Forbes ร่วมกับหุ้นส่วนวิจัย Just Capital จัดทำโผการจัดอันดับใหม่จาก บริษัทรายใหญ่ที่สุด 100 รายในกลุ่มบริษัทมหาชนของสหรัฐฯ เพื่อค้นหาสุดยอด "บริษัทนายจ้าง" จากโควิด-19
สำหรับหลักในการประเมินเพื่อค้นหาสุดยอด "บริษัทนายจ้าง" เราใช้มาตรการรับมือวิกฤตไวรัสโคโรนาของบริษัทนายจ้างรายใหญ่ที่สุด 100 รายในกลุ่มบริษัทมหาชนของสหรัฐฯ ครอบคลุม 22 หมวดธุรกิจ ในด้านการสนับสนุนและคุ้มครองแรงงาน ลูกค้า และชุมชน โดยวิเคราะห์ความพยายามของบริษัทเหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็นการผ่อนคลายนโยบาย การเข้าที่ทำงาน หรือการให้เงินช่วยเหลือแก่ชุมชนและให้คะแนน 1-5 จากนั้นจึงนำมาเฉลี่ยให้ได้คะแนนรวม สำหรับการจัดอันดับนี้วัดจากนโยบายที่เปิดตัวระหว่างกลางเดือนมีนาคมไปจนถึงวันที่ 7 พฤษภาคม 2020 ซึ่งแสดงให้เห็นเจตนารมณ์ที่แท้จริงของบริษัทมากกว่าการดำเนินตามนโยบายการตอบสนองต่อวิกฤตโควิด-19 ก็เหมือนกับการระบาดคือ ฉับไว ทรงพลัง และไม่เคยมีมาก่อน ส่วนผลลัพธ์ระยะยาวหรือเพียงชั่วคราวเท่านั้นต้องติดตามต่อไป พบ 10 บริษัทเด่นจาก 25 บริษัทนายจ้าง จากสถานการณ์โควิด-19 VERIZON COMMUNICATIONS โทรคมนาคม - จ่ายเงินเพิ่มเป็นกรณีพิเศษสำหรับพนักงานประจำที่ยังต้องทำงานภาคสนามหรือเข้าออฟฟิศ - เว้นการตัดสัญญาณสำหรับลูกค้าที่ประสบปัญหาทางการเงินเนื่องจากโรคระบาด - ใช้นโยบายลาหยุดพิเศษในช่วงโควิด-19 โดยจะยังคงจ่ายค่าจ้างเต็มจำนวนเป็นเวลา 8 สัปดาห์ และลดค่าจ้างเหลือ 60% เป็นเวลา 16 สัปดาห์ WALMART ค้าปลีก - ประกาศจ่ายโบนัสพิเศษเป็นเงินสดเกือบ 1 พันล้านเหรียญให้พนักงานรายชั่วโมงในสหรัฐฯ ของบริษัท - จ้างพนักงาน 200,000 คน ซึ่งกว่าครึ่งเป็นพนักงานชั่วคราว บางส่วนเป็นคนที่ตกงานจากอุตสาหกรรมซึ่งได้รับผลกระทบอย่างหนัก เช่น ร้านอาหาร และธุรกิจ โรงแรมและบริการ - กำหนดนโยบายวันลาป่วยเนื่องจากโควิด-19 ให้ลาโดยได้รับค่าจ้างได้สูงสุด 2 สัปดาห์ STARBUCKS ค้าปลีก - จัดตั้งสวัสดิการด้านสุขภาพจิต - เพิ่มสวัสดิการตามนโยบายช่วยดูแลเด็ก และผู้สูงอายุ - ส่งเครื่องวัดอุณหภูมิไปให้ร้านของบริษัท HOME DEPOT ค้าปลีก - เพิ่มวันลาโดยได้รับค่าจ้างอีก 240 ชั่วโมงสำหรับพนักงานรายชั่วโมงที่ทำงานเต็มเวลา ซึ่งอายุ 65 ปีขึ้นไป หรือถูกประเมินโดยศูนย์ควบคุมโรคติดต่อแล้วว่าอยู่ในกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง - ส่งเครื่องวัดอุณหภูมิไปให้พนักงานในร้านและศูนย์กระจายสินค้าเพื่อตรวจสอบสุขภาพก่อนเข้ากะ - บริจาคหน้ากาก N95 ให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุข JPMORGAN CHASE บริการด้านการเงิน - จ่ายโบนัสให้พนักงานหน้าเคาน์เตอร์ 1,000 เหรียญ - จัดตั้งกองทุนช่วยเหลือหลายกอง - เพิ่มวันลาแบบได้รับค่าจ้างให้กับพนักงานทุกคน BANK OF AMERICA บริการด้านการเงิน - จัดตั้งกองทุนช่วยเหลือมูลค่า 100 ล้านเหรียญสำหรับชุมชนต่างๆ - ให้คำมั่นว่าจะไม่เลิกจ้างพนักงานเนื่องจากโคโรนาไวรัสตลอดปี 2020 - จ่ายเงินเดือนให้พนักงานประจำเต็มจำนวนแม้เวลาทำงานจะลดลง และเพิ่มค่าล่วงเวลาให้พนักงานคอลเซ็นเตอร์เป็น 2 เท่าของค่าจ้างรายชั่วโมงตามปกติ ALPHABET เทคโนโลยี - สัญญาจะมอบเงินมากกว่า 300 ล้านเหรียญ ช่วยเหลือตั้งกองทุนและให้ความช่วยเหลือด้านอื่นๆ - อนุญาตให้พนักงานทำงานทางไกลตลอดปี 2020 - ให้ลูกค้า G Suite ใช้บริการระบบประชุมออนไลน์ Google Meet ได้ฟรีจนถึง 30 กันยายน APPLE เทคโนโลยี - สมัครใจปิดร้านทั่วโลกและยังจ่ายค่าจ้างให้พนักงานรายชั่วโมง - ช่วยจัดหาและบริจาคหน้ากากกว่า 30 ล้านชิ้นให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่ทำงานอยู่แนวหน้า - ปล่อยเครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูลการเคลื่อนที่เพื่อใช้ช่วยในการต่อสู้กับโควิด-19 FORD MOTOR รถยนต์ - สัญญาว่าจะให้สวัสดิการประกันสุขภาพต่อไปสำหรับพนักงานที่ขอหยุดพักยาว - ผู้บริหารระดับสูง 300 คน ขอเลื่อนการจ่ายเงินเดือนตัวเอง 20-50% ออกไปก่อน - เปลี่ยนมาผลิตหน้ากากกรองอากาศ และหน้ากากป้องกันโควิด-19 PEPSICO เครื่องดื่ม - ปรับนโยบายเพิ่มวันลาป่วยโดยได้รับค่าจ้าง - ให้คำมั่นว่าจะลงทุน 50 ล้านเหรียญทั่วโลก เพื่อช่วยชุมชนที่ได้รับผลกระทบ - เพิ่มสวัสดิการให้พนักงานในสหรัฐฯ ทุกคน และจ่ายเงินเพิ่มให้พนักงานที่ทำงานอยู่แนวหน้า อ่านเพิ่มเติม: Jared Isaacman จากนักเรียนมัธยม สู่มหาเศรษฐีในวัย 37 ปีคลิกอ่านฉบับเต็ม “10 สุดยอด "บริษัทนายจ้าง" กู้วิกฤตจากโควิด-19” ได้ที่นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนกันยายน 2563 ในรูปแบบ e-magazine