เดอะ คอฟฟี่ คลับ เผยปีนี้กำไรต่อเป็นปีที่สองแล้ว ล่าสุดเปิด Grab & Go cafe ขนาดใหญ่ คอนเซ็ปต์ใหม่ทั้ง Mood & Tone ณ อาคารหอสมุด คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ชูกรีนคอนเซ็ปต์ พร้อมเสิร์ฟเมนูเครื่องดื่ม และอาหารราคาถูกกว่าเดอะ คอฟฟี่ คลับ ทุกสาขา 20-50%
เดอะ คอฟฟี่ คลับ (The Coffee Club) ในเครือไมเนอร์ฟู้ดส์ เดินหน้าการเป็นผู้นำร้านออลเดย์ไดนิ่งสัญชาติออสเตรเลีย ด้วยการลงทุน 6 ล้านบาท เปิดตัว “เดอะ คอฟฟี่ คลับ สาขา MDCU” เป็นสาขาที่ 42 จากสาขาทั้งหมด มีพื้นที่ 140 ตารางเมตร ที่นั่ง 60 ที่นั่ง เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมงตั้งแต่วันที่ 13 ธันวาคมเป็นต้นมา มีลูกค้าหมุนเวียน 400-500 คนต่อวัน
นงชนก สถานานนท์ ผู้จัดการทั่วไป เดอะ คอฟฟี่ คลับ ภายใต้การดำเนินงานของบริษัท เอ็มเอฟ คาเฟ่ แอนด์ เรสเตอรองต์ จำกัด กล่าวว่า เดอะ คอฟฟี่ คลับ สาขา MDCU ถูกดีไซน์ด้วยโทนสีใหม่คือมอคค่าโทน ลดการใช้สีดำกับขาว เพิ่มสีส้มกับสีเขียวภายในร้าน เพื่อให้ร้านมีความสว่างสดใสกว่าเดิมพร้อมกับกราฟฟิกลายใหม่
โดยมาในบรรยากาศที่มีความผ่อนคลาย แต่ให้ความรู้สึกทันสมัยและผสานการออกแบบที่สะท้อนแนวคิดความยั่งยืนในด้านสิ่งแวดล้อม ด้วยการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์และวัสดุที่ผ่านกระบวนการรีไซเคิลและอัพไซคลิง (Upcycling) เช่น โต๊ะและที่นั่งภายในร้านที่ทำจากพลาสติกรีไซเคิลจากโรงงานอุตสาหกรรม หรือฟิล์มพลาสติกและฟอยล์จากบรรจุภัณฑ์เครื่องดื่มที่ผ่านการใช้งาน
รวมถึงผลิตจากฝุ่นไม้เหลือทิ้งจากโรงงานเฟอร์นิเจอร์ เก้าอี้ที่ทำจากแผ่นไวนิลเก่าที่ถูกนำมาแปรรูปใหม่ ตลอดจนเคาน์เตอร์ชงกาแฟอันเป็นเอกลักษณ์ที่ทำขึ้นจากเยื่อกาแฟเหลือจากกระบวนการคั่วสำหรับชงเอสเปรสโซ่กว่า 1,200 แก้ว ผสมกับพลาสติกรีไซเคิลจำนวน 90 กิโลกรัม เป็นต้น จึงช่วยลดขยะจากการผลิตอย่างเห็นผล
ร้านเดอะ คอฟฟี่ คลับ สาขา MDCU แห่งนี้ไม่เพียงสร้างประสบการณ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมให้กับลูกค้าเมื่อเข้ามาใช้บริการเท่านั้นแต่ยังนำเสนอเมนูเครื่องดื่มให้เลือกกว่า 40 รายการ รวมทั้งนำเสนอเมล็ดกาแฟซิกเนเจอร์ใหม่ล่าสุด ที่ผสมผสานเอกลักษณ์จาก 3 แหล่งปลูกกาแฟชั้นนำระดับโลก ได้แก่ บราซิล โคลอมเบีย และอินเดีย เหมาะสำหรับการชงในหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นกาแฟดำ หรือกาแฟนม ตอบโจทย์คอกาแฟ
อีกทั้งยังมีเมนูอาหารที่เลือกทานได้ตลอดทั้งวัน เพื่อตอบสนองลูกค้ากลุ่มเป้าหมายในพื้นที่โรงพยาบาลที่มีความต้องการเฉพาะทั้งนักศึกษา บุคลากรทางการแพทย์ ที่ต้องการอาหารและเครื่องดื่มที่รวดเร็วตลอดจนผู้มาใช้บริการในโรงพยาบาล สำหรับราคาเครื่องดื่มและอาหารเริ่มต้นที่ 60 บาท และสูงสุดที่ 120 บาท ซึ่งถูกกว่าราคาเครื่องดื่มจากเดอะ คอฟฟี่ คลับ สาขาอื่นๆ ประมาณ 20-50%
“เราตั้งใจนำเสนอราคาเครื่องดื่มและอาหารที่ถูกกว่าสาขาอื่นๆ เพราะต้องการขยายแบรนด์ เดอะ คอฟฟี่ คลับ เป็นที่รู้จักของคนไทยมากขึ้น และลด barrier ในการทดลองของลูกค้าใหม่” นงชนกกล่าว
ปัจจุบัน เดอะ คอฟฟี่ คลับ มีสาขาทั้งหมด 42 แห่ง อยู่ในต่างจังหวัด 19 แห่ง และที่เหลืออยู่ในกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นสาขาที่เปิดบริการในโรงพยาบาล 2 แห่ง ที่โรงพยาบาลกรุงเทพฯ และโรงพยาบาลจุฬาฯ ซึ่งจะเป็นต้นแบบของร้าน Grab & Go cafe ที่จะเปิดมากขึ้นในโรงพยาบาลของรัฐในอนาคต
นงชนก กล่าวอีกว่า บริษัทมีแผนจะเปิดสาขาใหม่อีก 4-5 สาขาในปีหน้า ขนาดพื้นที่ 80 ตารางเมตร ในกรุงเทพฯ ภูเก็ต และพัทยา ใช้เงินลงทุน 8 ล้านบาท และปรับโฉมสาขาเดิมอีก 5 สาขา ใช้เงินลงทุน 4-5 ล้านบาท ส่วนต่างประเทศจะมีการเปิดเดอะ คอฟฟี่ คลับ สาขาแรกที่เวียงจันทน์ในปีหน้าภายใต้ระบบแฟรนไชส์
ในปี 2567 บริษัทเปิดเดอะ คอฟฟี่ คลับ สาขาใหม่ไปทั้งหมด 4 สาขา ที่หาดกะรน จังหวัดภูเก็ต, เซ็นทรัลฯพัทยา, เอไอเอ ถนนสุรวงศ์ และสาขาล่าสุดที่อาคารหอสมุด คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
บริษัทคาดว่ารายได้รวมของเดอะ คอฟฟี่ คลับ ปีนี้จะเติบโตกว่า 9% จากปีที่ผ่านมา ด้วยการมุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์และการบริการเพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุดแก่ลูกค้าที่ผ่านมา พร้อมการขยายสาขารูปแบบใหม่รองรับความต้องการลูกค้า เช่น สาขาปาร์ค สีลม ที่มาในคอนเซปต์ Souperlicious เน้นเจาะกลุ่มลูกค้าคนทำงานพื้นที่โดยรอบ ตลอดจนเน้นการสร้างความประทับใจแก่ลูกค้าสมาชิกด้วยแคมเปญทางการตลาด รวมถึงมอบโปรโมชันสุดพิเศษเฉพาะสมาชิกเท่านั้น ทำให้ปัจจุบันมีจำนวนสมาชิกอยู่ที่ 240,000 ราย
“ปีนี้เป็นปีที่ดีอีกปีหนึ่งของเดอะ คอฟฟี่ คลับ เราทำกำไรได้ติดต่อกันเป็นปีที่ 2 และเพิ่มมากกว่าปีก่อน 20 เท่า เพราะตัดร้านที่ขาดทุนในช่วงโควิดทิ้งจนเหลือ 30 แห่ง และเริ่มกลับมาทะยอยเปิดใหม่ และทำราคาให้เหมาะสม เพิ่มโอกาสในการทดลองและเข้าถึง และขยายฐานคนไทยมากขึ้นเป็นสัดส่วน 40% จาก 20% ก่อนโควิด คาดว่าปีหน้าบริษัทจะเติบโตรายได้อีก 9-10%” นงชนกกล่าวทิ้งท้าย
เครดิตภาพ: เดอะ คอฟฟี่ คลับ
เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : ‘เบียร์ช้าง’ แบรนด์แชร์ขึ้นเบอร์ 1 อีกครั้ง เร่งขยายพอร์ตเบียร์พรีเมียม ส่ง ‘ช้าง อันพาสเจอร์ไรซ์’ บุกตลาด
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine