<h2>AWC สานต่อความร่วมมือกับ Meliá Hotels International หนึ่งในผู้ประกอบการโรงแรมริมทะเลชั้นนำระดับโลก ลงนามร่วมพัฒนาโรงแรม มีเลีย พัทยา ซิตี้ (Meliá Pattaya City) และโรงแรมพาราดิซุส จอมเทียน (Paradisus Jomtien Resort) </h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC ลงนามข้อตกลงในการพัฒนาและบริหารโรงแรมกับ Meliá Hotels International หนึ่งในเครือโรงแรมใหญ่ที่สุดจากยุโรป และมีชื่อเสียงด้านการบริหารโรงแรมและรีสอร์ทหรูริมทะเลหลายแห่งในยุโรป เพื่อพัฒนาโรงแรม 2 แห่งในพัทยา ภายใต้แบรนด์ โรงแรม มีเลีย พัทยา ซิตี้ (Meliá Pattaya City) ซึ่งเป็นแบรนด์โรงแรมระดับแฟลกชิปและเป็นมิตรกับสัตว์เลี้ยง และโรงแรม พาราดิซุส จอมเทียน (Paradisus Jomtien Resort) ซึ่งเป็นแบรนด์สุดหรูที่มอบประสบการณ์ครบวงจรแบบเหมาจ่าย (All-inclusive) ที่จะเข้ามาสร้างนิยามใหม่ของประสบการณ์พักผ่อนอย่างหรูหราในเมืองท่องเที่ยวริมทะเลที่โด่งดังที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;โดยนับเป็นครั้งแรกที่แบรนด์หรูระดับโลกทั้งสองจะเข้ามาปักธงในเมืองพัทยา เสริมสร้างชื่อเสียงของเมืองตากอากาศของประเทศไทยในฐานะจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวลักชัวรีและยั่งยืนชั้นนําของโลก&nbsp; &nbsp;&nbsp;วัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จํากัด (มหาชน) หรือ AWC เปิดเผยว่า “AWC และ Meliá ต่างมีความมุ่งมั่นอย่างลึกซึ้งต่อการพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ขยายพอร์ตโฟลิโอและเสริมความแข็งแกร่งของพัทยาในฐานะจุดหมายปลายด้านไลฟ์สไตล์ลักชัวรีระดับโลก ด้วยการนำ Meliá แบรนด์ระดับแฟล็กชิป และ Paradisus แบรนด์โรงแรมหรูครบวงจรแบบเหมาจ่าย (All-inclusive) มาสู่เมืองตากอากาศริมทะเลที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“โดยความได้เปรียบที่เป็นเอกลักษณ์ของพัทยา ไม่ว่าจะเป็นระยะทางที่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ เต็มไปด้วยกิจกรรมที่น่าตื่นตาตื่นใจ สถานที่ท่องเที่ยวที่หลากหลาย อาหารทะเลสดใหม่และอาหารนานาชาติ รวมทั้งขนมท้องถิ่นอันโด่งดัง และวัฒนธรรมพื้นเมืองอันโดดเด่น&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;เมื่อเสริมด้วยความเชี่ยวชาญด้านการพัฒนาโรงแรมริมทะเลที่มีมาอย่างยาวนานของ Meliá จะมอบการบริการอันน่าประทับใจให้กับนักเดินทางทั่วโลกที่มองหาประสบการณ์สุดพิเศษไม่มีวันลืม พร้อมสนับสนุนพัทยาสู่การเป็นจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวยั่งยืนระดับโลก”&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“โรงแรม มีเลีย พัทยา ซิตี้ ซึ่งตั้งอยู่ภายใน Aquatique โครงการมิกซ์ยูสขนาดใหญ่ของ AWC จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้พื้นที่พัทยาสู่มิติใหม่ของความหรูหราผ่านความเชี่ยวชาญของผู้บริหารโรงแรมระดับโลกและกิจกรรมอันหลากหลาย&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“ในขณะที่โรงแรม พาราดิซุส จอมเทียน จะเป็นหนึ่งในโรงแรมหรูครบวงจรแบบเหมาจ่ายแห่งแรกในพัทยา ที่จะพลิกโฉมพัทยาสู่การเป็นจุดหมายปลายทางสุดหรูสำหรับนักเดินทางที่มองหาสถานที่พักผ่อนหย่อนใจที่ครบครันทั้งความประทับใจ รวมถึงลูกค้าในกลุ่ม MICE ซึ่ง AWC เชื่อมั่นว่าความร่วมมือครั้งนี้จะช่วยสร้างคุณค่าให้กับชุมชนโดยรอบ และเป็นส่วนหนึ่งของการส่งเสริมเศรษฐกิจให้กับประเทศไทย”&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;กาเบรียล เอสการ์เร ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Meliá Hotels International กล่าวถึงความร่วมมือในครั้งนี้ว่า “ความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ของเรากับ AWC มีหัวใจสำคัญที่ความมุ่งมั่นร่วมกันในการมอบประสบการณ์การให้บริการที่พิเศษสุดในประเทศไทย เริ่มต้นด้วยความร่วมมือครั้งแรกของเราจากโรงแรมที่เปิดดําเนินการแล้ว 3 แห่ง ได้แก่ โรงแรม มีเลีย เกาะสมุย โรงแรม มีเลีย เชียงใหม่ และโรงแรม อินน์ไซด์ บาย มีเลีย กรุงเทพ สุขุมวิท ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อเร็วๆ นี้&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“เรารู้สึกตื่นเต้นที่จะเปิดตัวโรงแรมใหม่อีกสองแห่งในพัทยา ได้แก่ โรงแรม มีเลีย พัทยา ซิตี้ และโรงแรม พาราดิซุส จอมเทียน ซึ่งนับเป็นการเปิดตัวแบรนด์ระดับหรูที่ทุกคนต่างตั้งตารอของเราอย่างพาราดิซุสในเอเชีย ที่นับเป็นก้าวสําคัญในการตอกย้ำสถานะของเราในตลาดที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวาแห่งนี้&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;สำหรับโรงแรม มีเลีย พัทยา ซิตี้ มีกําหนดเปิดให้บริการในเดือนธันวาคม 2567 โดยจะตั้งอยู่ใจกลางเมืองพัทยา ที่จะเสนอบริการเหนือระดับอย่างไม่มีใครเหมือน ภายในโรงแรมจะประกอบไปด้วยห้องอาหารและบาร์อันเป็นเอกลักษณ์ พื้นที่ศิลปะสร้างแรงบันดาลใจสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพ และพื้นที่สําหรับผู้เข้าพักและสัตว์เลี้ยง ด้วยจำนวนห้องพักรวมทั้งหมด 234 ห้อง มีเป้าหมายเพื่อดึงดูดกลุ่ม MICE และผู้ที่กําลังมองหาไลฟ์สไตล์อันทันสมัย&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ขณะที่โรงแรม พาราดิซุส จอมเทียน มีกําหนดเปิดให้บริการในปี 2571 โดยจะเป็นโรงแรมหรูครบวงจรแบบเหมาจ่าย (All-inclusive) แห่งแรกในพัทยา นําเสนอการผสมผสานระหว่างความหรูหราและการพักผ่อนอันด้วยภูมิทัศน์อันเป็นเอกลักษณ์ในพื้นที่&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;โดยโรงแรมตั้งอยู่บนพื้นที่ริมชายหาดอันโดดเด่นของจอมเทียน พร้อมนำเสนอกิจกรรมกีฬาทางน้ำและกิจกรรมสันทนาการที่หลากหลาย รวมถึงสระว่ายน้ำแบบ Loop Pool สระว่ายน้ำสําหรับครอบครัว บีชคลับ โซนความบันเทิงบนชั้นดาดฟ้าและดีเจพร้อมวิวพระอาทิตย์ตก สนามเทนนิสบนชั้นดาดฟ้า และสนามฟุตบอล&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;โรงแรม พาราดิซุส จอมเทียน จะให้บริการห้องพักทั้งหมด 698 ห้อง โดยเป็นห้องพักโรงแรม 654 ห้อง และวิลล่า 44 ห้อง มุ่งดึงดูดลูกค้า MICE ทั้งในและต่างประเทศที่มองหาแพ็คเกจแบบเหมาจ่าย ทั้งยังให้ความสำคัญกับเรื่องของความยั่งยืน โดยได้รับการรับรอง LEED &amp; WELL Platinum สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ AWC ต่อแนวคิดอาคารสีเขียวและการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ปัจจุบัน AWC ดำเนินการบริหารโรงแรมร่วมกับ Meliá Hotels International รวมจํานวน 3 แห่ง ได้แก่ โรงแรม มีเลีย เกาะสมุย (ได้รับรางวัล Traveler’s Choice Best of Best 2023) โรงแรม มีเลีย เชียงใหม่ (ได้รับรางวัล Travel + Leisure: LUXURY AWARDS APAC - Thailand 's best upcountry hotels 2023) และโรงแรม อินน์ไซด์ บาย มีเลีย กรุงเทพ สุขุมวิท (ได้รับรางวัล The LLM Readers’ Travel Awards 2023: Best City Hotel, Best Hotel for Business and Best Hotel for Design)&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;โดยมีจำนวนห้องพักรวมทั้งหมด 668 ห้อง และเมื่อนับรวมโรงแรม มีเลีย พัทยา ซิตี้ และโรงแรม พาราดิซุส จอมเทียน จะทำให้ AWC และ Meliá มีจำนวนห้องพักร่วมกันทั้งหมดกว่า 1,600 ห้อง ใน 4 เมืองท่องเที่ยวหลักของประเทศของไทย เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ :&nbsp;<a target="_blank" href="https://forbesthailand.com/news/travel/bagkok-airways-business-plan-2024" alt="“บางกอกแอร์เวย์ส” วางเป้าปี 67 ผู้โดยสาร 4.5 ล้านคน รายได้แตะ 1.78 หมื่นล้านบาท">“บางกอกแอร์เวย์ส” วางเป้าปี 67 ผู้โดยสาร 4.5 ล้านคน รายได้แตะ 1.78 หมื่นล้านบาท</a> <a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

AWC ผนึก Melia ร่วมพัฒนาสองโรงแรมใหม่ในพัทยา

<h2>บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC เตรียมเปิดโครงการค้าส่ง “AEC FOOD WHOLESALE PRATUNAM” (เออีซี ฟู๊ด โฮเซล ประตูน้ำ) หรือ “AFP” ศูนย์กลางค้าส่งอาหารระดับโลก ในวันที่ 26 มิถุนายน 2567 นี้ ตอบรับกระแสความสนใจของผู้ประกอบการในภาคธุรกิจค้าส่งอาหารทั่วโลกที่มีการเติบโตสูง</h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ทั้งนี้ AFP จะมาพร้อม PhenixBox แพลตฟอร์มการค้าส่งอาหารครบวงจรเชื่อมต่อออนไลน์และออฟไลน์ครั้งแรกของโลก ภายใต้รูปแบบ “Integrated Wholesale Platform for Non-Stop Opportunity” โดยการผนึกกำลังเครือข่ายพันธมิตรผู้ซื้อกลุ่มธุรกิจด้านอาหาร เริ่มจากกลุ่มโรงแรมในเครือ AWC ต่อเนื่องไปถึงพันธมิตรอื่นๆ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;โดยวันนี้ AWC พร้อมเชิญชวนพันธมิตรเชนโรงแรมต่างๆ ห้องอาหาร บริการจัดเลี้ยง สายการบิน เครือโรงพยาบาล เชฟชั้นนำทั่วโลก และผู้ซื้อกลุ่มอาหารอื่นๆ เข้าลงทะเบียนบนแพลตฟอร์มดังกล่าว เพื่อตอบโจทย์การเติบโตของธุรกิจร่วมกันอย่างแข็งแกร่ง&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;สำหรับ “PhenixBox” ออนไลน์จะเชื่อมต่อกับจุดหมายปลายทางออฟไลน์ทางด้านอาหารย่านประตูน้ำใจกลางเมืองที่ AEC FOOD WHOLESALE PRATUNAM ที่จะมีสินค้าอาหารใน 8 กลุ่ม อาทิ อาหารแช่แข็ง อาหารแช่เย็นและผลิตภัณฑ์จากนม เครื่องปรุงและวัตถุดิบ ข้าวและธัญพืช เครื่องดื่ม กาแฟและชา ขนมขบเคี้ยวและขนมหวาน และนวัตกรรมอาหารและเทคโนโลยี จากทั้งผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่ายชั้นนำทั้งในประเทศและต่างประเทศ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกในการเลือกสินค้าและเจรจาธุรกิจ ด้วยพื้นที่ Food Lounge ขนาดใหญ่ พื้นที่ Co-Living พื้นที่ครัวสาธิต Taste Kitchen ให้ผู้ซื้อสามารถทดสอบผลิตภัณฑ์เพื่อประกอบการตัดสินใจ ศูนย์ให้บริการทางด้านธุรกิจ (SSC) ห้องประชุม ห้องสัมมนา Auditorium รวมไปถึงพื้นที่จัดกิจกรรม อาทิ Cooking Show หรือการแข่งขัน Food Professional Competition เพื่อร่วมสร้าง Food Community อย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี ให้ตอบโจทย์ทีมจัดซื้อ และเชฟของธุรกิจอาหาร&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;AWC จึงขอเชิญชวนกลุ่มพันธมิตรผู้ซื้อชั้นนำให้ลงทะเบียนใน “PhenixBox” เพื่อเข้าถึงกลุ่มผู้ขายและผู้ประกอบการระดับคุณภาพจากทั่วโลกได้โดยตรงและรวดเร็วในราคาต้นทาง (Buy at the Best Price) ด้วยตัวเลือกผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุด (Buy at the Best Choices) จากผู้ผลิตชั้นนำ Trusted Sellers ที่มีความน่าเชื่อถือและได้รับการรับรองเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้ซื้อ (Buy with Trust) พร้อมอำนวยความสะดวก (Buy with Convenience) อย่างครบวงจร&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;AWC ระบุว่า ผู้ซื้อและผู้ขายที่ “AEC FOOD WHOLESALE PRATUNAM” จะได้รับความสะดวกมากมาย อาทิ Service Solution Center ศูนย์ให้บริการทางด้านธุรกิจ ช่วยอำนวยความสะดวกและเชื่อมต่อพันธมิตรที่น่าเชื่อถือ Share Shop โมเดลใหม่สำหรับผู้ประกอบการ เพื่อช่วยให้สามารถขยายธุรกิจได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น และบริหารต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ Taste Kitchen พื้นที่ครัวสาธิตสำหรับนำเสนอนวัตกรรมอาหารใหม่ๆ และทดลองเมนูสุดพิเศษ รวมถึงพื้นที่ Co-Living สู่การเป็นจุดหมายปลายทางด้านการค้าส่งอาหารอย่างครบวงจร&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;สำหรับ “AEC FOOD WHOLESALE PRATUNAM” ได้รับการพัฒนาขึ้นภายใต้แนวคิด “Integrated Wholesale Platform for Non-Stop Opportunity” ผ่าน 3 องค์ประกอบสำคัญ ประกอบไปด้วย Integrated Business Platform ขยายขีดความสามารถธุรกิจการค้าส่งแบบบูรณาการผ่านแพลตฟอร์มออฟไลน์ เชื่อมต่อได้ตลอด 365 วัน และออนไลน์แพลตฟอร์มได้ตลอด 24 ชั่วโมง&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;โดย “AEC FOOD WHOLESALE PRATUNAM” ศูนย์กลางการจัดซื้อและการค้าส่งสินค้าด้านอาหารใจกลางกรุงเทพฯ ตั้งอยู่บนพื้นที่ยุทธศาสตร์ย่านประตูน้ำเชื่อมต่อรถไฟฟ้าตรงหน้าโครงการ ด้วยพื้นที่รวมกว่า 68,000 ตารางเมตร ประกอบไปด้วยพื้นที่สำหรับร้านค้าผู้ค้าส่งอาหารชั้นนำกว่า 800 ร้านค้า และพื้นที่ Share Shop อีกกว่า 1,600 ยูนิต&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;พร้อมจัดสรรพื้นที่บริการเพื่อส่งเสริมและรองรับความต้องการทางธุรกิจให้กับผู้ประกอบการการในทุกขั้นตอน ผ่านโมเดลทางธุรกิจรูปแบบใหม่ที่จะช่วยบริหารจัดการทรัพยากรได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นด้านโลจิสติกส์ พื้นที่จัดเก็บสินค้า ตลอดจนการบริหารจัดการทรัพยากรบุคคล รวมถึงพื้นที่สำหรับเติมเต็มประสบการณ์การค้าส่งเพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์อย่างครบวงจร&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นอกจากนี้ AWC ยังได้ร่วมมือกับพันธมิตรในอุตสาหกรรมการค้าส่งระดับโลกอย่าง Koelnmesse บริษัทผู้จัดงานแสดงสินค้าชั้นนำระดับโลกจากประเทศเยอรมนี รวมถึง Zhejiang China Commodities City Group (Yiwu CCC Group) ผู้พัฒนาและบริหารตลาดค้าส่งสินค้าเบ็ดเตล็ดที่ใหญ่ที่สุดในโลกจากเมืองอี้อู ประเทศจีน รวมถึงกลุ่มผู้ผลิตอาหารคุณภาพระดับโลกของไทย อาทิ บริษัท ซีพีเอฟ โกล บอล ฟู้ด โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) บริษัท เบทาโกร จํากัด (มหาชน) บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) และ บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน)&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;AWC ระบุว่า AEC FOOD WHOLESALE PRATUNAM พร้อมด้วยเครือข่ายพันธมิตรทางธุรกิจชั้นนำ พร้อมแล้วที่จะก้าวสู่การเป็นจุดหมายปลายทางค้าส่งอาหารครบวงจรระดับโลก เชื่อมโยงผู้ซื้อผู้ประกอบการร่วมขับเคลื่อนอุตสาหกรรมธุรกิจอาหารตอบโจทย์การเติบโตอย่างแข็งแกร่ง&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;โดยผู้ซื้อที่สนใจสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมเครือข่ายแพลตฟอร์มออนไลน์ “PhenixBox” ได้ที่ https://account.phenixbox.com/register?mode=customer เพื่อเตรียมพบกับผู้ขายคุณภาพชั้นนำระดับโลก พร้อมกันวันที่ 26 มิถุนายนนี้ และสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ผ่านทางโทรศัพท์ 062-591-4053 และ 062-196-1614 หรือ อีเมล saranyarat.h@assetworldcorp-th.com และ nuttha.m@assetworldcorp-th.com เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ :&nbsp;<a target="_blank" href="https://forbesthailand.com/news/marketing/central-chidlom-big-renovate-in-50-years" alt="‘ห้างเซ็นทรัล’ ทุ่ม 4 พันล้านบาท ปรับใหญ่ ‘ชิดลม’ รอบ 50 ปี สู่ห้างลักชัวรีเทียบชั้นห้างหรูยุโรป">‘ห้างเซ็นทรัล’ ทุ่ม 4 พันล้านบาท ปรับใหญ่ ‘ชิดลม’ รอบ 50 ปี สู่ห้างลักชัวรีเทียบชั้นห้างหรูยุโรป</a> <a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

เปิดแน่ 26 มิ.ย.นี้ “AEC FOOD WHOLESALE PRATUNAM” ศูนย์ค้าส่งอาหารย่านประตูน้ำจาก AWC

AWC ปี 66 กวาดกำไร 5,015 ล้าน สูงสุดเป็นประวัติการณ์ เตรียมลงทุนอีก 1.26 แสนล้านใน 5 ปี

AWC เปิด “The Empire Residence” Co-Living ในตึกเอ็มไพร์เอาใจผู้เช่า รวม Live, Play, Share, Work ไว้ในที่เดียว

<h2>AWC ประกาศผลประกอบการไตรมาส 3/2566 กำไรสุทธิ 1,136 ล้านบาท รวม 9 เดือนแรกกำไรสุทธิ 3,746 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 40% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และสูงกว่าช่วงเดียวกันก่อนสถานการณ์โควิด-19 ในปี 2562</h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;วัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC เผยผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2566 ตามงบการเงินรวมมูลค่ายุติธรรม มีรายได้รวมกว่า 4,666 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 20.4 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) และมีกำไรสุทธิ 1,136 ล้านบาท ซึ่งเป็นการเติบโตต่อเนื่องอย่างแข็งแกร่งแม้อยู่ในช่วงโลว์ซีซั่น&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;และตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาสามารถผลักดันศักยภาพของทรัพย์สิน Ramp Up สู่ระดับดำเนินงานปกติ มูลค่ากว่า 12,500 ล้านบาท สร้างผลตอบแทนกระแสเงินสดสูงถึงร้อยละ 10.2 (EBITDA Yield)&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ทั้งนี้ในไตรมาส 3/2566 บริษัทมีทรัพย์สินดำเนินงานที่สามารถสร้างรายได้อยู่ที่กว่าร้อยละ 85 รวมมูลค่า 125,758 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 52 เทียบกับช่วงก่อนโควิด-19 ในปี 2562 โดยสะท้อนศักยภาพการดำเนินงานตามกลยุทธ์ GROWTH-LED Strategy โดยสามารถเปิดตัวโรงแรมและห้องอาหารหลากหลายแห่งในไตรมาส 3 รวมมูลค่ารวมกว่า 10,000 ล้านบาท&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“ผลการดำเนินงานใน 9 เดือนแรกตามงบการเงินของปี 2566 AWC มีการเติบโตต่อเนื่องในทุกกลุ่มธุรกิจ โดยมีกำไรจากการดำเนินงาน (อิบิทดากลุ่มธุรกิจ) ที่ 7,990 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 28.9 เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YOY)&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ซึ่งเป็นผลมาจากกลุ่มธุรกิจโรงแรมและการบริการที่เติบโตขึ้นอย่างแข็งแกร่ง โดยเฉพาะกลุ่มโรงแรมในกรุงเทพฯ และโรงแรมอื่นๆ นอกกรุงเทพฯ ที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวเข้าพักโรงแรมในเครือ AWC เพิ่มขึ้น ส่งผลให้อัตรารายได้เฉลี่ยต่อห้องพัก (RevPAR) ใน 9 เดือนแรกของปี สูงถึง 3,619 บาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 87.6 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY)&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;สำหรับกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์ (Retail, Wholesale and Commercial) AWC ได้ปรับกลยุทธ์ในการเพิ่มความสามารถด้านการแข่งขันให้กับโครงการในพอร์ตโฟลิโออย่างต่อเนื่อง พร้อมตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้าและนักท่องเที่ยวในยุคปัจจุบัน เพื่อเสริมศักยภาพการเติบโตของกระแสเงินสดในระยะยาว”กลุ่มธุรกิจโรงแรมและการบริการ (Hospitality)&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ในไตรมาส 3/2566 ผลการดำเนินงานตามงบการเงินของกลุ่มธุรกิจโรงแรมและการบริการมีกำไรจากการดำเนินงาน (อิบิทดา) อยู่ที่ 692 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 40.9 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;โดยมีอัตราการเปรียบเทียบราคาห้องพักและอัตราการเข้าพัก (Revenue Generation Index หรือ RGI) ในภาพรวมสูงกว่าค่าเฉลี่ยเมื่อเทียบกับโรงแรมในกลุ่มเดียวกันที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียง อาทิ โรงแรม Courtyard by Marriott Phuket Town มีค่า RGI เท่ากับ 254 และโรงแรม Bangkok Marriott Hotel The Surawongse เท่ากับ 218 เป็นต้น&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นอกจากนี้ AWC ยังมุ่งเสริมความแข็งแกร่งพอร์ตโฟลิโอกลุ่มโรงแรมที่ตั้งอยู่ในทําเลยุทธศาสตร์ เสริมศักยภาพด้วยการพัฒนาโครงการคุณภาพในพอร์ตโฟลิโอ พร้อมร่วมมือกับเครือข่ายพันธมิตรระดับโลก เพื่อสนับสนุนการเติบโตของทรัพย์สินดำเนินงานในการสร้างกำไรจากการดำเนินงาน (อิบิทดากลุ่มธุรกิจ) อย่างต่อเนื่อง​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-none" contenteditable="false"><figure style="margin: 0px;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/11/n5PSAoRYwifSmzY7ktYW.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="none" data-file-name="n5PSAoRYwifSmzY7ktYW.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="0"></figure></div> กลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์ (Retail, Wholesale and Commercial)&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;สำหรับกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อประกอบกิจการค้าปลีก (Retail) ในไตรมาส 3/2566 มีกำไรจากการดำเนินงาน (อิบิทดา) ตามงบการเงินอยู่ที่ 963 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 124.4 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;เนื่องจากการปรับปรุงพัฒนาศูนย์การค้าให้เข้ากับกลยุทธ์การตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะศูนย์การค้าเพื่อการท่องเที่ยว อาทิ โครงการเอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ เดสติเนชั่น ที่ได้ปรับกลยุทธ์การตลาดสู่การเป็นรีเทล-เทนเม้นท์ริมแม่น้ำที่ใหญ่ที่สุด ซึ่งช่วยให้มีจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเข้ามาใช้บริการเพิ่มสูงขึ้น&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นอกจากนี้ สำหรับธุรกิจค้าส่ง (Wholesale) AWC ได้ร่วมมือกับ “Koelnmesse” ผู้จัดงานแสดงสินค้าชั้นนำระดับโลกจากเมืองโคโลญ ประเทศเยอรมนี ร่วมยกระดับอุตสาหกรรมการค้าส่งไทย สร้างเครือข่ายระดับโลกเพื่อเชื่อมโยงพันธมิตร ผู้ซื้อ และผู้ขายผ่านฐานเครือข่ายของ AWC และ Koelnmesse สนับสนุนประเทศไทยสู่ศูนย์กลางการสรรหาสินค้า (International Sourcing Hub) ที่แข็งแกร่งและยั่งยืนในระดับภูมิภาค&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;กลุ่มธุรกิจอาคารสำนักงาน (Commercial) ยังคงเป็นธุรกิจที่สร้างกระแสเงินสดให้แก่บริษัทอย่างต่อเนื่อง โดยในไตรมาส 3/2566 มีอัตราค่าเช่าเพิ่มสูงขึ้นร้อยละ 4 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;เป็นผลจากกลยุทธ์การยกระดับอาคารสำนักงานให้เป็นจุดหมายปลายทางสำหรับองค์กรและคนทำงานรุ่นใหม่ทั่วโลก (Global Workforce Destination) อาทิ การเปิดตัว “Co-Living Collective: Empower Future” ของอาคารเอ็มไพร์ ไลฟ์สไตล์สเปซแห่งใหม่ที่รองรับเทรนด์อนาคตในการผสมผสานการทำงานและการใช้ชีวิตเข้าด้วยกัน&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;รวมถึงการได้ต้อนรับ 2C2P บริษัทผู้ให้บริการแพลตฟอร์มการชำระเงินระดับโลก เปิดสำนักงานแห่งใหม่ที่อาคารเอ็มไพร์ พร้อมร่วมขับเคลื่อนดิจิทัลอีโคซิสเต็มในอาคาร เชื่อมต่อผู้เช่าและพนักงานของบริษัทชั้นนำเข้าด้วยกัน ตอกย้ำอาคารสำนักงานรูปแบบใหม่ที่ผสานการทำงานและไลฟ์สไตล์อย่างลงตัวที่แท้จริง เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ :&nbsp;<a target="_blank" href="https://forbesthailand.com/news/property/rml-luxury-condo-tait-sathorn-12-sale-exceed-target-2-6-billions-bath" alt="ไรมอน แลนด์ ปลื้ม &quot;เทตต์ สาทร ทเวลฟ์&quot; ยอดขายทะลุ 97% คาดยอดโอนสิ้นปีทะลุเป้า 2.6 พันล้าน">ไรมอน แลนด์ ปลื้ม "เทตต์ สาทร ทเวลฟ์" ยอดขายทะลุ 97% คาดยอดโอนสิ้นปีทะลุเป้า 2.6 พันล้าน</a> <a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

AWC ไตรมาส 3/2566 กำไรสุทธิ 1,136 ล้านบาท เติบโตต่อเนื่องแม้เป็นช่วงโลว์ซีซั่น

AWC เผยผลประกอบการ Q2 กำไร 1,116 ล้านบาท พร้อมเดินหน้าขยายธุรกิจเติบโตก้าวกระโดด

<h2>บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป หรือ AWC เตรียมเปิดตัวศูนย์กลางค้าส่งอาหาร “เออีซี ฟู้ด โฮเซล ประตูน้ำ” ด้วยมูลค่าโครงการรวม 1 หมื่นล้านบาท พร้อมตั้งเป้าสู่ฮับในระดับภูมิภาคอาเซียน&nbsp;</h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;วัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC กล่าวว่า บริษัทเตรียมเปิดตัวโครงการค้าปลีกแห่งใหม่ "เออีซี ฟู้ด โฮเซล ประตูน้ำ" (AEC FOOD WHOLESALE PRATUNAM) ที่มีขนาดใหญ่สุด และอยู่ใจกลางประตูน้ำในช่วงปลายเดือนมิถุนายนนี้ โดยโครงการดังกล่าวใช้งบลงทุนราว 6,500 ล้านบาท ซึ่งเป็นงบประมาณรวมตั้งแต่การเข้าไปลงทุนซื้อห้างพันธุ์ทิพย์และมีการปรับรีโนเวทโครงการใหม่ และมีมูลค่าโครงการรวมอยู่ที่ 1 หมื่นล้านบาท&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;"ศูนย์แห่งนี้จะสนับสนุนให้ประเทศไทยเป็นประตูเชื่อมของอุตสาหกรรมการค้าส่งในตลาด AEC หรือ ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนกว่า 10 ประเทศสมาชิก ถือเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูงด้วยจำนวนประชากรรวมกว่า 700 ล้านคน โดยไทยยังมีศักยภาพในการเชื่อมต่อการค้าส่งไปยังประเทศต่างๆ ได้อย่างสะดวกผ่านโครงสร้างพื้นฐานด้านโลจิสติกส์ที่แข็งแกร่งซึ่งจะช่วยสนับสนุนให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางค้าส่งอาหารของภูมิภาคได้ในอนาคต”&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวได้วางรูปแบบให้เป็นศูนย์กลางค้าส่งอาหารของภูมิภาค เชื่อมเครือข่ายค้าส่ง (WHOLESALE ECO-SYSTEM) และมีการพัฒนาแพลตฟอร์มค้าส่งที่เชื่อมโยงออนไลน์-ออฟไลน์ (ONLINE-OFFLINE INTEGRATION) อย่างครบวงจร&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ซึ่งคาดว่าจะมีภาคเอกชนที่สนใจเข้ามาอยู่ในพื้นที่รวม 600 ร้านค้า อาทิ อาหารแช่แข็ง อาหารแช่เย็นและผลิตภัณฑ์จากนม เครื่องปรุงและวัตถุดิบ ข้าว เครื่องดื่ม กาแฟและชา ขนมขบเคี้ยวและขนมหวาน และของใช้ในครัวเรือน&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ขณะเดียวกันได้วางรูปแบบที่เปิดให้ทั้งผู้ซื้อและผู้ขายสามารถพบปะเจรจาธุรกิจกันผ่านออฟไลน์แพลตฟอร์มได้ตลอด 365 วัน และออนไลน์แพลตฟอร์มได้ตลอด 24 ชั่วโมง&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;จึงเป็นการเชื่อมต่อผู้ซื้อผู้ขายข้ามทวีปให้สามารถทำธุรกิจได้ง่ายขึ้นทั้งจากไทยและในภูมิภาคอาเซียน รวมทั้งยังวางเป้าหมายในระยะยาวที่จะผลักดันให้เป็นศูนย์กลางของภูมิภาคอาเซียน<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false" style="min-width: 100%; width: 100%;"><figure style="margin: auto; width: 100%;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/04/5rr1ic3G347gMkqkj9JR.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="5rr1ic3G347gMkqkj9JR.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="100%," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="100," style="width: 100%;" data-index="0"></figure></div>&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;สำหรับการเลือกเปิดโครงการนี้ที่ย่านประตูน้ำ เนื่องจากเป็นพื้นที่ของบริษัทที่ได้ทำศูนย์ค้าส่ง "AEC Trade Center Pantip Pratunam” ไว้อยู่แล้ว จากเดิมเป็นพันธุ์ทิพย์ จึงเป็นการเปลี่ยนชื่อใหม่สู่ เออีซี ฟู้ด โฮเซล ประตูน้ำ “AEC FOOD WHOLESALE PRATUNAM"&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;โดย AEC FOOD WHOLESALE PRATUNAM มีขนาดพื้นที่กว่า 10 ไร่ มีพื้นที่อาคารรวม (Gross Floor Area) กว่า 6.70 หมื่นตารางเมตร และเป็นพื้นที่ค้าปลีก 3 หมื่น ตร.ม.โดยศูนย์ค้าส่งนี้จะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้ซื้อทั่ว AEC&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;อย่างไรก็ตาม การจัดทำโครงการนี้ได้มีความร่วมมือจากหลายภาคส่วน ทั้งภาครัฐ อาทิ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงอุตสาหกรรม และอี้อู (Yiwu) ผู้พัฒนาและบริหารตลาดค้าส่งสินค้าเบ็ดเตล็ดที่ใหญ่ที่สุดในโลกจากเมืองอี้อู สาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งได้มีการลงนามความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับทาง AWC เมื่อเดือนมี.ค. ที่ผ่านมา&nbsp;&nbsp; &nbsp; รวมถึงหอการค้าจากประเทศต่างๆ อาทิ สภาหอการค้าอังกฤษแห่งประเทศไทย หอการค้าไทย-จีน หอการค้าออสเตรเลีย-ไทย หอการค้าไทย-แคนาดา หอการค้าไทย-นิวซีแลนด์ หอการค้าสวิส-ไทย สมาคมหอการค้าไทย-สเปน&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นอกจากนี้ ยังมีภาคเอกชนผู้นำธุรกิจอาหารชั้นนำของไทย อาทิ บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) บริษัท ซีพีเอฟ โกล บอล ฟู้ด โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) บริษัท เบทาโกร จํากัด (มหาชน) บริษัท พี อาร์ จี คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) บริษัท ทิปโก้ฟูดส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) และบริษัท เคซีจี คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ร่วมด้วย อ่านเพิ่มเติม:&nbsp;<a href="https://www.forbesthailand.com/news/property/%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%99%E0%B8%B5%E0%B8%A2-%E0%B9%84%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B9%8B%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B9%82%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%94%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%A8%E0%B8%A3%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%A1%E0%B8%97%E0%B8%B8%E0%B8%99%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%92%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%9A%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B8%A3" alt="“บริทาเนีย” ไอเดียเก๋เปิดโอกาสให้เจ้าของที่ดินทั่วประเทศร่วมทุนพัฒนาบ้านจัดสรร">“บริทาเนีย” ไอเดียเก๋เปิดโอกาสให้เจ้าของที่ดินทั่วประเทศร่วมทุนพัฒนาบ้านจัดสรร</a>​ <hr class="__se__dashed"><a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

AWC เล็งฮับระดับอาเซียนเปิดตัว “ศูนย์กลางค้าส่งอาหาร” มูลค่าหมื่นล้านย่านประตูน้ำ

<h2>AWC&nbsp;เตรียมพัฒนาพื้นที่ช้างคลาน จ.เชียงใหม่ให้เป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวชั้นนำของประเทศ หลังลงนามสัญญาจะซื้อจะขาย&nbsp;“โรงแรมดุสิต ดีทู เชียงใหม่”&nbsp;พร้อมผนึกกำลังโรงแรมในเครือกระตุ้นการท่องเที่ยวภาคเหนือ ต้อนรับนักเดินทางจากทุกมุมโลก</h2>&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;วัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ&nbsp;AWC&nbsp;เปิดเผยว่า&nbsp;“AWC&nbsp;มุ่งยกระดับจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวยุทธศาสตร์ของภาคเหนือ ให้เป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวเชิงศิลปะวัฒนธรรมชั้นนำของประเทศ โดยบริษัทมีแผนเสริมศักยภาพการเชื่อมต่อของกลุ่มธุรกิจโรงแรมของ&nbsp;AWC&nbsp;ทั้ง&nbsp;4&nbsp;แห่ง รวมถึงโรงแรมดุสิต ดีทู เชียงใหม่ ซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณต่อเนื่อง มีมูลค่าทั้งหมดรวมกว่า&nbsp;12,900&nbsp;ล้านบาท เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายของนักท่องเที่ยว พร้อมสร้างความแข็งแกร่งด้านกระแสเงินสดให้แก่บริษัทในระยะยาว” <div class="se-component se-image-container __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2022/12/T4tBzP5PTTZKngEmozAt.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="T4tBzP5PTTZKngEmozAt.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" origin-size="650,978" style="" data-index="0"><figcaption>วัลลภา ไตรโสรัส&nbsp;<div>ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่&nbsp;บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ&nbsp;AWC</div></figcaption></figure></div>​ &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;การลงนามสัญญาจะซื้อจะขาย “โรงแรมดุสิต ดีทูเชียงใหม่”&nbsp;ขนาด&nbsp;130&nbsp;ห้องพัก ตั้งอยู่บนถนนช้างคลาน อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ติดกับ “เชียงใหม่ ไนท์บาซาร์”&nbsp;แหล่งท่องเที่ยวและช้อปปิ้งชื่อดังใจกลางเมืองนี้ มีมูลค่าเงินลงทุนและงบพัฒนาโครงการรวมกว่า&nbsp;944&nbsp;ล้านบาท&nbsp;ประกอบไปด้วยสัญญาจะซื้อจะขายที่ดิน สิ่งปลูกสร้าง และทรัพย์สินประเภทสังหาริมทรัพย์ที่ใช้ในการประกอบกิจการโรงแรมของ&nbsp;“โรงแรม ดุสิต ดีทู เชียงใหม่”&nbsp;จากบริษัท หลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) ในฐานะทรัสตีของทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าดุสิตธานี (DREIT)&nbsp;และสัญญาจะซื้อจะขายกรรมสิทธิ์ที่ดินข้างเคียง&nbsp;“โรงแรมดุสิต ดีทู เชียงใหม่”&nbsp;และสิ่งปลูกสร้าง จากบริษัท ดุสิต ไทยพร็อพเพอร์ตี้ส์ จำกัด (มหาชน) รวมถึงสัญญาให้เช่า “โรงแรม ดุสิต ดีทู เชียงใหม่” แก่ บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) เป็นระยะเวลา&nbsp;3&nbsp;ปี และสิทธิในการต่อระยะเวลาอีก&nbsp;3&nbsp;ปี ซึ่งดำเนินการผ่านบริษัท เชียงใหม่ โฮเทลล์ คอลเลกชั่น จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ&nbsp;AWC&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ปัจจุบัน&nbsp;AWC&nbsp;มีสินทรัพย์ในเครือในจังหวัดเชียงใหม่ ประกอบไปด้วย&nbsp;ศูนย์การค้าพันธุ์ทิพย์ เชียงใหม่&nbsp;โรงแรมเลอ เมอริเดียน เชียงใหม่ โรงแรมมีเลีย เชียงใหม่ รวมถึงโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล เชียงใหม่ แม่ปิง ที่เตรียมจะเปิดให้บริการในเร็วๆ นี้ อ่านเพิ่มเติม:&nbsp;<ul><li>​<a href="https://www.forbesthailand.com/news/it/%E0%B8%9A%E0%B8%B4%E0%B8%AA%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%95-%E0%B9%82%E0%B8%8B%E0%B8%A5%E0%B8%B9%E0%B8%8A%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%99-%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B8%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B9%8C%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%97%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%96%E0%B8%B4%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A2%E0%B8%B8%E0%B8%81%E0%B8%95%E0%B9%8C%E0%B9%83%E0%B8%8A%E0%B9%89-ai" alt="บิสกิต โซลูชั่น หนุนองค์กรท้องถิ่นประยุกต์ใช้ AI">บิสกิต โซลูชั่น หนุนองค์กรท้องถิ่นประยุกต์ใช้ AI</a>​</li><li><a href="https://forbesthailand.com/news/it/tatacommunications-theswitchenterprises" alt="Tata Communications ซื้อกิจการ The Switch ในสหรัฐ">Tata Communications ซื้อกิจการ The Switch ในสหรัฐ</a>​</li></ul><hr class="__se__solid">​ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก <a href="https://forbes-admin-v2.vercel.app/cms-post-edit/69770/อ่านเพิ่มเติม: “สกาย กรุ๊ป” เผยผลประกอบการปี 66 โตจากแรงหนุนท่องเที่ยว​ ​ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine" alt="Forbes Thailand Magazine">Forbes Thailand Magazine</a>​

AWC ลงนามซื้อ "ดุสิต ดีทู เชียงใหม่" เสริมความแกร่งพื้นที่ภาคเหนือ

AWC เปิดตัว “มีเลีย เชียงใหม่” เพิ่มพอร์ตโรงแรมคุณภาพ เสริมแกร่งภาคเหนือ

วัลลภา ไตรโสรัส เต็มที่ทุกบทบาทของนายหญิงแห่ง "AWC"

วัลลภา ไตรโสรัส แม่ทัพ AWC POWER OF LAND DEVELOPER

Forbes Thailand คุยกับ “วัลลภา ไตรโสรัส” นักธุรกิจหญิงรุ่น 2 ของตระกูล “สิริวัฒนภักดี” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC อสังหาริมทรัพย์พอร์ตใหญ่ที่สุดในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศ ถึงการประคองกิจการในเครือท่ามกลางวิกฤตโควิด

https://youtu.be/DeCoMVoN43s

&nbsp;

<hr />

รับชมบทสัมภาษณ์ของบุคคลที่น่าสนใจ กดติดตามแชลเนลวิดีโอของเราบนยูทูบได้ที่ <a href="https://www.youtube.com/user/ForbesThai">Forbes Thailand Magazine</a>

วัลลภา ไตรโสรัส แม่ทัพ AWC (Video)

<h2>อดีตอันรุ่งเรืองของเรือสำเภา 3 เสาของราชนาวีไทยถูกรื้อฟื้นขึ้นหลังผ่านไป 127 ปี เมื่อบริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC ได้ถอดแบบสร้างเรือขึ้นมาใหม่ด้วยความประณีตบรรจงโดยใช้ชื่อว่า “เรือสิริมหรรณพ”</h2>
เรือสิริมหรรณพ กลับมาตั้งอยู่ ณ ที่เดิม ซึ่งเป็นสำนักงานใหญ่ของ บริษัท อีสต์เอเชียติ๊กเทรดดิ้ง ริมแม่น้ำเจ้าพระยา (ซ. เจริญกรุง 72) ซึ่งเป็นพื้นที่ตั้งของโครงการเอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ ในปัจจุบัน

เรือสำเภา 3 เสาลำใหม่นี้สร้างขึ้นเพื่อเป็นสถานที่พบปะสังสรรค์และจัดงานเลี้ยงหรูหราบนแม่น้ำเจ้าพระยา ด้วยบรรยากาศย้อนยุคสมัยของการค้าขายและมรดกอันรุ่งเรืองของไทยในอดีต บริการอาหาร เครื่องดื่ม และดนตรี เป็นเรือสำเภาเทียบท่าแบบถาวรเพื่อเป็นแหล่งสันทนาการ ให้ผู้คนได้ลิ้มลองอาหารเลิศรส และสัมผัสบรรยากาศความรุ่งเรืองในอดีต ที่รังสรรค์โดยโรงแรม แบงค็อก แมริออท มาร์คีส์ ควีนส์ปาร์ค

เมนูหลักที่นำเสนอกับผู้มาเยือนได้รับแรงบันดาลใจจากเส้นทางการเดินเรือในอดีต บางเมนูรังสรรค์ขึ้นใหม่ เช่น ค็อกเทล เครื่องดื่มซิกเนเจอร์ต่างๆ และอาหารเบาๆ ที่สามารถแบ่งปันกันรับประทานได้ สะท้อนเส้นทางการค้าจากประเทศไทยสู่ทั่วโลกในประวัติศาสตร์ของเรือลำนี้

<img class="alignnone size-full wp-image-40978" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/02/เรือสิริมหรรณพ-web-01.jpg" alt="" width="720" height="480" />

เรือสิริมหรรณพ รองรับแขกได้ราว 300 คน แบ่งพื้นที่ออกเป็น 2 ชั้น ประกอบด้วยชั้นบน (upper deck) และชั้นล่าง (lower deck) ชั้นบนเป็นพื้นที่โล่งรองรับแขกได้ประมาณ 200 คน สามารถผ่อนคลาย และดื่มด่ำกับทัศนียภาพของแม่น้ำ ซึ่งงดงามเป็นพิเศษยามพระอาทิตย์ตก และแสงไฟจากเมืองสะท้อนเงาบนระลอกคลื่นของแม่น้ำ

แม้จะเป็นเรือที่จอดเทียบท่า แต่ก็ได้รับการออกแบบจัดสรรพื้นที่เสมือนล่องลำน้ำจริง โดยกราบขวาของเรือมีเก้าอี้สูงเรียงรายให้ซึมซับวิถีชีวิตริมแม่น้ำ เสริมบรรยากาศด้วยเสียงเพลงที่ฟังสบาย และรายการบันเทิงต่างๆ เวียนมาให้ความรื่นรมย์ ทั้งวงดนตรีสด โชว์การแสดง และการจัดธีมปาร์ตี้ต่างๆ

ชั้นบนของเรือมีห้องวีไอพี เดอะ บริดจ์ (The Bridge) รองรับแขกได้สูงสุด 6 คนสามารถอิ่มอร่อยกับเชตเมนูที่มาพร้อมคำเชื้อเชิญของกัปตันให้แขกคนพิเศษเปิดประตูเข้าสู่บาร์รัมที่ซ่อนตัวอยู่ภายใน ลิ้มรสรัมของชาวเรือที่เรียกว่า ท็อตส์ (tots) ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากสูตรผสมส่วนตัวของกัปตัน Hans Niels Andersen จับคู่กับผลไม้ดอง หรือช็อกโกแลตรสขม

ส่วนชั้นล่าง (lower deck) รองรับแขกได้ 100 คน เหมาะเป็นห้องจัดเลี้ยงแบบหรูหรางานปาร์ตี้ งานแต่งงาน ฯลฯ และยังมีความเป็นส่วนตัวยิ่งขึ้นกับห้องซีเคร็ท แคบินส์ (Secret Cabins) ที่พร้อมรองรับแขกได้ห้องละ 6 คนสำหรับโอกาสพิเศษต่างๆ

<img class="alignnone size-full wp-image-40979" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/02/เรือสิริมหรรณพ-web-03.jpg" alt="" width="720" height="480" />

**Hans Niels Andersen คือ ผู้ก่อตั้ง บริษัท อีสต์เอเชียติ๊กเทรดดิ้ง เขายังเป็นกัปตันเรือสำเภา 3 เสาของราชนาวีไทยในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (ปี 2411-2453) มีบทบาทสำคัญในการขนส่งสินค้าจากประเทศไทยสู่ทวีปยุโรป และเป็น 1 ในเรือ 6 ลำที่ทำหน้าที่ปกป้องสยามจากการรุกรานของยุโรปในปี 2436**

&nbsp;

&nbsp;

อ่านเพิ่มเติม:
<ul>
 	<li><a style="color: #008000;" href="https://forbesthailand.com/news/travel/%e0%b8%94%e0%b8%b8%e0%b8%aa%e0%b8%b4%e0%b8%95%e0%b8%98%e0%b8%b2%e0%b8%99%e0%b8%b5-%e0%b8%99%e0%b8%b3%e0%b8%a3%e0%b9%88%e0%b8%ad%e0%b8%87%e0%b9%82%e0%b8%a1%e0%b9%80%e0%b8%94%e0%b8%a5%e0%b9%83.html">“ดุสิตธานี” นำร่องโมเดลใช้ชีวิตวิถีใหม่ สร้างรายได้ Non-Room Business</a></li>
 	<li><a style="color: #008000;" href="https://forbesthailand.com/commentaries/special-report/mega-trend-for-life-%e0%b8%81%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b8%a7%e0%b8%97%e0%b8%b5%e0%b9%88%e0%b8%97%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b8%97%e0%b8%b2%e0%b8%a2%e0%b8%82%e0%b8%ad%e0%b8%87%e0%b9%82%e0%b8%a5%e0%b8%81-2.html">Mega Trend for Life ก้าวที่ท้าทายของโลกธุรกิจ ตอนที่ 2</a></li>
</ul>

<hr />

<a href="https://bit.ly/39D3aEN">คลิกอ่านฉบับเต็มและบทความทางด้านธุรกิจได้ที่นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนมกราคม 2564 ในรูปแบบ e-magazine</a>

<a href="https://bit.ly/39D3aEN"><img class="lazy alignnone wp-image-40948 lazy-loaded" src="https://i0.wp.com/forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/02/COVER-92-JANUARY-14-12-63--780x1024.jpg" sizes="(max-width: 300px) 100vw, 300px" srcset="//i0.wp.com/forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/02/COVER-92-JANUARY-14-12-63--780x1024.jpg 780w, //i0.wp.com/forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/02/COVER-92-JANUARY-14-12-63--229x300.jpg 229w, //i0.wp.com/forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/02/COVER-92-JANUARY-14-12-63--768x1008.jpg 768w" alt="" width="300" height="394" data-lazy-type="image" data-lazy-src="//i0.wp.com/forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/02/COVER-92-JANUARY-14-12-63--780x1024.jpg" data-lazy-srcset="//i0.wp.com/forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/02/COVER-92-JANUARY-14-12-63--780x1024.jpg 780w, //i0.wp.com/forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/02/COVER-92-JANUARY-14-12-63--229x300.jpg 229w, //i0.wp.com/forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/02/COVER-92-JANUARY-14-12-63--768x1008.jpg 768w" data-lazy-sizes="(max-width: 300px) 100vw, 300px" /></a>

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events