภัคจึงเน้นด้านการปรับเปลี่ยนระบบและกระบวนการต่างๆ เป็นหลัก อีกทั้งปัจจัยสำคัญที่ประคองให้เดินตามแผนงานสู่เป้าหมายโดยไม่ลื่นไถลออกนอกทาง คือสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ ธนาคารกรุงไทย

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events