Grand Seiko เปิดตัวผลงานชิ้นเอก Spring Drive SBGZ007 - Forbes Thailand

Grand Seiko เปิดตัวผลงานชิ้นเอก Spring Drive SBGZ007

FORBES THAILAND / ADMIN
04 Jul 2021 | 07:30 AM
READ 4961
Grand Seiko (แกรนด์ ไซโก) นำเสนอผลงานชิ้นเอกของ Spring Drive SBGZ007 ซึ่งรวบรวมธรรมชาติที่เปลี่ยนแปลงของท้องฟ้าอันตระการตายามค่ำคืน การผสมผสานที่สมบูรณ์แบบของ สปริง ไดรฟ์ และท้องฟ้ายามค่ำคืนเหนือ Achi สูงขึ้นไปบนภูเขาทางตอนใต้ของภูมิภาค Shinshu ของประเทศญี่ปุ่นคือ Achi หมู่บ้านที่มีชื่อเสียงในเรื่องของท้องฟ้ายามค่ำคืนอันตระการตา ด้วยระดับความสูง ความห่างไกลจากตัวเมืองและอากาศที่สะอาดบริสุทธิ์ ดวงดาวเหนือหมู่บ้านอาจิจึงดูเหมือนเกือบจะอยู่ในระยะที่เอื้อมไปสัมผัสได้ และจักรวาลอันกว้างใหญ่ก็ถูกดึงมาสู่จุดโฟกัสที่คมชัดที่สุด ด้วยตัวเรือนแพลทินัมและเข็มวินาทีที่เคลื่อนที่อย่างเงียบเชียบและต่อเนื่องผ่านพื้นหน้าปัดสีน้ำเงินเข้มประดุจดวงดาว ผลงานชิ้นเอกรุ่นใหม่ของ แกรนด์ ไซโก ทำให้ทั้งความยิ่งใหญ่แห่งสรวงสวรรค์และธรรมชาติแห่งกาลเวลาที่เปลี่ยนแปลงเสมอ แต่ยังคงอยู่ชั่วนิจนิรันดร์ ให้มีชีวิตชีวาขึ้นมาพร้อมกัน เมื่อนาฬิกา สปริง ไดรฟ์ กลไกไขลานด้วยมือ คาลิเบอร์ 9R02 เปิดตัวครั้งแรกเพื่อเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 20 ปีของกลไก สปริง ไดรฟ์ ในปี 2019 ก็ได้รับความนิยมอย่างมากจากผู้ชื่นชอบนาฬิกาทั่วโลกจากการปรับแต่งที่ละเอียดอ่อน ด้วยคุณภาพที่รังสรรค์ขึ้นด้วยมือและการเคลื่อนที่ของเข็มวินาทีที่เรียบรื่นแบบ ไกลด์ โมชั่น (Glide motion) ซึ่งเป็นประดุจลายเซ็นของ สปริง ไดรฟ์ แบบอย่างของความรู้สึกอันประณีตในแบบฉบับของญี่ปุ่น อันเป็นเอกลักษณ์ของ แกรนด์ ไซโก วันนี้ เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 140 ปีของการก่อตั้งบริษัท แกรนด์ ไซโก นำเสนอผลงานชิ้นเอกของ สปริง ไดรฟ์ รุ่นใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วยชุดกลไกนี้ และรังสรรค์โดยทีมช่างนาฬิกาชั้นยอดที่ Micro Artist Studio ภายในโรงงานการผลิตของ แกรนด์ ไซโก ในเมือง Shiojiri นาฬิกาจะวางจำหน่ายในแบบผลิตจำนวนจำกัดเพียง 50 เรือน ณ บูติก แกรนด์ ไซโก และ แกรนก์ ไซโก บูติก ออนไลน์ เดือนสิงหาคม 2021 สีน้ำเงินบนพื้นหน้าปัดมีความลึกลับอย่างน่าอัศจรรย์ เน้นความเรียบง่ายและตกแต่งด้วยประกายระยิบระยับที่ดูราวกับประดับด้วยดวงดาวอันไกลโพ้น เทคนิคการผลิตและการตกแต่งที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ ผสมผสานการขึ้นรูป การชุบ และการเพ้นท์สี ทำให้หน้าปัดมีความแตกต่างกันในแต่ละมุมมอง เช่นเดียวกับท้องฟ้าเหนือหมู่บ้านอาจิ ตัวเรือนแพลทินัม 950 ได้รับการแกะสลักอย่างประณีตด้วยลวดลายที่จำลองแบบในทิศทางต่างๆ บนตัวเรือนที่ได้รับการขัดเงาด้วยเทคนิคซารัสซึ (Zaratsu) จับภาพลำดับการเปลี่ยนแปลงของท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวของหมู่บ้านอาจิสุดวิจิตรบนพื้นหน้าปัด นาฬิกาเรือนนี้นำเสนอความประณีตและเพรียวบางด้วยตัวเรือนที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 38.5 มิลลิเมตร และหนา 9.8 มิลลิเมตร เข็มชั่วโมงและเข็มนาที รวมถึงหลักชั่วโมง ทำจากทองขาว 14k เพื่อให้แน่ใจว่าชุดเข็มจะคงความงามด้วยประกายสดใสยาวนานหลายทศวรรษ ชื่อของ Grand Seiko สเกลนาที และเครื่องหมายอื่นๆ ทั้งหมดได้รับการสลักไว้บนพื้นหน้าปัด 

รังสรรค์และประกอบขึ้นใน ไมโคร อาร์ติส สตูดิโอ

ชุดกลไกในทุกแง่มุมได้รับการออกแบบและตกแต่งอย่างปราณีตด้วยมาตรฐานการผลิตชั้นสูงของแบรนด์ มาตรวัดพลังงานสำรองถูกวางไปอยู่ด้านหลังของชุดกลไกถัดจากตลับลาน ในรูปทรงสะท้อนถึงดอกเบลล์ฟลาวเวอร์ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของชิโอจิริ ขอบของสะพานจักร และหลุมทับทิม รวมทั้งสกรูทั้งหมด ได้รับการขัดเงาด้วยมือที่เปี่ยมความชำนาญชั้นสูง เพื่อให้พื้นผิวเงาดุจกระจกอย่างสมบูรณ์แบบ สกรูสีน้ำเงินจากกระบวนการเผาด้วยความร้อนก็โดดเด่นตัดกับลายเส้นริ้วที่บางราวกับเส้นผมในแบบ Hairline ของสะพานจักร เพิ่มการรับรู้ถึงความสมบูรณ์แบบให้กับวิศวกรรมกลไก ชุดกลไกยังงดงามด้วยแผ่นทองคำ 18k ที่ประดุจใบประกาศเกียรติคุณวางบนสะพานจักรด้านล่าง ประดับคำว่า "Micro Artist" แต่สามารถแทนที่ได้ด้วยคำอื่นๆ ตามความต้องการของผู้เป็นเจ้าของได้ กลไกได้รับการประกอบและปรับแต่งโดยช่างฝีมือชายและหญิงในสตูดิโอ ซึ่งรวมถึง Katsumi Nakata  ผู้ที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นช่างฝีมือร่วมสมัยระดับมาสเตอร์ (Contemporary Master Craftsman) และเป็นคนที่สามของทีม Micro Artist Studio ที่ได้รับเหรียญรางวัลที่มีริบบิ้นสีเหลืองอันทรงเกียรติจากรัฐบาลญี่ปุ่น การสำรองพลังงานนาน 84 ชั่วโมงที่โดดเด่นของชุดกลไก คาลิเบอร์ 9R02 เกิดขึ้นได้ด้วย สปริงลานคู่ (Dual Spring Barrel) ที่วางขนานกันภายในตลับลานเดี่ยว และระบบคืนแรงบิด (Torque Return System) เมื่อสปริงลานได้รับการไขจนเต็มและมีกำลังส่งแรงบิดสูงสุด กำลังลานราว 30 เปอร์เซ็นต์ของพลังงาน ไม่จำเป็นต้องใช้ในการรักษาความเที่ยงตรงของนาฬิกาและเกิดการสูญเสียเหมือนในกลไกปกติ แต่ระบบคืนแรงบิดจะใช้พลังงานนี้คืนกลับไปยังสปริงลาน ส่งผลให้มีพลังงานสำรองเพิ่มขึ้น ในชุดกลไก คาลิเบอร์ 9R02 ระบบนี้ทำงานเป็นเวลา 48 ชั่วโมงหลังจากสปริงลานได้รับการไขลานจนเต็ม   เกี่ยวกับ ไมโคร อาร์ติส สตูดิโอ (Micro Artist Studio) ไมโคร อาร์ติส สตูดิโอ คือสตูดิโอนาฬิกาสุดหรูที่สร้างสรรค์นาฬิกาในคอลเล็กชั่น Grand Seiko Masterpiece Collection ซึ่งเป็นซีรีส์นาฬิกาที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวจากการผสมผสานสิ่งที่ดีที่สุดของเทคโนโลยีการผลิตนาฬิกาชั้นสูงเข้ากับงานฝีมือระดับสูงสุด สตูดิโอก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2000 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ "ค้นพบ ตรวจสอบ และเรียนรู้ด้านเทคโนโลยี รวมถึงทักษะที่สืบทอดจากคนรุ่นก่อนในการผลิตนาฬิกาสุดหรู เพื่อสร้างสรรค์นาฬิกาญี่ปุ่นระดับเวิลด์คลาส" ทีมงานประกอบด้วยช่างฝีมือทั้งชายและหญิงมากกว่า 10 คน แต่ละคนมีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางของตน Masterpiece Collection Seiko 140th Anniversary Limited Edition Grand Seiko Spring Drive SBGZ007 คาลิเบอร์ 9R02 ระบบขับเคลื่อน: สปริง ไดรฟ์ ไขลานด้วยมือ พลังงานสำรอง: 84 ชั่วโมง ความเที่ยงตรง: ±1 วินาทีต่อวัน (± 15 วินาทีต่อเดือน) สปริงลานคู่และระบบคืนแรงบิด มาตรวัดพลังงานสำรอง จำนวนทับทิม: 39 ข้อมูลทางเทคนิค ตัวเรือนและบานพับล็อกสายทำด้วยแพลทินัม 950 กระจกแซฟไฟร์คริสตัลทรงโค้งคู่พร้อมเคลือบสารกันแสงสะท้อน ฝาหลังโปร่งใสมองเห็นกลไก ความสามารถกันน้ำ: 3 บาร์ การป้องกันสนามแม่เหล็ก: 4,800 แอมป์/เมตร ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางตัวเรือน: 38.5 มิลลิเมตร หนา: 9.8 มิลลิเมตร สายหนังจระเข้และบานพับล็อกสาย 3 ทบพร้อมปุ่มกดคลายล็อก ราคาขายปลีกโดยประมาณ 2,703,200 บาท ผลิตจำนวนจำกัด: 50 เรือน
ไม่พลาดเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ของเรา ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine