การระบาดของไวรัสโคโรนากำลังเปลี่ยนแปลงระบบเศรษฐกิจอยู่ทุกชั่วโมงในทุกๆ วัน ก่อให้เกิดสิ่งใหม่ ที่ดีกว่า ยุติธรรมกว่า ชาญฉลาดยิ่งกว่า และมันกำลังเกิดขึ้นอยู่ในเวลานี้บน โลกทุนนิยม แห่งสหรัฐอเมริกา
2020 เป็นปีที่ช่างน่าเหลือเชื่อจนเหมือนกับทุกคนติดอยู่ในวนลูปแห่งเวลา นาฬิกาเดินช้าลง กิจกรรมสันทนาการฆ่าเวลาและสิ่งจำเป็นของศตวรรษก่อนถูกหยิบมาปัดฝุ่นจากชั้นวางของ ตั้งแต่ตัวต่อจิ๊กซอว์ไปจนถึงยีสต์ แต่ในเวลาเดียวกัน โลกกลับกำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วอย่างที่ไม่เคยเห็นมาตั้งแต่เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 2 ระบบทุนนิยมเป็นเครื่องจักรที่ขับเคลื่อนความเจริญรุ่งเรืองและการสร้างสรรค์นวัตกรรมที่มีพลังมากที่สุด เท่าที่เคยมีมา แต่ระบบทุนนิยมอยู่ภายใต้แรงกดดัน ก่อนการระบาดของไวรัสโคโรนาแม้จะมีการจ้างงาน และการเติบโตของเศรษฐกิจอย่างน่าประทับใจตลอด ช่วงทศวรรษที่ผ่านมา แต่ชาวอเมริกันจำนวนมากบอกว่า พวกเขารู้สึกเหมือนกับว่าทั้งระบบมีแต่คำโกหก พวกเขาพบว่า การทำงานหนักและการเล่นตามกติกา ไม่ได้แปลว่า จะประสบความสำเร็จอีกต่อไป “มันน่ากลัว เวลาที่มีอัตราการว่างงานต่ำที่สุด ไม่ว่าจะเป็นในกลุ่มชาวแอฟริกัน-อเมริกัน ชาวละติน หรือผู้หญิง” Michael Milken กล่าว เขาเองตกอยู่ในวัฏจักรนี้มาหลายครั้งหลายครา “หลายคนรู้สึกอย่างนั้น”
-บทที่ 1 โอกาสที่เท่าเทียมมาก่อนผลลัพธ์ที่เท่าเทียม-
โรคระบาดได้เผยให้เห็นรอยแยกที่ขยายใหญ่และกำลังสร้างปัญหาให้กับสหรัฐฯ เมื่อชุมชนชาวผิวสีต้องทนทุกข์กับการเจ็บป่วย เสียชีวิต และว่างงานอย่างไร้ความเท่าเทียม Robert Smith เศรษฐีชาวแอฟริกัน-อเมริกัน ผู้สร้างตัวจนรวยที่สุดด้วยมูลค่าสินทรัพย์ 5 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ให้ความสำคัญกับการเพิ่มโอกาสแก่กลุ่มคนผิวสีรุ่นเยาว์ที่โด่งดังที่สุดคือ การประกาศชำระเงินกู้ยืมให้กับนักศึกษารุ่น 2019 แห่ง Morehouse College ระหว่างกล่าวสุนทรพจน์กลางงานรับปริญญา ซึ่งได้ยินกันไปทั่วทั้งโลก ทั้งนี้เมื่อเดือนเมษายนตอนสหรัฐฯ เปิดตัวโครงการ PPP (สินเชื่อคุ้มครองธุรกิจ) กันไปแบบเงอะๆ งะๆ บรรดาบริษัทที่มีขนาดใหญ่กว่า มีเส้นสายดีกว่า และเล่นเกมเก่งกว่า รุมตะครุบเงินก้อนแรกจำนวน 3.5 แสนล้านเหรียญไปในเวลาไม่กี่วัน ทำให้ Smith ไม่พอใจอย่างมาก ในช่วงเวลา 3 สัปดาห์ก่อนถึงรอบปล่อยสินเชื่อ ครั้งที่ 2 Smith จึงได้มองหาวิธีแก้ปัญหา ประเด็นสำคัญคือ สินเชื่อ PPP จะจ่ายผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ของหน่วยงานบริหารธุรกิจขนาดเล็ก ซึ่งเป็นระบบที่มีเพียงธนาคารขนาดใหญ่เท่านั้นที่สามารถเข้าถึงได้ “70% ของชุมชนชาวแอฟริกัน-อเมริกันไม่มีธนาคาร” Smith กล่าว หรือต่อให้มีก็คาดว่า ธุรกิจของชาวแอฟริกัน-อเมริกันราว 90% เป็นธุรกิจส่วนตัวที่ไม่มีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นกับธนาคารแบบที่ช่วยผลักดันลูกค้ารายใหญ่กว่าให้ขึ้นไปอยู่แถวหน้า
-บทที่ 2 ผู้มีส่วนได้เสียมาก่อนผู้ถือหุ้น-
นับตั้งแต่โรคระบาดเป็นเหตุให้แรงงานใน New York ต้องกลับไปอยู่บ้านเมื่อเดือนมีนาคม Hans Vestberg ซีอีโอของ Verizon ก็เริ่มเรียกประชุมสภาที่ปรึกษาทุกวัน 8 โมงเช้าเสมือนอยู่ในสงคราม “การตัดสินใจเป็นเรื่องที่ไม่คาดคิดมาก่อนเอาเสียเลย” Vestberg กล่าว เขาประเมินคร่าวๆ ว่า เขาต้องตัดสินใจในสิ่งที่อาจทำให้เขาถูกวิพากษ์วิจารณ์อีก 5 ปีข้างหน้าอย่างน้อยวันละ 2 หน ตั้งแต่เริ่มเกิดวิกฤตการณ์ ทีม 30 คนของเขาต้องตัดสินใจแก้ปัญหาทุกอย่างโดยมองผ่านแท่งแก้ว 4 ด้าน ซึ่งแต่ละด้านมีระดับความสำคัญต่างกันไปคือ พนักงาน จากนั้นเป็นลูกค้า ต่อมาคือสังคม ส่วนด้านสุดท้ายและท้ายสุดคือ ผู้ถือหุ้น “ครั้งนี้เราต้องตั้งเข็มทิศให้ชัดเจน” เขากล่าว แล้วระบอบทุนนิยมเพื่อผู้มีส่วนได้เสียในแบบของ Verizon หน้าตาเป็นอย่างไรกัน บริษัทนี้มีพนักงาน 145,000 คน ซึ่ง Vestberg ไม่เลิกจ้างแม้แต่คนเดียว คนที่อยู่หน้างานจะได้เงินค่าเสี่ยงเพิ่ม และพนักงานที่ติดโควิด-19 จะได้ลาป่วย 26 สัปดาห์โดยได้รับค่าจ้างพนักงาน 120,000 คนทำงานอยู่ที่บ้าน และพนักงานอีกมากที่ปัจจุบันไม่มีงานให้ทำจะถูกส่งไปช่วยในโครงการต่างๆ ทั่วบริษัท หรือโครงการอาสาสมัครของ Verizon ซึ่งเป้าหมายไม่ใช่แค่ค่าจ้าง แต่วิธีการนี้ออกแบบมาเพื่อให้พนักงานยังมีจุดมุ่งหมายในช่วงเวลาอันท้าทายนี้
-บทที่ 3 ทางแก้ในวันนี้มาก่อนทางแก้ในวันหน้า-
เมื่อเกิดการระบาด Ray Dalio ผู้ก่อตั้ง Bridgewater Associates ซึ่งเป็นกองทุนเฮดจ์ฟันด์ขนาดใหญ่ที่สุด และใช้เหตุผลคาดการณ์สิ่งต่างๆ มากที่สุดในประเทศสังเกตเห็นบางสิ่ง นั่นคือ เมื่อเด็กๆ ในรัฐ Connecticut บ้านเกิดของเขาถูกสั่งให้เรียนหนังสืออยู่ที่บ้านก็เท่ากับตัดสินชะตาให้เด็กฐานะไม่ดีต้องถูกเพื่อนทิ้งห่างไปไกล หลายคนขาดแคลนอาหารและต้องอยู่อย่างแออัด ซึ่งทำให้พวกเขาทั้งไม่มีพื้นที่ส่วนตัวและมีโอกาสป่วยมากขึ้นและเด็ก 22% ไม่มีคอมพิวเตอร์ที่บ้านยังไม่ต้องพูดถึงคอมพิวเตอร์ส่วนตัว หรือสัญญาณอินเทอร์เน็ตดีๆ ด้วยซ้ำ “ผมได้เห็นโศกนาฏกรรมของจริง” Dalio กล่าว “และได้เห็นคนกลุ่มหนึ่งมารวมตัวกันแล้วพูดว่า เรื่องแบบนี้ต้องไม่เกิดขึ้น” Dalio บริจาคเงิน 100 ล้านเหรียญเพื่อช่วยขับเคลื่อนโครงการนี้ตั้งแต่แรก และรัฐ Connecticut ก็มอบเงินจำนวนเท่ากันเพิ่มให้อีก “คนกลุ่มนั้น” ซึ่งมีทั้ง Bill Gates กับ Microsoft และ Michael Dell กับ Dell Computer รวมทั้งสมาชิกสภาและผู้นำด้านการศึกษาของ Nutmeg State ช่วยกันนำเครื่องคอมพิวเตอร์พร้อมใช้งาน 60,000 เครื่อง ไปมอบให้นักเรียนในครอบครัวรายได้น้อย สำหรับ Dalio ผู้ซึ่ง Forbes ประเมินว่ามีทรัพย์สิน 1.8 หมื่นล้านเหรียญ การตัดสินใจเช่นนั้นไม่ใช่เรื่องยาก เพราะนี่คือผลลัพธ์ที่ขับเคลื่อนด้วยผลตอบแทนจากการลงทุนตามหัวใจของระบอบทุนนิยมที่ยิ่งใหญ่ขึ้น และเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าการกุศลในปัจจุบันกำลังมุ่งไปในทิศทางไหน ปัญญาชนกลุ่มหนึ่งแสดงความไม่พอใจการกุศลในระยะหลังและแย้งว่า พวกเศรษฐีควรถูกเก็บภาษีให้หนักเหมือนโดนยึดทรัพย์ เพื่อไม่ให้เหล่าคนรวยที่สุดมีอิทธิพลต่อสังคมมากขนาดนี้ ซึ่งมันเป็นนโยบายเศรษฐกิจที่ห่วยแตก เพราะแม้เศรษฐีพันล้านส่วนใหญ่จะเตรียมใจถูกเก็บภาษีเพิ่มในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่งเอาไว้แล้ว ไม่ว่าใครจะชนะเลือกตั้งปี 2020 แต่การตั้งอัตราภาษีสูงลิบแบบที่วง The Beatles เคยโดนกลับจะกดให้เศรษฐกิจไม่โตมากกว่าจะสร้างรายได้
คลิกอ่านฉบับเต็ม “ทุนนิยมที่เหนือกว่า” ได้ที่นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนกันยายน 2563 ในรูปแบบ e-magazine
