<h2>กลับมาอีกครั้งกับการจัดอันดับ “บริษัทเอกชน” ที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา โดยนิตยสาร Forbes ซึ่งปีนี้มีบริษัทเอกชน 258 บริษัทปรากฏชื่อบนทำเนียบ เพิ่มขึ้นจาก 246 บริษัทเมื่อปีที่ผ่านมา</h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;สำหรับปีนี้มีอันดับที่น่าสนใจคือ SpaceX ที่ก่อตั้งและบริหารโดย Elon Musk หลังจากได้รับเงินหลายพันล้านเหรียญสหรัฐฯ จากสัญญากับรัฐบาลเมื่อปีที่ผ่านมา พาบริษัทด้านอวกาศรายนี้คว้าอันดับ 145 บนทำเนียบในปีนี้ไป&nbsp; &nbsp;&nbsp;นอกจากนี้ยังมีบริษัทที่ติดทำเนียบเป็นครั้งแรก คือ Sazerac บริษัทเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่มีมหาเศรษฐี William Goldring เป็นเจ้าของ โดยครองอันดับ 207 ด้วยรายได้ประมาณ 3 พันล้านเหรียญ&nbsp; &nbsp;&nbsp;อันดับหนึ่งในทำเนียบยังคงเป็นของ Cargill ที่ครองตำแหน่งนี้ติดต่อกันเป็นปีที่สาม ตามมาด้วย Koch Industries, Publix Super Markets และ Mars ที่อันดับ 2, 3 และ 4 ตามลำดับ เช่นเดียวกับปีที่แล้ว ส่วน H-E-B ซูเปอร์มาร์เก็ตจากเทกซัสอยู่ที่อันดับ 5&nbsp; &nbsp;&nbsp;หนึ่งสิ่งที่ SpaceX, Sazerac และบริษัทห้าอันดับแรกมีเหมือนกันคือ มีเจ้าของี่เป็นมหาเศรษฐี นอกจากนี้ยังมีอีก 59 บริษัทเอกชนบนทำเนียบที่ปรากฏชื่อมหาเศรษฐีเป็นผู้ครอบครองด้วยเช่นกัน&nbsp; &nbsp;&nbsp;ไม่ว่าจะเป็น บริษัทศิลปะและงานประดิษฐ์ Hobby Lobby (อันดับ 75) ของ David Green, ร้านอาหาร Panda Restaurant Group (อันดับ 112) ของ Andrew และ Peggy Cherng และผู้ผลิตอุปกรณ์การแพทย์ Arthrex (อันดับ 184) ของ Reinhold Schmieding&nbsp; &nbsp;&nbsp;ทั้งนี้ Forbes เริ่มติดตามจัดอันดับบริษัทเอกชนต่างๆ ตั้งแต่ปี 1985 โดยเกณฑ์คือต้องเป็นบริษัทที่มีรายได้รวม 2 พันล้านเหรียญขึ้นไปในปีงบประมาณล่าสุด ทั้งนี้ 85% ของบริษัทที่ติดอันดับอิงรายได้ปี 2022 ส่วนที่เหลือตัดยอดเมื่อเดือนตุลาคม 2023 ที่ผ่านมา&nbsp; &nbsp;&nbsp;สำหรับ 10 อันดับ บริษัทเอกชนใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา ประจำปี 2023 ได้แก่ <div class="se-component se-image-container __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/11/5QQuTAaKkDdfzF9yoSgR.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="5QQuTAaKkDdfzF9yoSgR.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="0"></figure></div>อันดับ 1Cargillธุรกิจ: อาหาร เครื่องดื่ม และยาสูบรายได้รวม: 1.77 แสนล้านเหรียญจำนวนพนักงาน: 160,000 คน​<div class="se-component se-image-container __se__float-center" contenteditable="false" style="width: 50%; min-width: 100%;"><figure style="margin: auto; width: 50%;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/11/vsAiesyFDhWUb8eMSoS8.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="vsAiesyFDhWUb8eMSoS8.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="50%," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="50," style="width: 100%;" data-index="1"></figure></div>อันดับ 2 Koch Industriesธุรกิจ: หลากหลายรายได้รวม: 1.25 แสนล้านเหรียญจำนวนพนักงาน: 120,000 คน​ <div class="se-component se-image-container __se__float-center" contenteditable="false" style="width: 50%; min-width: 100%;"><figure style="margin: auto; width: 50%;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/11/MEFJ3wSiNP4iP9RxzaKL.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="MEFJ3wSiNP4iP9RxzaKL.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="50%," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="50," style="width: 100%;" data-index="2"></figure></div>อันดับ 3 Publix Super Marketsธุรกิจ: ซูเปอร์มาร์เก็ตรายได้รวม: 5.45 หมื่นล้านเหรียญจำนวนพนักงาน: 250,000 คน​ <div class="se-component se-image-container __se__float-center" contenteditable="false" style="width: 50%; min-width: 100%;"><figure style="margin: auto; width: 50%;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/11/SjLzgm6NQj8ss6djmFM4.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="SjLzgm6NQj8ss6djmFM4.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="50%," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="50," style="width: 100%;" data-index="3"></figure></div>อันดับ 4 Marsธุรกิจ: อาหารและเครื่องดื่มรายได้รวม: 4.7 หมื่นล้านเหรียญจำนวนพนักงาน: 140,000 คน​ <div class="se-component se-image-container __se__float-center" contenteditable="false" style="width: 50%; min-width: 100%;"><figure style="margin: auto; width: 50%;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/11/EvhdqB4cQpak2mRsuzp5.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="EvhdqB4cQpak2mRsuzp5.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="50%," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="50," style="width: 100%;" data-index="4"></figure></div>อันดับ 5 H-E-B Grocery Companyธุรกิจ: ซูเปอร์มาร์เก็ตรายได้รวม: 4.36 หมื่นล้านเหรียญจำนวนพนักงาน: 145,000 คน​ <div class="se-component se-image-container __se__float-center" contenteditable="false" style="width: 50%; min-width: 100%;"><figure style="margin: auto; width: 50%;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/11/u1PwBKtTVPWFad8NeuV4.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="u1PwBKtTVPWFad8NeuV4.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="50%," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="50," style="width: 100%;" data-index="5"></figure></div>อันดับ 6 Reyes Holdings ธุรกิจ: อาหาร เครื่องดื่ม และยาสูบรายได้รวม: 4 หมื่นล้านเหรียญ จำนวนพนักงาน: 36,000 คน <div class="se-component se-image-container __se__float-center" contenteditable="false" style="width: 50%; min-width: 100%;"><figure style="margin: auto; width: 50%;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/11/eaugTqaMhiHhveMFRg4W.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="eaugTqaMhiHhveMFRg4W.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="50%," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="50," style="width: 100%;" data-index="6"></figure></div>อันดับ 7Enterprise Mobility ธุรกิจ: การเดินทาง รายได้รวม: 3.5 หมื่นล้านเหรียญ จำนวนพนักงาน: 90,000 คน <div class="se-component se-image-container __se__float-center" contenteditable="false" style="width: 50%; min-width: 100%;"><figure style="margin: auto; width: 50%;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/11/HeUn1MvEWayGWGdTKAf7.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="HeUn1MvEWayGWGdTKAf7.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="50%," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="50," style="width: 100%;" data-index="7"></figure></div>อันดับ 8C&amp;S Wholesale Grocersธุรกิจ: อาหาร เครื่องดื่ม และยาสูบรายได้รวม: 3.46 หมื่นล้านเหรียญจำนวนพนักงาน: 15,000 คน ​<div class="se-component se-image-container __se__float-center" contenteditable="false" style="width: 50%; min-width: 100%;"><figure style="margin: auto; width: 50%;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/11/UPcqzPUR5gcghCZPByKQ.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="UPcqzPUR5gcghCZPByKQ.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="50%," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="50," style="width: 100%;" data-index="8"></figure></div>อันดับ 9 Loves Travel Stops &amp; Country Storesธุรกิจ: ร้านสะดวกซื้อและปั๊มน้ำมันรายได้รวม: 2.65 หมื่นล้านเหรียญจำนวนพนักงาน: 40,000 คน​ <div class="se-component se-image-container __se__float-center" contenteditable="false" style="width: 50%; min-width: 100%;"><figure style="margin: auto; width: 50%;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/11/8Y8rpwZfZxSPfq6AiTVM.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="8Y8rpwZfZxSPfq6AiTVM.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="50%," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="50," style="width: 100%;" data-index="9"></figure></div>อันดับ 10Southern Glazers Wine &amp; Spiritsธุรกิจ: อาหาร เครื่องดื่ม และยาสูบรายได้รวม: 2.6 หมื่นล้านเหรียญจำนวนพนักงาน: 24,000 คน แปลและเรียบเรียงจาก <a href="https://www.forbes.com/lists/largest-private-companies/?sh=4b421c9bbac4" alt="Americas Largest Private Companies">Americas Largest Private Companies</a>​ เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ :&nbsp;<a href="https://www.forbesthailand.com/asia/world/suntory-business-management" alt="บริหารกิจการแบบ Suntory ใช้สูตรผสมต่างวัย">บริหารกิจการแบบ Suntory ใช้สูตรผสมต่างวัย</a> <a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

10 อันดับ บริษัทเอกชนใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา ประจำปี 2023 

Cargill ขึ้นแท่น “บริษัทเอกชนที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ” ประจำปี  2021

<h2>Forbes เผยรายชื่อ 50 ตระกูลมหาเศรษฐีผู้มั่งคั่งแห่งสหรัฐฯ ประจำปี 2020 โดยมูลค่าทรัพย์สินรวมของพวกเขาทั้ง 50 อันดับเพิ่มขึ้นร้อยละ 30 เมื่อเทียบกับการจัดอันดับในปี 2015 ซึ่งมีมูลค่า 9.16 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ มาอยู่ที่ 1.2 ล้านล้านเหรียญ </h2>
โดยตระกูลมหาเศรษฐีผู้มั่งคั่งอันดับที่ 50 มีมูลค่าทรัพย์สินอยู่ที่ 7.3 พันล้านเหรียญ ซึ่งมากกว่าการจัดอันดับครั้งล่าสุดเมื่อ 5 ปีที่แล้วราว 6 พันล้านเหรียญ

สำหรับในปีนี้ ตระกูล Waltons ยังคงครองตำแหน่งตระกูลมหาเศรษฐีผู้มั่งคั่งอันดับ 1 ของประเทศ โดยทายาทของผู้ก่อตั้ง Walmart ธุรกิจค้าปลีกรายใหญ่อย่าง Sam Walton และ Bud Walton ถือครองหุ้นของบริษัทราวร้อยละ 50 คิดเป็นมูลค่าของเงินปันผลกว่า 700 ล้านเหรียญต่อปี 

ด้านตระกูล Koch ครองอันดับ 2 ด้วยสัดส่วนการถือครองหุ้นร้อยละ 84 ใน Koch Industries ธุรกิจเคมีภัณฑ์รายใหญ่ ที่มีผลประกอบการมากถึง 1.15 แสนล้านเหรียญในปีที่ผ่านมา

ขณะที่ตระกูล Sacklers จาก Purdue Pharma ผู้ผลิตยาระงับปวด OxyContin ที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากฝิ่นหรือโอปิออยล์ หลุดจากการจัดอันดับในปีนี้ หลังจากเผชิญกับการฟ้องร้องในปี 2019 ทั้งจากรัฐบาลกลางและรัฐบาลท้องถิ่น รวมถึงโจทย์รายอื่นๆ ที่กล่าวหาว่าบริษัทดังกล่าวผลิตยาอันตรายและสนับสนุนให้เกิดวิกฤตยาโอปิออยด์ในสหรัฐฯ

<figure><img class="wp-image-39198" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/12/Mars.jpg" alt="การจัดอันดับ" width="720" height="383" /><figcaption> พี่น้อง Jacqueline Mars และ John Mars สืบทอดธุรกิจ Mars ของวงศ์ตระกูลในปี 1911</figcaption></figure>

นอกจากนี้ ยังมีตระกูลมหาเศรษฐีผู้มั่งคั่ง ที่ประกอบธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภคที่มีชื่อเสียง อาทิเช่น ตระกูล Mars ผู้ก่อตั้งบริษัทผู้ผลิต M&amp;Ms ขนมช็อคโกแลตและอาหารสัตว์ Pedigree, ตระกูล Brown เจ้าของแบรนด์วิสกี้ Jack Daniel, ตระกูล Dorrance ที่ประกอบธุรกิจซุปยี่ห้อ Campbell's Soup, ตระกูล Fisher เจ้าของแบรนด์เสื้อผ้า Gap และตระกูล Simplot และ Reyes ซึ่งต่างเป็นซัพพลายเออร์รายสำคัญให้แก่เชนฟาสต์ฟู้ดอย่าง McDonald’s 

ในปี 2020 นี้ ตระกูลเก่าแก่อย่าง <a style="color: #008000;" href="https://www.forbes.com/sites/chasewithorn/2017/09/19/the-first-forbes-list-see-who-the-richest-americans-were-in-1918/?sh=6dd9f7c54c0d">Astor, Vanderbilt และ Ford</a> ก็ไม่ปรากฎรายชื่ออยู่ในการจัดอันดับ โดยมีสาเหตุมาจากการที่มูลค่าทรัพย์สินของพวกเขากระจายออกไปในทายาทหลายรุ่นอายุ

ด้านวงศ์ตระกูลใหม่ที่เพิ่งก้าวสู่แท่นมหาเศรษฐีผู้มั่งคั่งในช่วง 5 ทศวรรษที่ผ่านมา ได้แก่ ตระกูล Hughes ที่ดำเนินธุรกิจพื้นที่ห้องเก็บของให้เช่าภายใต้ชื่อบริษัท Public Storage ขณะที่ตระกูล Cathys เป็นเจ้าของกิจการเชนร้านอาหารฟาสต์ฟู้ด Chick-fil-A ที่มีเมนูสร้างชื่อ คือ ไก่ทอด

โดยจากการจัดอันดับ 50 ตระกูลมหาเศรษฐีผู้มั่งคั่งแห่งสหรัฐฯ ประจำปีนี้มีเพียงตระกูล Chaos ตระกูลเดียวที่สืบเชื้อสายไต้หวัน-อเมริกัน และไม่ใช่ชนผิวขาว ที่เข้ามาตั้งรกรากในสหรัฐอเมริกาตั้งแต่ปี 1980 และก่อตั้งธุรกิจเคมีภัณฑ์ Westlake Chemical บริษัทผู้ผลิตเม็ดพลาสติกโพลิเอททิลีนรายใหญ่ของประเทศ ที่ใช้ในการผลิตผลิตภัณฑ์บรรจุอาหาร อาทิเช่น กล่องนม เป็นต้น

อย่างไรก็ดี ไม่ใช่ว่าตระกูลมหาเศรษฐีผู้มั่งคั่งจะเป็นครอบครัวที่มีความสุข เพราะในปีนี้มีถึง 6 ตระกูลที่เผชิญกับ<a style="color: #333333;" href="https://www.forbes.com/sites/denizcam/2020/12/17/more-money-more-problems-inside-the-bitter-family-feuds-of-americas-richest-billionaire-clans/?sh=59bd608f78ed">ปัญหาข้อพิพาทระหว่างครอบครัว</a> ในประเด็นที่ว่าด้วยกฎหมายการบริการจัดการทรัพย์สินในกองทรัสต์ (Trust Fund) การสืบทอดธุรกิจ ตลอดจนการฟ้องร้องในคดีฆาตรกรรม

โดย 10 <a style="color: #008000;" href="https://www.forbes.com/sites/kerryadolan/2020/12/17/billion-dollar-dynasties-these-are-the-richest-families-in-america/?sh=63925531772c&amp;utm_source=FBPAGE&amp;utm_medium=social&amp;utm_content=4327476532&amp;utm_campaign=sprinklrForbesMainFB">อันดับตระกูลมหาเศรษฐีผู้มั่งคั่งแห่งสหรัฐฯ ประจำปี 2020</a> มีรายชื่อดังต่อไปนี้ 

<img class="alignnone size-full wp-image-39199" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/12/1..jpg" alt="" width="274" height="416" />

อันดับ 1 

<a style="color: #008000;" href="https://www.forbes.com/profile/walton-1/?sh=640189a86f3f">ตระกูล Walton</a>

มูลค่าทรัพย์สิน: 2.47 แสนล้านเหรียญ

แหล่งที่มาของรายได้: Walmart

<img class="alignnone size-full wp-image-39200" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/12/2-1.jpg" alt="" width="274" height="416" />

อันดับ 2  

<a style="color: #008000;" href="https://www.forbes.com/profile/koch/?sh=2bf27eb65a5b">ตระกูล Koch</a>

มูลค่าทรัพย์สิน: 1 แสนล้านเหรียญ

แหล่งที่มาของรายได้: Koch Industries

<img class="alignnone size-full wp-image-39201" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/12/3.jpg" alt="" width="274" height="416" />

อันดับ 3 

<a style="color: #008000;" href="https://www.forbes.com/profile/mars-1/?sh=69035be6c8ed">ตระกูล Mars</a>

มูลค่าทรัพย์สิน: 9.4 หมื่นล้านเหรียญ

แหล่งที่มาของรายได้: สินค้าอุปโภคและบริโภค

<img class="alignnone size-full wp-image-39202" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/12/4.-2.jpg" alt="" width="274" height="416" />

อันดับ 4 

<a style="color: #008000;" href="https://www.forbes.com/profile/cargill-macmillan-1/?sh=562429ea23b6">ตระกูล Cargill-MacMillan</a>

มูลค่าทรัพย์สิน: 4.7 หมื่นล้านเหรียญ

แหล่งที่มาของรายได้: Cargill Inc.

<img class="alignnone size-full wp-image-39203" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/12/5..jpg" alt="" width="274" height="416" />

อันดับ 5

<a style="color: #008000;" href="https://www.forbes.com/profile/lauder/?sh=4864d51a207b">ตระกูล Lauder</a>

มูลค่าทรัพย์สิน: 4 หมื่นล้านเหรียญ

แหล่งที่มาของรายได้: Estee Lauder

<img class="alignnone size-full wp-image-39204" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/12/6..jpg" alt="" width="274" height="416" />

อันดับ 6

<a style="color: #008000;" href="https://www.forbes.com/profile/sc-johnson/?sh=5cf5bd124720">ตระกูล S.C. Johnson </a>

มูลค่าทรัพย์สิน: 3.7 หมื่นล้านเหรียญ

แหล่งที่มาของรายได้: ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด

<img class="alignnone wp-image-39205" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/12/7..jpg" alt="" width="274" height="274" />

อันดับ 7

<a style="color: #008000;" href="https://www.forbes.com/profile/edward-johnson/?sh=6ea6aa86592d">ตระกูล (Edward) Johnson</a>

มูลค่าทรัพย์สิน: 3.6 หมื่นล้านเหรียญ

แหล่งที่มาของรายได้: ธุรกิจการจัดการด้านการเงิน

<img class="alignnone size-full wp-image-39206" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/12/8..jpg" alt="" width="274" height="416" />

อันดับ 8

<a style="color: #008000;" href="https://www.forbes.com/profile/cox/?sh=a0798157dfee">ตระกูล Cox</a>

มูลค่าทรัพย์สิน: 3.45 หมื่นล้านเหรียญ

แหล่งที่มาของรายได้: สื่อและโฆษณา

<img class="alignnone size-full wp-image-39207" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/12/9.-2.jpg" alt="" width="274" height="416" />

อันดับ 9

<a href="https://www.forbes.com/profile/pritzker/?sh=2be8da5870f2">ตระกูล Pritzker</a>

มูลค่าทรัพย์สิน: 3.25 หมื่นล้านเหรียญ

แหล่งที่มาของรายได้: การโรงแรมและการลงทุน

<img class="alignnone size-full wp-image-39208" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/12/10.-2.jpg" alt="" width="274" height="416" />

อันดับ 10

<a style="color: #008000;" href="https://www.forbes.com/profile/newhouse/?sh=7009cb5e6580">ตระกูล Newhouse</a>

มูลค่าทรัพย์สิน: 3 หมื่นล้านเหรียญ

แหล่งที่มาของรายได้: สื่อสิงพิมพ์

แปลและเรียบเรียงโดย ชญาน์นัทช์ ธนินท์พงศ์ภัค จากบทความ Billion-Dollar Dynasties: These Are The Richest Families In America เผยแพร่บน Forbes.com

อ่านเพิ่มเติม: <a style="color: #003300;" href="https://forbesthailand.com/world/america/10-อันดับ-บริษัทเอกชน-ใหญ่.html">10 อันดับ บริษัทเอกชนที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา ประจำปี 2020</a>

การจัดอันดับ 50 ตระกูลมหาเศรษฐีผู้มั่งคั่งแห่งสหรัฐฯ ประจำปี 2020

<h2>Forbes เผยรายชื่อ 219 บริษัทเอกชนที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกาประจำปี 2020 ที่มีผลประกอบการในปีงบประมาณล่าสุดมากกว่า 2 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยในปีนี้ Koch Industries ธุรกิจเทคโนโลยีเคมีภัณฑ์ ก้าวขึ้นมาครองอันดับหนึ่งทำลายสถิติอันดับหนึ่ง 12 ปีซ้อนของ Cargill บริษัทผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์และบริการด้านอาหารระดับโลก</h2>
ทั้งนี้ การจัดอันดับบริษัทเอกชนของ Forbes จะไม่ได้รวมบริษัทที่ตั้งอยู่นอกสหรัฐฯ บริษัทที่ไม่ได้จ่ายภาษีรายได้ (เช่น Mohegan Tribal Gaming Authority) บริษัทเจ้าของร่วม (เช่น State Farm Insurance) สหกรณ์ (เช่น Central Grocers) บริษัทที่มีพนักงานน้อยกว่า 100 คน และบริษัทที่มีองค์กรรัฐบาล เอกชน หรือบริษัทข้ามชาติอื่นๆ เป็นเจ้าของมากกว่าร้อยละ 50
และในขณะเดียวกัน Forbes ก็ไม่ได้นับรวมบริษัทที่มีธุรกิจหลักเป็นตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ บริษัทที่ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ และบริษัทด้านการจัดการ  และถ้าเป็นไปได้ รายได้สุทธิของแต่ละบริษัทที่จะนำมาประเมินจะต้องไม่นับรวมยอดขายของบริษัทลูกในเครือ โดยข้อมูลที่ Forbes นำมาใช้ในครั้งนี้ อ้างอิงมาจากการเปิดเผยด้วยความยินยอมของบริษัท เอกสารที่ยื่นต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐอเมริกา (SEC) และการวิเคราะห์โดยนักวิจัยใน Forbes และแหล่งข่าวอื่นๆ

<h3><a class="color-link" style="color: #333333;" title="https://www.forbes.com/largest-private-companies/list/" href="https://www.forbes.com/largest-private-companies/list/" target="_self" rel="noopener noreferrer" data-ga-track="InternalLink:https://www.forbes.com/largest-private-companies/list/" aria-label="See the full list of America’s Largest Private Companies 2020.">รายชื่อบริษัทเอกชนที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา ประจำปี 2020 ฉบับเต็ม</a></h3>
<img class="alignnone size-full wp-image-38334" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/12/1.jpg" alt="" width="416" height="416" />

อันดับที่ 1
Koch Industries
สำนักงานใหญ่: Kansas
ประเภทธุรกิจ: เทคโนโลยีเคมีภัณฑ์
ผลประกอบการ: 1.15 แสนล้านเหรียญฯ
พนักงาน: 100,000 คน

<img class="alignnone size-full wp-image-38335" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/12/2.jpg" alt="" width="416" height="416" />

อันดับที่ 2
Cargill
สำนักงานใหญ่: Minnesota
ประเภทธุรกิจ: ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์และบริการด้านอาหาร
ผลประกอบการ: 1.146 แสนล้านเหรียญฯ
พนักงาน: 155,000 คน

<img class="alignnone wp-image-38336 size-full" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/12/3.-Deloitte.jpg" alt="Forbes" width="416" height="416" />

อันดับที่ 3
Deloitte
สำนักงานใหญ่: New York
ประเภทธุรกิจ: บริษัทผู้ตรวจสอบบัญชี
ผลประกอบการ: 4.76 หมื่นล้านเหรียญฯ
พนักงาน: 330,000 คน

<img class="alignnone size-full wp-image-38337" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/12/4.-PWC.jpg" alt="" width="416" height="416" />

อันดับที่ 4
PricewaterhouseCoopers
สำนักงานใหญ่: New York
ประเภทธุรกิจ: บริษัทผู้ตรวจสอบบัญชี
ผลประกอบการ: 4.3 หมื่นล้านเหรียญฯ
พนักงาน: 276,000 คน

<img class="alignnone size-full wp-image-38338" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/12/5.-Publix.jpg" alt="" width="416" height="416" />

อันดับที่ 5
Publix Super Markets
สำนักงานใหญ่: Florida
ประเภทธุรกิจ: ค้าปลีกประเภทซูเปอร์มาร์เก็ต
ผลประกอบการ: 3.81 หมื่นล้านเหรียญฯ
พนักงาน: 207,000 คน

<img class="alignnone wp-image-38339 size-full" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/12/6.jpg" alt="Forbes" width="416" height="416" />

อันดับที่ 6
Ernst &amp; Young
สำนักงานใหญ่: New York
ประเภทธุรกิจ: บริษัทผู้ตรวจสอบบัญชี
ผลประกอบการ: 3.72 หมื่นล้านเหรียญฯ
พนักงาน: 289,965 คน

<img class="alignnone size-full wp-image-38340" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/12/7.jpg" alt="" width="416" height="416" />

อันดับที่ 7
Mars
สำนักงานใหญ่: Virginia
ประเภทธุรกิจ: ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์และบริการด้านอาหาร
ผลประกอบการ: 3.7 หมื่นล้านเหรียญฯ
พนักงาน: 130,000 คน

<img class="alignnone wp-image-38345 size-full" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/12/8-1.jpg" alt="Forbes" width="416" height="416" />

อันดับที่ 8
Reyes Holdings
สำนักงานใหญ่: Illinois
ประเภทธุรกิจ: ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์และบริการด้านอาหาร
ผลประกอบการ: 3.5 หมื่นล้านเหรียญฯ
พนักงาน: 29,000 คน

<img class="alignnone size-full wp-image-38342" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/12/9.jpg" alt="" width="416" height="416" />

อันดับที่ 9
H-E-B
สำนักงานใหญ่: Texas
ประเภทธุรกิจ: ค้าปลีกประเภทซูเปอร์มาร์เก็ต
ผลประกอบการ: 3.12 หมื่นล้านเหรียญฯ
พนักงาน: 135,500 คน

<img class="alignnone wp-image-38343 size-full" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/12/10.jpg" alt="Forbes" width="416" height="416" />

อันดับที่ 10
Pilot Flying J
สำนักงานใหญ่: Tennessee
ประเภทธุรกิจ: ธุรกิจค้าปลีกประเภทร้านสะดวกซื้อและสถานีบริการน้ำมัน
ผลประกอบการ: 2.95 หมื่นล้านเหรียญฯ
พนักงาน: 26,696 คน

แปลและเรียบเรียงโดย ชญาน์นัทช์ ธนินท์พงศ์ภัค จากบทความ America’s Largest Private Companies 2020: Koch Industries At No. 1 For First Time In 13 Years เผยแพร่บน Forbes.com

อ่านเพิ่มเติม: <a style="color: #003300;" href="https://forbesthailand.com/world/america/%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%A9%E0%B8%B1%E0%B8%97-%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%8A%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B8%8D%E0%B9%88%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%AA.html#:~:text=Koch%20Industries%20%E0%B8%98%E0%B8%B8%E0%B8%A3%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%88%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%84%E0%B9%82%E0%B8%99%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%A2%E0%B8%B5%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B8%A0%E0%B8%B1%E0%B8%93%E0%B8%91%E0%B9%8C,%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%87%E0%B8%B4%E0%B8%99%20%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%AD%E0%B8%B8%E0%B8%95%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%94%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%81">บริษัทเอกชนที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา ประจำปี 2020</a>

&nbsp;

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events