เราต่างก็เห็นค่าแบรนด์ต่างๆ ด้วยเหตุผลที่ต่างกันไป บ้างก็ทั้งมูลค่าและคุณภาพเยี่ยม บ้างก็ตรงกับค่านิยมและตัวตนของเราเหมือนกับมีข้อความที่คัดสรรมาให้ตรงกับสิ่งที่เราเป็น หรือไม่ก็สิ่งที่เราอยากเป็นมากที่สุด ในปีแรกของการจัดอันดับ
Forbes Halo 100 นี้ ทาง Forbes อยากจะเน้นไปที่ความสุดยอดในการมอบประสบการณ์ที่ลูกค้าต้องการเป็นหลัก เราจะวัดว่าแบรนด์ต่างๆ ให้บริการผู้บริโภคในสหรัฐได้ดี และอย่างมีความรับผิดชอบมากขนาดไหน
ก่อนจะเริ่ม เราได้จับมือกับ
HundredX บริษัทวิเคราะห์ดาต้าจาก Dallas ที่ได้พัฒนานวัตกรรมสุดล้ำในการเก็บความคิดเห็นจากลูกค้า โดยลูกค้าจะเลือกแบรนด์มาไม่เกิน 75 แบรนด์ที่สำคัญต่อพวกเขาจากตัวเลือกกว่า 2,000 ตัวเลือก และแชร์ความคิดเห็น รวมถึงประสบการณ์ที่มีต่อแบรนด์นั้นๆ สุดท้ายทาง HundredX ก็จะนำเงินไปมอบให้กับมูลนิธิที่ถูกใจพวกเขาที่สุดเป็นการตอบแทน
เป้าหมายก็คือ
“เพื่อที่จะวัดผลลัพธ์ที่คุณกำลังสร้างให้กับลูกค้าตัวเองเมื่อเทียบกับตัวเลือกที่พวกเขามี” Rob Pace ผู้ก่อตั้งกล่าว ลิสต์นี้มาจากการเก็บความคิดเห็นของลูกค้ากว่า 110,000 คนจากมากกว่า 2.8 ล้านปฏิสัมพันธ์กับแบรนด์ต่างๆ ในปีที่ผ่านมา ทำให้เราได้เห็นได้ชัดมากขึ้นว่าใครกำลังไปได้สวยกับกลุ่มลูกค้าไหนบ้าง สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการเก็บข้อมูล Forbes Halo 100 สามารถอ่านได้
ที่นี่
แบรนด์ที่มาเหนือใครเลยคือ Costco ซึ่งได้ทำการเช่าเรือเป็นของตัวเองเพื่อรักษาราคาสินค้าให้ต่ำ และมีซัพพลายให้กับกว่า 113 ล้านสาขาของทางบริษัทอยู่ตลอดเวลา
ตามมาด้วย
In-N-Out Burger และ
Chick-fil-A สองแบรนด์ฟาสต์ฟู้ดที่ลูกค้าชอบทั้งอาหาร, ความสะอาด และการบริการชั้นยอดในขณะเดียวกัน แต่ละแบรนด์ก็มีเรื่องให้ปวดหัวของตัวเองกันอยู่
ทาง In-N-Out เองก็ยึดมั่นในหลักธรรมของชาวคริสเตียนมาเนิ่นนาน จนกระทั่งตีพิมพ์ข้อพระคัมภีร์ลงไปบนกระดาษห่อเบอร์เกอร์ ทำให้มีทั้งแฟนคลับและคนไม่ชอบขี้หน้า ส่วนอีกฝั่งหนึ่งนั้น คอมเมนต์ของ
Dan Cathy ซีอีโอของ Chick-fil-A เกี่ยวกับการสมรสเท่าเทียมและเห็นด้วยกับกลุ่มต่อต้าน LGBTQ+ เป็นหนึ่งในสาเหตุว่าทำไมแบรนด์ที่คะแนนสูงแบรนด์นี้ถึงมีเรตติ้งต่ำกว่าในด้านความไว้วางใจและคุณค่าของแบรนด์
ทั้งนี้ ก็ยังมีแบรนด์ที่ได้รับสปอตไลท์น้อยกว่าเพื่อนแต่ก็กำลังแซงหน้าไปอย่างเงียบๆ เช่น แบรนด์จาก Florida อย่าง
Publix ติดโผมาในอันดับที่สูงกว่า
Trader Joe’s เป็นต้น ในขณะเดียวกันก็มีหลายแบรนด์ที่กำลังได้ชัยชนะด้วยแนวคิดแบบ function-over-fashion เช่น
Columbia Sportswear เป็นต้น
Tim Boyle ซีอีโอของ Columbia Sportswear ยังคงเป็นบุคคลที่หลายๆ คนมีภาพติดตาว่าเมื่อช่วงปี 1980s โดน Gert แม่ของเขา (ซีอีโอ ณ ตอนนั้น) ผลักเขาไปในเครื่องล้างรถอัตโนมัติเพื่อแสดงให้เขาเห็นถึงความทนทานของเสื้อโค้ตแบบเดียวกับที่ Columbia วางขายอยู่ในทุกวันนี้ และด้วยคุณค่าที่ส่งมอบให้กับลูกค้านั้น บวกกับราคา อาจเป็นตัวอธิบายว่าทำไมแบรนด์เสื้อผ้า Outdoor นี้ถึงเป็นที่ 1 เมื่อพูดถึงการรับรู้ถึงคุณค่าของแบรนด์และความไว้วางใจที่ลูกค้าหลากหลายกลุ่มมีให้ต่อแบรนด์นี้ โดยในบทสัมภาษณ์กับ Forbes Boyle ให้เหตุผลว่าทั้งหมดนี้มากจากของแบรนด์เขา
“ความเข้าถึงได้” ของแบรนด์เขา
ความไว้วางใจและคุณค่าของแบรนด์คือหัวใจหลักที่จะเป็นตัวสินว่าผู้บริโภคจะรู้สึกอย่างไรต่อแบรนด์นั้นๆ นี่คือหนึ่งเหตุผลที่
Toyota แซงแบรนด์รถยนต์อื่นๆ ในรายชื่อของปีนี้ โดยร้อยละ 80 ของลูกค้ากล่าวว่าพวกเขาจะซื้อจากแบรนด์นี้อีก
แบรนด์อย่าง
Netflix กำลังไปได้สวยเมื่อเราพูดถึงการตอบโจทย์ลูกค้าที่ไม่ใช่ชาวผิวขาว ซึ่งมาจากคอนเทนต์ที่มีความหลากหลายบนบนริการสตรีมมิ่งนี้นั่นเอง โดย
Andre Benjamin รองประธานด้านกลยุทธ์แห่ง HundredX อธิบายว่า เมื่อเราดูที่การตอบรับของลูกค้า
“ชาวเอเชียบอกว่า พวกเขาชอบที่อนิเมะและซีรีย์เกาหลีได้รับความสนใจ [และ] ชาวผิวดำบางคนก็ชอบที่ละครตลกและภาพยนตร์ของชาวผิวดำได้รับความสนใจ”
ท้ายที่สุดแล้ว ความสัมพันธ์ที่ลูกค้ามีต่อแบรนด์นั้นมันก็ค่อนข้างจะส่วนตัว เมื่อบริษัททำให้คุณรู้สึกว่าผลิตภัณฑ์ของเขาถูกดีไซน์มาเพื่อคุณ คุณก็จะมีประสบการณ์ดีๆ เมื่อได้ใช้มัน เมื่อคุณรู้สึกว่าแบรนด์นั้นๆ ยังเป็นพลังบวกให้แก่โลกด้วยล่ะก็ มันก็ยิ่งมีอะไรที่ดึงคุณกลับมาหาแบรนด์นั้นมากกว่าเดิม
10 อันดับแบรนด์จากทำเนียบ Forbes Halo 100
อันดับ 1
Costco
อุตสาหกรรม: ซุปเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่
สำนักงานใหญ่: Issaquah, Washington
อันดับ 2
In-N-Out Burger
อุตสาหกรรม: ฟาสต์ฟู้ด
สำนักงานใหญ่: Irvine, California
อันดับ 3
Chick-fil-A
อุตสาหกรรม: ฟาสต์ฟู้ด
สำนักงานใหญ่: Atlanta, Georgia
อันดับ 4
Publix Super Markets
อุตสาหกรรม: ค้าปลีกประเภทซูเปอร์มาร์เก็ต
สำนักงานใหญ่: Lakeland, Florida
อันดับ 5
Trader Joe's
อุตสาหกรรม: ค้าปลีกประเภทซูเปอร์มาร์เก็ต
สำนักงานใหญ่: Monrovia, California
อันดับ 6
Toyota
อุตสาหกรรม: ยานยนต์
สำนักงานใหญ่: Tokyo, Japan
อันดับ 7
Honda
อุตสาหกรรม: ยานยนต์
สำนักงานใหญ่: Tokyo, Japan
อันดับ 8
Marriott
อุตสาหกรรม: โรงแรม
สำนักงานใหญ่: Bethesda, Maryland
อันดับ 9
Apple
อุตสาหกรรม: อิเล็กทรอนิกส์
สำนักงานใหญ่: Cupertino, California
อันดับ 10
Subaru
อุตสาหกรรม: ยานยนต์
สำนักงานใหญ่: Tokyo, Japan
สามารถดูอันดับที่ 11-100 ต่อได้ใน
บทความนี้
แปลและเรียบเรียงโดย ทัตชญา บุษยากิตติกร จากบทความ The Forbes Halo 100 2022 เผยแพร่บน Forbes.com
อ่านเพิ่มเติม: มหาเศรษฐีหน้าใหม่ ดาวเด่นประจำปี 2021
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine