กรุงไทยประกาศกำไรสุทธิ 9 เดือนแรกปี 67 พุ่ง 33,381 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.4%YoY - Forbes Thailand

กรุงไทยประกาศกำไรสุทธิ 9 เดือนแรกปี 67 พุ่ง 33,381 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.4%YoY

กรุงไทยประกาศกำไรสุทธิ 9 เดือนแรกปี 67 พุ่ง 33,381 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.4%YoY ผลจากการปรับพอร์ตอย่างสมดุลและมีคุณภาพ รวมถึง รายได้ค่าธรรมเนียมสุทธิและอื่นๆ เพิ่มขึ้น แต่ยังมองว่าช่วงที่เหลือของปีต้องจับตาความเสี่ยงรอบด้านทั้งภัยน้ำท่วมที่เกิดขึ้นในไทย และความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ รวมถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย


    นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย หรือ KTB เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยปี 2567 มีแนวโน้มขยายตัวในระดับต่ำ เพราะมีลักษณะเป็น K-shaped Economy ที่ขยายตัวไม่ทั่วถึง ทั้งในภาค SME ภาคการผลิต และการส่งออก แต่เห็นการฟื้นตัวจากภาคการท่องเที่ยวเป็นเครื่องยนต์หลัก ซึ่งแรงหนุนจากนโยบายภาครัฐ ทั้งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ การเร่งเบิกจ่ายงบประมาณ การลดภาระค่าใช้จ่ายและการเพิ่มรายได้ให้กับภาคครัวเรือน

    ทั้งนี้ ยังต้องติดตามปัจจัยเสี่ยงจาก เศรษฐกิจโลกที่มีทิศทางชะลอลงท่ามกลางปัญหาความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์ ภาคครัวเรือนยังได้รับแรงกดดันจากภาระหนี้ที่อยู่ในระดับสูงมีรายได้ไม่เพียงพอกับรายจ่าย นอกจากนี้ เศรษฐกิจไทยยังได้รับผลกระทบจากสภาวะภูมิอากาศแปรปรวนที่ส่งผลให้เกิดปัญหาอุทกภัยที่กระทบในบางพื้นที่

    อย่างไรก็ตาม ผลการดำเนินงานของในไตรมาสที่ 3 ปี 2567 ธนาคารและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ (ส่วนที่เป็นของธนาคาร) เท่ากับ 11,107 ล้านบาท ลดลง 0.6% จากไตรมาสที่ผ่านมา ธนาคารเน้นการเติบโตอย่างยั่งยืนและมีคุณภาพ ดำเนินธุรกิจอย่างระมัดระวังและรอบคอบ ให้ความสำคัญกับคุณภาพของสินทรัพย์

สรุปผลประกอบการสำหรับช่วง 9 เดือนของปี 2567 ได้แก่

    - กำไรสุทธิ (ส่วนที่เป็นของธนาคาร) อยู่ที่ 33,381 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.4%YoY
    - รายได้ดอกเบี้ยสุทธิ อยู่ที่ 89,502 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.8%YoY
    - ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) อยู่ที่ 3.36%
    - รายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิ อยู่ที่ 16,473 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.7%YoY
    - รายได้จากการดำเนินงานอื่นๆ อยู่ที่ 14,733 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29.5%YoY
    - ค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานอื่นๆ อยู่ที่ 51,361 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.6%YoY
    - Cost to Income ratio เท่ากับ 42.5%
    - ผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น อยู่ที่ 24,344 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.4%YoY
    - สินเชื่อด้อยคุณภาพ ณ 30 ก.ย. 67 อยู่ที่ 98,301 ล้านบาท ลดลง 0.40% จากสิ้นเดือน มิ.ย. 67
    - อัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL Ratio) อยู่ที่ 3.14% เพิ่มขึ้นจากสิ้นเดือน มิ.ย. 67 ที่อยู่ระดับ 3.12%
    - อัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพ อยู่ที่ 184.1%

    ณ 30 ก.ย. 2567 ธนาคาร (งบเฉพาะธนาคาร) มีเงินกองทุนชั้นที่ 1 อยู่ที่ 18.95% ของสินทรัพย์ถ่วงน้ำหนักตามความเสี่ยง และมีเงินกองทุนทั้งสิ้นที่ 20.97% ของสินทรัพย์ถ่วงน้ำหนักตามความเสี่ยงซึ่งอยู่ในระดับที่แข็งแกร่งเมื่อเทียบกับเกณฑ์ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รวมถึงมีสภาพคล่องในระดับที่เพียงพอโดยรักษาระดับของ Liquidity Coverage ratio (LCR) อย่างต่อเนื่อง สูงกว่าเกณฑ์ที่ ธปท.กำหนด



เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : SCBX เผย 9 เดือนแรกปี 67 กำไรสุทธิอยู่ที่ 32,236 ล้านบาท ลดลง 0.9%YoY ผลขาดทุนขายบ. PPV - ค่าใช้จ่ายฯ ยุติ Robinhood

ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine