พรพิพัฒน์ ประสิทธิ์ศุภผล PCE สานต่อน้ำมันปาล์มยั่งยืน - Forbes Thailand

พรพิพัฒน์ ประสิทธิ์ศุภผล PCE สานต่อน้ำมันปาล์มยั่งยืน

เมล็ดพันธุ์ที่ได้รับการบ่มเพาะใต้ร่มเงาอาณาจักรเพชรศรีวิชัยแห่งสุราษฎร์ธานี สู่ลูกไม้ใกล้ต้นที่สามารถเติบโตตามรอยทางและสานต่อความยั่งยืนทางธุรกิจ พร้อมจัดทัพแข่งขันระดับโลก ตอกย้ำการเป็นผู้นำอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มครบวงจรรายใหญ่ของประเทศ


    นายหัวแดนใต้เจ้าของอาณาจักรน้ำมันปาล์มครบวงจรรายใหญ่ในสุราษฎร์ธานีใช้เวลาและความทุ่มเทมากกว่า 4 ทศวรรษในการเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางธุรกิจครอบคลุมต้นน้ำถึงปลายน้ำ ไม่ว่าจะเป็น โรงสกัด โรงกลั่นน้ำมันปาล์ม คลังสินค้า ท่าเทียบเรือ การจำหน่ายน้ำมันปาล์มและผลผลิตพลอยได้อื่น รวมถึงบริการขนส่งทางเรือและทางบก พร้อมถ่ายทอดความรู้นอกตำราให้ทายาทได้สั่งสมประสบการณ์ตรงผ่านการสัมผัสหน้างานจริงให้เข้าใจทุกขั้นตอนนับตั้งแต่วัยเด็ก และปลูกฝังความมุ่งมั่นสานต่อธุรกิจของครอบครัวให้เติบโตอย่างมั่นคง

    “คุณพ่อเป็นชาวประจวบคีรีขันธ์ย้ายมาอยู่สุราษฎร์ธานีและเริ่มต้นวิ่งรถน้ำมันมะพร้าวไปกรุงเทพฯ ตั้งแต่ปี 2524 โดยขากลับจะเปลี่ยนเป็นน้ำมันดีเซลลงมาขายที่สุราษฎร์ธานีเพื่อช่วยให้ไม่เสียโอกาสวิ่งรถเปล่ากลับและได้กำไรส่วนต่างราคา ก่อนจะเปลี่ยนเป็นน้ำมันปาล์ม เพราะน้ำมันมะพร้าวไม่ได้มีทั้งปีต่างจากน้ำมันปาล์มที่ทำได้ต่อเนื่อง รวมถึงเริ่มธุรกิจคลังสินค้าและท่าเรือสำหรับเก็บน้ำมันปาล์ม เมื่อปริมาณสินค้ามากขึ้นก็เปิดธุรกิจเทรดดิ้งและยังเพิ่มการขนส่งทางเรือตอบโจทย์ความต้องการสินค้าที่รวดเร็วและขยายธุรกิจส่งออก ซึ่งช่วงที่มีการรณรงค์เรื่องพลังงานทดแทนท่านก็ตัดสินใจลงทุนธุรกิจไบโอดีเซล ทำให้ PCE เป็นบริษัทที่ครบวงจรที่สุดเกี่ยวกับปาล์ม”


    พรพิพัฒน์ ประสิทธิ์ศุภผล รองกรรมการ ผู้จัดการสายงานปฏิบัติการ บริษัท เพชรศรี-วิชัย เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) หรือ PCE วัย 32 ปี กล่าวถึงการบุกเบิกเส้นทางธุรกิจของประกิต ซึ่งเป็นบิดาผู้ก่อตั้งและดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ในปัจจุบัน โดยเริ่มต้นจากการให้บริการขนส่งทางรถหรือโลจิสติกส์สินค้าประเภทน้ำมันเชื้อเพลิง น้ำมันมะพร้าว และน้ำมันปาล์มภายใต้ บริษัท เพชรศรีวิชัย จำกัด ในปี 2527 พร้อมทั้งจัดตั้ง บริษัท พี.เค.มารีน เทรดดิ้ง ให้บริการพื้นที่คลังรับฝากน้ำมันปาล์ม คลังสินค้าทั่วไป ลานเทกอง และให้บริการท่าเทียบเรือขนถ่ายสินค้าในปี 2533

    หลังจากปริมาณสินค้ามีจำนวนมากขึ้นจึงก่อตั้ง บริษัท พี.ซี.มารีน (1992) จำกัด ให้บริการขนส่งสินค้าทางเรือในประเทศและต่างประเทศในปี 2535 และ บริษัท ปาโก้ เทรดดิ้ง จำกัด ดำเนินธุรกิจซื้อและจำหน่ายน้ำมันปาล์มดิบ น้ำมันเมล็ดในปาล์ม เมล็ดในปาล์ม และผลิตภัณฑ์อื่นๆ จากปาล์ม ให้กับลูกค้าในประเทศไทยและส่งออกไปต่างประเทศในปี 2538 รวมถึง บริษัท นิว-ไบโอดีเซล จำกัด ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายน้ำมันไบโอดีเซล (Biodiesel: B100) ซึ่งผลิตจากน้ำมันปาล์มดิบเป็นวัตถุดิบตั้งต้นในช่วงปี 2549 ช่วยเสริมความแข็งแกร่งทางธุรกิจผู้ผลิตและจำหน่ายน้ำมันปาล์มครบวงจร

    “ผมเข้ามาช่วงหลังเรียนจบปริญญาตรี แต่ก่อนหน้านั้นสมัยเด็กอายุประมาณ 10 ปี คุณพ่อก็ให้ผมบินกลับจากโรงเรียนที่มาเลเซียนั่งเครื่องลงกระบี่และต่อรถมาสุราษฎร์ธานีทำงานกับคุณพ่อ 3-4 วันในช่วงวันหยุด ซึ่งทุกเดือนจะหยุดทุก 2 อาทิตย์ ผมต้องลงหน้างานกับคุณพ่อตลอด เช่น สมัยนั้นมีเรือซ่อมเที่ยงคืน ผมก็ไปดูเรือซ่อม รถเข้ามาซ่อมช่วงไหนท่านก็พาไป ผมซึมซับการทำงานของบริษัทตั้งแต่ชั้นประถมจนจบ high school ที่มาเลเซียและต่ออเมริกา ท่านปลูกฝังลูกทุกคนให้กลับมาช่วยธุรกิจที่บ้านและฝึกให้รู้จักการบริหารจัดการ อย่างช่วงเรียนมหาวิทยาลัยคุณพ่อไปส่งครั้งเดียวที่อเมริกาและคำนวณค่าใช้จ่ายต่างๆ เช่น ค่าหอ ค่าเรียน ค่ากินอยู่ ค่าเดินทาง และโอนให้ครั้งเดียวใช้ให้พอใน 1 ปี โดยผมต้องทำบัญชีเป็น Excel ส่งทุกเดือนว่าใช้จ่ายอะไรบ้าง ทำให้ต้องบริหารเงินให้เป็นและพยายามประหยัดให้เหลือเงินซื้อของที่ต้องการ ซึ่งหลังจากเรียนจบกลับมาปี 2556 ผมขอพักผ่อนก่อนเริ่มงานจริงปี 2557”


จัดทัพธุรกิจเพชรศรีวิชัย

    โจทย์ที่ได้รับในการขับเคลื่อนธุรกิจภาคต่อในฐานะทายาทคลื่นลูกใหม่ถือเป็นความท้าทายสำคัญของพรพิพัฒน์ซึ่งสามารถข้ามผ่านได้ด้วยการผสมผสานความรู้จากการศึกษาปริญญาตรี สาขา Bachelor of
Science, General Social Science ที่ University of Oregon ประเทศสหรัฐอเมริกา ร่วมกับการฝึกปรือฝีมือในพื้นที่หน้างานจริงกับพนักงานของบริษัท โดยเฉพาะด้านโลจิสติกส์และคลังสินค้า รวมถึงมีส่วนร่วมในการปรับโครงสร้างธุรกิจให้พร้อมสำหรับการจดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

    “การเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ เกิดจากการพูดคุยในครอบครัวว่าคุณพ่อสร้างทุกอย่างกับมือคนเดียว 40 ปี เรา 3 พี่น้องเจน 2 ต้องการสร้างความยั่งยืนทางธุรกิจ ด้วยการนำระบบเข้ามาช่วยบริหารบริษัทต่างๆ ซึ่งการเข้าตลาดฯ เป็นการจัดกระบวนทัพเพื่อขยายต่อ ไม่ว่าจะเป็นการปรับปรุงเครื่องจักร เงินทุนหมุนเวียน การควบรวมธุรกิจ และพัฒนาเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง”

    พรพิพัฒน์ตอกย้ำความมั่นใจในข้อได้เปรียบทางธุรกิจและกลยุทธ์การดำเนินงาน เป็นผู้นำอุตสาหกรรมปาล์มน้ำมันแบบครบวงจรที่มีความพร้อมการจัดการระบบซัพพลายเชน (supply chain) โดยแบ่งเป็นกลุ่มธุรกิจผลิตและจำหน่ายน้ำมันปาล์ม น้ำมันไบโอดีเซล และน้ำมันปาล์มโอเลอีนเพื่อการบริโภค ซึ่งรวมถึงการซื้อและจำหน่ายน้ำมันปาล์ม เช่น น้ำมันปาล์มดิบ น้ำมันเมล็ดในปาล์ม เมล็ดในปาล์ม และผลิตภัณฑ์อื่นๆ จากปาล์ม โดยซื้อจากผู้ผลิตรายอื่นเพื่อนำมาจำหน่ายต่อให้กับลูกค้าทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ


    ขณะเดียวกันยังมีกลุ่มธุรกิจให้บริการคลังสินค้าและท่าเทียบเรือ รวมถึงกลุ่มธุรกิจให้บริการขนส่งทางรถ และกลุ่มธุรกิจให้บริการขนส่งสินค้าทางเรือ โดยมีกระบวนการผลิตผลิตภัณฑ์จากปาล์มน้ำมันตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ คลังสินค้าและท่าเทียบเรือ จนถึงกระบวนการขนส่งที่ทันสมัย ด้วยประสบการณ์ตรงทางธุรกิจเกือบ 40 ปีทำให้เข้าใจภาพรวมของอุตสาหกรรมและสามารถลดต้นทุนโดยรวมผ่านการบริหารการจัดซื้อ การบริหารการผลิต การจัดเก็บสินค้า จนถึงกระบวนการจัดส่งสินค้าถึงลูกค้า เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างครบถ้วน (one stop service)

    นอกจากนั้น บริษัทยังมีโรงงานผลิตไฟฟ้าจากชีวมวลขนาด 4.8 เมกะวัตต์ต่อชั่วโมง ซึ่งสามารถนำผลิตภัณฑ์ผลพลอยได้จากการผลิต เช่น ทะลายปาล์มมาเป็นเชื้อเพลิงสำหรับการผลิตไฟฟ้ามาใช้ต่อในโรงงานสกัดและโรงงานกลั่นน้ำมันปาล์ม โดยสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับของเสียจากโรงงานของกลุ่มบริษัท และช่วยลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมต่อชุมชนพื้นที่ใกล้เคียงทั้งด้านมลพิษและกลิ่นจากน้ำเสีย ซึ่งเป็นแนวทางการนำสิ่งที่เหลือจากกระบวนการผลิตกลับเข้าสู่วงจรได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    “คุณพ่อสอนเรื่องความ fair, win-win เราอย่าเอาเปรียบเขาและอย่าให้เขาเอาเปรียบเรา ซึ่งครอบครัวของเราจะเป็นกันเองกับทุกคนและให้ความสำคัญกับการดูแลกันด้วยความผูกพัน ขณะที่ผมเชื่อเรื่องทีมเวิร์ก เราไม่ได้เก่งทุกเรื่อง ทำคนเดียวไม่ไหว แต่เราสามารถสร้างทีมได้ด้วยความจริงใจ รับฟังความคิดเห็นหรือพูดคุยกันได้ โดยส่วนหนึ่งผมทำงานที่นี่มาตั้งแต่เด็กทำให้คุ้นเคยกับพนักงานเกือบทั้งหมด เพราะทุกคนอยู่กันมานาน และส่วนตัวเราชอบธุรกิจปาล์มที่มีความ variety สามารถต่อยอดได้อย่างหลากหลาย และอยู่ใกล้ตัวเรามาก ไม่ว่าจะเป็นสินค้าอุปโภคบริโภค ไอศกรีม เนย ผงซักฟอก ซึ่งปาล์มถือเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันและมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก”



ภาพ: วรัชญ์ แพทยานันท์, PCE



เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : เสกสรร ครองพาณิชย์ ขยายธุรกิจเสริมแกร่ง PSP

คลิกอ่านบทความฉบับเต็มและเรื่องราวธุรกิจอื่นๆ ที่น่าสนใจได้ที่นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนตุลาคม 2567 ในรูปแบบ e-magazine