สหพัฒน์ปรับลดแคมเปญชิงโชคทั่วไทย-เผยยอดขาย ‘มาม่า’ กลับมาโตพุ่ง 7.5% - Forbes Thailand

สหพัฒน์ปรับลดแคมเปญชิงโชคทั่วไทย-เผยยอดขาย ‘มาม่า’ กลับมาโตพุ่ง 7.5%

สหพัฒนพิบูลประกาศยอดขายปี 2559 โต 13.2% จากยอดขายน้ำตาลมิตรผลกระฉูด ปี 2560 คาดยอดขายทรงตัวจากสัญญาจัดจำหน่าย ‘กะทิอร่อยดี-Nike’ หลุดมือ ปรับการตลาดลดแคมเปญชิงโชคทั่วไทย-จัดโปรฯเฉพาะพื้นที่ สินค้าเรือธงดันน้ำแร่มองต์เฟลอเจาะตลาด-เผยยอดขายมาม่าโตพุ่ง 7.5% สูงสุดในรอบ 5 ปี

บุญชัย โชควัฒนา ประธานกรรมการ บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) ประกาศยอดขายปี 2559 ของบริษัททำได้ 32,845 ล้านบาท เติบโต 13.2% มากกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 10% ซึ่งคาดว่าเกิดจากสหพัฒนพิบูลได้เป็นผู้จัดจำหน่ายและทำตลาดให้กับน้ำตาลมิตรผล ทำยอดขายได้ 3,667 ล้านบาท โดยเฉพาะประเภทน้ำตาลพิเศษ เช่น น้ำเชื่อม น้ำตาลทรายแดง ยอดขายเติบโตสูงถึง 50% รวมถึงบริษัทมีการจัดโครงสร้างการบริหารการขายและการตลาดใหม่ด้วยแนวคิด 3T+1 คือ Target (กำหนดเป้าหมาย) Timing (บริหารเวลา) Tracking (ติดตามผล) และ Teamwork (ทำงานเป็นทีม) ที่ทำให้เกิดผลดีในการทำงาน
สินค้าประเภทน้ำตาลพิเศษแบรนด์ 'มิตเต้' จากมิตรผล
ส่วนปี 2560 ตั้งเป้าหมายยอดขายที่ 3.3 หมื่นล้านบาท ทรงตัวใกล้เคียงยอดขายปี 2559 เนื่องจากบริษัทได้หมดสัญญาเป็นผู้ทำตลาดและจัดจำหน่ายให้กับกะทิอร่อยดีและ Nike ซึ่งทำให้ยอดขายขาดหายไป 2,400 ล้านบาท และ 200 ล้านบาทตามลำดับ อย่างไรก็ตาม สหพัฒนพิบูลมีสินค้าใหม่ทดแทนคือกะทิ ‘พร้าวหอม’ จากผู้ผลิตคือบริษัท สุรีย์ อินเตอร์ฟู้ดส์ จำกัด ที่จะนำมาจัดจำหน่าย ตั้งเป้าหมายยอดขายปีแรก 500 ล้านบาท และได้รับสิทธิเป็นผู้จำหน่ายแบรนด์ Under Armour โดยวางขายเป็นแห่งแรกที่ City Mall จังหวัดอุบลราชธานี และสินค้าเดิมโดยรวมตั้งเป้าเติบโต 10%  

การตลาดใหม่แคมเปญเฉพาะพื้นที่

บุญชัยกล่าวต่อว่า ปีนี้สหพัฒนพิบูลจะลดการใช้การตลาดแบบทั่วประเทศ (nationwide) และเปลี่ยนมาใช้แคมเปญแบบเฉพาะภาคหรือพื้นที่แทน (localize) เพื่อให้การตลาดเข้มข้นและลงลึกในแต่ละจุด “บริษัทปรับจาก nationwide เพราะการตลาดเริ่มได้ผลต่ำแต่ใช้เงินมาก จึงควรจะใช้แบบลงน้ำหนักตามพื้นที่ที่เกิดปัญหาเชิงการตลาด localize ให้เหมาะสมเพราะคนแต่ละภาคต้องการไม่เหมือนกัน การจับแจกชิงโชคแบบทั่วประเทศจะใช้ตามความจำเป็น” บุญชัยเปิดเผย  

อัดน้ำแร่มองต์เฟลอเจาะตลาด

ด้าน ผาสุข รักษาวงศ์ กรรมการรองผู้อำนวยการอาวุโส บมจ.สหพัฒนพิบูล กล่าวว่า สินค้าที่จะผลักดันสูงในปี 2560 คือน้ำแร่มองต์เฟลอ เพราะพบว่าตลาดน้ำแร่มูลค่า 4 พันล้านบาทมีการเติบโต 15% ในปีที่ผ่านมา โดยมองต์เฟลอมีส่วนแบ่งในตลาด 16% เป็นอันดับ 3 และเชื่อว่ายังเติบโตได้ด้วยการแก้ไขจุดอ่อนคือการกระจายสินค้าให้หลากหลายช่องทางขึ้น สำหรับสินค้าใหม่ 3 กลุ่มช่วงครึ่งปีแรก 2560 ของสหพัฒน์ จะมีการวางจำหน่าย 1.กลุ่มอาหาร เช่น มาม่ามัสมั่นไก่ มาม่าคาโบนาร่าชีส บะหมี่ซื่อสัตย์กุ้งอบชีสภูเขาไฟ ฯลฯ 2.กลุ่มของใช้ เช่น แปรงสีฟัน น้ำยาบ้วนปาก โลชั่นบำรุงผิว แบรนด์กู๊ดเอจ เพื่อวัย 40 ปีขึ้นไป 3.กลุ่มแฟชั่น คือแบรนด์ Under Armour ดังกล่าว
ตัวอย่างสินค้าใหม่ปี 2560 มาม่าข้าวต้มคัพรสหมูสับกระเทียมพริกไทย และมาม่าคาโบนาร่าชีส
 

มาม่ากลับมาโตพุ่งในรอบ 5 ปี

เวทิต โชควัฒนา กรรมการรองผู้อำนวยการ บมจ.สหพัฒนพิบูล กล่าวว่า บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมาม่า เมื่อปีก่อนมียอดขายเติบโตถึง 7.5% จากปี’58 ซึ่งถือว่าเติบโตสูงสุดในรอบ 5 ปี และสูงขึ้นมากจากปี 2557-58 ที่ยอดขายมาม่าทรงตัว 0% คาดว่าเกิดจากเศรษฐกิจปรับตัวดีขึ้นและสามารถควบคุมให้ราคามาม่าในท้องตลาดมีเสถียรภาพ สำหรับปีนี้ตั้งเป้าให้มาม่าเติบโตถึง 10% คิดเป็นมูลค่า 9,600 ล้านบาท โดยมีมาร์เก็ตแชร์ทรงตัว 52% และจะอัดงบการตลาดเพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ใช้งบไป 230 ล้านบาท ประมาณ 10-20% ส่วนการวางรากฐาน 4.0 ของสหพัฒนพิบูล พัฒนา Data Center บนตึกบางกอกทาวเวอร์ที่ลงทุนมูลค่า 52 ล้านบาทไปเมื่อปีก่อน จะพร้อมใช้งานในปีนี้ และจะใช้งบอีก 40 ล้านบาท พัฒนาทั้งเซิร์ฟเวอร์และซอฟต์แวร์รองรับเพิ่มเติม เนื่องจากบริษัทจะขยายงาน B2B คือระบบสำหรับร้านค้าดั้งเดิม (Traditional Trade) สามารถสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ได้เลยโดยไม่ต้องรอสั่งซื้อกับเซลส์จากสหพัฒน์ที่จะเข้าไปรับคำสั่งซื้อที่ร้านทุกวัน “เราเห็นว่าร้านค้าที่ขายเป็นรุ่น 2-3 มาทำงานแทนแล้ว ซึ่งการสั่งสินค้าเองจะสะดวกกว่า โดยจะได้รับของในวันรุ่งขึ้นเช่นเดิม จากการทดลองในกรุงเทพฯมา 1 เดือน มีร้านค้าเข้าร่วมแล้ว 700 รายจากทั่วประเทศหลักหมื่นราย จากนี้จะขยายไปยังหัวเมืองที่มีศูนย์กระจายสินค้าของบริษัท คือ เชียงใหม่ โคราช และชลบุรี” เวทิตกล่าวปิดท้าย