แบรนด์ร้านอาหาร แฟชั่น เครื่องดื่มทั้งไทย-เทศ รวมทั้ง Chang Canvas ร้านอาหารและเบียร์สดมูลค่าราว 200 ล้านบาทของกลุ่มไทยเบฟฯ กำลังยกทัพเปิดตัวที่ One Bangkok ปลายเดือนนี้เพียบ รับไฮซีซันฤดูกาลช็อปปิ้ง
หลังจากเปิดตัวอย่างเป็นทางการไปเมื่อวันที่ 25 ตุลาคมที่ผ่านมา One Bangkok กลายเป็นสถานที่จุดประกายของการเปิดร้านค้าในคอนเซ็ปต์ใหม่ๆ เป็นที่นัดพบ สังสรรค์ ดื่มกิน และใช้ชีวิตในระดับพรีเมียมจนถึงซูเปอร์พรีเมียม
ด้วยร้านอาหารจนถึงร้านค้าปลีกหลายแห่งที่ตั้งใจตกแต่งให้มีบรรยากาศไม่แพ้ที่กินที่ช็อปที่ไหนในโลก โดยเฉพาะในยุโรป ตั้งแต่ดิวตี้ฟรี “คิงเพาเวอร์” ที่น่าจะเป็นดิวตี้ฟรีหนึ่งเดียวในโลกที่ทุ่มทุนสร้าง ออกแบบ และมีการนำเสนอที่น่าจะให้ประสบการณ์เกินความคาดหมายของขาช็อป
หรือร้านกาแฟสตาร์บัคส์ รีเสิร์ฟ ที่แม้ความใหญ่จะเป็นรองสาขาที่ไอคอนสยาม แต่ดีไซน์ที่สาขา One Bangkok มีลุคที่แปลกตา เสิร์ฟค็อกเทลที่ผสมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของเครือไทยเบฟเวอเรจตั้งแต่ Rum, Gin และอื่นๆ พร้อมเมนูพิเศษ อาทิ แซนด์วิชเปิดหน้ามะเขือเทศและชีสมอสซาเรลลา ที่เสิร์ฟให้ลูกค้าของ One Bangkok เพียงสาขาเดียวเท่านั้น
จากการสำรวจความคืบหน้าของร้านรวงในบริเวณต่างๆ ภายในโครงการของ One Bangkok อาทิ อาคารฟอรัม เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา พบว่าการก่อสร้างของ Chang Canvas ที่น่าจะเป็นไฮไลต์สำคัญอันหนึ่งของโครงการ One Bangkok มีความคืบหน้าไปกว่า 80% แล้ว
ในวันที่ได้มีโอกาสเดินเข้าไปสำรวจ เห็นผู้รับเหมากำลังทดลองระบบไฟในตัวร้านอาหาร ขณะที่ด้านหน้าร้าน มีพนักงานกำลังทำความสะอาดพื้น เพื่อพร้อมส่งมอบงาน เพราะอาจจะเปิดบริการอย่างไม่เป็นทางการในปลายเดือนนี้ จากกำหนดการเดิมจะพยายามเปิดบริการให้ทันฤดูกาลขายภายในสิ้นปีนี้หรืออย่างช้าต้นปีหน้า
“Chang Canvas เป็นร้านอาหารขนาด 2,000 ตารางเมตร มีติดตั้งเครื่องต้มเบียร์ในถังคอปเปอร์นำเข้าจากเยอรมนี เราเปิดร้านนี้เพื่อให้ Chang Canvas เป็นเดสติเนชั่นที่คอเบียร์ทุกคนต้องมา เราหมักและต้มเบียร์จากถังทองแดง ลูกค้าอยากจะดื่มเบียร์สไตล์ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น อเมริกา หรือที่ไหนๆ ในโลก เราทำให้ได้หมด เพราะเรามีผู้เชี่ยวชาญเบียร์ซึ่งมีประสบการณ์อยู่ในวงการเบียร์กว่า 30 ปีดูแลตรงนี้” นี่เป็นคำอธิบายจากผู้บริหารของกลุ่มไทยเบฟฯ ท่านหนึ่งให้แขกนักการเมืองฟัง ในงานวันเปิดตัว One Bangkok เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา
ผู้บริหารท่านเดิมยังอธิบายกับแขกกลุ่มเดิมเพิ่มเติมว่า Chang Canvas สามารถจุคนได้ประมาณ 500 คน เสิร์ฟอาหารไทย-ฝรั่งที่เข้ากันได้ดีกับเบียร์ มีดนตรี หรือคอนเสิร์ตที่จะหมุนเวียนมาแสดงในแต่ละช่วง ส่วนเบียร์ก็มีหลากหลาย ตั้งแต่เบียร์ช้างที่จำหน่ายในตลาดเบียร์คลาสสิก เอสเพรสโซ่ โคลด์บรูว์ จนถึงเบียร์ที่ผลิตตามวัตถุดิบในแต่ละฤดูกาลด้วย และอาจจะมีเบียร์ที่ผลิตภายใต้ความร่วมมือบริวเวอรี่จากประเทศอื่นๆ
ในคืนวันเปิดตัวอย่างเป็นทางการของ One Bangkok แขกทุกคนที่เข้ามาในโซนของ Chang Canvas จะมีโอกาสได้ชิมเบียร์ตาม seasonal ซึ่งมีอยู่ทั้งหมด 4 ชนิด ได้แก่ เบียร์โรเซ่ เบียร์ไวเซ่น และอื่นๆ ที่ใช้วัตถุดิบจากท้องถิ่นต่างๆ เช่น ดอกกระเจี๊ยบ ดอกพุดตาน มะขามป้อม และน้ำผึ้ง เป็นส่วนผสม ดื่มง่าย มีแอลกอฮอล์ต่ำกว่าเบียร์ทั่วไป
“โรงเบียร์ที่นี่จะเป็นการใช้ศิลปะมากกว่าวิทยาศาสต์ เราอยากจะใส่อะไรก็ใส่ เราช่วยอุดหนุนเกษตรกรท้องถิ่นหลายแห่ง ตอนนี้เรายังไม่ได้กำหนดราคาขาย อาจขายเป็นแก้ว หรืออาจจะขายเป็นเซต เพื่อเป็น sampling ให้ได้ลองกันหลายๆ รสชาติ
“เราเลือกเปิดโรงเบียร์ตรงนี้ เพราะที่นี่เป็น connectivity ที่ดี มีสถานทูตออสเตรเลีย และสถานที่สำคัญอื่นๆ ถ้าลูกค้าอยากให้เราต้มเบียร์ 1,000 ลิตร เราก็ทำให้ได้ อยากได้อะไรก็บอก เราทำ tailor-made ให้ได้หมด ระดับราคาก็อาจจะระดับพรีเมียมนิดหนึ่ง
“ส่วนกลุ่มเป้าหมายก็คือ beer lover ทั่วไป ทั้งวัยรุ่น และวัยทำงาน เราอยากให้ Chang Canvas เป็นแลนด์มาร์กเหมือนโรงเบียร์ที่เราต้องไปแวะเมื่อเราไปญี่ปุ่น เยอรมนี เป็นต้น สำหรับเมืองไทย ผมอยากให้เป็นหนึ่งใน must visit สำหรับคนที่มาเยือนเมืองไทยทุกคน” ผู้บริหารระดับสูงอีกท่านอธิบายให้นายแบงก์และแขกต่างชาติอีกกลุ่มหนึ่งฟัง
การเปิด Chang Canvas น่าจะมีการจ้างงานมากกว่า 100 คน ด้านในของร้านนี้จะแบ่งเป็นโซนๆ พร้อมห้องวีไอพี ซึ่งตั้งอยู่บนชั้น 2 ของร้าน
“การเปิดโรงเบียร์ใจกลางเมือง เป็นหนึ่งในแผนตลาดที่จะสร้างประสบการณ์การดื่มเบียร์ให้กับกลุ่มเป้าหมายในมิติต่างๆ ที่นอกเหนือจากการออกสินค้าใหม่ นอกจากเบียร์สดและอาหารแล้ว เบียร์ช้างยังมีแผนจะเปิดเบียร์การ์เด้นที่ One Bangkok และในทำเลต่างๆ อีกกว่า 10 แห่งในปีนี้ด้วย” แหล่งข่าวกล่าว
ปัจจุบันปริมาณการดื่มเบียร์ของคนไทยมีประมาณ 1,483 ล้านลิตร มีอัตราการเติบโต year-to-date ในเดือนกันยายนปีนี้อยู่ที่ประมาณ 5.4%
[ Big C แบบใหม่ที่ยกระดับกว่าเดิม ]
ถัดมาจาก Chang Canvas อีกไม่ไกล เมื่อเดินลงบันไดเลื่อนมายังด้านล่างของ Chang Canvas เราจะเห็นร้านไฮเปอร์มาร์เก็ตจากกลุ่มบิ๊กซีที่กำลังอยู่ระหว่างก่อสร้าง ไฮเปอร์มาร์เก็ตที่นี่ใช้ชื่อว่า “Big C Bangkok Marche” มีพื้นที่ทั้งหมด 1,600 ตารางเมตร มีพื้นที่ขาย 1,200 ตารางเมตร คาดว่าจะเปิดบริการภายในวันที่ 15 ธันวาคมปีนี้
เจ้าหน้าที่หญิงที่โซนไวน์ ด้านหน้าบิ๊กซีรายหนึ่งเล่าว่า บิ๊กซีสาขา One Bangkok จะยกระดับไปอีกขั้นหนึ่ง โดยจะต่างจากสาขาอื่นๆ ทั้งสินค้าที่หลากหลายและประสบการณ์ ไฮเปอร์มาร์เก็ตที่นี่มีพื้นที่โซนไวน์สารพัดชนิดแยกออกมาอยู่ด้านหน้าต่างหาก พร้อมกับโซน food & beverage และอาหารทะเล อาทิ ล็อบสเตอร์เสิร์ฟตามสั่ง มีที่นั่งราว 20 ที่ เสิร์ฟตั้งแต่ 8 โมงเช้าถึง 4 ทุ่ม ส่วนโซนไฮเปอร์มาร์เก็ตจะเปิดตั้งแต่ 7 โมงถึงเที่ยงคืน
[ ร้านอาหาร-เสื้อผ้า ต่อคิวจ่อเปิดอีกเพียบ ]
ส่วนของร้านอาหารใหม่ๆ ที่จะทยอยเปิดตัวนับจากนี้จนถึงสิ้นปีทั้งในโซน Parade และโซน The Storie ได้แก่ ร้านลูกไก่ทอง, ร้านเบอร์เกอร์สไตล์อเมริกันอย่าง Shake Shack, ร้านกาแฟ Dean & Deluca, ร้านเบเกอรี่ BreadTalk โฉมใหม่จากเครือไมเนอร์กรุ๊ป, โกปี๊เฮี๊ยะไถ่ปี่ ตำนานร้านอาหารเช้า อาทิ ไข่กระทะอายุกว่า 70 ปี, Sakea ร้านชาบูชาบูและสุกี้ยากี้
ร้าน The House Brasserie ร้านอาหารสไตล์ตะวันตก, ร้าน Chongdee Teahouse, The Tang ร้านอาหารจากเกาหลี, Vantage Point และบ้านสุริยาศัย ร้านอาหารไทยตำรับชาววัง, Savory Malatang & Chopchop ที่จะขายเบอร์เกอร์สไตล์จีนรายแรก และThe Coffee House by Doitung เป็นต้น
นอกจากนี้ยังมีร้านแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ช็อปอีกจำนวนมาก อาทิ Lamy shop ร้านปากกาจากเยอรมนี, เครื่องสำอาง Mac, ร้านแฟชั่น American Eagle, Cole Haan ส่วนครัมเพลอร์ (Crumpler) แบรนด์กระเป๋าจากออสเตรเลีย ซึ่งเป็นที่รู้จักในเรื่องการออกแบบที่มีสีสัน และ Deus Ex Machina ก็เป็นแบรนด์จากออสเตรเลีย ซึ่งเชี่ยวชาญเรื่องไลฟ์สไตล์ เสื้อผ้า และ biking เป็นต้น
[ Shake Shack เตรียมเปิดสาขาที่ 4 ในไทย ]
มานะพงษ์ วรรณดี ผู้จัดการทั่วไป Shake Shack ประเทศไทย ร้านเบอร์เกอร์สไตล์อเมริกัน เปิดเผยว่า Shake Shack ยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่องในเมืองไทย หลังจากได้เปิดตัวสาขาแรกไปที่เซ็นทรัลเวิลด์ในปี 2023 บริษัทได้เปิดสาขาใหม่เพิ่มอีก 2 สาขา ที่เอ็มสเฟียร์และเมกา บางนา
“และล่าสุด บริษัทเตรียมเปิดสาขาใหม่ที่ One Bangkok ในปลายเดือนพฤศจิกายนนี้ โดยดีไซน์ของร้าน Shake Shack แต่ละแห่งจะสะท้อนภาพของแต่ละย่านชุมชนซึ่งเราให้ความสำคัญอย่างมากในการเชื่อมโยง ส่งเสริม และเป็นหนึ่งเดียวกับชุมชนนั้นๆ”
“ส่วนเมนูของ Shake Shack ในไทยนั้น เรายังคงหาวัตถุดิบต่างๆ จากในท้องถิ่น และจับมือกับผู้ค้าท้องถิ่นรายย่อยต่างๆ ในชุมชนเพื่อสนับสนุน ส่งเสริมผู้ค้าท้องถิ่นรายย่อย รวมถึงเป็นการสะท้อนถึงเอกลักษณ์ความเป็นย่านที่ตั้งของร้าน Shake Shack ด้วย
“ในเมืองไทยเรามีเมนูเอ็กซ์คลูซีฟเฉพาะของกรุงเทพฯ คือ เชคข้าวเหนียวใบเตย และยังมีขนมบราวนี่ที่อยู่ในเมนูซิกเนเจอร์ ที่เราร่วมงานกับร้านอาฟเตอร์ยู สำหรับการเปิดสาขาใหม่ที่ One Bangkok นี้ เราจะเปิดตัวเมนูพิเศษ ที่จะบริการความอร่อยเฉพาะช่วงเวลาจำกัด (Limited Time Menu) ด้วยเช่นกัน” มานะพงษ์บอก
สำหรับกลยุทธ์ธุรกิจในปีหน้า บริษัทบริษัทจะขยายธุรกิจออกไปทั่วประเทศเพื่อสร้างสรรค์ร้านแช็คให้กับแต่ละย่านชุมชน Shake Shack และกลุ่มแม็กซิม กรุ๊ป จากฮ่องกงได้ร่วมกันประกาศถึงการขยายความเป็นพันธมิตรทางธุรกิจเพื่อที่จะเปิดร้านแช็คให้ได้ 15 สาขาในเมืองไทยภายในปี 2032
มานะพงษ์กล่าวต่อว่า นับตั้งแต่เปิดตัวไปเมื่อมีนาคมปีที่ผ่านมา คนไทยให้การจดจำและตอบรับคุณภาพที่พิเศษและไม่เหมือนใครของเบอร์เกอร์ เครื่องดื่ม เชค และโฟรเซ่นคัสตาร์ดอย่างอบอุ่น
“ทั้งนี้ เพราะความที่เรามีอะไรมากกว่าแค่ความเป็นร้านเบอร์เกอร์ เราทำงานกันหนักเพื่อที่จะสร้างให้ Shake Shack ทุกแห่งเป็นสถานที่ไว้สำหรับให้คนในชุมชนมารวมตัวกันได้ โดยเอารากความเป็นเมืองนิวยอร์กของเรารวมเข้ากันกับลักษณะเฉพาะตัวของแต่ละเมือง เราพร้อมจะร่วมงานกับผู้คนหรือแบรนด์ต่างๆ จากหลายๆ วงการที่แตกต่างกันแต่มีความคิดคล้ายกันกับเรา ซึ่งอาจจะเป็นได้ตั้งแต่แฟชั่นดีไซเนอร์ เทศกาลดนตรี ไปจนถึงโรงกลั่นสุราในชุมชนและร้านเบเกอรี่ดีๆ” มานะพงษ์บอก
เขากล่าวต่อว่า ตลาดเบอร์เกอร์ในไทยมีศักยภาพอย่างมากในภูมิภาคนี้ เพราะมีฐานผู้บริโภคที่แข็งแรงและมีบทบาทเป็นจุดหมายปลายทางระดับแนวหน้าของนักท่องเที่ยวทั่วโลก ถึงแม้ระยะนี้การเติบโตทางเศรษฐกิจทั่วทุกภาคส่วนกำลังชะลอตัว แต่เขามองว่ายังมีโอกาสเติบโตอยู่
“ด้วยรากเหง้าของความเป็นไฟน์ไดนิ่งและการทุ่มเทให้กับการสร้างชุมชน การต้อนรับลูกค้า และการเสาะหาวัตถุดิบระดับพรีเมียมในแบบของ Shake Shack เรามีความหวังที่เรียบง่ายมากๆ นั่นคือขอแค่ถ้าคนนึกถึงเบอร์เกอร์ที่อยากกินแบบสุดๆ เมื่อไหร่ ก็ขอให้เขานึกถึง Shake Shack เมื่อนั้น” มานะพงษ์กล่าว
ส่วนร้านหรูที่กำลังอยู่ระหว่างตกแต่งและจะเปิดในอนาคต ได้แก่ Swatch shop, Cos แบรนด์แฟชั่นในเครือ H&M ซึ่งจะเปิดตัวในปีหน้า ซึ่งนั่นจะทำให้ One Bangkok กลายเป็นแหล่งไลฟ์สไตล์แห่งใหม่ที่น่าสนใจไม่แพ้ใครเลยทีเดียว
เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : วัน แบงค็อก เปิดตัวสุดอลังการ 'แลนด์มาร์กแห่งใหม่' ย่านพระราม 4
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine