<h2>บริษัท พี.เอส.พี. สเปเชียลตี้ส์ จำกัด (มหาชน) หรือ PSP ผู้นำด้านโซลูชันผลิตภัณฑ์หล่อลื่นแบบครบวงจร เผยความสำเร็จปี 2567 ในการขยายตลาดธุรกิจผลิตภัณฑ์หล่อลื่นทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและลดต้นทุนด้วยดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชัน ขยายธุรกิจด้านโมเดลเศรษฐกิจใหม่ BCG ร่วมพัฒนาน้ำมันหม้อแปลงไฟฟ้าชีวภาพจากน้ำมันปาล์ม รวมไปถึงการลงทุนใน Recycle Engineering แย้มแผนธุรกิจปี 2568 ตั้งเป้าหมายรายได้เติบโต 15% ด้วยการขับเคลื่อนผ่าน 3 กลยุทธ์หลัก</h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;เสกสรร ครองพาณิชย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พี.เอส.พี. สเปเชียลตี้ส์ จำกัด (มหาชน) หรือ PSP เปิดเผยว่า การเติบโตที่มีนัยสำคัญต่อการเปลี่ยนแปลงของ PSP ในปี 2567 ที่ผ่านมา เป็นผลมาจากการขยายตลาดผลิตภัณฑ์หล่อลื่นทั้งในและต่างประเทศ โดยมีกำลังการซื้อที่มากขึ้นจากทั้งลูกค้าปัจจุบันและลูกค้าใหม่&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;อีกทั้งยังมีการลงทุนใน บริษัท รีไซเคิล เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด หรือ RE ซึ่งเป็นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับโมเดลเศรษฐกิจใหม่ BCG ที่พัฒนาเศรษฐกิจ 3 มิติ คือ เศรษฐกิจชีวภาพ เชื่อมโยงกับเศรษฐกิจหมุนเวียน ที่คำนึงถึงการนำผลิตภัณฑ์ต่างๆ กลับมาใช้ประโยชน์ให้มากที่สุด และดำเนินการอยู่ภายใต้เศรษฐกิจสีเขียว การลงทุนใน RE ถือเป็นหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญของ PSP ในการขับเคลื่อนธุรกิจเพื่อความยั่งยืนของบริษัทฯ​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/01/ykMTtBgcDsuGF3K9mAkQ.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="ykMTtBgcDsuGF3K9mAkQ.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="0" origin-size="720,480"><figcaption><div>เสกสรร ครองพาณิชย์</div></figcaption></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นอกจากนี้ PSP ยังร่วมเป็นส่วนหนึ่งของโครงการวิจัยและพัฒนาน้ำมันหม้อแปลงไฟฟ้าชีวภาพจากน้ำมันปาล์ม ในโครงการ “EnPAT น้ำมันหม้อแปลงไฟฟ้าปลอดภัยจากปาล์มน้ำมันไทย ยกระดับความปลอดภัยของประชาชน พร้อมเปิดโอกาสสู่เศรษฐกิจใหม่” ซึ่งมีสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) เป็นผู้ดำเนินการหลัก เพื่อการพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืนและตอบสนองความต้องการของลูกค้าในอนาคต&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;การร่วมพัฒนาน้ำมันหม้อแปลงไฟฟ้าชีวภาพจากน้ำมันปาล์มไทยในครั้งนี้ ถือเป็นโครงการสำคัญที่ไม่เพียงแต่ส่งเสริมการเติบโตของธุรกิจ แต่ยังมีบทบาทสำคัญในการลดการนำเข้าและพึ่งพาวัตถุดิบจากต่างประเทศ อีกทั้งยังช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับอุตสาหกรรมปาล์มน้ำมันในประเทศ ซึ่งจะส่งผลดีต่อการพัฒนาเศรษฐกิจไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นอกจากนี้ PSP ยังได้ลงทุนผ่าน บริษัท พี.เอส.พี. เวนเจอร์ส จำกัด ใน บริษัท จีเนียส เจเนติกส์ จำกัด หรือ Geneus DNA ผู้นำด้านการตรวจวิเคราะห์ DNA รายแรกในประเทศไทย เพื่อตรวจวิเคราะห์สุขภาพและพรสวรรค์ รวมไปถึงการดูแลสุขภาพอย่างวิตามินเฉพาะบุคคล และลงทุนใน บริษัท วอทส์เอ็ก (ประเทศไทย) จำกัด เจ้าของ EGG Mall แพลตฟอร์มซื้อขายชิ้นส่วนอะไหล่ยานยนต์ออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เป็นการสร้างโอกาสหา New S Curve ให้ PSP ในยุคที่สุขภาพและการตลาดดิจิทัลเป็นเมกะเทรนด์&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“ปี 2567 ถือเป็นปีที่สำคัญสำหรับ PSP ในการลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับโมเดลเศรษฐกิจใหม่ BCG และเทคโนโลยีที่มีศักยภาพสูง เป็นการเตรียมความพร้อมกับการสร้างโอกาสให้กับ PSP ในการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต ทั้งในแง่ของการเพิ่มรายได้และสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“ซึ่งอีกหนึ่งในไมล์สโตนของเราในปีที่ผ่านมา คือการกรุยทางตลาด B2C เป็นครั้งแรก ด้วยการเปิดตัวน้ำมันหล่อลื่นอเนกประสงค์ภายใต้แบรนด์ ‘PROTECH’ รวมทั้งสเปรย์ทำความสะอาดเครื่องปรับอากาศและสเปรย์ขจัดกลิ่นอับและกลิ่นไม่พึงประสงค์ แบรนด์ ‘MASTER’&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“นอกจากนี้ ในปีที่ผ่านมาเราได้ลงทุนด้านดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชัน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต การดำเนินงาน และการบริการลูกค้า รวมทั้งช่วยลดต้นทุนการดำเนินธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิผล ซึ่งจะช่วยสนับสนุนผลการดำเนินงานของ PSP ในระยะกลางและระยะยาว" เสกสรร กล่าว​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/01/hYSFQ48xF8AFzBUvih9A.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="hYSFQ48xF8AFzBUvih9A.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="1" origin-size="720,480"></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;สำหรับแผนการดำเนินงานในปี 2568 PSP ตั้งเป้าหมายรายได้เติบโต 15% โดยมี 3 กลยุทธ์หลักในการขับเคลื่อนแผนงานของบริษัทคือ การเป็นผู้นำที่ยั่งยืน (Sustained leadership) เน้นการสร้างรายได้เพิ่มขึ้น ขยายฐานลูกค้าตลาดใหม่ที่มีศักยภาพสูง ควบคู่กับการเพิ่มสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศและการขยายตลาดในประเทศ การสร้างการเติบโตใหม่จากจุดแข็งที่มีอยู่ (Specialized creation) โดยการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ ที่มีความเฉพาะเจาะจง และเป็นการต่อยอดความเชี่ยวชาญของ PSP รวมถึงเป็นนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน และการพัฒนาโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ผ่านการผนึกกำลังกับพันธมิตร (Synergized initiatives) เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งในการแข่งขันและขยายฐานธุรกิจในทุกๆ ด้านให้ PSP เติบโตอย่างยั่งยืน&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นอกจากเป้าหมายด้านรายได้แล้ว PSP ยังมีเป้าหมายในการดำเนินธุรกิจตามแนวทางความยั่งยืนหรือ ESG ในกระบวนการดำเนินงานของทุกหน่วยงานในองค์กรในทุกมิติ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม บนพื้นฐานของการกำกับดูแลกิจการที่ดี ควบคู่กับตั้งเป้าหมายการลดอัตราการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้เป็นศูนย์ภายในปี 2593 เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ :&nbsp;<a target="_blank" href="https://forbesthailand.com/news/other/pce-sets-revenue-target-at-30-billion" alt="PCE วางงบ 800-1,000 ล้าน ขยายโรงกลั่นน้ำมันปาล์มเพิ่ม ปักธงรายได้ 3 หมื่นล้าน">PCE วางงบ 800-1,000 ล้าน ขยายโรงกลั่นน้ำมันปาล์มเพิ่ม ปักธงรายได้ 3 หมื่นล้าน</a> <a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

PSP โชว์ความสำเร็จปี 67 พัฒนาน้ำมันหม้อแปลงไฟฟ้าชีวภาพ จากน้ำมันปาล์ม

<h2>บมจ.เพชรศรีวิชัย เอ็นเตอร์ไพรส์ หรือ PCE เปิดกลยุทธ์ธุรกิจปี 2568 ขยายกำลังการผลิต และเพิ่มมูลค่าน้ำมันปาล์มให้สามารถใช้ทำช็อกโกแลตแทนโกโก้ได้ ตั้งเป้ารายได้ 30,000 ล้านบาท</h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;พรพิพัฒน์ ประสิทธิ์ศุภผล รองกรรมการผู้จัดการสายงานปฏิบัติการ บริษัท เพชรศรีวิชัย เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) (PCE) ผู้นำอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มแบบครบวงจรที่มีความพร้อมการจัดการระบบซัพพลายเชน เปิดเผยถึงภาพรวมธุรกิจปี 2568 ว่า บริษัทวางแผนใช้เทคโนโลยีเพื่อขยายกำลังการผลิต ควบคู่กับการเพิ่มมูลค่าสินค้าในธุรกิจการสกัดและการกลั่นน้ำมันปาล์ม ตลอดจนการจัดการสิ่งแวดล้อมขยายเป็น Bio Complex เช่น ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและปล่อยของเสีย&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;รวมถึงให้ความสำคัญด้านการบริหารความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาดน้ำมันปาล์มด้วยการเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ แตกไลน์ผลิตภัณฑ์ปาล์มที่มีอยู่ เช่น น้ำมันเมล็ดในปาล์ม (CPKO) และน้ำมันเมล็ดในปาล์มกึ่งบริสุทธิ์ (RBDPKO) โดยเพิ่มยอดการจัดจำหน่ายเป็น 40,000 ตันจากเดิม 15,000 ตันต่อปี และส่งออกกะลาปาล์มมากกว่า 100,000 ตันต่อปี​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/01/1vA7ceTPzYjxHvfJ9TV2.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="1vA7ceTPzYjxHvfJ9TV2.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="0"></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;บริษัทวางแผนขยายกำลังการผลิตน้ำมันปาล์มดิบ (CPO) จาก 90 ตัน/ชั่วโมง เป็น 135 ตัน/ชั่วโมง ขยายกำลังการผลิตการกลั่นน้ำมันปาล์มโอเลอีน (RBDOL) จาก 300 ตัน/วัน เป็น 700 ตัน/วัน ผลิตและจำหน่ายน้ำมันเมล็ดในปาล์ม (CPKO) เป็น 120,000 ตันในปี 2568 จากเดิมส่งออกปีละ 50,000 ตัน&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นอกจากนี้ยังวางแผนลงทุนในโรงกลั่นน้ำมันปาล์ม โดยปีนี้บริษัทตั้งงบลงทุนไว้ 800-1,000 ล้านบาท สำหรับสร้างโรงงานใหม่และขยายโรงงานเดิม โดยนำเงินส่วนหนึ่งมาอัพเกรดเทคโนโลยี ทำให้ต้นทุนการผลิตปาล์มมีศักยภาพมากขึ้น และขยายกำลังการผลิตน้ำมันสำหรับบริโภค เพื่อขยายตลาดในประเทศและต่างประเทศ และภายใน 3 ปีนี้จะพัฒนาโปรดักต์ใหม่จากน้ำมันปาล์มเพื่อให้มีมูลค่าสูงขึ้น เช่น นำมาใช้เป็นส่วนผสมอาหารประเภทช็อกโกแล็ต แทนเมล็ดโกโก้ซึ่งมีราคาสูงและเพาะปลูกยาก&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“มีพาร์ตเนอร์คุยกันแล้ว เขามีตลาดค่อนข้างใหญ่ในตลาดโลก เราชำนาญโลจิสติกส์ บริหาร เรามีพาร์ตเนอร์ที่ strong คุณขายและเราหาของในไทยให้”​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/01/1HA1oxqL16QLoGG2aQxf.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="1HA1oxqL16QLoGG2aQxf.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="1"><figcaption><div>พรพิพัฒน์ ประสิทธิ์ศุภผล</div></figcaption></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;พรพิพัฒน์ กล่าวอีกว่า บริษัทยังเตรียมเพิ่มช่องทางจัดจำหน่ายและบริการทางออนไลน์ เพื่อตอบสนองอัตราการอุปโภคบริโภคน้ำมันปาล์มที่เพิ่มมากขึ้นกว่าปีก่อน 3% คาดว่าจะทำให้รายได้ปี 2568 เติบโตสู่ระดับ 30,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15-20% จากปีก่อนหน้า&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“ปี 2568 มีแนวโน้มว่าการส่งออกน้ำมันปาล์มไปจีนและอินเดียยังคงเป็นไปในทิศทางที่ดี เราจะขยายกำลังการผลิต เน้นเพิ่มมูลค่าสินค้า เพิ่มช่องทางจัดจำหน่าย เพื่อรองรับความต้องการของตลาดที่มีมากขึ้น ให้ความสำคัญกับการพัฒนากลยุทธ์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน ด้วยการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาปรับใช้ และยังคงมุ่งมั่นดำเนินธุรกิจภายใต้หลักธรรมาภิบาลและความรับผิดชอบต่อสังคม” เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ :&nbsp;โ<a target="_blank" href="https://forbesthailand.com/news/other/perspective-strategy-and-economy-of-thai-rice" alt="ลกเปลี่ยน ‘ข้าวไทย’ ต้องปรับ ออกจากกับดักแข่งเป็น ‘เบอร์หนึ่ง’ หันมาต่อยอดสร้างคุณค่ารอบด้าน">ลกเปลี่ยน ‘ข้าวไทย’ ต้องปรับ ออกจากกับดักแข่งเป็น ‘เบอร์หนึ่ง’ หันมาต่อยอดสร้างคุณค่ารอบด้าน</a> <a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events