<h2>Grand Seiko จัดแคมเปญ "My Grand Seiko My Pride" สะท้อนความภาคภูมิใจของการเลือกสวมใส่แบรนด์นาฬิกาที่ทรงคุณค่าจากเหล่าเซเลบริตี้ชั้นนำของเมืองไทย จำนวน 8 ท่าน ควบคู่กับการตอบแทนสังคมในมิติของการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม พร้อมตอกย้ำความสำเร็จของ แกรนด์ ไซโก รุ่นไอคอนิก “Sakura” โดยจัดงานนิทรรศการขึ้น ระหว่างวันที่ 7-11 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 11.00-20.00 น. ณ แฟชั่นฮอลล์ ชั้น 1 สยามพารากอน </h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;มร.อากิระ ซากาอิริ กรรมการผู้จัดการ แกรนด์ ไซโก ประเทศไทย กล่าวว่า “แกรนด์ ไซโก มีประวัติยาวนานกว่า 60 ปี โดยแบรนด์ได้ออกแบบและพัฒนากลไกความเที่ยงตรงขึ้นมาใหม่ในปี 1998 ซึ่งกลายเป็นประวัติศาสตร์ของจุดเริ่มต้นยุคใหม่แห่งการผลิตนาฬิกากลไกจักรกลของ Grand Seiko นับเป็นมาตรฐานของประสิทธิภาพความเที่ยงตรงใหม่ "Grand Seiko Standard" ที่ถูกกำหนดขึ้น โดยเป็นระดับที่สูงกว่ามาตรฐานที่ใช้กันอยู่ทั่วไปในอุตสาหกรรมวงการนาฬิกา รวมถึงการออกแบบหน้าปัดที่ได้แรงบันดาลใจจากธรรมชาติรอบสตูดิโอของแกรนด์ ไซโก สถานที่ที่นาฬิกากลไกจักรกลของ Grand Seiko ทุกเรือนถูกรังสรรค์ขึ้น ตามปรัชญา Nature of Time สะท้อนถึงแก่นแท้ของแบรนด์ เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านความเที่ยงตรงและเน้นย้ำถึงความประณีตของงานคราฟส์แมนชิพอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของ Grand Seiko”&nbsp;​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/02/8UaE7TNc4Rr61UzbG7hF.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="8UaE7TNc4Rr61UzbG7hF.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="0"></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ด้าน ปวริศร์ เอี่ยมเอกพัฒนา Luxury Group Director แกรนด์ ไซโก ประเทศไทย&nbsp;กล่าวถึงการจัดแคมเปญ "My Grand Seiko My Pride" ว่า เพื่อเป็นการบอกเล่าเรื่องราวของแบรนด์ผ่านความภาคภูมิใจในการสวมใส่เรือนเวลาอันทรงคุณค่าด้วยคุณภาพและเรื่องราวที่มาพร้อมกับนาฬิกา พร้อมตอกย้ำความนิยมของนาฬิการุ่นไอคอนิก Sakura โดยได้รับเกียรติจาก 8 เซเลบริตี้ มาร่วมเผยถึงความภาคภูมิใจและความสำเร็จของตนเอง นอกจากนี้ทางแบรนด์ยังได้นำรายได้ส่วนหนึ่งจากการจำหน่ายรุ่น “Sakura” ร่วมสมทบทุนให้กับ ‘Karen Hilltribes Trust’ องค์กรสาธารณกุศล&nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตชนเผ่ากะเหรี่ยง จ.แม่ฮ่องสอน ในมิติการสนับสนุนด้านการศึกษา การสร้างแหล่งน้ำและการให้ความรู้ด้านการอนุรักษ์ผืนป่าต่อไป&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;สำหรับงานเปิดตัวแคมเปญอย่างเป็นทางการคับคั่งไปด้วยเหล่าเซเลบริตี้ชั้นนำของเมืองไทย นำโดย 8 เซเลบริตี้ ได้แก่ เจย์ สเปนเซอร์, จุลจักร จักรพงษ์, ม.ร.ว.เฉลิมชาตรี ยุคล, กรุณ ซอโสตถิกุล, อภินรา ศรีกาญจนา, สรีนา ธีระวิทยภิญโญ, วฤธ หงสนันทน์ และ ชวัล เจียรวนนท์ พร้อมด้วยแขกผู้มีเกียรติมาร่วมงาน และชมนิทรรศการ "My Grand Seiko My Pride" ซึ่งถูกแบ่งออกเป็น 3 โซน ได้แก่&nbsp;​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/02/Fdov8r9rhTZDKr7aNDro.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="Fdov8r9rhTZDKr7aNDro.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="1"></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;โซนแสดงนาฬิกา "The First Grand Seiko 1960" นาฬิกา Grand Seiko รุ่นแรกที่หาชมได้ยาก ส่งตรงจากมิวเซียม ประเทศญี่ปุ่น นำมาจัดแสดงให้ชมเป็นครั้งแรกในเมืองไทย โดยนาฬิการุ่นนี้ถือเป็นการพัฒนาครั้งสำคัญ เป็นความก้าวหน้าครั้งใหญ่ กับการพัฒนาเครื่องกลไก Caliber 3180 ใหม่ โดยมีความแม่นยำ +12 ถึง -3 วินาทีต่อวัน และสำรองพลังงานได้ 45 ชั่วโมง และยังเป็นนาฬิการุ่นแรกจากประเทศญี่ปุ่นที่ได้รับการจัดอันดับความเป็นเลิศตามมาตรฐานของ สถาบันการควบคุมการผลิตนาฬิกา Bureaux Officiels de Controle de la Marche des Montres​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/02/sPAbfkR9RuTibKi7etg1.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="sPAbfkR9RuTibKi7etg1.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="2"></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;โซนนิทรรศการจัดแสดงภาพถ่ายแคมเปญ "My Grand Seiko My Pride" ซึ่งได้รับเกียรติจากเซเลบริตี้ทั้ง 8 ท่าน มาร่วมถ่ายทอดแนวคิดที่สะท้อนความภาคภูมิใจของการเลือกสวมใส่แบรนด์นาฬิกาที่ทรงคุณค่า และแพสชันการทำงานที่นำไปสู่ความสำเร็จ​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/02/oJeBcnWHbGW5CXretSgM.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="oJeBcnWHbGW5CXretSgM.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="3"></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;โซนแสดงนาฬิกา Grand Seiko รุ่นพิเศษจากคอลเลกชันส่วนตัวของนักสะสมนาฬิกาแถวหน้าของเมืองไทย อาทิ ชาญ ศรีวิกรม์, ก่อศักดิ์ ไชยรัศมีศักดิ์, ปราสาท วิทยาภัทร์, ธนสาร วิจิตรกาญจน์, วิเศษ สิงห์สัจจเทศ ฯลฯ ร่วมถ่ายทอดความภูมิใจที่มีต่อ Grand Seiko ด้วยการเลือกสรรเรือนเวลารุ่นพิเศษมาจัดแสดง อาทิ Hi- Hi-Beat 45GS ปี 1968, Beat Hammered finish case ปี 1973, Re-Creation 130th Anniversary of Grand Seiko Founder ปี 2011 และ Hi-Beat 36000 Red Dragon Limited Edition ปี 2023 เป็นต้น​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/02/oSZTQbx5ZzkfyWSYCkGW.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="oSZTQbx5ZzkfyWSYCkGW.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="4"></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นอกจากนี้ ภายในงานยังได้จัดแสดงนาฬิกาที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง หนึ่งในรุ่นไอคอนิกของแบรนด์ อย่าง Grand Seiko Heritage SBGA413 Sakura ขนาด 40 มิลลิเมตร สวมใส่ได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง โดดเด่นดีไซน์หน้าปัดที่นำความงามอันแสนละมุนของสีชมพูอ่อน ๆ จากแพดอกไม้ Hana-Ikada (ฮานา-อิคาดะ) ที่ปรากฏขึ้นในช่วงเวลา Shunbun (ชุนบุน) ช่วงเวลาที่กลางวันและกลางคืนยาวเท่ากันในฤดูใบไม้ผลิ ซึ่งเกิดจากกลีบซากุระปลิวไปตามสายลมแล้วร่วงหล่นปกคลุมพื้นผิวของแม่น้ำ สะท้อนสัจธรรมแห่งธรรมชาติของเวลาที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอเมื่อเวลาผันเปลี่ยนไป <div class="se-component se-image-container __se__float-center" contenteditable="false" style="min-width: 100%; width: 50%;"><figure style="margin: auto; width: 50%;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/02/zBFLzsSD4ozMjkhi2SCa.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="zBFLzsSD4ozMjkhi2SCa.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="50%," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="50," style="width: 100%;" data-index="5"></figure></div>​ &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นาฬิกาไอคอนิกรุ่นนี้ใช้กลไก Spring Drive (9R) ที่มีความเที่ยงตรงที่สุดในโลก ตัวเรือนสุดคลาสสิกที่มาพร้อมกับผิวสัมผัสที่งดงามจากการขัดแต่งที่เป็นการประสานร่วมระหว่างผิวด้านที่เกิดจากการปัดลายละเอียดดุจเส้นผมและผิวขัดเงาด้วยเทคนิค Zaratsu (ซารัตสึ) ก่อให้เกิดผิวเงาราวกระจกและแนวเส้นขอบที่คมชัดอย่างเหนือชั้นทั้งในส่วนของตัวเรือนและสายไทเทเนียมชนิดความหนาแน่นสูงของ Grand Seiko มอบความเบาสบายและไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ตามคุณลักษณะของวัสดุไทเทเนียม ดีไซน์แบบไร้ขอบตัวเรือน และยังเผยให้เห็นความงดงามของผิวหน้าปัดผืนกว้างในทุกมุมมองผ่านกระจกหน้าปัดคริสตัลแซพไฟร์ทรงกล่องที่ได้รับการเคลือบผิวป้องกันแสงสะท้อนไว้บนพื้นผิวด้านในอีกด้วย&nbsp; ​​​​เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ&nbsp;:&nbsp;<a href="https://forbesthailand.com/news/marketing/kfc-fried-chicken-ring-valentine-2024" alt="KFC ขอฉลองวาเลนไทน์สไตล์ลักชู ผลิตแหวน “อัญมณีจากไก่ทอด” เพียง 11 วงในโลก!">KFC ขอฉลองวาเลนไทน์สไตล์ลักชู ผลิตแหวน “อัญมณีจากไก่ทอด” เพียง 11 วงในโลก</a>​ <a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

My Grand Seiko My Pride แบรนด์นาฬิกาลักชัวรีระดับโลก ถ่ายทอดความภูมิใจผ่านรุ่นไอคอนิก Sakura

12 นักษัตรจีน วัฎจักรปีซึ่งเป็นที่รับรู้กันอย่างแพร่หลายไปทั่วโลก มีตัวแทนเป็นสัตว์มงคล 12 ชนิดที่ให้ความหมายที่แตกต่างกัน และปีมะโรงก็เป็นหนึ่งใน 12 นักษัตรสำคัญซึ่งมีตัวแทนเป็นนักษัตรมังกร ที่ตามตำนานเก่าแก่ของจีนนั้นสื่อความหมายถึงพลังอำนาจ ความมั่งคั่ง ความอุดมสมบูรณ์ และความเป็นสิริมงคล ​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/01/pmxxd7ihNeVbb5vsnp49.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="pmxxd7ihNeVbb5vsnp49.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="0"></figure></div> เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งของปีมังกรทอง&nbsp;Grand Seiko&nbsp;(แกรนด์ ไซโก) มาพร้อมเรือนเวลาดีไซน์คลาสสิกรุ่น&nbsp;SBGH323&nbsp;ที่ตั้งใจสื่อถึงมังกร หรือ&nbsp;Tatsu-doshi (ทัตสึ-โดชิ) ในภาษาญี่ปุ่น ด้วยหน้าปัดสีแดงเข้มโทนเบอร์กันดีร่วมกับพื้นผิวตกแต่งเป็นลวดลายรัศมีสามมิติ ซึ่งถูกเรียกขานว่า หน้าปัดแบบ "Red Dragon" (เร้ด ดรากอน) หรือมังกรแดง เลือกใช้เข็มวินาทีคู่กับตราสัญลักษณ์&nbsp;GS&nbsp;สีทองเพื่อสื่อถึงความมั่งคั่ง ให้มองเห็นอย่างชัดเจนผ่านกระจกหน้าปัดแซพไฟร์คริสตัลเคลือบสารกันแสงสะท้อน โดยเป็นงานผลิตแบบ&nbsp;Limited Edition&nbsp;(ลิมิเต็ด เอดิชั่น) ด้วยจำนวนจำกัดเพียง 88 เรือนทั่วโลก <div class="se-component se-image-container __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/01/N1WeGfxXbQGDEmDTWRbQ.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="N1WeGfxXbQGDEmDTWRbQ.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="1"></figure></div>​ Grand Seiko "Red Dragon" Limited Edition&nbsp;Automatic Hi-Beat 36000 SBGH323&nbsp;มาในตัวเรือนสเตนเลสสตีลขนาด 40 มม. แบบ 62GS&nbsp;Modern Reinterpretation&nbsp;(62 จีเอส โมเดิร์น รีอินเทอร์พรีเทชั่น) ที่นำรูปแบบดั้งเดิมของดีไซน์นาฬิกา 62GS เมื่อ ค.ศ.1967 เรือนเวลาแบบแรกของ&nbsp;Grand Seiko&nbsp;ที่ขับเคลื่อนด้วยกลไกอัตโนมัติ มาตีความการออกแบบใหม่ให้ทันสมัยเข้ากับยุคปัจจุบัน โดยยังคงความงดงามและมีเอกลักษณ์เฉพาะ อันได้แก่ ดีไซน์ตัวเรือนแบบหลายเหลี่ยมมุม ผิวขัดดุจกระจกเงาด้วยเทคนิค&nbsp;Zaratsu&nbsp;(ซารัตสึ) อันเลื่องชื่อของ&nbsp;Grand Seiko&nbsp;และความแผ่กว้างของพื้นที่หน้าปัดและกระจกหน้าปัดทรงกล่องจากการใช้โครงสร้างแบบไร้วงขอบตัวเรือน เอาไว้โดยสมบูรณ์ ซึ่งแสดงออกถึงความบริสุทธ์ ความประณีต และความเลอค่า ของเรือนร่างงามสง่าแบบคลาสสิกที่อยู่เหนือกาลเวลา โดยจับคู่มากับสายสเตนเลสสตีลดีไซน์งามสง่า อีกทั้งตัวเรือนยังกันน้ำได้ถึงระดับ 10 บาร์ จากประสิทธิภาพของฝาหลังและเม็ดมะยมแบบขันเกลียว​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto; width: 569px;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/01/tnKdnVB8moQiqdMSUEcZ.jpg" alt="" data-proportion="true" data-size="569px,379px" data-align="center" data-file-name="tnKdnVB8moQiqdMSUEcZ.jpg" data-file-size="0" origin-size="720,480" data-origin="569px,379px" style="width: 569px; height: 379px;" data-index="2"></figure></div> ​นาฬิการุ่นนี้มอบความเที่ยงตรงอย่างแม่นยำด้วยกลไกคาลิเบอร์&nbsp;9S85&nbsp;กลไกจักรกลขึ้นลานอัตโนมัติ แสดงเวลาแบบ 3 เข็มพร้อมฟังก์ชั่นวันที่ จำนวนทับทิม 37 ชิ้น สำรองพลังงานได้นานถึง 55 ชั่วโมง ซึ่งทำงานด้วยความถี่ระดับ&nbsp;Hi-Beat&nbsp;(ไฮ-บีท) ที่สูงถึง 36,000 ครั้ง/ชั่วโมง ร่วมกับนวัตกรรมขององค์ประกอบทั้งในส่วนของ สายใยจักรกลอก สายลาน และระบบปล่อยจักร ที่ทำให้กลไกทำงานได้อย่างแม่นยำเป็นที่สุดถึงระดับ +5 ถึง -3 วินาที/วัน โดยเปิดโอกาสให้เห็นความงดงามของลายริ้วแถบที่บรรจงตกแต่งบนสะพานจักรและโรเตอร์ ตัดกับข้อความสลักลงร่องสีทองได้อย่างเต็มที่ผ่านกระจกใสของฝาหลังที่ประทับพิมพ์ดวงตราสิงโตของ&nbsp;Grand Seiko&nbsp;ด้วยสีทองไว้อย่างสวยงาม กลไกชุดนี้ผลิตขึ้นโดย&nbsp;Shizukuishi Watch Studio&nbsp;(ชิสุกุอิชิ วอทช์ สตูดิโอ) ในเขตอิวาเตะ ​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-none" contenteditable="false"><figure style="margin: 0px;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/01/S7f3cy6j2qJ2F4sy9YRM.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="none" data-file-name="S7f3cy6j2qJ2F4sy9YRM.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="3"></figure></div> ​ต้อนรับนักษัตรปีมังกรทอง 2024 ด้วยการเป็นเจ้าของ&nbsp;Grand Seiko "Red Dragon" Limited Edition Automatic Hi-Beat 36000 SBGH323&nbsp;ผลิตจำนวนจำกัด 88 เรือนทั่วโลก ได้ในราคา 268,000 บาท แวะชมหรือสอบถามได้ที่ แกรนด์ไซโกบูติก ชั้น&nbsp;1&nbsp;ศูนย์การค้าเกษร วิลเลจ&nbsp;โทร.&nbsp;02-116-0864&nbsp;ข้อมูลเพิ่มเติมที่&nbsp;<a href="https://www.grandseikoboutiquethailand.com/red-dragon-sbgh323-tatsu-doshi/" alt="https://www.grandseikoboutiquethailand.com/red-dragon-sbgh323-tatsu-doshi/">https://www.grandseikoboutiquethailand.com/red-dragon-sbgh323-tatsu-doshi/</a>​

Grand Seiko “Red Dragon” Limited Edition (SBGH323) ฉลองปีนักษัตรมังกรทอง 2024 กับแกรนด์ไซโก เร้ด ดรากอน

นาฬิกา Grand Seiko Spring Drive ผลิตขึ้นด้วยมือโดยช่างฝีมือผู้ชำนาญของ Shinshu Watch Studio เวิร์กช็อปตั้งอยู่ในเมืองชิโอจิริ มองออกไปเห็นภูเขาโฮทากะ ซึ่งถือกำเนิดมานานแล้วจากการปะทุของภูเขาไฟที่เปลี่ยนรูปร่างของทวีปและดันยอดเขาขึ้นมาจากด้านล่าง ลมและหิมะที่ทรงพลังได้ปั้นใบหน้าของหน้าผาเป็นเวลาหลายปีเพื่อสร้างเทือกเขาที่มีพลังซึ่งได้รับการยกย่องจากนาฬิกาสปอร์ตอันทรงพลังนี้ Sport Collection Spring Drive GMT Triple Time Zone SBGE295 มีหน้าปัดลวดลายที่แสดงถึงหน้าผาสูงชันเหล่านี้ และโดดเด่นด้วยสีเขียวที่ออกแบบมาเพื่อจับภาพความสดใสของฤดูร้อนอันสั้นของ Hotaka นาฬิกามีการเคลื่อนไหว Calibre 9R66 Spring Drive พร้อมฟังก์ชัน GMT ขอบหน้าปัดแบบหมุนได้พร้อมสเกลบอกเวลา 24 ชั่วโมงทำจากกระจกแซฟไฟร์ และเสริมด้วยวงแหวนหน้าปัดแสดงเวลา 24 ชั่วโมง พวกเขาช่วยให้ผู้สวมใส่อ่านเวลาในสามโซนเวลา<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/08/6Mnx9Z8vCgiUpdMU1q1v.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="6Mnx9Z8vCgiUpdMU1q1v.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="0"><figcaption><div>​สีเขียวเข้มของรายละเอียดบนหน้าปัด ช่วยให้ผู้สวมใส่สามารถอ่านค่าเวลาได้อย่างชัดเจน</div></figcaption></figure></div>​ผลงานดีไซน์สุดสร้างสรรค์เพื่อยกระดับประสิทธิภาพของนาฬิกาสปอร์ต นาฬิการุ่นนี้ สามารถกันน้ำได้ถึง 20 บาร์ เพื่อให้มั่นใจว่ามีประสิทธิภาพสูงสุดสำหรับกิจกรรมทุกประเภท เข็มชั่วโมงและเข็มนาทีถูกออกแบบให้อ่านค่าเวลาได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ตลอดจนหลักชั่วโมงที่มีขนาดกว้าง ช่วยเสริมความชัดเจนให้อ่านค่าเวลาได้ในทันทีอีกด้วย ตัวเรือนและสายถูกสร้างขึ้นจากสเตนเลสสตีล<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/08/sp29YbygH1YVUEUL4Y8Q.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-index="5" data-file-name="sp29YbygH1YVUEUL4Y8Q.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style=""></figure></div>เรือนเวลารุ่นนี้ขับเคลื่อนด้วยกลไก สปริงไดรฟ์ จีเอ็มที คาลิเบอร์ 9R66 ซึ่งให้ความแม่นยำถึง ±15 วินาทีต่อเดือน สามารถสำรองพลังงานที่ 72 ชั่วโมง เมื่อขึ้นลานจนสุด โดยจะแสดงให้ทราบบนมาตรที่อยู่ถัดจากหลักชั่วโมงตำแหน่ง 8 นาฬิกา <div class="se-component se-image-container __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/08/Xy8rabWM6wkEXQhbstEw.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="Xy8rabWM6wkEXQhbstEw.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="4" origin-size="720,480"><figcaption><div>​ความงดงามของงานตกแต่งกลไกสามารถมองเห็นได้ผ่านฝาหลังกรุกระจกใส</div></figcaption></figure></div><div class="se-component se-image-container __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/08/dmnN9w9uxBTGt3MZrsQR.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-index="3" data-file-name="dmnN9w9uxBTGt3MZrsQR.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style=""></figure></div> นาฬิกามีจำหน่ายแล้ว ที่ Grand Seiko บูติก และตัวแทนจำหน่ายทั่วโลก <div class="se-component se-image-container __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/08/GX2MhovLY8bkfee1xbnz.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-index="6" data-file-name="GX2MhovLY8bkfee1xbnz.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style=""></figure></div>​Grand Seiko Sport Collection Spring Drive GMT Triple Time Zone : SBGE295คาลิเบอร์ 9R66ระบบขับเคลื่อน: อัตโนมัติความแม่นยำ: ±15 วินาทีต่อเดือน (±1 วินาทีต่อวัน)พลังงานสำรอง: 72 ชั่วโมงรายละเอียดทางเทคนิค:ตัวเรือนและสายสแตนเลสสตีลตัวล็อกแบบบานพับ 3 ทบ ปลดล็อกด้วยปุ่มกดกระจกแซพไฟร์ คริสตัล ชนิดผิวโค้งทั้ง 2 ฝั่ง พร้อมเคลือบกันแสงสะท้อนเม็ดมะยมแบบขันเกลียวSBGC253&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;การกันน้ำ: 20 บาร์&nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp;ความต้านทานแม่เหล็ก: 4,800 แอมแปร์/เมตร&nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp;เส้นผ่านศูนย์กลาง: 44 มม.; ความหนา: 14.7 มม.&nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp;ราคาจำหน่าย : 251,400 บาทข้อมูลเพิ่มเติมที่หน้าเพจข้อมูลผลิตภัณฑ์:&nbsp;<a href="https://forbes-admin-v2.vercel.app/cms-post-edit/71059/grandseikoboutiquethailand.com" alt="SBGE295 - Grand Seiko Thailand Official Website" style="font-family: &quot;DB FongNam X&quot;, sans-serif; font-size: 34px; text-align: var(--bs-body-text-align);">SBGE295 - Grand Seiko Thailand Official Website</a>&nbsp;<a href="https://forbes-admin-v2.vercel.app/cms-post-edit/71059/grandseikoboutiquethailand.com" alt="(grandseikoboutiquethailand.com)" style="font-family: &quot;DB FongNam X&quot;, sans-serif; font-size: 34px; text-align: var(--bs-body-text-align);">(grandseikoboutiquethailand.com)</a>​​*รายละเอียดทางเทคนิคและข้อมูลราคาในเอกสารประชาสัมพันธ์นี้ เป็นข้อมูล ณ วันที่เผยแพร่ และอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้

เรือนเวลา GMT รุ่นใหม่ หนึ่งในคอลเลกชั่นสปอร์ตที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเทือกเขา Hotaka จาก Grand Seiko

Grand Seiko ฉลอง 25 ปี "9S Caliber" เปิด Pop Up Store ณ คราวน์ เอเทรียม คิง เพาเวอร์ รางน้ำ

<h2 class="p1">Grand Seiko เผยโฉมนวัตกรรมแห่งเวลา 3 รุ่นไฮไลท์ ลิมิเต็ด อิดิชั่น ภายใต้คอนเซ็ปต์ The Nature of Time ที่ถ่ายทอดแรงบันดาลใจจากธรรมชาติสู่เรือนเวลาสุดพิเศษ</h2>
Grand Seiko แบรนด์นาฬิกาลักชัวรีจากประเทศญี่ปุ่น เดินหน้าสร้างปรากฏการณ์ให้กับคนรักนาฬิกาและนักสะสมในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ด้วยมาตรฐานด้านความเที่ยงตรง ความทนทาน และความสง่างามระดับโลก นับเป็นก้าวสำคัญที่ตอกย้ำความสำเร็จของทางแบรนด์ในประเทศไทยได้อย่างชัดเจน
ล่าสุด ทางแบรนด์ได้เผยโฉมเรือนเวลาลิมิเต็ดอิดิชั่นสุดเอ็กซ์คลูซีฟ 3 รุ่นที่จะวางจำหน่ายในประเทศไทยเท่านั้น โดยเรือนเวลาทั้ง 3 รุ่น ได้แก่ รุ่น ‘Koke-iro’ หรือ Green Moss, รุ่น ‘Nami’ หรือ Suwa Wave และ รุ่น ‘Hikari’ หรือ Golden Light ซึ่งแต่ละรุ่นผลิตขึ้นมาเพียงรุ่นละ 100 เรือนเท่านั้น 


<figure><img class="wp-image-66921 size-full" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2022/08/001-มร.อากิระ-ซากาอิริ-กรรมการผู้จัดการ-บริษัท-ไซโก-ประเทศไทย.jpg" alt="" width="720" height="480" /><figcaption> Akira Sakairi</figcaption></figure>
ทาง Akira Sakairi กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไซโก ประเทศไทย กล่าวว่า “แกรนด์ ไซโก ถือเป็นหนึ่งในเรือนเวลาชั้นสูง ที่มีความมุ่งมั่นสู่ความเป็นเลิศเต็มไปด้วยความท้าทายในการสร้างสรรค์และมีการพัฒนาออกแบบนาฬิกาหลากหลายคอลเล็กชั่น ภายใต้คอนเซ็ปต์ The Nature of Time ผสานความเป็นธรรมชาติเข้ากับดีไซน์” 
“คอลเล็กชั่น Elegance ที่มีความคลาสสิค หรูหรา เหมาะแก่การสวมใส่ทุกวัน คอลเล็กชั่น Heritage ซึ่งเป็นหัวใจในนิยามการออกแบบของเรา พร้อมถ่ายทอดผลงานการขัดแต่งตัวเรือนอย่างปราณีตที่สืบทอดอย่างยาวนานตั้งแต่ปี 1967 สะท้อนให้เห็นสุนทรียศาสตร์และกลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่นของแบรนด์ในแบบที่ไม่เหมือนใคร” Sakairi ยกตัวอย่าง
อีกทั้งยังได้เสริมด้วยว่า “นอกจากนี้ คอลเล็กชั่น Sport ที่เน้นความหรูหราและความทนทานต่อการใช้งาน และคอลเล็กชั่น Evolution 9 ผู้เป็นตัวแทนแห่งอนาคตของทางแบรนด์ โดยได้นำดีไซน์แบบแกรนด์ ไซโก สไตล์ มาเป็นพื้นฐานในการออกแบบได้อย่างลงตัว พร้อมยังคงยึดถือหัวใจสำคัญของทุกองค์ประกอบในการรังสรรค์นาฬิกาทุกเรือนที่ถูกสร้างขึ้นอย่างพิถีพิถัน เน้นฝีมือความประณีต และใส่ใจในทุกรายละเอียด มีทั้งความแม่นยำ ความทนทาน ความชัดเจน และดีไซน์ที่สวยงาม” 
โดยทุกเรือนได้รับแรงบันดาลใจจากการผสานความเป็นธรรมชาติถ่ายทอดลงบนหน้าปัดอันแสนงดงาม เพื่อให้นาฬิกาเป็นเครื่องบอกเวลาที่มีเรื่องราวและมีคุณค่า สะท้อนตัวตนของผู้สวมใส่


<figure><img class="wp-image-66919 size-full" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2022/08/GrandSeiko-SBGH303G_5781_A02MRF.jpg" alt="" width="603" height="480" /><figcaption> รุ่น SBGH303 : Koke-iro หรือ Green Moss</figcaption></figure>
รุ่น SBGH303 : Koke-iro หรือ Green Moss หน้าปัดแบบ Kiratsuri สื่อถึงความเขียวสดของต้นมอสแห่งป่า Shizukishi ตามแนวคิด Nature of time ของแบรนด์ขับเคลื่อนด้วยกลไก Hi-beat เดินด้วยความถี่ 36,000 รอบต่อชั่วโมง มีหน้าปัดแบบ “Kiratsuri” สื่อถึงป่าอันอุดมสมบูรณ์
โดยหน้าปัดได้รับแรงบันดาลใจจากแสงอาทิตย์ยามเช้าที่ตกกระทบลงบนมอสที่ขึ้นปกคลุมพื้นป่า Shizukishi อันเป็นที่ตั้งของ Grand Seiko Studio Shizukuishi ตามแนวคิด Nature of time ของแบรนด์ เชื่อมกับแนวคิด “วาบิซาบิ” เป็นปรัชญาอันมีจุดกำเนิดที่ประเทศญี่ปุ่น
เมื่อราวๆ ศตวรรษที่ 15 โดยปรัชญานี้มีแนวคิดมุ่งเน้นให้หาความสุขด้วยการยอมรับความไม่สมบูรณ์แบบ หรือการมีตำหนิ ไม่ว่าจะเป็นคน สัตว์ หรือสิ่งของ ซึ่งล้วนแล้วแต่มีความไม่สมบูรณ์แบบในตัวเองทั้งสิ้น ทำให้พบคุณค่าในการแสดงความงามมากยิ่งขึ้นบนหน้าปัดนาฬิกาเรือนนี้


<figure><img class="wp-image-66920 size-full" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2022/08/GrandSeiko-SBGY021G_133150_B12_MR.jpg" alt="" width="605" height="480" /><figcaption> รุ่น SBGY021 : Nami หรือ Suwa Wave</figcaption></figure>
รุ่น SBGY021 : Nami หรือ Suwa Wave เป็นเรือนบอกเวลาส่งต่อความงดงามของผิวน้ำ ถ่ายทอดออกมาเป็นหน้าปัดลวดลายคลื่นที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากทะเลสาปซุวะ ที่แสงอาทิตย์ตกกระทบในยามเย็น ถ่ายทอดความงามของธรรมชาติได้อย่างน่าประทับใจ
ส่วนรุ่น SBGY025 : Hikari หรือ Golden Light ที่มีรูปแบบหน้าปัดอันคุ้นตา “Iwate Dial” ถูกนำมาตีความใหม่ เพื่อใช้พรรณนาความงดงามของแสงอาทิตย์สีทองสุดท้ายในยามเย็นที่ลอดผ่าน ปุยเมฆ กระทบบนผิวน้ำ เหนือทะเลสาบซุวะในช่วงพลบค่ำ 
ความพิเศษอีกอย่างของรุ่น SBGY021 : Nami และ SBGY025 : Hikari (คือครั้งแรกที่ใช้กลไก manual winding Spring Drive cal.9R31 ที่มีความบางเป็นพิเศษ ด้วยระบบ Dual-main spring ที่ช่วยรักษาพลังงานสำรองที่ 72 ชั่วโมงไว้อย่างดีเยี่ยม


<figure><img class="wp-image-66922 size-full" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2022/08/GrandSeiko-SBGY025G_133172_C14MR.jpg" alt="" width="608" height="480" /><figcaption> รุ่น SBGY025 : Hikari หรือ Golden Light</figcaption></figure>
การสร้างสรรค์เรือนนาฬิกาด้วยความปราณีตละเอียดอ่อน สื่อถึงอัตลักษณ์อันเต็มเปี่ยมของความเป็นญี่ปุ่นที่มีความตั้งใจถ่ายทอดความงามของธรรมชาติให้ตราตรึงอยู่ในเรือนเวลาสุดพิเศษ แทนคำขอบคุณจากใจที่คนไทยให้การสนับสนุนแบรนด์นาฬิกาจากแดนอาทิตย์อุทัยนี้อย่างดีเสมอมา
เรือนเวลา 3 รุ่นเป็นลิมิเต็ดอิดิชั่นทั้ง 100 เรือนนี้ บริเวณฝาหลังจะมีการระบุ “ 1 of 100” ไว้อีกด้วย โดยสามารถร่วมสัมผัสและเป็นเจ้าของได้แล้วตั้งแต่วันนี้ ผ่านช่องทางจำหน่ายทั้ง Grand Seiko Boutique ชั้น 1 ที่ศูนย์การค้าเกษร วิลเลจ รวมถึงร้านค้าออนไลน์ของทางแบรนด์ และ Grand Seiko Salon ในแผนกนาฬิกาของห้างสรรพสินค้าชั้นนำ
อ่านเพิ่มเติม: <a href="https://forbesthailand.com/news/jean-cassegrain-longchamp-pp-group.html">Jean Cassegrain แห่ง Longchamp มั่นใจ PP Group พาแบรนด์โตได้อีก</a>

<div class="single-content-writer-box">
<div>

<hr />

ไม่พลาดเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ของเรา ติดตามเราได้ที่ <a style="color: #003300;" href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/">เพจเฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

</div>
</div>

Grand Seiko เปิดตัว 3 รุ่นใหม่ วางจำหน่ายในไทยเท่านั้น

<h2>Grand Seiko (แกรนด์ ไซโก) สร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับนักสะสมนาฬิกาด้วยการเปิด Virtual Boutique แห่งแรกของโลกให้เหล่านักสะสมนาฬิกาได้ยลโฉมตั้งแต่วันที่ 10 สิงหาคมเป็นต้นไป โดยร้านเสมือนจริงแห่งแรกของแกรนด์ ไซโกนี้ถือว่าเป็นหนึ่งในร้านที่สมบูรณ์แบบที่สุดในปัจจุบัน</h2>
<img class="alignnone size-full wp-image-49269" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/08/แกรนด์-ไซโก_002.jpg" alt="" width="450" height="253" />

ฮิโรยูกิ อาคาชิ กรรมการผู้จัดการบริษัทไซโกประเทศไทย และ สิรินาถ เรืองสุวรรณเดช ผู้อำนวยการฝ่ายผลิตภัณฑ์ ร่วมฉลองการเปิดตัว Grand Seiko Virtual Boutique แห่งแรกของโลก โดยร้านเสมือนจริงแห่งนี้พัฒนาโดยทีมงานจากประเทศไทย Grand Seiko Virtual Boutique แห่งนี้

นอกจากจะเป็นการสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับเหล่านักสะสมแล้ว ยังถือเป็นอีกก้าวสำคัญที่ตอบโจทย์การทำธุรกิจในยุคใหม่รูปแบบ OMNI Channel การทำการตลาดที่ผสานช่องทางทั้งหมดเข้าไว้เป็นหนึ่งเดียว การสร้างกลยุทธ์ที่เน้นไปที่การทำให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงสินค้าและบริการได้จากหลากหลายช่องทาง

<img class="alignnone size-full wp-image-49271" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/08/ฮิโรยูกิ-อาคาชิ.jpg" alt="" width="400" height="284" />

อีกทั้งยังมีการเชื่อมโยงข้อมูลของลูกค้าหรือผู้บริโภคอย่างรอบด้านผ่านทุกช่องทางการขาย เช่น ลูกค้าสามารถไปดูสินค้าที่บูติคก่อนได้ แล้วจึงกลับมากดสั่งสินค้าจากเว็บไซต์ หรือดูข้อมูลจากบนเว็บไซต์ แล้วไปซื้อที่บูติคได้ หรือเลือกให้ทางแบรนด์ไปส่งให้ถึงบ้านก็เป็นอีกหนึ่งความสะดวกที่ทางแกรนด์ ไซโกมอบบริการให้

<img class="alignnone size-full wp-image-49266" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/08/Grand-Seiko-Virtual-Boutique_003.jpg" alt="" width="600" height="600" />

โดย Grand Seiko Virtual Boutique สามารถแก้ปัญหาในช่วงวิกฤตการณ์โควิด-19 ที่สร้างผลกระทบต่อวงการรีเทลทั่วโลก ทั้งบูติค ห้างสรรพสินค้า ถูกปิดและลูกค้าไม่สามารถรับบริการได้

สิรินาถ เรืองสุวรรณเดช ผู้อำนวยการฝ่ายผลิตภัณฑ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การสร้างสรรค์ร้านเสมือนจริงแห่งนี้ได้รับการพัฒนามาตั้งแต่ปี 2020 ในช่วงที่ฉลองความสำเร็จครบรอบ 60 ปี ของแกรนด์ไซโก ปัจจุบันร้านเสมือนจริงแห่งนี้ถือเป็น Break Through ของเทคโนโลยีด้านรีเทลอย่างสมบูรณ์แบบที่สุด ไม่ว่าจะเป็นประสบการณ์การเดินเข้าร้านค้าผ่านหน้าเว็บไซต์ โดยไม่จำเป็นต้องดาวน์โหลด Application

<img class="alignnone size-full wp-image-49270" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/08/สิรินาถ-เรืองสุวรรณเดช.jpg" alt="" width="450" height="350" />

การเลือกดูข้อมูลเรือนเวลาในแต่ละเรือนที่มีข้อมูลประกอบสมบูรณ์แบบ พร้อมการนำเสนอสินค้าในรูปแบบวีดีโอ และล่าสุดฟังก์ชัน Try-on ที่ให้เหล่านักสะสมนาฬิกาได้ทดลองเรือนเวลากับข้อมือจริงจากการใช้เทคโนโลยี Augmented Reality (AR) ฟังก์ชันต่างๆ ที่กล่าวมานี้ทำให้เหล่าคนรักนาฬิกาสามารถทดลองนาฬิกาและสั่งซื้อได้อย่างไร้รอยต่อ (Seamless) สามารถรอรับเรือนเวลาโปรดอยู่ที่บ้านได้เลย โดยทางแกรนด์ ไซโกไทยแลนด์ ยังให้ความสำคัญทางด้านความปลอดภัยของสุขภาพ โดยจัดการตรวจพนักงานอย่างสม่ำเสมออีกด้วย

“ด้วยวิสัยทัศน์ของทีมงานของเราได้เล็งเห็นถึงความสำคัญถึงประสบการณ์ออนไลน์ของลูกค้า รวมถึงการสื่อสารในช่องทางต่างๆ ต้องสมบูรณ์แบบที่สุด ทุกที่ ทุกเวลา เราจึงพัฒนา Virtual Boutique นี้ขึ้น

ในอนาคตอันใกล้นี้เราจะสามารถยกระดับประสบการณ์ไปอีกขั้น ซึ่งเรามองเห็นถึงศักยภาพของช่องทางออนไลน์ที่สามารถจะสร้างสรรค์นาฬิกาให้กับลูกค้าในรูปแบบที่ชอบ (Customisation) ซึ่งเป็นเทรนด์ชั้นนำในโลกได้ให้ความสำคัญ ซึ่งจะนำไปสู่การทำการตลาดแบบ DTC ในอนาคต” อาคาชิ กล่าวอย่างภาคภูมิใจในการ ก้าวกระโดดของแกรนด์ ไซโก

อ่านเพิ่มเติม: <a href="https://forbesthailand.com/news/property/%E0%B9%80%E0%B8%8B%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%A5%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%92%E0%B8%99%E0%B8%B2-%E0%B9%80%E0%B8%9C%E0%B8%A2%E0%B9%84%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%AA.html">เซ็นทรัลพัฒนา เผยไตรมาส 2 ปี’64 รายได้รวม 6,364 ล้านบาท</a>

<hr />

<a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/">ไม่พลาดเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ของเรา ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

Grand Seiko เปิดประสบการณ์ใหม่ Virtual Boutique แห่งแรกของโลก

ด้วยวิสัยทัศน์อันเรียบง่ายแต่ทรงพลังของคินทาโร่ ฮัตโตริ ผู้ก่อตั้งไซโก (Seiko) สุดยอดเรือนเวลาคุณภาพสูงจากญี่ปุ่น ที่ว่า “One step ahead of the rest” (ต้องนำหน้าคู่แข่งอยู่ 1 ก้าวเสมอ) ได้กลายเป็นแรงบันดาลใจในการรังสรรค์ 4 สุดยอดเรือนเวลาที่ผลิตมาในจำนวนจำกัด เพื่อเฉลิมฉลองวาระการครบรอบ 140 ปีของไซโก

<img class="alignnone size-full wp-image-47598" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/07/1.jpg" alt="" width="720" height="480" />

เริ่มจากนาฬิกาดำน้ำในกลุ่มพรอสเปกซ์ ซึ่งประกอบด้วย 3 รุ่นด้วยกัน โดยกลไกสองเรือนแรกมีพื้นฐานมาจากนาฬิกานักดำน้ำที่มีชื่อเสียงในปี 1968 ของไซโก และได้รับแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์มาจาก  เกาะอิริโอโมเตะ ของญี่ปุ่น สำหรับเรือนแรก ตัวเรือนหล่อขึ้นรูปชิ้นเดียวไร้รอยต่อ ทำงานด้วยความถี่ 8 บีท กันน้ำได้ 300 เมตร ขับเคลื่อนด้วยกลไกอัตโนมัติ 8L35 ส่วนเรือนที่สอง ทำงานด้วยความถี่ 6 บีท กันน้ำได้ 200 เมตร โดยทั้ง 2 รุ่นวางจำหน่ายในประเทศไทยเพียง 120 และ 620เรือนตามลำดับ

ส่วนเรือนที่สาม เป็นนาฬิกาโครโนกราฟที่ใช้กระแสไฟฟ้าที่ถูกเปลี่ยนจากพลังงานแสงอาทิตย์ กันน้ำได้ 200 เมตร ผลิตจำกัดเพียง 4,000 เรือนทั่วโลก ทั้ง 3 รุ่นประกอบสายที่ผลิตจากสแตนเลสสตีล และมีสายซิลิโคนเสริมมาให้เป็นทางเลือกเพิ่มเติม

<img class="alignnone size-full wp-image-47603" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/07/2.jpg" alt="" width="720" height="480" />

ถัดมาคือ พรีซาจ ชาร์ป เอดจ์ ซีรีส์ โดดเด่นด้วยการผสานพื้นผิวตัวเรือนที่แบนเรียบเข้ากับความเฉียบคมของเหลี่ยมสันบนตัวเรือนที่สามารถสะท้อนประกายขึ้นมายามที่มีแสงส่องตกกระทบ เหมือนกับรุ่นอื่นๆ ใน  ซีรีส์ มาพร้อมกับลวดลายอาซาโนฮะ หรือลายใบป่าน อัตลักษณ์ของญี่ปุ่นที่ถูกนำมาใช้นับพันปี สะท้อนภาพโตเกียวในยามรุ่งอรุณผ่านประกายสีทองที่เกิดขึ้นบนหลักชั่วโมงและชุดเข็มถูกจัดวางอยู่บนพื้นหน้าปัดสีดำ สายโลหะผลิตจากสแตนเลสสตีลรมดำหรือสายที่เพิ่มเข้ามาในชุดอย่างสายหนังสีดำ วางจำหน่ายในประเทศไทยเพียง 100 เรือนเท่านั้น

<img class="alignnone size-full wp-image-47611" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/07/5.jpg" alt="" width="720" height="480" />

ขณะที่ แอสตรอน นำภาพความงามของดอกซากุระในยามค่ำคืนมาสะท้อนผ่านตัวเรือนและสายโลหะสีดำ พื้นหน้าปัดสีม่วงที่มีเหลื่อมสีชมพู หน้าปัดไล่เฉดจากสีอ่อนค่อยๆ เข้มขึ้นในตำแหน่ง 6 นาฬิกา ขับเคลื่อนด้วยกลไก GPS Solar Dual-Time รหัส 5X53 ที่มีความทันสมัยที่สุด ใช้เพียงพลังงานแสงอาทิตย์และแสงทั่วไปเพื่อแปลงเป็นพลังงานในการขับเคลื่อน รุ่นนี้วางจำหน่ายในประเทศไทยเพียง 15 เรือน

<img class="alignnone size-full wp-image-47616" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/07/3.jpg" alt="" width="720" height="480" />

ปิดท้ายด้วยไซโก 5 สปอร์ต นับเป็นครั้งแรกที่เรือนเวลาที่คุ้นตาถูกดีไซน์พื้นหน้าปัดให้เป็นสีขาวผสานกับแพทเทิร์นที่สวยงามลงตัวรับกับขอบตัวเรือนและชุดเข็มสีฟ้า ผสานกลไกอัติโนมัติคาลิเบอร์ 4R36 วางจำหน่ายที่ประเทศไทยเพียง 1,000 เรือนเท่านั้น

ร่วมเป็นเจ้าของนาฬิการุ่นพิเศษฉลอง 140 ปีแห่งการก่อตั้งของไซโกได้แล้วตั้งแต่วันนี้ วางจำหน่ายที่ บูติกไซโก, ไซโก ณ ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ รวมถึงตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับสิทธิ์ในการจำหน่าย

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 02-255-1245 ต่อ 888

“ไซโก” ฉลอง 140 ปี เผยโฉม 4 สุดยอดเรือนเวลาสุดเลอค่า น่าเป็นเจ้าของ

Grand Seiko (แกรนด์ ไซโก) นำเสนอผลงานชิ้นเอกของ Spring Drive SBGZ007 ซึ่งรวบรวมธรรมชาติที่เปลี่ยนแปลงของท้องฟ้าอันตระการตายามค่ำคืน การผสมผสานที่สมบูรณ์แบบของ สปริง ไดรฟ์ และท้องฟ้ายามค่ำคืนเหนือ Achi

<img class="size-full wp-image-47752 aligncenter" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/07/Grand-Seiko_Spring-Drive_005.jpg" alt="" width="600" height="376" />

สูงขึ้นไปบนภูเขาทางตอนใต้ของภูมิภาค Shinshu ของประเทศญี่ปุ่นคือ Achi หมู่บ้านที่มีชื่อเสียงในเรื่องของท้องฟ้ายามค่ำคืนอันตระการตา ด้วยระดับความสูง ความห่างไกลจากตัวเมืองและอากาศที่สะอาดบริสุทธิ์ ดวงดาวเหนือหมู่บ้านอาจิจึงดูเหมือนเกือบจะอยู่ในระยะที่เอื้อมไปสัมผัสได้ และจักรวาลอันกว้างใหญ่ก็ถูกดึงมาสู่จุดโฟกัสที่คมชัดที่สุด ด้วยตัวเรือนแพลทินัมและเข็มวินาทีที่เคลื่อนที่อย่างเงียบเชียบและต่อเนื่องผ่านพื้นหน้าปัดสีน้ำเงินเข้มประดุจดวงดาว

ผลงานชิ้นเอกรุ่นใหม่ของ แกรนด์ ไซโก ทำให้ทั้งความยิ่งใหญ่แห่งสรวงสวรรค์และธรรมชาติแห่งกาลเวลาที่เปลี่ยนแปลงเสมอ แต่ยังคงอยู่ชั่วนิจนิรันดร์ ให้มีชีวิตชีวาขึ้นมาพร้อมกัน

เมื่อนาฬิกา สปริง ไดรฟ์ กลไกไขลานด้วยมือ คาลิเบอร์ 9R02 เปิดตัวครั้งแรกเพื่อเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 20 ปีของกลไก สปริง ไดรฟ์ ในปี 2019 ก็ได้รับความนิยมอย่างมากจากผู้ชื่นชอบนาฬิกาทั่วโลกจากการปรับแต่งที่ละเอียดอ่อน ด้วยคุณภาพที่รังสรรค์ขึ้นด้วยมือและการเคลื่อนที่ของเข็มวินาทีที่เรียบรื่นแบบ ไกลด์ โมชั่น (Glide motion) ซึ่งเป็นประดุจลายเซ็นของ สปริง ไดรฟ์ แบบอย่างของความรู้สึกอันประณีตในแบบฉบับของญี่ปุ่น อันเป็นเอกลักษณ์ของ แกรนด์ ไซโก

วันนี้ เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 140 ปีของการก่อตั้งบริษัท แกรนด์ ไซโก นำเสนอผลงานชิ้นเอกของ สปริง ไดรฟ์ รุ่นใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วยชุดกลไกนี้ และรังสรรค์โดยทีมช่างนาฬิกาชั้นยอดที่ Micro Artist Studio ภายในโรงงานการผลิตของ แกรนด์ ไซโก ในเมือง Shiojiri นาฬิกาจะวางจำหน่ายในแบบผลิตจำนวนจำกัดเพียง 50 เรือน ณ บูติก แกรนด์ ไซโก และ แกรนก์ ไซโก บูติก ออนไลน์ เดือนสิงหาคม 2021

<img class="size-full wp-image-47761 aligncenter" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/07/Grand-Seiko_Spring-Drive_006.jpg" alt="" width="600" height="538" />

สีน้ำเงินบนพื้นหน้าปัดมีความลึกลับอย่างน่าอัศจรรย์ เน้นความเรียบง่ายและตกแต่งด้วยประกายระยิบระยับที่ดูราวกับประดับด้วยดวงดาวอันไกลโพ้น เทคนิคการผลิตและการตกแต่งที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ ผสมผสานการขึ้นรูป การชุบ และการเพ้นท์สี ทำให้หน้าปัดมีความแตกต่างกันในแต่ละมุมมอง เช่นเดียวกับท้องฟ้าเหนือหมู่บ้านอาจิ

ตัวเรือนแพลทินัม 950 ได้รับการแกะสลักอย่างประณีตด้วยลวดลายที่จำลองแบบในทิศทางต่างๆ บนตัวเรือนที่ได้รับการขัดเงาด้วยเทคนิคซารัสซึ (Zaratsu) จับภาพลำดับการเปลี่ยนแปลงของท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวของหมู่บ้านอาจิสุดวิจิตรบนพื้นหน้าปัด

นาฬิกาเรือนนี้นำเสนอความประณีตและเพรียวบางด้วยตัวเรือนที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 38.5 มิลลิเมตร และหนา 9.8 มิลลิเมตร เข็มชั่วโมงและเข็มนาที รวมถึงหลักชั่วโมง ทำจากทองขาว 14k เพื่อให้แน่ใจว่าชุดเข็มจะคงความงามด้วยประกายสดใสยาวนานหลายทศวรรษ ชื่อของ Grand Seiko สเกลนาที และเครื่องหมายอื่นๆ ทั้งหมดได้รับการสลักไว้บนพื้นหน้าปัด 
<h3>รังสรรค์และประกอบขึ้นใน ไมโคร อาร์ติส สตูดิโอ</h3>
ชุดกลไกในทุกแง่มุมได้รับการออกแบบและตกแต่งอย่างปราณีตด้วยมาตรฐานการผลิตชั้นสูงของแบรนด์ มาตรวัดพลังงานสำรองถูกวางไปอยู่ด้านหลังของชุดกลไกถัดจากตลับลาน ในรูปทรงสะท้อนถึงดอกเบลล์ฟลาวเวอร์ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของชิโอจิริ ขอบของสะพานจักร และหลุมทับทิม รวมทั้งสกรูทั้งหมด ได้รับการขัดเงาด้วยมือที่เปี่ยมความชำนาญชั้นสูง เพื่อให้พื้นผิวเงาดุจกระจกอย่างสมบูรณ์แบบ

สกรูสีน้ำเงินจากกระบวนการเผาด้วยความร้อนก็โดดเด่นตัดกับลายเส้นริ้วที่บางราวกับเส้นผมในแบบ Hairline ของสะพานจักร เพิ่มการรับรู้ถึงความสมบูรณ์แบบให้กับวิศวกรรมกลไก ชุดกลไกยังงดงามด้วยแผ่นทองคำ 18k ที่ประดุจใบประกาศเกียรติคุณวางบนสะพานจักรด้านล่าง ประดับคำว่า "Micro Artist" แต่สามารถแทนที่ได้ด้วยคำอื่นๆ ตามความต้องการของผู้เป็นเจ้าของได้

<img class="size-full wp-image-47747 aligncenter" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/07/Grand-Seiko_Spring-Drive_004.jpg" alt="" width="600" height="399" />

กลไกได้รับการประกอบและปรับแต่งโดยช่างฝีมือชายและหญิงในสตูดิโอ ซึ่งรวมถึง Katsumi Nakata  ผู้ที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นช่างฝีมือร่วมสมัยระดับมาสเตอร์ (Contemporary Master Craftsman) และเป็นคนที่สามของทีม Micro Artist Studio ที่ได้รับเหรียญรางวัลที่มีริบบิ้นสีเหลืองอันทรงเกียรติจากรัฐบาลญี่ปุ่น

การสำรองพลังงานนาน 84 ชั่วโมงที่โดดเด่นของชุดกลไก คาลิเบอร์ 9R02 เกิดขึ้นได้ด้วย สปริงลานคู่ (Dual Spring Barrel) ที่วางขนานกันภายในตลับลานเดี่ยว และระบบคืนแรงบิด (Torque Return System) เมื่อสปริงลานได้รับการไขจนเต็มและมีกำลังส่งแรงบิดสูงสุด กำลังลานราว 30 เปอร์เซ็นต์ของพลังงาน

ไม่จำเป็นต้องใช้ในการรักษาความเที่ยงตรงของนาฬิกาและเกิดการสูญเสียเหมือนในกลไกปกติ แต่ระบบคืนแรงบิดจะใช้พลังงานนี้คืนกลับไปยังสปริงลาน ส่งผลให้มีพลังงานสำรองเพิ่มขึ้น ในชุดกลไก คาลิเบอร์ 9R02 ระบบนี้ทำงานเป็นเวลา 48 ชั่วโมงหลังจากสปริงลานได้รับการไขลานจนเต็ม

&nbsp;

เกี่ยวกับ ไมโคร อาร์ติส สตูดิโอ (Micro Artist Studio)

ไมโคร อาร์ติส สตูดิโอ คือสตูดิโอนาฬิกาสุดหรูที่สร้างสรรค์นาฬิกาในคอลเล็กชั่น Grand Seiko Masterpiece Collection ซึ่งเป็นซีรีส์นาฬิกาที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวจากการผสมผสานสิ่งที่ดีที่สุดของเทคโนโลยีการผลิตนาฬิกาชั้นสูงเข้ากับงานฝีมือระดับสูงสุด สตูดิโอก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2000 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ "ค้นพบ ตรวจสอบ และเรียนรู้ด้านเทคโนโลยี รวมถึงทักษะที่สืบทอดจากคนรุ่นก่อนในการผลิตนาฬิกาสุดหรู เพื่อสร้างสรรค์นาฬิกาญี่ปุ่นระดับเวิลด์คลาส" ทีมงานประกอบด้วยช่างฝีมือทั้งชายและหญิงมากกว่า 10 คน แต่ละคนมีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางของตน


Masterpiece Collection Seiko 140th Anniversary Limited Edition
Grand Seiko Spring Drive SBGZ007

คาลิเบอร์ 9R02

ระบบขับเคลื่อน: สปริง ไดรฟ์ ไขลานด้วยมือ
พลังงานสำรอง: 84 ชั่วโมง
ความเที่ยงตรง: ±1 วินาทีต่อวัน (± 15 วินาทีต่อเดือน)
สปริงลานคู่และระบบคืนแรงบิด
มาตรวัดพลังงานสำรอง
จำนวนทับทิม: 39

ข้อมูลทางเทคนิค

ตัวเรือนและบานพับล็อกสายทำด้วยแพลทินัม 950
กระจกแซฟไฟร์คริสตัลทรงโค้งคู่พร้อมเคลือบสารกันแสงสะท้อน
ฝาหลังโปร่งใสมองเห็นกลไก
ความสามารถกันน้ำ: 3 บาร์
การป้องกันสนามแม่เหล็ก: 4,800 แอมป์/เมตร
ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางตัวเรือน: 38.5 มิลลิเมตร หนา: 9.8 มิลลิเมตร
สายหนังจระเข้และบานพับล็อกสาย 3 ทบพร้อมปุ่มกดคลายล็อก
ราคาขายปลีกโดยประมาณ 2,703,200 บาท
ผลิตจำนวนจำกัด: 50 เรือน

<hr />

<a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/">ไม่พลาดเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ของเรา ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

Grand Seiko เปิดตัวผลงานชิ้นเอก Spring Drive SBGZ007

<h2>หน้าปัดนาฬิกาสีจัดจ้านบ่งบอกตัวตนของผู้สวมใส่มาโดยตลอด ก่อนหน้านี้สีน้ำเงินและสีเขียวเป็นที่นิยมมาก หากแต่ในปัจจุบันกระแสความนิยมเทไปหาสีแดงเข้ม คิดเสียว่า นี่เป็นช่วงเวลาเดียวที่คุณอยากข้องเกี่ยวกับสีแดง (ซึ่งมักจะมีความหมายไปในทางลบอย่างบัญชีตัวแดง อับอายหน้าแดง เป็นต้น)</h2>
&nbsp;

4 แบรนด์หรูที่รังสรรค์พลังของสีแดงให้เข้ามาเพิ่มสีสันผสมผสานกับตัวเรือนเวลาได้อย่างทันสมัยประณีตและงดงาม

&nbsp;

<img class="alignnone size-full wp-image-41047" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/02/IWC-Portugieser-Chronograph-Ref.-3716.jpg" alt="" width="500" height="500" />
<ul>
 	<li>IWC Portugieser Chronograph Ref. 3716 (ราคา 7,950 เหรียญ);</li>
</ul>
IWC คอลเล็กชัน IW3716 สีแดง Burgundy ตัวเรือน Stainless Steel ขนาด 41 มิลลิเมตร หนา 13 มิลลิเมตร พร้อมหน้าปัดย่อยบันทึกเวลา 30 นาที ตรงตำแหน่งเลข 12  และเข็มวินาทีตรงตำแหน่งเลข 6 รุ่นนี้ยังมาพร้อมสายหนังจระเข้สีดำรุ่นใหม่อย่าง Folding Buckle Stainless Steel และสามารถกันน้ำได้ 30 เมตร

&nbsp;

&nbsp;

<img class="alignnone size-full wp-image-41052" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/02/Jaeger-LeCoultre-Reverso-One-Red-Wine.jpg" alt="" width="500" height="500" />
<ul>
 	<li>Jaeger-LeCoultre Reverso One Red-Wine (5,300 เหรียญ);</li>
</ul>
นาฬิกาข้อมือสุดคลาสสิก ตัวเรือนเป็นแบบสเตนเลสสตีล หน้าปัดสีไวน์แดง มีความหนา 7.9 มิลลิเมตร ประดับด้วยเพชร 27 เม็ด รวม 0.3 กะรัต และสามารถพลิกกลับด้านได้ ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจาก คอลเล็กชัน Reverso ที่สร้างขึ้นสำหรับผู้หญิงในช่วงทศวรรษที่ 1930 และรุ่นนี้ยังมีการปรับให้มีรูปลักษณ์ที่ดูหรูหราและเพรียวบางสำหรับผู้หญิงมากยิ่งขึ้น

&nbsp;

&nbsp;

<img class="alignnone size-full wp-image-41053" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/02/TAG-Heuer-“Grand-Prix-de-Monaco-Historique”-Limited-Edition.jpg" alt="" width="500" height="500" />
<ul>
 	<li>TAG Heuer “Grand Prix de Monaco Historique” Limited Edition (7,050 เหรียญ);</li>
</ul>
Grand Prix de Monaco Historique Limited Edition มาพร้อมกับความสวยงามและความพิเศษที่ทาง Tag Heuer รังสรรค์ขึ้นบนพื้นฐานของรุ่น Monaco Chronograph ตัวนาฬิกาทรงสี่เหลี่ยมเส้นผ่านศูนย์กลางขนาด 39 มิลลิเมตร ผลิตจาก Stainless Steel  โดยความพิเศษนอกจากการสลักสัญลักษณ์ของการแข่งขัน Grand Prix de Monaco Historique เอาไว้บนขอบฝาหลังที่เป็นแบบโปร่งใสเห็นกลไกแล้วก็ยังมีการแต่งหน้าปัดเป็นลวดลายในโทนสีแดง&amp;เงิน ที่เป็นเอกลักษณ์ของการแข่งขันอีกด้วย คอลเล็กชันพิเศษนี้ที่ผลิตออกมาเพียง 1,000 เรือนเท่านั้น

&nbsp;

&nbsp;

<img class="alignnone size-full wp-image-41054" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/02/Grand-Seiko-Heritage-Collection-SBGH269.jpg" alt="" width="500" height="500" />
<ul>
 	<li>Grand Seiko Heritage Collection SBGH269 (6,400 เหรียญ)</li>
</ul>
สำหรับคอลเล็กชัน Heritage นี้ Grand Seiko ได้แรงบันดาลใจมาจากฤดูฤดูใบไม้ร่วง ฤดูกาลแห่งความสวยงามของใบไม้เปลี่ยนสีจากประเทศญี่ปุ่น ตัวเรือนประกอบด้วยสเตนเลสสตีลที่ขัดเงาและขัดด้านสลับกันแบบ Zaratsu ขนาด 39.5 มิลลิเมตร หนา 13 มิลลิเมตร มาพร้อมกับสายสตีลและบานพับแบบ 3 ชั้น สามารถกันน้ำได้ลึก 100 เมตร

&nbsp;

&nbsp;

อ่านเพิ่มเติม:
<ul>
 	<li><a style="color: #008000;" href="https://forbesthailand.com/forbes-life/travel-forbes-life/%e0%b9%80%e0%b8%a3%e0%b8%b7%e0%b8%ad%e0%b8%aa%e0%b8%b4%e0%b8%a3%e0%b8%b4%e0%b8%a1%e0%b8%ab%e0%b8%a3%e0%b8%a3%e0%b8%93%e0%b8%9e-%e0%b8%a5%e0%b9%88%e0%b8%ad%e0%b8%87%e0%b8%ad%e0%b8%94%e0%b8%b5%e0%b8%95.html">ล่องอดีตอันรุ่งเรืองกับ “เรือสิริมหรรณพ”</a></li>
 	<li><a style="color: #008000;" href="https://forbesthailand.com/leaderboard/global-leaderboard/5-%e0%b8%ad%e0%b8%b1%e0%b8%99%e0%b8%94%e0%b8%b1%e0%b8%9a-%e0%b8%99%e0%b8%b1%e0%b8%81%e0%b8%ad%e0%b9%80%e0%b8%a1%e0%b8%a3%e0%b8%b4%e0%b8%81%e0%b8%b1%e0%b8%99%e0%b8%9f%e0%b8%b8%e0%b8%95%e0%b8%9a.html">5 อันดับ “นักอเมริกันฟุตบอล” รายได้สูงที่สุดของ NFL ประจำปี 2020</a></li>
</ul>

<hr />

<a href="https://bit.ly/39D3aEN">คลิกอ่านฉบับเต็มและบทความทางด้านธุรกิจได้ที่นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนมกราคม 2564 ในรูปแบบ e-magazine</a>

<a href="https://bit.ly/39D3aEN"><img class="lazy alignnone wp-image-40948 lazy-loaded" src="https://i0.wp.com/forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/02/COVER-92-JANUARY-14-12-63--780x1024.jpg" sizes="(max-width: 300px) 100vw, 300px" srcset="//i0.wp.com/forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/02/COVER-92-JANUARY-14-12-63--780x1024.jpg 780w, //i0.wp.com/forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/02/COVER-92-JANUARY-14-12-63--229x300.jpg 229w, //i0.wp.com/forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/02/COVER-92-JANUARY-14-12-63--768x1008.jpg 768w" alt="" width="300" height="394" data-lazy-type="image" data-lazy-src="//i0.wp.com/forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/02/COVER-92-JANUARY-14-12-63--780x1024.jpg" data-lazy-srcset="//i0.wp.com/forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/02/COVER-92-JANUARY-14-12-63--780x1024.jpg 780w, //i0.wp.com/forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/02/COVER-92-JANUARY-14-12-63--229x300.jpg 229w, //i0.wp.com/forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/02/COVER-92-JANUARY-14-12-63--768x1008.jpg 768w" data-lazy-sizes="(max-width: 300px) 100vw, 300px" /></a>

Trend Lines: พลังของสีแดงบนหน้าปัดเรือนเวลาหรู

<div>
<h2 class="ace-copy-paste-skip-this-tag">แกรนด์ ไซโก แยกการบริหารแบรนด์จากแบรนด์แม่ ตั้งเป้าปรับภาพลักษณ์ร้านจำหน่ายในไทยหวังตีตลาดระดับบน</h2>
</div>
Minoru Ishiguro ผู้อำนวยการและรองประธานกรรมการอาวุโส Seiko Watch Corporation ประเทศญี่ปุ่น เปิดเผยว่า เมื่อปี 2560 การบริหารของแบรนด์แกรนด์ ไซโก (Grand Seiko หรือ GS) ได้แยกตัวออกมาจากแบรนด์แม่คือ ไซโก (SEIKO) โดยเฉพาะ เพื่อให้การบริหารพัฒนาไปตามแนวทางของแกรนด์ ไซโกซึ่งต้องการ ผลักดันให้เป็นนาฬิกาข้อมือพรีเมียมระดับสากล

การเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้โลโก้ GS ของแกรนด์ ไซโก จะเข้าแทนที่โลโก้ของไซโกที่ตำแหน่ง 12 นาฬิกา เพื่อตอกย้ำความชัดเจนของแบรนด์

Yoshikatsu Kawada ผู้อำนวยการและรองประธานกรรมการ Seiko Watch Corporation กล่าวต่อว่า สำหรับจุดจำหน่ายสินค้าของแบรนด์แกรนด์ ไซโก มีทั้งหมด 371 แห่งทั่วโลก ในจำนวนนี้อยู่ในเอเชีย 226 จุดจำหน่าย และอยู่ในไทย 4 แห่ง ได้แก่ ไซโก บูทีค ช็อป ที่ศูนย์การค้า ดิ เอมโพเรียม เคาน์เตอร์จำหน่ายที่สยาม พารากอน, เซ็นทรัล ชิดลม และเซ็นทรัล พลาซา ลาดพร้าว

<figure><img style="width: 638px; height: 425px;" src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/d25401589412304e3cbf995b803fb9f4.png" alt="" width="638" height="425" /><figcaption> นาฬิกาแกรนด์ ไซโก (Grand Seiko) หลังขยับโลโก้ไปที่ตำแหน่ง 12 นาฬิกา</figcaption></figure>

ด้าน Katsumi Kubota กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไซโก (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า นาฬิกาแกรนด์ ไซโกเป็นนาฬิการะดับพรีเมียมช่วงราคาปกติ 9 หมื่นถึง 2 แสนกว่าบาท และรุ่นจำนวนจำกัดอาจไต่ระดับราคาไปถึงหลักล้านบาท ซึ่งในญี่ปุ่นนั้น แกรนด์ ไซโกถือเป็นแบรนด์อันดับ 3 ของกลุ่มนาฬิกาพรีเมียม ขณะที่ในไทยอาจยังไม่เป็นที่รู้จักสำหรับคนทั่วไปมากนัก

ดังนั้น บริษัทจะพยายามผลักดันยอดขายแกรนด์ ไซโก ผ่านการจัดกิจกรรมที่ทำให้คนทั่วไปได้สัมผัสและรู้จักกับนาฬิกาแกรนด์ ไซโก เน้นย้ำจุดเด่นด้านกลไกภายในที่มีความเที่ยงตรง ใช้ได้ยาวนาน และการออกแบบที่ประณีตตามสุนทรียะญี่ปุ่น 

รวมถึงการปรับปรุงจุดจำหน่ายแกรนด์ ไซโกในไทยให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกับจุดจำหน่ายทั่วโลก มีความเป็นสากล เข้าถึงได้ง่าย และจัดสินค้าให้หลากหลายมากขึ้น โดยเฉพาะที่ไซโก บูทีค ช็อป ชั้น 1 ศูนย์การค้า ดิ เอมโพเรียม บริษัทได้ปรับโฉมใหม่ให้ทันสมัย เปิดตัวไปเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2561

<figure><img src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/33bc88201848e92fc9f52a9669d2c28c.png" alt="" width="638" height="425" /><figcaption> ไซโก บูทีค ช็อป ชั้น 1 ดิ เอมโพเรียม หลังการปรับโฉมใหม่</figcaption></figure>

สำหรับการบริการหลังการขาย แกรนด์ ไซโกยังคงใช้ศูนย์บริการ SEIKO Service Center แห่งเดียวกับแบรนด์ไซโก ซึ่งมีช่างซ่อมนาฬิกา 3 ท่านที่ได้รับใบประกาศนียบัตรผ่านการฝึกอบรมการซ่อมแซมนาฬิกาแกรนด์ ไซโกจากญี่ปุ่นโดยเฉพาะ 

“ตลาดนาฬิกาไทยไม่ได้มีการหดตัว แต่สภาพตลาดเปลี่ยนไปในกลุ่มลูกค้าระดับบน โลภาภิวัตน์มีผลกับลูกค้ากลุ่มนี้มากขึ้นโดยลูกค้าจะต้องการแบรนด์ที่มีชื่อเสียงระดับโลก ซึ่งทำให้เราต้องปรับเปลี่ยนการทำตลาดของไซโก” Kubota กล่าว

<figure><img style="width: 638px; height: 425px;" src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/6b38ec7837e0f6a5ca30c96797d392b9.png" alt="" width="638" height="425" /><figcaption> (จากซ้าย) Yoshikatsu Kawada ผู้อำนวยการและรองประธานกรรมการ Seiko Watch Corporation, Katsumi Kubota กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไซโก (ประเทศไทย) จำกัด และ Minoru Ishiguro ผู้อำนวยการและรองประธานกรรมการอาวุโส Seiko Watch Corporation</figcaption></figure>
<h2></h2>
<h2>Forbes Facts</h2>
นาฬิกาไซโกเข้ามาจำหน่ายในไทยราวปี 2504 เริ่มต้นร้านแรกในย่านเยาวราช ในนาม บริษัท เมืองทอง จำกัด ก่อนจะเปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท กาลทอง จำกัด ในปี 2521

ปี 2534 บริษัทได้ย้ายสำนักงานมาที่ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ พร้อมเปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท เมืองทอง ไซโก จำกัด

ปี 2550 บริษัทเปลี่ยนชื่ออีกครั้งเป็น บริษัท ไซโก (ประเทศไทย) จำกัด และย้ายสำนักงานไปที่ตึกอิตัลไทย ทาวเวอร์ และเป็นช่วงที่แบรนด์แกรนด์ ไซโกมีจำหน่ายในไทยอย่างเป็นทางการ

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events