แม้มูลค่าทรัพย์สินรวมของเหล่าบรรดามหาเศรษฐีของฮ่องกงจะมีเพิ่มขึ้นหรือลดลงไปบ้างตามผลกระทบจากสถานการณ์เศรษฐกิจ แต่การผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรคระบาดก็น่าจะช่วยจุดประกายความหวังของพวกเขาได้ว่าภาวะเศรษฐกิจในอนาคตจะฟื้นตัวกลับมาดียิ่งขึ้นและช่วยหนุนความร่ำรวยมั่งคั่งของแต่ละบุคคลได้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;เศรษฐกิจฮ่องกงหดตัว 3.5% ในปี 2022 ซึ่งเป็นผลมาจากการส่งออกหยุดชะงักและอุปสงค์ภายในประเทศลดลง แต่คาดว่าเศรษฐกิจจะฟื้นกลับมาเป็นบวกได้ เนื่องจากมีการผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรคระบาดตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว และการเดินทางแบบไม่ต้องกักตัวก็กลับมาทำได้อีกครั้งในเดือนมกราคมหลังจากชะงักงันไป 3 ปี&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;แม้ดัชนีฮั่งเส็งจะลดลง 12% นับตั้งแต่ตอนที่เราวัดมูลค่าทรัพย์สินเมื่อปีที่แล้ว แต่ทรัพย์สินรวมของผู้มั่งคั่งที่สุด 50 อันดับแรกของฮ่องกงกลับลดลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้นเป็น 3.24 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ จาก 3.28 แสนล้านเหรียญ​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto; width: 550px;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/05/3ATmntVsN7p4TbK9HV7s.jpg" alt="" data-proportion="true" data-size="550px,587px" data-align="center" data-file-name="3ATmntVsN7p4TbK9HV7s.jpg" data-file-size="0" origin-size="550,587" data-origin="550px,587px" style="width: 550px; height: 587px;" data-index="0"></figure></div>&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ทำเนียบปีนี้ยังมีจ่าฝูงคนเดิมคือ Li Ka-shing ผู้ครองอันดับ 1 ด้วยทรัพย์สิน 3.9 หมื่นล้านเหรียญ เพิ่มขึ้น 3 พันล้านเหรียญจากปีที่แล้ว ส่วนหนึ่งเป็นเพราะมีข้อมูลใหม่ออกมาเกี่ยวกับทรัพย์สินของเขา แม้หุ้นในกลุ่มบริษัทโครงสร้างพื้นฐาน CK Hutchison Holdings ที่เป็นกิจการหลักของเขาจะมีมูลค่าลดลงเนื่องจากกำไรลดลง&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;แต่เมื่อหุ้นที่เขาถือในบริษัทเครื่องดื่มชูกำลัง Celsius Holdings มีมูลค่าเพิ่มขึ้นก็ช่วยชดเชยได้บางส่วน โดยราคาหุ้นวิ่งขึ้นเกือบเท่าตัวหลังจาก PepsiCo ประกาศลงทุน 550 ล้านเหรียญในบริษัทนี้​ <div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/05/hQnYs2sHvn6NmmvFsk1X.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="hQnYs2sHvn6NmmvFsk1X.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="2"><figcaption><div style="text-align: center;">จากซ้าย: Martin Lee, Lee Shau Kee และ Peter Lee</div></figcaption></figure></div>&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นักธุรกิจใหญ่สายอสังหาริมทรัพย์ Lee Shau Kee ยังคงครองความมั่งคั่งเป็นอันดับ 2 แม้ทรัพย์สินสุทธิลดลง 11% เหลือ 3.03 หมื่นล้านเหรียญจากการที่ตลาดอสังหาฯ ซบเซา Henderson Land ของ Lee มองการณ์ไกลด้วยการเร่งเดินหน้าทำตามแผนการก่อสร้างโครงการอสังหาฯ เพื่อการพาณิชย์มูลค่า 1.46 หมื่นล้านเหรียญให้เป็นแลนด์มาร์กริมอ่าวในย่าน Central​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto; width: 550px;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/05/gVQm8w9nT9rXJ5wrW7tF.jpg" alt="" data-proportion="true" data-size="550px,596px" data-align="center" data-file-name="gVQm8w9nT9rXJ5wrW7tF.jpg" data-file-size="0" origin-size="550,596" data-origin="550px,596px" style="width: 550px; height: 596px;" data-index="3"></figure></div>&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;Horst Julius Pudwill ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานคณะกรรมการ Techtronic Industries บริษัทผลิตเครื่องมือช่างและผลิตภัณฑ์ดูแลพื้น คือ มหาเศรษฐีฮ่องกงอันดับที่ 14 ซึ่งแม้บริษัทจะทำกำไรเพิ่มขึ้น แต่มูลค่าทรัพย์สินกลับลดลง 19% เหลือ 6 พันล้านเหรียญในรอบปีที่ผ่านมา&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;โดยในครึ่งแรกของปี 2022 บริษัทมียอดขาย 7 พันล้านเหรียญ คิดเป็นกำไรสุทธิ 578 ล้านเหรียญ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าอย่างละ 10% แต่เศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่อ่อนแอลงกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Techtronic ซึ่งมีรายได้จากทวีปอเมริกาเหนือคิดเป็นสัดส่วนถึง 77% และมี Home Depot ร้านค้าปลีกอุปกรณ์ตกแต่งบ้านจากสหรัฐฯ เป็นลูกค้ารายใหญ่ที่สุด&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;อีกทั้งยอดขายบ้านใหม่เมื่อปี 2022 ยังทำสถิติต่ำสุดในรอบ 4 ปี จึงเป็นผลให้หุ้นของ Techtronic ซึ่งจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง ปรับตัวลดลงกว่า 20% จากปีก่อนหน้า​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/05/XCbQePjNrnBhA2VscjS8.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="XCbQePjNrnBhA2VscjS8.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="4"></figure></div>&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;Jean Salata มหาเศรษฐีฮ่องกงอันดับที่ 15 คือผู้ที่มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นมากที่สุดเมื่อวัดเป็นเปอร์เซ็นต์ เขาได้อานิสงส์จากอภิมหาสัญญามูลค่า 6.7 พันล้านเหรียญ จากขาย Baring Private Equity Asia (BPEA) ให้กับ EQT กลุ่มบริษัทลงทุนในหุ้นนอกที่ตลาดจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์รายใหญ่ที่สุดในทวีปยุโรปจาก Stockholm&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;หลังการขายกิจการดังกล่าวทำให้ Salata มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวมาอยู่ที่ 5.9 พันล้านเหรียญ เป้าหมายสำคัญประการหนึ่งของ BPEA คือ การลงทุนเพิ่มในธุรกิจเทคโนโลยีในเอเชีย&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ปัจจุบันบริการด้านเทคโนโลยีคิดเป็นสัดส่วน 1 ใน 3 ของการลงทุนทั้งหมดของ BPEA ซึ่ง Salata ไม่มีแผนที่จะชะลอการลงทุนในกลุ่มนี้ อีกทั้ง ยังมุ่งเป้าทำสัญญาขนาดใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสัญญาที่มีมูลค่ากิจการ 1 พันล้านเหรียญขึ้นไป เพื่อผลักดัน EQT สู่ก้าวแรกในเวทีธุรกิจที่มีมูลค่าตามราคาตลาด (มาร์เก็ตแคป) สูงยิ่งขึ้นไปกว่าเดิม​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/05/PybdXXCarHpMB4UsLHod.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="PybdXXCarHpMB4UsLHod.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="5"></figure></div>&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;Helmut Sohmen มหาเศรษฐีอีกรายผู้มีทรัพย์สินเพิ่มมากขึ้นและมีความมั่งคั่งอยู่ในอันดับที่ 17 เขาคือผู้ทรงอิทธิพลแห่งธุรกิจขนส่งทางเรือจากฮ่องกงที่มีมูลค่าทรัพย์สิน 5.5 พันล้านเหรียญ เติบโตอย่างก้าวกระโดดถึง 53% จากความต้องการบริการขนส่งทางทะเลที่เพิ่มขึ้นจากบริษัทในกลุ่ม BW Group ของเขานั่นเอง&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;การคว่ำบาตรบริการขนส่งน้ำมันจากรัสเซียจากเหตุการณ์บุกรุกยูเครนนั้นทำให้ผู้ซื้อต้องรีบเสาะหาผู้ให้บริการรายอื่นจากตะวันออกกลางและสหรัฐฯ การขาดแคลนเรือส่งผลให้การขนส่งน้ำมันและก๊าซมีอัตราค่าระวางสูงขึ้น&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;หุ้นของ Hafnia และ BW LPG บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ Oslo ที่อยู่ในความควบคุมของ BW Group มีมูลค่าเพิ่มขึ้น 217% และ 76% ตามลำดับ ในปีที่พวกเขากอบโดยรายได้มหาศาล อ่านเพิ่มเติม:&nbsp;<a href="https://www.forbesthailand.com/world/asia/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%94%E0%B8%B1%E0%B8%9A-50-%E0%B8%A1%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%A8%E0%B8%A3%E0%B8%A9%E0%B8%90%E0%B8%B5%E0%B9%84%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%AB%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%99-%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%88%E0%B8%B3%E0%B8%9B%E0%B8%B5-2023" alt="การจัดอันดับ 50 มหาเศรษฐีไต้หวัน ประจำปี 2023">การจัดอันดับ 50 มหาเศรษฐีไต้หวัน ประจำปี 2023</a><a href="https://forbesthailand.com/world/technology/%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%97%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%8A%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B8%84%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%94%E0%B9%8C" alt="ต่อท่อเชื่อมคลาวด์"></a><hr class="__se__solid">​<a href="https://www.ookbee.com/shop/magazine/FORBES/1381118a-b359-4419-b6ed-b94da33a06cc/april-2023" alt="คลิกอ่านฉบับเต็มและบทความทางด้านธุรกิจได้ที่นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนเมษายน 2566 ในรูปแบบ e-magazine">คลิกอ่านฉบับเต็มและบทความทางด้านธุรกิจได้ที่นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนเมษายน 2566 ในรูปแบบ e-magazine</a>​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-none" contenteditable="false"><figure style="margin: 0px;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/05/kmGWmjftq8gTEYZPwnBF.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="none" data-file-name="kmGWmjftq8gTEYZPwnBF.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-percentage="auto,auto" data-rotatex="" data-rotatey="" style="" data-index="6"></figure></div>

“5 มหาเศรษฐีฮ่องกง” เศรษฐกิจหดตัวส่งผลความมั่งคั่งเพิ่มและลด

การจัดอันดับ 50 อันดับมหาเศรษฐีฮ่องกงประจำปี 2023: ความมั่งคั่งขยับลงท่ามกลางความหวัง

<h2>การจัดอันดับ 50 มหาเศรษฐีฮ่องกง ประจำปี 2020 แปรปรวนเป็นอย่างยิ่ง สืบเนื่องจากสถานการณ์ประท้วงที่ยืดเยื้อและสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐอเมริกา ซึ่งส่งผลกระทบอย่างหนักต่อเศรษฐกิจฮ่องกงในปีที่ผ่านมา</h2>
มูลค่าสินทรัพย์ของบุคคลในทำเนียบ 50 มหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดในฮ่องกงมีทั้งเพิ่มขึ้นและลดลงโดย 24 รายมีสินทรัพย์เพิ่มขึ้น ขณะที่อีก 22 รายมีสินทรัพย์ลดลง ซึ่งในขณะที่ดัชนีตลาดหุ้น Hang Seng แทบไม่เปลี่ยนแปลงจากตอนที่เราประเมินมูลค่าทรัพย์สินของมหาเศรษฐีฮ่องกงในเดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้ว

แต่มูลค่าสินทรัพย์รวมของ มหาเศรษฐีฮ่องกง 50 อันดับแรกยังคงเพิ่มขึ้น 7% เป็น 3.08 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ พบ 10 อันดับมหาเศรษฐีฮ่องกงที่ร่ำรวยที่สุดประจำปี 2020

&nbsp;

<img class="alignnone size-full wp-image-28735" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/04/https_2F2Fspecials-images.forbesimg.com2Fimageserve2F5e764b97c7b02d000666cade2F0x0.jpg" alt="" width="416" height="416" />
อันดับที่ 1
LEE SHAU KEE
อายุ 92 ปี
มูลค่าทรัพย์สิน: 3.04 หมื่นล้านเหรียญ
แหล่งที่มา: HENDERSON LAND DEVELOPMENT

&nbsp;

&nbsp;

<img class="alignnone size-full wp-image-28730" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/04/https_2F2Fspecials-images.forbesimg.com2Fimageserve2F5e3b1aaca854780006b0841d2F0x0.jpg" alt="" width="416" height="416" />
อันดับที่ 2
LI KA-SHING
อายุ: 91 ปี
มูลค่าทรัพย์สิน: 2.94 หมื่นล้านเหรียญ
แหล่งที่มา: CK HUTCHISON, CK ASSET HOLDINGS

&nbsp;

&nbsp;

<img class="alignnone size-full wp-image-28729" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/04/https_2F2Fspecials-images.forbesimg.com2Fimageserve2F5a1330a64bbe6f37e65807f82F0x0.jpg" alt="" width="416" height="415" />
อันดับที่ 3
HENRY CHENG &amp; FAMILY
อายุ: 73 ปี
มูลค่าทรัพย์สิน: 2.07 หมื่นล้านเหรียญ
แหล่งที่มา: CHOW TAI FOOK, NEW WORLD DEVELOPMENT

&nbsp;

&nbsp;

<img class="alignnone size-full wp-image-28734" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/04/https_2F2Fspecials-images.forbesimg.com2Fimageserve2F5e764a6dc7b02d000666caac2F0x0.jpg" alt="" width="388" height="389" />
อันดับที่4
JOSEPH LAU
อายุ: 68 ปี
มูลค่าทรัพย์สิน: 1.69 หมื่นล้านเหรียญ
แหล่งที่มา: CHINESE ESTATES HOLDINGS

&nbsp;

<img class="alignnone size-full wp-image-28736" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/04/https_2F2Fspecials-images.forbesimg.com2Fimageserve2F5e764d2710380d0006fbb0452F0x0.jpg" alt="" width="416" height="416" />
อันดับที่5
LUI CHE WOO
อายุ: 90 ปี
มูลค่าทรัพย์สิน: 1.54 หมื่นล้านเหรียญ
แหล่งที่มา: GALAXY ENTERTAINMENT GROUP

&nbsp;

&nbsp;

<img class="alignnone size-full wp-image-28738" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/04/https_2F2Fspecials-images.forbesimg.com2Fimageserve2F56898008e4b0ffa7afe8a6982F0x0.jpg" alt="" width="321" height="322" />
อันดับที่6
LEE MAN TAT
อายุ: 90 ปี
มูลค่าทรัพย์สิน: 1.52 หมื่นล้านเหรียญ
แหล่งที่มา: LKK GROUP

&nbsp;

&nbsp;

<img class="alignnone size-full wp-image-28732" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/04/https_2F2Fspecials-images.forbesimg.com2Fimageserve2F5e3b214da854780006b084e62F0x0.jpg" alt="" width="354" height="354" />
อันดับที่7
KWONG SIU-HING
อายุ: 90 ปี
มูลค่าทรัพย์สิน: 1.37 หมื่นล้านเหรียญ
แหล่งที่มา: SUN HUNG KAI PROPERTIES

&nbsp;

&nbsp;

<img class="alignnone size-full wp-image-28731" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/04/https_2F2Fspecials-images.forbesimg.com2Fimageserve2F5e3b22f4a854780006b0851f2F0x0.jpg" alt="" width="416" height="416" />
อันดับที่8
PETER WOO
อายุ: 73 ปี
มูลค่าทรัพย์สิน: 1.16 หมื่นล้านเหรียญ
แหล่งที่มา: WHEELOCK &amp; CO.

&nbsp;

&nbsp;

<img class="alignnone size-full wp-image-28737" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/04/https_2F2Fspecials-images.forbesimg.com2Fimageserve2F5e7446a210380d0006bdad3b2F0x0.jpg" alt="" width="416" height="416" />
อันดับที่9
JOSEPH TSAI
อายุ: 56 ปี
มูลค่าทรัพย์สิน: 1.15 หมื่นล้านเหรียญ
แหล่งที่มา: ALIBABA GROUP

&nbsp;

&nbsp;

<img class="alignnone size-full wp-image-28733" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/04/https_2F2Fspecials-images.forbesimg.com2Fimageserve2F5e3b2422f133f400076bb4cb2F0x0.jpg" alt="" width="416" height="416" />
อันดับที่10
YEUNG KIN-MAN และ LAM WAI YING
มูลค่าทรัพย์สิน: 8 พันล้านเหรียญ
แหล่งที่มา: BIEL CRYSTAL

<a href="https://forbesthailand.com/world/asia/%E0%B8%A1%E0%B8%B9%E0%B8%A5%E0%B8%84%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%9E%E0%B8%A2%E0%B9%8C%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%82%E0%B8%B6%E0%B9%89%E0%B8%99-%E0%B8%A5%E0%B8%87%E0%B8%84.html">อ่านเพิ่มเติม: มูลค่าทรัพย์สินขึ้น-ลงคละเคล้า มหาเศรษฐีฮ่องกง ต้องเผชิญกับปีที่ท้าทาย</a>

เรื่อง: Grace Chung และ Naazneen Karmali เรียบเรียง: พิษณุ พรหมจรรยา, ธรรดร โสตถิอำรุง และปาริชาติ ชื่นชม

<hr />

<a href="https://bit.ly/38hL0Vu">คลิกอ่านการจัดอันดับ 50 มหาเศรษฐีฮ่องกง ประจำปี 2020 ได้ที่นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับ มีนาคม 2563 ในรูปแบบ e-magazine</a>

<img class="alignnone wp-image-27443" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/03/COVER-82-MARCH-.jpg" alt="สรพหล นิติกาญจนา" width="301" height="395" />

10 อันดับ มหาเศรษฐีฮ่องกง ประจำปี 2020

<h2 class="p3">เศรษฐีที่รวยที่สุดของฮ่องกง "Li Ka-shing” แสดงความเสียใจหลังรัฐบาลจีนวิจารณ์แรง กรณี Li แสดงความเห็นที่อาจตีความได้ว่าเป็นการ "เข้าข้าง" ผู้ประท้วงฮ่องกง</h2>
Li Ka-shing <a href="https://forbesthailand.com/world/%e0%b8%a3%e0%b9%88%e0%b8%a7%e0%b8%a1%e0%b8%95%e0%b8%b4%e0%b8%94%e0%b8%95%e0%b8%b2%e0%b8%a1-10-%e0%b8%ad%e0%b8%b1%e0%b8%99%e0%b8%94%e0%b8%b1%e0%b8%9a-%e0%b8%a1%e0%b8%ab%e0%b8%b2%e0%b9%80%e0%b8%a8.html">เศรษฐีฮ่องกงวัย 90 ปี </a>เจ้าของบริษัท CK Hutchison ถูกบันทึกวิดีโอการพูดคุยกับคนกลุ่มหนึ่งในวัดพุทธ Tsz Shan เมื่อวันที่ 8 กันยายนที่ผ่านมา ในคลิปวิดีโอ เขาแสดงความเห็นเกี่ยวกับการประท้วงฮ่องกงว่า ภาครัฐควรจะให้ “ช่อมะกอก” (สัญลักษณ์ถึงสันติภาพ) แก่เหล่าผู้ประท้วงและปฏิบัติกับกลุ่มคนหนุ่มสาวเหล่านั้นอย่างมีมนุษยธรรม รวมถึงมองว่ากลุ่มผู้ประท้วงคือ “ผู้นำแห่งอนาคตของเรา”
หลังคลิปวิดีโอดังกล่าวเผยแพร่ออกไป สื่อที่มีรัฐบาลจีนเป็นเจ้าของต่างโจมตี Li อย่างหนัก รวมถึงผู้บริหารเกาะฮ่องกงอย่าง Carrie Lam ก็กล่าวตอบโต้ Li เมื่อวันอังคารที่ 10 กันยายนว่า “กฎหมายเป็นคุณค่าหลักที่ฮ่องกงต้องยึดถือ รัฐบาลจะไม่สนับสนุนหรือให้อภัยการกระทำใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย”
ด้าน คณะกรรมาธิการฝ่ายกิจการการเมืองและกฎหมายของจีน โจมตี Li ว่าเป็นผู้ซ่องสุมอาชญากร และ Li ไม่ได้ไตร่ตรองถึงสิ่งที่ดีสำหรับฮ่องกงหากให้ความเห็นอกเห็นใจกับผู้ประท้วงซึ่งกำลังทำผิดกฎหมาย
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่รัฐของจีนหลายรายให้สัมภาษณ์โดยไม่เปิดเผยชื่อกับสำนักข่าว South China Morning Post ว่า คำกล่าวของ Li ถือเป็นการให้กำลังใจกับกลุ่มผู้ประท้วงและโยนความผิดให้รัฐบาลจีน บางรายมองว่า หาก Li ต้องการช่วยเหลือกลุ่มผู้ประท้วงจริงควรจะพัฒนาที่อยู่อาศัยในราคาเข้าถึงได้ให้กับสังคมแทน
เพื่อตอบโต้เสียงวิพากษ์วิจารณ์ดังกล่าว มูลนิธิการกุศลของ Li Ka-shing ออกแถลงการณ์เมื่อวันศุกร์ที่ 13 กันยายนว่า Li แสดงความเสียใจที่ถูกกล่าวหาและตีความคำพูดของเขาผิดไป เขากล่าวถึงใจความสำคัญที่ต้องการสื่อคือ “ความอดทนอดกลั้นไม่ได้หมายถึงการมองข้ามความผิด และไม่ได้หมายถึงการละเลยกฎหมาย” 
แต่อย่างไรก็ตาม เขายังคงย้ำว่าความรุนแรง ซึ่งรวมถึงความรุนแรงทางวาจาด้วยนั้น ไม่สามารถยอมรับได้ และหวังให้ทุกภาคส่วนสามารถตกลงกันได้และทำให้สถานการณ์ในฮ่องกงสงบลงก่อนที่ทุกกลุ่มจะได้เริ่มต้นพูดคุยกัน


<figure><img class="size-full wp-image-20475" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/09/000_1KA7J3_Hong-Kong-Protest-e1568611635839.jpg" alt="ประท้วง ฮ่องกง" width="800" height="532" /><figcaption> การชุมนุมประท้วงในฮ่องกงเมื่อวันที่ 15 กันยายน 2019 นับเป็นการชุมนุมติดต่อกันมานาน 3 เดือนและมีผู้เข้าร่วมชุมนุมสะสมหลายล้านคน สถานการณ์เริ่มทวีความรุนแรงขึ้นโดยวันอาทิตย์ที่ผ่านมานี้ผู้ชุมนุมเริ่มปาระเบิดขวดเข้าใส่สถานีตำรวจ และฟากตำรวจมีการใช้แก๊สน้ำตาและฉีดน้ำใส่ผู้ประท้วง (Photo by Philip FONG / AFP)</figcaption></figure>
Li Ka-shing เป็นหนึ่งในกลุ่มนักธุรกิจและเศรษฐีที่ซื้อสื่อเพื่อลงโฆษณาร้องขอความสงบให้เกิดขึ้นแก่ฮ่องกงเมื่อเดือนก่อน ซึ่งเป็นความเคลื่อนไหวสืบเนื่องจากคำขอร้องของฝั่งรัฐบาลจีน แต่คำพูดที่ใช้ในโฆษณาของเขานั้นค่อนข้างคลุมเครือทำให้ Li ถูกมองว่าพยายามแสดงตนเป็นกลางทางการเมืองในประเด็นนี้ จนกระทั่งมีคลิปแสดงความเห็นดังกล่าวออกมา
การประท้วงในฮ่องกงนั้นมีผลกระทบต่อความมั่งคั่งและธุรกิจของผู้ประกอบการอย่างมาก และหลายบริษัทพบว่าตนเองต้องเผชิญแรงกดดันจากฝั่งรัฐบาลจีนเพื่อให้ช่วยกำกับควบคุมความเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตย
ตัวอย่างเช่น Cathay Pacific สายการบินนี้ถูกรัฐบาลจีนแทรกแซงให้ส่งข้อมูลของนักบินและพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินที่เข้าร่วมการประท้วง เพื่อกีดกันไม่ให้พนักงานรายนั้นๆ ปฏิบัติงานบนเที่ยวบินที่บินเข้าออกประเทศจีน จนกระทั่ง Rupert Hogg ซีอีโอของบริษัทในขณะนั้น ตัดสินใจลาออกภายใต้ความกดดันเมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2019
&nbsp;

ที่มา
<ul>
 	<li><a href="https://www.forbes.com/sites/isabeltogoh/2019/09/13/rebuked-by-beijing-billionaire-li-ka-shing-expresses-regret-over-hong-kong-protest-comments/?utm_source=newsletter&amp;utm_medium=email&amp;utm_campaign=daily-dozen#7c3e69641b4d">Rebuked By Beijing, Billionaire Li Ka-shing Expresses Regret Over Hong Kong Protest Comments</a></li>
 	<li><a href="https://www.scmp.com/news/china/politics/article/3026768/hong-kong-tycoon-li-ka-shings-appeal-leniency-protesters-gets">Hong Kong tycoon Li Ka-shing's appeal for laniency for protesters gets cool reception from Chinese media</a></li>
 	<li><a href="https://www.reuters.com/article/us-hongkong-protests-li/hong-kong-tycoon-li-ka-shing-says-he-regrets-protest-comments-were-misrepresented-idUSKCN1VY0S6">Hong Kong tycoon Li Ka-shing says he regrets protest comments were misrepresented</a></li>
</ul>

รัฐบาลจีนโจมตี "Li Ka-shing" อย่างหนัก หลังเศรษฐีรายนี้เอ่ยปาก "เข้าข้าง" ผู้ประท้วงฮ่องกง

<h2>กว่าครึ่งหนึ่งของผู้ที่ร่ำรวยที่สุด 50 อันดับแรกของฮ่องกง ทำเงินได้จากอสังหาริมทรัพย์ และมีถึง 7 คนที่อยู่ใน 10 อันดับแรกในทำเนียบมหาเศรษฐีของเกาะแห่งนี้ อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น ตลอดจนสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ได้สร้างความสั่นสะเทือนไปทั่วตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่แพงที่สุดของเอเชีย และยังส่งผลกระทบรุนแรงต่อเนื่องสัญญาณของปัญหาล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว เมื่อยอดขายเริ่มชะลอตัวเป็นครั้งแรกในรอบ 28 เดือน</h2>
ทั้งที่ยอดธุรกรรมของตลาดช่วงครึ่งปีแรกสูงถึง 4.37 แสนล้านเหรียญฮ่องกง (5.15 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ) ข้อมูลจาก Midland Realty บริษัทนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ท้องถิ่นระบุว่า ในเดือนธันวาคมยอดขายดิ่งลงร้อยละ 58 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปี 2017 ไปทำจุดต่ำสุดในรอบ 28 ปี ด้านตัวเลขจากสำนักงานจัดอันดับและประเมินราคาของฮ่องกงระบุว่า ขณะนี้ราคาที่พักอาศัยลดลงร้อยละ 7 หลังจากทำราคาสูงสุดเมื่อเดือนกรกฎาคม

ทั้งนี้ความกังวลกับการปรับฐานของตลาดที่อาจเกิดขึ้นเร็วๆ นี้ ส่งผลกระทบต่อหุ้นของบรรดาบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของฮ่องกง Chinese Estate Holdings ซึ่งมี Joseph Lau และครอบครัวเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดคือร้อยละ 75 ได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุดโดยที่ราคาหุ้นตกลงแล้วประมาณร้อยละ 33 ในช่วงหนึ่งปีนับจนถึงเดือนธันวาคมปี 2018

ตลาดอสังหาริมทรัพย์ของฮ่องกงเติบโตสุดขีดในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา เมื่อเงินจากจีนแผ่นดินใหญ่หลั่งไหลเข้ามาในตลาดที่มีการจำกัดอุปทานโดยรัฐบาล นับตั้งแต่ตลาดหดตัวร้อยละ 15 ในช่วงวิกฤตการเงินโลกปี 2008-2009 (ดูแผนภาพประกอบ)

<img class="alignnone size-full wp-image-7582" src="http://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/05/ดัชนี-ตารางอสังหาริมทรัพย์ฮ่องกง.jpg" alt="" width="638" height="289" />

ราคาที่พักอาศัยเพิ่มขึ้นเกือบสี่เท่าตัว ข้อมูลจากบริษัทวิจัย Statista ของเยอรมนีระบุว่าบ้านในฮ่องกงมีราคาแพงที่สุดในโลก โดยเฉลี่ยตารางฟุตละ 4,900 เหรียญ เทียบกับ 2,500 เหรียญใน London และ 2,000 เหรียญใน New York

ภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวของจีนซึ่งเลวร้ายลงจากความตึงเครียดทางการค้ากับสหรัฐฯ ที่รุนแรงขึ้นทำให้นักลงทุนจากจีนยังหวาดวิตกกับตลาดอสังหาริมทรัพย์ของฮ่องกง David Ji หัวหน้าส่วนงานวิจัยฝ่ายจีนของบริษัท Knight Frank ในฮ่องกง กล่าวว่า ราคาบ้านพักในฮ่องกงอาจปรับตัวลดลงมากถึงร้อยละ 10 ในปีนี้ จากที่คาดหมายเพิ่มขึ้นร้อยละ 3 ในปี 2018 ผลสำรวจของ Citigroup ในไตรมาส 2 ของปี 2018 พบว่าผู้พักอาศัยในฮ่องกงร้อยละ 57 เชื่อว่าราคาบ้านจะตกลงในปีนี้

แผนของรัฐบาลในการเปิดประมูลที่ดินผืนงามบนเนินเขาที่เรียกกันว่า The Peak เมื่อเดือนตุลาคม มีอันต้องยกเลิกหลังจากไม่มีผู้เสนอราคาถึงเกณฑ์ขั้นต่ำแต่นั่นไม่ได้หมายความว่าฮ่องกงกำลังเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจพังครืนอย่างที่ประสบหลังเกิดวิกฤตการเงินในเอเชียในช่วงปี 1997 และ 1998 ซึ่งได้เห็นราคาที่ลดลงถึง 2 ใน 3 - เรื่องโดย – Preya Shah และ Jonathan Burgos
<ul>
 	<li>คลิกอ่าน: <a href="http://forbesthailand.com/world/%e0%b8%a3%e0%b9%88%e0%b8%a7%e0%b8%a1%e0%b8%95%e0%b8%b4%e0%b8%94%e0%b8%95%e0%b8%b2%e0%b8%a1-10-%e0%b8%ad%e0%b8%b1%e0%b8%99%e0%b8%94%e0%b8%b1%e0%b8%9a-%e0%b8%a1%e0%b8%ab%e0%b8%b2%e0%b9%80%e0%b8%a8.html">10 อันดับ มหาเศรษฐีฮ่องกง ที่มั่งคั่งที่สุดประจำปี 2019</a></li>
</ul>
<h2><img class="alignnone size-full wp-image-7585" src="http://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/05/Li-ka-shing.jpg" alt="" width="350" height="233" /></h2>
<h2>VICTOR LI: ในยามไร้เงาซูเปอร์แมน</h2>
<h2>Victor Li สืบทอดกิจการครอบครัวที่ใหญ่ที่สุดของฮ่องกงเมื่อเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว เมื่อ Li Ka-shing พ่อของเขาก้าวลง</h2>
จากตำแหน่งประธานกรรมการของ CK Hutchison และ CK Asset Holdings ในเวลาเพียง 2 เดือนก่อนวันเกิดครบรอบ 90 ปี ของเขา Li คนพ่อจะยังทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาอาวุโสให้กับอาณาจักรธุรกิจที่มีพนักงาน 323,000 คนในกว่า 50 ประเทศ

Li Ka-shing เป็นหนึ่งในนักธุรกิจที่เป็นที่นับหน้าถือตาที่สุดคนหนึ่งในเอเชียและยังเป็นหนึ่งในตำนานเสื่อผืนหมอนใบที่น่าทึ่งที่สุดคนหนึ่ง Li และครอบครัวซึ่งเป็นชาวมณฑล Guangdong ประเทศจีน ได้อพยพหนีกองทัพญี่ปุ่นที่กำลังรุกคืบเข้ามาโดยได้มาตั้งรกรากที่ฮ่องกงในปี 1940 เมื่อเขาอายุได้ 12 ปี พ่อของเขาเสียชีวิตจากวัณโรคหลังจากพวกเขาเดินทางมาถึงฮ่องกงซึ่งตกอยู่ภายใต้การยึดครองของญี่ปุ่น

Li เริ่มทำงานในโรงงานพลาสติกเมื่ออายุได้ 15 ปี เพื่อหาเงินมาจุนเจือครอบครัว ปี 1950 Li เปิดโรงงานพลาสติก Cheung Kong Industries บริษัทแห่งแรกของเขา ตลอดหลายปีเขาได้สั่งสมเครือข่ายธุรกิจซึ่งจนถึงวันนี้ครอบคลุมพื้นที่ขนาดใหญ่ของฮ่องกง ตั้งแต่การบริหารจัดการท่าเรือหลายแห่ง และเป็นเจ้าของอาคารระฟ้ามากมายบนเกาะแห่งนี้ เป็นที่มาของสมญานาม “ซูเปอร์แมน” ที่สื่อตั้งให้ในความเป็นเลิศด้านการเจรจาธุรกิจ

Victor วัย 54 ปี ได้รับการปลุกปั้นมาเป็นเวลา 3 ทศวรรษเพื่อสานต่องานของพ่อ เขาจบการศึกษาสาขาวิศวกรรมศาสตร์จาก Stanford University และได้สร้างชื่อด้วยตัวเองในความสามารถด้านการเจรจาธุรกิจหลังจากเป็นหัวหอกพาบริษัทลุยงานด้านสาธารณูปโภคในออสเตรเลีย แคนาดา และยุโรป Richard น้องชายวัย 52 ปีของเขา รับหน้าที่บริหาร Pacific Century Group บริษัทบริหาร จัดการเงินลงทุนที่ให้ความสนใจในหลายธุรกิจครอบคลุมตั้งแต่อสังหาริมทรัพย์ สื่อ และประกัน – เรื่องโดย Robert Olsen
<ul>
 	<li>อ่านเพิ่มเติม <a href="http://forbesthailand.com/news/other/%e0%b8%a1%e0%b8%ab%e0%b8%b2%e0%b9%80%e0%b8%a8%e0%b8%a3%e0%b8%a9%e0%b8%90%e0%b8%b5-gordon-wu-%e0%b8%a1%e0%b8%b5%e0%b8%97%e0%b8%b2%e0%b8%87%e0%b8%ad%e0%b8%ad%e0%b8%81%e0%b9%83%e0%b8%ab%e0%b9%89%e0%b8%aa.html">Gordon Wu ถือคติ “เมื่อซื้อต้องต่ำ เมื่อสร้างต้องสูง”</a></li>
</ul>

<hr />

<a href="https://bit.ly/2GB6P6G">คลิกเพื่ออ่านฉบับเต็ม "ทำเนียบ 50 มหาเศรษฐีฮ่องกง ประจำปี 2019" ได้ที่ นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับ เมษายน 2562 ในรูปแบบ e-Magazine</a>
<a href="https://bit.ly/2GB6P6G"><img class="alignnone size-full wp-image-7213" src="http://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/05/COVER-71-350.jpg" alt="" width="350" height="460" /></a>

ยังไม่ใช่ขาลง (ของอสังหาริมทรัพย์ฮ่องกง)

ปีแห่งมรสุมแรงลมถาโถมหลายระลอก ทำทรัพย์สินมหาเศรษฐีฮ่องกงหดหาย หนึ่งปัจจัยสำคัญคือยอดขายที่หดลงและปัญหาด้านการจัดหน่าย apple ในประเทศจีน ทำให้ บรรดาผู้รับจ้างผลิตชิ้นส่วนต่างๆ ซึ่งติดอยู่ใน  รายชื่อของการจัดอัน 50 มหาเศรษฐีฮ่องกงประจำปี 2019 นี้ ได้รับผลกระทบเป็นทิวแถว แต่กลุ่มมหาเศรษฐีเหล่านี้ไม่ใช่ผู้เสียหายสูงสุด หากเทียบกับมหาเศรษฐีผู้ดำเนินธุรกิจคาสิโนที่มาเก๊า ซึ่งราคาหุ้นของพวกเขาลดต่ำลง แต่อย่างไรก็ดีในปีนี้มหาเศรษฐีในกลุ่มธุรกิจอื่นๆ  อาทิ มหาเศรษฐีน้ำมันอย่าง Daniel Chiu กลับมาติดที่อันดับ 47  อันดับ 48 Lo Siu-tong กลับเข้ามาติดอันดับใหม่เนื่องจากความเฟื่องฟูของธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์และโรงแรมในจีนแผ่นดินใหญ่ ร่วมติดตาม 10 อันดับ มหาเศรษฐีฮ่องกง จากทำเนียบ 50 มหาเศรษฐีฮ่องกง ประจำปี 2019
<h2>10 อันดับ มหาเศรษฐีฮ่องกง ที่มั่งคั่งที่สุดประจำปี 2562</h2>
<h2><img class="alignnone size-full wp-image-7517" src="http://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/05/01-LI-KA-SHING.jpg" alt="" width="416" height="416" />
อันดับ 1
LI KA-SHING</h2>
อายุ: 90 ปี
แหล่งที่มา: CK HUTCHISON, CK ASSET HOLDINGS
มูลค่าทรัพย์สิน: 3.2 หมื่นล้านเหรียญ

&nbsp;

<img class="alignnone size-full wp-image-7518" src="http://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/05/02-.jpg" alt="" width="416" height="416" />
<h2>อันดับ 2
LEE SHAU KEE</h2>
อายุ: 91 ปี
แหล่งที่มา: HENDERSON LAND DEVELOPMENT
มูลค่าทรัพย์สิน: 3.0 หมื่นล้านเหรียญ

&nbsp;

<img class="alignnone size-full wp-image-7519" src="http://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/05/03-LEE-MAN-TAT.jpg" alt="" width="415" height="416" />
<h2>อันดับ 3
LEE MAN TAT</h2>
อายุ: 89 ปี
แหล่งที่มา: LKK GROUP
มูลค่าทรัพย์สิน: 1.71 หมื่นล้านเหรียญ

&nbsp;

<img class="alignnone size-full wp-image-7520" src="http://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/05/04-JOSEPH-LAU.jpg" alt="" width="415" height="416" />
<h2>อันดับ 4
JOSEPH LAU</h2>
อายุ: 67 ปี
แหล่งที่มา: CHINESE ESTATES HOLDINGS
มูลค่าทรัพย์สิน: 1.7 หมื่นล้านเหรียญ

&nbsp;

<img class="alignnone size-full wp-image-7521" src="http://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/05/05-KWONG-SIU-HING.jpg" alt="" width="416" height="415" />
<h2>อันดับ 5</h2>
KWONG SIU-HING
อายุ: 89 ปี
แหล่งที่มา: SUN HUNG KAI PROPERTIES
มูลค่าทรัพย์สิน: 1.5 หมื่นล้านเหรียญ

&nbsp;

<img class="alignnone size-full wp-image-7522" src="http://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/05/06-LUI-CHE-WOO.jpg" alt="" width="416" height="416" />
<h2>อันดับ 6
LUI CHE WOO</h2>
อายุ: 89 ปี
มูลค่าทรัพย์สิน: 1.48 หมื่นล้านเหรียญ
แหล่งที่มา: GALAXY ENTERTAINMENT GROUP

&nbsp;

<img class="alignnone size-full wp-image-7523" src="http://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/05/07-Peter-Woo.jpg" alt="" width="416" height="416" />
<h2>อันดับ 7
PETER WOO</h2>
อายุ: 72 ปี
มูลค่าทรัพย์สิน: 1.08 หมื่นล้านเหรียญ
แหล่งที่มา: WHEELOCK &amp; CO.

<img class="alignnone size-full wp-image-7524" src="http://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/05/08-Peter-Woo.jpg" alt="" width="416" height="416" />
<h2>อันดับ8
JOSEPH TSAI</h2>
อายุ: 55 ปี
แหล่งที่มา: ALIBABA GROUP
มูลค่าทรัพย์สิน: 9.5 พันล้านเหรียญ

&nbsp;

<img class="alignnone size-full wp-image-7525" src="http://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/05/09-Michael-Kadoorie.jpg" alt="" width="416" height="416" />
<h2>อันดับ 9
MICHAEL KADOORIE</h2>
อายุ: 77 ปี
แหล่งที่มา: CLP HOLDINGS, HONGKONG &amp; SHANGHAI HOTELS
มูลค่าทรัพย์สิน: 8.5 พันล้านเหรียญ

&nbsp;

<img class="alignnone size-full wp-image-7516" src="http://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/05/010-Francis-Choi.jpg" alt="" width="416" height="416" />
<h2>อันดับ 10
FRANCIS CHOI</h2>
อายุ: 71 ปี
แหล่งที่มา: EARLY LIGHT INTERNATIONAL
มูลค่าทรัพย์สิน: 6.7 พันล้านเหรียญ

<hr />

<a href="https://bit.ly/2GB6P6G">คลิกเพื่ออ่านฉบับเต็ม "ทำเนียบ 50 มหาเศรษฐีฮ่องกง ประจำปี 2019" ได้ที่ นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับ เมษายน 2562 ในรูปแบบ e-Magazine</a>
<a href="https://bit.ly/2GB6P6G"><img class="alignnone size-full wp-image-7213" src="http://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/05/COVER-71-350.jpg" alt="" width="350" height="460" /></a>

10 อันดับ มหาเศรษฐีฮ่องกง ที่มั่งคั่งที่สุดประจำปี 2019

<h2>ในวัย 87 ปี Li Ka-shing รั้งตำแหน่งบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในเอเชีย ด้วยทรัพย์สินสุทธิมูลค่าเกือบ 35,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ทั้งยังเป็นหนึ่งในบุคคลที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลก แต่ชีวิตของเขาเริ่มต้นจากการเป็นผู้ลี้ภัยสงครามที่ไม่มีเงินติดตัวสักแดงเดียว</h2>
ค.ศ.1928
ลืมตาดูโลก ณ เมือง Chaozhou มณฑล Guangdong บิดาของเขาเป็นครูใหญ่
<img class="img-responsive" src="http://forbesthailand.com/uploads/userfiles/images/2016%2002%20-%20FEB/001-1928.jpg" alt="" width="472" height="295" />

ค.ศ.1940
เมื่อถูกญี่ปุ่นบุก พ่อของเขาพาครอบครัวหนีไปฮ่องกง และเสียชีวิตจากวัณโรคในอีกสองปีต่อมา เมื่อ Liอายุได้ 12 ปี เขาเข้าทำงานในโรงงานผลิตสายนาฬิกาพลาสติกเพื่อจุนเจือครอบครัว Li กล่าวว่า “เกมการต่อสู้แย่งชิงความเป็นใหญ่และรสชาติของความแร้นแค้น เป็นประสบการณ์ที่ใครก็ยากที่จะลืม”
<img class="img-responsive" src="http://forbesthailand.com/uploads/userfiles/images/2016%2002%20-%20FEB/002-1940.jpg" alt="" width="191" height="273" />

ค.ศ.1950
เขาลาออกจากงาน และเริ่มต้นธุรกิจผลิตของเล่นพลาสติกของตัวเอง ก่อนจะเปลี่ยนไปทำดอกไม้พลาสติก อีกกว่าหนึ่งทศวรรษต่อมา เหตุการณ์จลาจลในฮ่องกงทำให้ราคาอสังหาริมทรัพย์ตกต่ำ เป็นโอกาสให้เขาสามารถซื้ออาคารพาณิชย์ราคาถูก
<img class="img-responsive" src="http://forbesthailand.com/uploads/userfiles/images/2016%2002%20-%20FEB/003-1950.jpg" alt="" />

ค.ศ.1972
Li พาบริษัทโฮลดิ้ง Cheung Kong Ltd. เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง หุ้นไอพีโอมีไม่พอจำหน่ายแก่นักลงทุนซึ่งพากันจองหุ้นมากกว่าปริมาณจริงที่มี 65 เท่า
<img class="img-responsive" src="http://forbesthailand.com/uploads/userfiles/images/2016%2002%20-%20FEB/004-1972.jpg" alt="" width="533" height="333" />

ค.ศ.1979
Li เป็นชาวจีนคนแรกที่ซื้อหุ้นส่วนใหญ่ของบริษัท Hutchison Whampoa ซึ่งเป็นบริษัทการค้า (Trading Company) ที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของอังกฤษ ที่กำลังประสบปัญหาการดำเนินงานอยู่ในขณะนั้น
<img class="img-responsive" src="http://forbesthailand.com/uploads/userfiles/images/2016%2002%20-%20FEB/005-1979.jpg" alt="" />

ค.ศ.1986
เข้าถือหุ้นส่วนใหญ่ของ Husky Energy บริษัทสัญชาติแคนาดา การลงทุนครั้งนี้ ผนวกรวมกับทรัพย์สินอื่นๆ ทำให้เขาติดอันดับมหาเศรษฐีโลกของ FORBES เป็นครั้งแรกในอีกหนึ่งปีถัดมา “ขีวิตของผมเต็มไปด้วยความท้าทาย แต่ต้องยอมรับว่า โชคชะตานำพาโอกาสมากมายมาให้ผม”
<img class="img-responsive" src="http://forbesthailand.com/uploads/userfiles/images/2016%2002%20-%20FEB/006-1986.jpg" alt="" width="484" height="313" />

ค.ศ.1999
ได้เวลาแจ็กพ๊อตแตก Hutchison ทำธุรกรรมครั้งประวัติศาสตร์ด้วยการขายหุ้นใน Orange Plc. บริษัทโทรคมนาคม ให้กับ Mannesmann ของเยอรมัน เป็นเงินเกือบ 15,000 ล้านเหรียญ
<img class="img-responsive" src="http://forbesthailand.com/uploads/userfiles/images/2016%2002%20-%20FEB/007-1999.jpg" alt="" />

ค.ศ.2006
ตกลงใจบริจาคทรัพย์สิน 1 ใน 3 ให้กับมูลนิธิ Li Ka Shing Foundation เพื่อสนับสนุนงานด้านการศึกษาและการดูแลสุขภาพทั่วโลก “พวกเราทุกคนทราบดีถึงความสำคัญของการจ่ายลงทุน (capital investment) อย่างเหมาะสม การลงทุนทางสังคมมีความสำคัญอย่างยิ่งยวด”
<img class="img-responsive" src="http://forbesthailand.com/uploads/userfiles/images/2016%2002%20-%20FEB/010-2010.png" alt="" />

ค.ศ.2007
ด้วยสัญชาตญาณนักลงทุน เขาตัดสินใจลงทุนกับ Facebook ในเวลา 5 นาทีหลังจากได้ฟังเรื่องราวของธุรกิจที่เพิ่งลืมตาอ้าปากนี้ เครือข่ายสังคมออนไลน์แห่งนี้ได้รับการประเมินมูลค่ามหาศาลที่ 15,000 ล้านเหรียญ แม้จะไม่ทำรายได้มากมายนัก “คุณจะรู้สึกเด็กลง ถ้าได้ลงทุนในหุ้นเทคโนโลยี”
<img class="img-responsive" src="http://forbesthailand.com/uploads/userfiles/images/2016%2002%20-%20FEB/009-2007.jpg" alt="" />

ค.ศ.2010-2014
เขาลดสัดส่วนการลงทุนในจีนและฮ่องกง และมุ่งไปที่ยุโรปแทน รวมๆ แล้ว บริษัทของเขาใช้เงินไป 28,000 ล้านเหรียญ ซื้อทรัพย์สินที่นั่น ซึ่งรวมถึงบริษัทน้ำ 1 แห่ง บริษัทสาธารณูปโภค 2 แห่ง และบริษัทผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือ 2 แห่ง “นักธุรกิจโดยมากไม่ควรมีวิสัยทัศน์คับแคบในอุตสาหกรรมที่ตนลงทุน”
<img class="img-responsive" src="http://forbesthailand.com/uploads/userfiles/images/2016%2002%20-%20FEB/011-2015.jpg" alt="" width="530" height="353" />

ค.ศ.2015
เนื่องจากถูกมองว่าให้ความสำคัญกับต่างประเทศ สื่อของฟากรัฐบาลจึงตั้งคำถามเกี่ยวกับความจงรักภักดีของ Li ที่มีต่อจีนแผ่นดินใหญ่ Li ออกแถลงการณ์ 3 หน้าตอบโต้ข้อกล่าวหา

<hr />

<a href="http://goo.gl/6fV29E">คลิ๊กอ่านเรื่องราวเพื่อสร้างแรงบันดาลใจทางด้านธุรกิจได้ Forbes Thailand ฉบับ FEBRUARY 2016 ในรูปแบบ E-Magazine</a>
<a href="http://goo.gl/6fV29E"><img class="img-responsive" src="http://forbesthailand.com/uploads/userfiles/images/2016%2002%20-%20FEB/cover-for-web.jpg" alt="" width="330" height="453" /></a>

Li Ka-shing ยืนยงและยั่งยืน

<h2 class="p1">9 มกราคม 2558 - Forbes Asia ประกาศทำเนียบ 50 มหาเศรษฐี Hong Kong ประจำปี 2015 มีมูลค่าทรัพย์สินรวม 2.36 แสนล้านเหรียญ รายต่ำสุดอยู่ที่ 1.28 พันล้านเหรียญ</h2>
Li Ka-shing คือมหาเศรษฐีอันดับ 1 ของ Hong Kong ในปี 2015 ชายวัย 86 ปีผู้นี้ ครองที่หนึ่งเป็นเวลา 17 ปีต่อเนื่องกัน ล่าสุดเขาถือทรัพย์สินรวม 3.35 หมื่นล้านเหรียญ ขยับเพิ่มจากปีก่อน 1.5 พันล้านเหรียญ โดยมาจากเงินปันผล 1.9 พันล้านเหรียญ และบางส่วนมาจากการขายหุ้น 25% ในบริษัทค้าปลีกข้ามชาติ A.S. Watson Group ให้กับ Temasek ของสิงคโปร์
ธุรกิจของ Li Ka-shing ครอบคลุมทั้งอสังหาริมทรัพย์ ท่าเรือ ค้าปลีก และกิจการมากมายใน 52 ประเทศ มีพนักงานกว่า 270,000 คน  ธุรกิจหลักที่สำคัญคือบริษัท Cheung Kong, Husky Energy และ Hutchison Whampoa
ส่วนอันดับ 2 คือนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ Lee Shau Kee มูลค่าทรัพย์สินของเขาเพิ่มจาก 5 พันล้านเหรียญ เป็น 2.5 หมื่นล้านเหรียญ  โดยการเพิ่มหุ้นในบริษัท Henderson Land ของเขา ช่วยดันให้ราคาหุ้นและสินทรัพย์ของตัวเองมีมูลค่าเพิ่มขึ้น อาณาจักรธุรกิจของเขามีทั้งโรงแรม (Miramar Hotel ใน Kowloon) กิจการพลังงาน (Hong Kong &amp; China Gas) และพอร์ตการลงทุนขนาดยักษ์ 
อันดับ 3 คือ Cheng Yu-tung มีทรัพย์สินรวม 1.5 หมื่นล้านเหรียญ ครอบครัวเขามีกิจการหลากหลาย ตั้งแต่ธุรกิจแฟชั่นไปจนถึงสาธารณูปโภค ในปีนี้  Cheng ขยับอันดับจากปีก่อนขึ้นมาสองขั้น แม้ว่าความร่ำรวยจะลดลงราว 500 ล้านเหรียญ ซึ่งบางส่วนเกิดจากราคาหุ้นของบริษัทอัญมณีใหญ่สุดในเอเชีย Chow Tai Fook ลดลง
แต่เจ้าสัวผู้ร่ำรวยอย่างก้าวกระโดดคือ Joseph Tsai อันดับ 9 ทรัพย์สินสุทธิ 6.85 พันล้านเหรียญ ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเดิมเกือบสองเท่า เขาคือรองประธานของ Alibaba ยักษ์ใหญ่อีคอมเมิร์ซของจีน การเสนอขาย IPO เมื่อกันยายนปีกลายที่สร้างประวัติศาสตร์ในสหรัฐฯ ทำให้ความมั่งคั่งของเขาเพิ่มขึ้นอีก 3.65 ล้านเหรียญ 
ทั้งนี้อาจกล่าวได้ว่าในปี 2014 เป็นปีที่แสนจะผันผวนของเศรษฐีฮ่องกง จนเป็นเหตุให้ความมั่งคั่งโดยรวมของทำเนียบมหาเศรษฐีทั้ง 50 คน เปลี่ยนแปลงจากปีที่แล้วเล็กน้อย โดยทั้งหมดมีมูลค่ารวม 2.36 แสนล้านเหรียญ มี 18 คนที่มีทรัพย์สินลดลง ขณะที่ 6 คนคงที่
มหาเศรษฐีลำดับสุดท้ายในการจัดอันดับมีทรัพย์สิน 1.28 พันล้านบาท แนวโน้มของความร่ำรวยดังกล่าวสอดคล้องกับ GDP อันซบเซาของฮ่องกงในปีที่แล้ว ที่เติบโตเพียง 2.2% เมื่อเทียบกับปี 2013 ที่ 2.9% ขณะที่ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แทบจะไม่ขยับเขยื้อน ปัจจัยหลักที่ส่งผลกระทบต่อสภาวะทางเศรษฐกิจของ Hong Kong ประกอบด้วยตลาดอสังหาฯ ที่เซื่องซึม การเติบโตบนแผ่นดินใหญ่ที่เริ่มชะลอตัว และช่วงขาลงของธุรกิจคาสิโน Macau
ในปีนี้ปรากฏเศรษฐีหน้าใหม่รวม 5 ราย ส่วนใหญ่มาจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ได้แก่ Walter Kwok อันดับ 10 มูลค่า 6.7 พันล้านเหรียญ, Pan Sutong อันดับ 11 มูลค่า 6.1 พันล้านเหรียญ, Ko Fook Kau อันดับ 27 มูลค่า 2.21 พันล้านเหรียญ, Gaw family อันดับ 48 มูลค่า 1.3 พันล้านเหรียญ ขณะที่ Billy Kan อันดับ 40 มูลค่า 1.61 พันล้านเหรียญ เป็นประธาน China LNG ซึ่งประกอบธุรกิจแก๊สธรรมชาติทั่วทั้งประเทศจีน
สองรายที่กลับคืนสู่ทำเนียบมหาเศรษฐีได้ คือ Thomas Lau อันดับ 42 มูลค่า 1.5 พันล้านเหรียญ เจ้าของห้างสรรพสินค้าในเชน Lifestyle International มีชอปปิงมอลล์ 2 แห่งในฮ่องกง และอีก 4 แห่งในจีน  และ Kenneth Lo อันดับ 44 มูลค่า 1.4 พันล้านเหรียญ ประธาน Crystal Group หนึ่งในผู้ผลิตเสื้อผ้าสิ่งทอรายใหญ่ มีพนักงาน 35,000 คนทั่วโลก
 

<h2 class="p1">มหาเศรษฐี Hong Kong ปี 2015  10 อันดับแรก ได้แก่</h2>
 1. Li Ka-shing   3.35 หมื่นล้านเหรียญ
 2. Lee Shau Kee 2.5 หมื่นล้านเหรียญ
 3. Cheng Yu-tung 1.5 หมื่นล้านเหรียญ
 4. Thomas &amp; Raymond Kwok 1.47 หมื่นล้านเหรียญ
 5. Lui Che Woo  1.34 หมื่นล้านเหรียญ
 6. Joseph Lau 1.09 หมื่นล้านเหรียญ
 7. Michael Kadoorie 8.9 พันล้านเหรียญ
 8. Peter Woo  $7.9 พันล้านเหรียญ
 9. Joseph Tsai  6.85 พันล้านเหรียญ
 10. Walter Kwok  6.7 พันล้านเหรียญ
&nbsp;
อ่านเพิ่มเติม: <a href="http://www.forbes.com/hong-kong-billionaires/">Forbes Hong Kong Rich List 2015</a>


<figure><img class="wp-image-20478 size-full" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2015/01/Forbes-Asia_cover-e1568612372864.jpg" alt="" width="457" height="600" /><figcaption> Edwin Leong นักลงทุนอสังหาริมทรัพย์และเศรษฐีใจบุญ, มหาเศรษฐีอันดับ 18 ของ Hong Kong ด้วยทรัพย์สิน 2.9 พันล้านเหรียญ บนหน้าปก Forbes Asia ฉบับมกราคม 2015</figcaption></figure>

 

ข่าวอื่นๆ

 • <a href="http://www.forbesthailand.com/article_detail.php?article_id=140">100 มหาเศรษฐีอินเดียปีนี้ ทุกคนร่ำรวยระดับพันล้าน</a>

• <a href="http://www.forbesthailand.com/article_detail.php?article_id=178">“เจ้าสัวออนไลน์” ยึดแท่นสุดยอดมหาเศรษฐีจีน</a>

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events