ทุนใหญ่ด้านอสังหาฯ-โรงแรม AWC เดินหน้าแผนธุรกิจท่องเที่ยวยั่งยืน นำร่องในโครงการพัฒนาเชียงใหม่ “ลานนาทีค” โฉมใหม่ย่านช้างคลาน เชื่อมแผนท่องเที่ยวจังหวัด สร้างรถแทรม แหล่งช็อปปิ้ง โรงแรมรองรับ
เมื่อวันที่ 19 พ.ค. 2568 กลุ่มทุนใหญ่ AWC ได้จัดงานเปิดตัวโครงการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ในคอนเซ็ปต์เมืองแห่งวัฒนธรรมและการประชุมสัมมนา ด้วยความพร้อมโรงแรมระดับสากล และห้องจัดงานไฮเทคอิมเมอร์ซีฟรูม 360 องศาเป็นแห่งแรกของโลกขึ้นที่โรงแรมเชียงใหม่ แมริออทโฮเทล โดยมีหน่วยงานท้องถิ่นนครเชียงใหม่และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เข้าร่วมแถลงข่าวความร่วมมือ

วัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จํากัด (มหาชน) หรือ AWC กล่าวว่า “AWC มุ่งมั่นเดินหน้าตามนโยบายของจังหวัดเชียงใหม่และ ททท. ร่วมสร้างการท่องเที่ยวยั่งยืนของเมืองเชียงใหม่ ด้วยรูปแบบ Innovative and Sustainable Tourism และ โมเดล ‘AWC’s Lifestyle Destination’ ที่โครงการ ลานนาทีค (Lannatique) ซึ่งเป็นการเชื่อมต่อ Innovative MICE Facility ของโรงแรมในกลุ่ม AWC คือโรงแรมเชียงใหม่ แมริออท โฮเทล ด้วยการเปิดห้องอิมเมอร์ซีฟบอลรูมแห่งแรกของโลกที่ห้องพลาย (Plaii Ballroom) ต่อเนื่องห้องประชุมรูปแบบหลากหลาย
นอกจากนี้ยังมีอาคารประชุมขนาดใหญ่ของโรงแรม อินเตอร์คอนติเนนตัล เชียงใหม่ แม่ปิง โฮเทล และ Lifestyle MICE ของโรงแรมมีเลีย เชียงใหม่ ซึ่งเป็นแอสเสทของ AWC ทำให้พร้อมรองรับทุกการจัดกิจกรรมระดับเวิลด์คลาส ต่อเนื่องถึงโครงการลานนาทีค และโครงการ Chiang Mai Tram by Lannatique หรือรถแทรมไฟฟ้าเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวผ่านการร่วมรวมพลังภาครัฐ ภาคเอกชน และชุมชน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนเชียงใหม่ สู่จุดหมายปลายทางท่องเที่ยวยั่งยืนเชิงสร้างสรรค์และอนุรักษ์

โครงการดังกล่าวช่วยยกระดับศักยภาพกลุ่มนักเดินทาง Innovative & Leisure MICE ด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน พร้อมรองรับการจัดกิจกรรมระดับโลก ด้วยการเปิด “Plaii Ballroom” เป็นห้องบอลรูมระบบอิมเมอร์ซีฟแห่งแรกของโลก ซึ่งประกอบด้วยจอ LED จากพื้นถึงเพดานครอบคลุมผนังทั้ง 4 ด้าน แสดงผลได้แบบ 360 องศา รองรับการจัดงานแบบ Innovative ทุกรูปแบบได้อย่างยืดหยุ่น
รวมถึงพื้นที่ใหม่เพื่อการประชุม ที่มาพร้อมห้องประชุมหลากหลายขนาด สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน อาทิ ห้อง “Suthep Hall” ขนาดใหญ่รองรับผู้ร่วมงานกว่า 800 คน รวมถึงห้องคาราโอเกะ และกอล์ฟซิมูเลเตอร์ เสริมศักยภาพโรงแรมเชียงใหม่ แมริออท โฮเทล ในการดึงดูดกลุ่มนักเดินทาง Innovative & Leisure MICE ระดับโลกเข้าสู่เชียงใหม่ เมื่อเชื่อมต่อกับโครงการ “Lannatique” แลนด์มาร์กศิลปวัฒนธรรมแห่งใหม่ของ AWC จะช่วยส่งเสริมความแข็งแกร่งของเชียงใหม่ เป็นจุดหมายปลายทางการประชุมสัมมนาระดับโลก
ลงทุนกว่าหมื่นล้านบาท
ลานนาทีคเป็นการพลิกโฉมย่านช้างคลาน สู่แลนด์มาร์กศิลปวัฒนธรรมระดับโลกใจกลางเชียงใหม่ ด้วยมนตร์เสน่ห์แห่งล้านนา สู่จุดหมายปลายทางแห่งคุณค่าและความสุขที่ยั่งยืน โดยพัฒนา “Lannatique” ให้เป็นไลฟ์สไตล์แลนด์มาร์กระดับโลกด้านการท่องเที่ยวเชิงศิลปะแห่งใหม่ บนย่านช้างคลาน ที่รวมวิถีชีวิตท้องถิ่นล้านนาและวัฒนธรรมร่วมสมัยเอาไว้ในพื้นที่เดียวกัน ภายใต้แนวคิด “The Heart of Lanna Art Movement”
โครงการนี้จะถ่ายทอดเรื่องราวศิลปะ วัฒนธรรม และประวัติศาสตร์ของอารยธรรมล้านนาอันทรงคุณค่ายาวนานกว่า 700 ปี ออกมาในรูปแบบ “หมู่บ้านศิลปะร่วมสมัย” เชื่อมโยงมรดกทางวัฒนธรรมเข้ากับการสร้างสรรค์ในโลกปัจจุบันอย่างกลมกลืน ผสานกับไลฟ์สไตล์ด้านสุขภาพ และผลิตภัณฑ์ชุมชนคุณภาพระดับโลก ด้วยมูลค่าการลงทุนเพิ่มกว่า 8,500 ล้านบาท รวมมูลค่าโครงการ “Lannatique” ทั้งหมด 11,950 ล้านบาท ประกอบไปด้วย 3 พื้นที่สำคัญ ได้แก่

Lannatique Kalare ครอบคลุมพื้นที่ศูนย์การค้ากว่า 17,500 ตารางเมตร ถ่ายทอดเสน่ห์แห่งศิลปวัฒนธรรมล้านนาและศิลปะสมัยใหม่ผ่าน 3 หมู่บ้านศิลป์ ได้แก่ Thai Craftsmanship Village หมู่บ้านศิลปะไทยและหัตถกรรมทรงคุณค่า Cultural Village หมู่บ้านวัฒนธรรมหลากหลายของชาติพันธุ์ และ Creative Art Village หมู่บ้านสร้างสรรค์ศิลปะแบบใหม่
พื้นที่ Experiential Shop นับเป็นครั้งแรกกับการนำเสนอผลิตภัณฑ์จากไทยที่ออกแบบมาเพื่อมอบประสบการณ์ใหม่ในการเรียนรู้ ผ่านกิจกรรมที่กระตุ้นให้ผู้มาเยือนได้เข้าถึงเรื่องราว แนวคิด และคุณค่าที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังแต่ละผลิตภัณฑ์อย่างลึกซึ้ง โดยจะเปิดให้บริการเฟสแรกในปี 2568 พร้อมปูรากฐานสู่การพัฒนาโรงแรมระดับโลกขนาด 55,000 ตารางเมตร ที่จะผสานกับ Attraction ระดับโลกขนาดใหญ่เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก
นอกจากนี้ยังมี “Lannatique Bazaar” ครอบคลุมพื้นที่ศูนย์การค้ากว่า 22,500 ตารางเมตร ภายใต้แนวคิด Contemporary Art กับพื้นที่ศิลปะร่วมสมัย รวมถึงโครงการโรงแรมที่ครอบคลุมพื้นที่กว่า 25,000 ตารางเมตร และ “Lannatique Market” ครอบคลุมพื้นที่ศูนย์การค้ากว่า 87,000 ตารางเมตร อยู่ระหว่างการศึกษาภายใต้คอนเซ็ปต์ในการสนับสนุนผลิตภัณฑ์จากชุมชนเพื่อช่วยเหลือสังคมอย่างยั่งยืน นับเป็นความร่วมมือในการสร้างประสบการณ์ศิลปะร่วมสมัย
โครงการ Lannatique Kalare ได้ร่วมมือกับพันธมิตรระดับแนวหน้า ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านศิลปะ การแสดง และอาหาร เพื่อเติมเต็มประสบการณ์การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมอย่างครบวงจร โดยเปิดพื้นที่ให้ศิลปิน ผู้ประกอบการ และชุมชนท้องถิ่นที่มีวิสัยทัศน์เข้ามามีบทบาทในการขับเคลื่อน และสร้างสรรค์ประสบการณ์พิเศษ เริ่มด้วยพันธมิตรชั้นนำที่จะส่งต่อคุณค่าของไทยสู่นักเดินทางจากทั่วโลก
โปรเจกต์ “6ixcret Show” โดย กันตภณ เนียมมณี นักออกแบบการแสดง เจ้าของผลงานสร้างสรรค์ในเชียงใหม่ และระดับประเทศ ร่วมกับทีมผู้บริหารและทีมงานผู้มีประสบการณ์จากเวทีการแข่งขันระดับนานาชาติ ซึ่งจะเข้าร่วมพัฒนาภายในโครงการ Lannatique Kalare เพื่อเปิดโรงละครภายใต้แบรนด์ STARGANZA LIVE นำเสนอการแสดง Cabaret Show ร่วมสมัยที่หลอมรวมศิลปะ แฟชั่น วัฒนธรรมล้านนาท้องถิ่น ถ่ายทอดออกมาในมิติที่ใหม่แบบอิมเมอร์ซีฟล้ำสมัย กล้าท้าทายและทรงพลัง พร้อมยกระดับการแสดงศิลปะในเชียงใหม่สู่มาตรฐานระดับสากล บนพื้นที่รวมมากกว่า 500 ตารางเมตร
ร้านเอกฉันท์ โดยเชฟเอก เอกพล พิชวงค์ ผู้สร้างสรรค์อาหารไทยท้องถิ่นชื่อดังจากมิชลินไกด์ในเชียงใหม่ ที่ให้ความสำคัญกับวัตถุดิบจากแหล่งออร์แกนิกท้องถิ่นและรสชาติที่สะท้อนเอกลักษณ์ของภูมิภาค เตรียมเปิดโมเดลใหม่ในโครงการ Lannatique Kalare ที่จะนำเสนออาหารไทยที่เปี่ยมด้วยอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรมผ่านวัตถุดิบพื้นถิ่นคุณภาพดี ถ่ายทอดรสชาติและเรื่องราวจากทุกภูมิภาคของประเทศในมิติใหม่ที่ยังคงความดั้งเดิมไว้อย่างกลมกลืน บนพื้นที่รวมมากกว่า 500 ตารางเมตร
‘เชียงใหม่แทรม’ เชื่อมเมือง
จุดเด่นอีกอย่างคือการทำ “Chiang Mai Tram by Lannatique” เชื่อมเส้นทางวัฒนธรรมทั่วเมืองเชียงใหม่ผ่านโครงข่ายรถแทรมไฟฟ้าล้อยางนำเที่ยวแห่งแรกของภาคเหนือ โดย “Chiang Mai Tram by Lannatique” เป็นรถแทรมไฟฟ้าล้อยางนำเที่ยวแห่งแรกของประเทศ ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นภายใต้แนวคิด Innovative and Sustainable Tourism เชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวสำคัญทางประวัติศาสตร์ ศิลปวัฒนธรรม และชุมชนท้องถิ่น รวมถึงร้านอาหาร คาเฟ่ชื่อดัง รวมกว่า 40 แห่งตลอดสาย อาทิ ประตูท่าแพ วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร ตลาดวโรรส คลองแม่ข่า โครงการ “Lannatique” พันธุ์ทิพย์ ไลฟ์สไตล์ ฮับ เชียงใหม่ และโรงแรมในเครือ AWC เป็นต้น

“Chiang Mai Tram” จะช่วยลดการปล่อยมลภาวะก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ จากการใช้พลังงานไฟฟ้า พร้อมมอบความสะดวกสบายให้กับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ โดยผู้ใช้บริการสามารถจอดรถส่วนตัวไว้บริเวณรอบนอก หรือในโครงการเครือ AWC แล้วเดินทางเข้าสู่เมืองด้วยรถแทรมไฟฟ้าล้อยางเพื่อลดการใช้พลังงานและการจราจรที่หนาแน่นในเขตเมือง
โดยรายได้สุทธิจากโครงการ “Chiang Mai Tram” จะร่วมสนับสนุนกิจกรรมเพื่อชุมชนยั่งยืนให้จังหวัดเชียงใหม่ต่อไป
นอกเหนือจากนี้ยังมีการรวมพลังเพื่อความยั่งยืน ตามนโยบายความยั่งยืนของเมืองเชียงใหม่ เพื่อสร้างคุณค่าองค์รวมในทุกมิติ สนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจ สังคม และชุมชน ผ่านการลงทุนและพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่ตอบโจทย์แผนพัฒนาเมือง และขับเคลื่อนคุณภาพชีวิตของคนเชียงใหม่ให้เติบโตไปด้วยกัน สู่การเป็นจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวที่ยั่งยืน ด้วยเป้าหมายสร้างการรับรู้ระดับโลก
ภาพ: AWC
ออกแบบภาพปก: ธัญวดี นิรุตติศาสตร์
เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : เปิดแผนงาน 5 ปีของ ‘ดุสิตธานี’ หลังซีอีโอ ‘ศุภจี’ ยืนยัน ปมขัดแย้งผู้ถือหุ้นใหญ่ไม่กระทบธุรกิจ
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine