การจัดอันดับ 50 เศรษฐีออสเตรเลีย ประจำปี 2023

"CMOs" ผู้ทรงอิทธิพลที่สุดในโลก ประจำปี 2022

<h2>Canva แพลตฟอร์มออกแบบกราฟิกจากออสเตรเลีย ก้าวขึ้นเป็นหนึ่งในบริษัทสตาร์ทอัพที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลก หลังระดมทุน 200 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในรอบล่าสุด ขณะที่มูลค่าบริษัทแตะ 4 หมื่นล้านเหรียญเป็นที่เรียบร้อย</h2>
<figure><img class="wp-image-51238" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/09/crop-1024x652.jpg" alt="Melanie Perkins" width="720" height="458" /><figcaption> Canva.com</figcaption></figure>

การระดมทุนในรอบนี้นำโดย T. Rowe Price ร่วมกับ Franklin Templeton, Sequoia, Bessemer Venture Partners, Greenoaks Capital, Dragoneer, Blackbird, Felicis และ AirTree รวมเป็นมูลค่าที่เพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา 

ล่าสุด มูลค่าของบริษัทซอฟต์แวร์ด้านการออกแบบจากออสเตรเลียแห่งนี้เป็นรองเพียง Stripe ในการจัดอันดับบริษัทคลาวด์ชั้นนำ 100 แห่งของ Forbes 

ด้วยผลกำไรที่เติบโตอย่างต่อเนื่องและกระแสเงินสดที่เป็นบวก ขณะที่รายได้ “ส่วนใหญ่” มาจากการสมัครสมาชิก ซึ่ง “เป็นไปในทิศทางที่ถูกต้อง” ดังเช่นที่ Melanie Perkins ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอกล่าวในการรายงานผลประกอบการ 1 พันล้านเหรียญต่อปีในเดือนธันวาคม 2021 

เมื่อถามถึงสาเหตุของการระดมทุนในครั้งนี้ Perkins ให้เหตุผลว่า เธอต้องการเพิ่มจำนวนพนักงานเป็น 2 เท่าหรือราว 2,000 คนในปีนี้ (จากจดหมายสมัครงานที่ทางบริษัทได้รับ 180,000 ฉบับในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา) และอีกประการหนึ่ง คือ การเข้าซื้อกิจการเพื่อต่อยอดธุรกิจ

“นับเป็นการตัดสินใจครั้งใหญ่ถึงสิ่งที่เรากำลังทำและสิ่งที่เราจะดำเนินต่อไป” Perkins กล่าวกับ Forbes “ฉันชอบมีเงินในธนาคารในจำนวนมาก เพราะถ้าพรุ่งนี้เกิดมีอะไรเปลี่ยนแปลง อย่างน้อยเราก็มีเงินทุนเพียงพอที่จะทำให้เราอยู่ด้วยกันไปนานๆ”

ทั้งนี้ การเติบโตอย่างก้าวกระโดดของ Canva ซึ่งนอกจากจะกลายเป็นหนึ่งในเครื่องมือซอฟต์แวร์ที่ได้รับความนิยมและเติบโตเร็วที่สุดในโลกแล้ว ยัง ทำให้ Perkins ได้ก้าวเข้าสู่ทำเนียบ <a style="color: #008000;" href="https://www.forbes.com/cloud100/#371586745f94">Forbes 30 Under 30</a> และขึ้นปกนิตยสารในเดือนธันวาคม 2019 หลังจากที่เพิ่งเปิดตัวในปี 2012 โดยความร่วมมือของสามีภรรยา Cliff Obrecht กับ Melanie Perkins และ Cameron Adams ด้วยจุดเริ่มต้นที่ต้องการเป็นเครื่องมือสำหรับช่วยในการออกแบบเรซูเม่ ไปจนถึงนามบัตร และงานกราฟิกอื่นๆ

<figure><img class="wp-image-51239" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/09/https-specials-images.forbesimg.com-imageserve-6140f9db1bc0885bef7979ce-Melanie-Perkins-on-the-cover-of-Forbes-in-2019-0x0.jpgfitscale-794x1024.jpg" alt="Melanie Perkins" width="543" height="700" /><figcaption> Melanie Perkins ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอ Canva</figcaption></figure>

ปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์ของ Canva ได้พัฒนาขึ้นเพื่อรองรับวิดีโอ การนำเสนอ และล่าสุดคือการทำงานร่วมกันในเวลาเดียวกัน ซึ่งด้วยเครื่องมือเว็บไซต์ใหม่ Perkins กล่าวว่า เธอหวังว่าจะช่วยทำให้การทำงานกราฟิกในรูปแบบ PDF ที่ใช้งานในเว็บไซต์หรือโดเมนต่างๆ มีคุณภาพเทียบเท่ากับ Adobe และ Vistaprint หรือแม้กระทั่ง Squarespace และ Wix 

ณ เวลานี้ คลังของ Canva ประกอบด้วยเทมเพลตมากกว่า 800,000 รายการ และรูปภาพ ภาพประกอบ และแบบอักษรกว่า 100 ล้านรายการ และจนถึงปัจจุบัน Canva ได้สร้างงานออกแบบมากกว่า 7 พันล้านชิ้น โดยแต่ละวินาทีมีการออกแบบใหม่ราว 120 แบบ

จากเดิมที่มักเป็นที่รู้จักในชื่อ เครื่องมือสำหรับนักออกแบบมือสมัครเล่นหรือธุรกิจขนาดเล็ก ปัจจุบัน ซอฟต์แวร์ freemium ของ Canva มีผู้ใช้มากกว่า 60 ล้านคนต่อเดือน ขณะที่ผู้ใช้งานในรูปแบบจ่ายเงินประกอบด้วยบริษัทต่างๆ มากกว่า 500,000 แห่ง อาทิเช่น American Airlines, CBRE, Intel, Kimberly-Clark และ Zoom

นอกจากนี้ การระดมทุนครั้งใหม่จะมีส่วนช่วยในการเพิ่มมูลค่าหุ้นของผู้ก่อตั้ง Canva ในธุรกิจได้อย่างมาก ซึ่งก่อนหน้านี้มีมูลค่าอยู่ที่ 1.5 หมื่นล้านเหรียญในเดือนเมษายน 

Forbes ประมาณการว่า Perkins และ Obrecht ต่างก็เป็นเจ้าของ Canva ที่สัดส่วนประมาณร้อยละ 18 หรือ 6.5 พันล้านเหรียญ ขณะที่ Adams มีสัดส่วนราวร้อยละ 9 คิดเป็นมูลค่า 3.2 พันล้านเหรียญ

แต่ Perkins และ Obrecht ก็ได้ยืนหยัดว่า พวกเขาไม่ได้วางแผนที่จะ “สะสม” ความมั่งคั่งดังกล่าว โดยทั้งคู่ให้คำมั่นว่าจะมอบรายได้ร้อยละ 30 จาก  Canva ให้กับมูลนิธิ Canva Foundation เพื่อนำไปใช้เพื่อการกุศล “ถ้าทั้งหมดนี้เป็นเรื่องของการสร้างความมั่งคั่ง นั่นจะเป็นสิ่งที่ไม่น่าสนใจที่สุดที่ฉันสามารถจินตนาการได้” Perkins กล่าว “ฉันคงรู้สึกแปลกๆ เมื่อมีคนเรียกเราว่า 'มหาเศรษฐี' เพราะเราไม่ได้รู้สึกว่าเงินเหล่านั้นเป็นของเรา เราเป็นเพียงแค่ผู้ดูแลก็เท่านั้น” เธอกล่าวเสริมในโพสต์บล็อกส่วนตัว

โดย Canva เริ่มต้นด้วยการบริจาคเงิน 10 ล้านเหรียญให้กับ GiveDirectly องค์กรไม่แสวงหากำไร เพื่อแจกจ่ายให้กับครอบครัวที่ได้รับผลกระทบในแอฟริกาใต้ แล้วจึงค่อยๆ ขยายขอบเขตการให้ความช่วยเหลือไปเรื่อยๆ 

ปัจจุบันสตาร์ทอัพแห่งนี้ทำงานร่วมกับโรงเรียน 60,000 แห่ง และองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร 130,000 แห่ง ทั้งยังให้คำมั่นสัญญาว่าจะปลูกต้นไม้ 1 ต้นสำหรับใบสั่งพิมพ์แต่ละครั้งที่ให้บริการ ซึ่งมีจำนวนถึง 2 ล้านต้นแล้ว

“ในขณะที่เราดำเนินการต่อไปในขั้นตอนที่หนึ่ง ขั้นตอนที่สองจะเริ่มมีความสำคัญมากกว่าที่เคย” Perkins กล่าว “เรารู้สึกว่าเป็นความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่… ไม่สำคัญว่าคุณจะอยู่ที่ไหนในโลก จะมีทักษะหรือประสบการณ์แตกต่างกันอย่างไร แต่สิ่งที่เราต่างมีคือความสามารถในการออกแบบ”

แปลและเรียบเรียงจากบทความ Canva Raises At $40 Billion Valuation — Its Founders Are Pledging Away Most Of Their Wealth โดย ชญาน์นัทช์ ธนินท์พงศ์ภัค เผยแพร่บน Forbes.com

อ่านเพิ่มเติม: <a style="color: #003300;" href="https://forbesthailand.com/world/bill-gates-เตรียมขึ้นแท่นผู้ถือห.html">Bill Gates เตรียมขึ้นแท่นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของโรงแรม Four Season</a>

Canva ก้าวขึ้นเป็นหนึ่งในบริษัทสตาร์ทอัพที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลก

<h2>Melanie Perkins สร้างสรรค์ Canva แอปออกแบบ จากสถานที่ที่ดูไม่น่าจะเป็นไปได้จนเติบโตเป็นบริษัทซอฟต์แวร์ที่มีมูลค่ามากที่สุดแห่งหนึ่งในโลก เพราะเครื่องมือดิจิทัลของเธอทำให้คนส่วนใหญ่เข้าถึงได้จนสร้างผลกำไร และกลายเป็นภัยคุกคามกับ Adobe และ Microsoft</h2>
เช้าของเดือนพฤษภาคม ปี 2013 อันอบอ้าว Melanie Perkins ซีอีโอของ Canva พบตัวเองลอยละล่องอยู่บน Kiteboard ในช่องแคบระหว่างเกาะ Necker ซึ่งเป็นเกาะส่วนตัวของมหาเศรษฐี Richard Branson และเกาะ Moskito

เรือใบความยาว 30 ฟุตของเธอลอยลำไม่กางใบอยู่ในทะเลแคริบเบียนที่มีกระแสน้ำพัดแรง นักธุรกิจวัย 26 ปีรอความช่วยเหลืออยู่หลายชั่วโมง ขณะเดินอยู่ในน้ำขาซ้ายของเธอกระแทกกับปะการังจนเป็นแผลเป็น แต่ก็บอกกับตัวเองว่างานอดิเรกใหม่นี้คุ้มค่ากับสิ่งที่ต้องเผชิญ ถึงกระนั้นก็ตาม มันก็เป็นหัวใจสำคัญของกลยุทธ์การระดมทุนสำหรับบริษัทสตาร์ทอัพธุรกิจซอฟต์แวร์เพื่อการออกแบบ ที่เธอร่วมก่อตั้งกับแฟนหนุ่มเมื่อ 6 ปีก่อน

Canva มีสำนักงานใหญ่อยู่ในออสเตรเลีย คิดเป็นระยะทางหลายพันไมล์จากบรรดาผู้นำวงการที่ทรงอิทธิพลใน Silicon Valley การจะได้รับโอกาสพบปะพูดคุยเป็นเรื่องยาก ส่วนการหาแหล่งเงินทุนมาสนับสนุนนั้นแทบไม่ต้องพูดถึง Perkins ได้ยินคำว่า “ไม่” จากนักลงทุนมากกว่า 100 คนแล้ว จนกระทั่งเธอได้พบกับกลุ่มผู้จัด Kitesurf ของนักลงทุนประเภทร่วมทุนกลุ่มหนึ่งที่งานเสนอไอเดียของบริษัทสตาร์ทอัพที่เมือง Perth

เพราะกลุ่ม Kitesurf ทำให้พวกเขาได้พบกับ Cameron Adams อดีตลูกหม้อของ Google วัย 40 ปี ซึ่งได้ก่อตั้งธุรกิจสตาร์ทอัพใน Sydney โดย Adams พบกับทั้งคู่ในฐานะที่ปรึกษาในเดือนมีนาคม 2012 และได้จับมือเป็นผู้ก่อตั้งคนที่ 3 ของบริษัทในเดือนมิถุนายนเมื่อมีผู้นำในส่วนงานด้านเทคนิคแล้ว พวกเขาก็เดินหน้าฉลุย โดย Canva สามารถระดมทุนตั้งต้นได้รวมกัน 3 ล้านเหรียญ ก้อนหนึ่งในปี 2012 และอีกก้อนจากต้นปี 2013 ซึ่งรวมถึงส่วนที่เป็นเงินสมทบในจำนวนเท่ากันกับอีกแหล่งเงินทุนที่ให้โดยรัฐบาลออสเตรเลีย

ที่ผ่านมาความอุตสาหะเช่นนั้นเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับ Canva ซึ่งเริ่มต้นจากธุรกิจออกแบบหนังสือรุ่นขนาดเล็กๆ ใน Perth เมืองหลวงของรัฐทางชายฝั่งตะวันตกของออสเตรเลีย จากจุดเริ่มต้นเมื่อครั้งนั้น Canva ได้เติบโตมาเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลก มีผู้ใช้กว่า 20 ล้านคนจาก 190 ประเทศ ที่ใช้โปรแกรมประยุกต์บนเว็บของบริษัทที่ให้บริการในรูปแบบฟรีเมียมในการออกแบบตั้งแต่กราฟิกเตะตาสำหรับ Pinterest ไปจนถึงรายการอาหารของภัตตาคารอันสวยหรู นอกเหนือจากราคาที่ใครก็สู้ไม่ไหว (ผู้ใช้หลายล้านคนไม่ต้องจ่ายอะไรทั้งสิ้น)

<figure><img class="wp-image-32742 size-full" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/07/canva-04.jpg" alt="แอปออกแบบ" width="600" height="252" /><figcaption> เครื่องมือของ Canva ถูกใช้เพื่อการออกแบบมากกว่า 2 พันล้านแบบใน Canva Apps</figcaption></figure>

&nbsp;

ความได้เปรียบสำคัญของ Canva เหนือผลิตภัณฑ์ของคู่แข่งจากบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่อย่าง Adobe คือความสะดวกในการใช้งาน ก่อนที่จะมี Canva บรรดามือสมัครเล่นต้องใช้วิธีแปะงานออกแบบเข้าด้วยกันบน Microsoft Word หรือไม่ก็โดนโขกค่าเครื่องมือระดับโปรที่ใช้งานแสนยาก ทุกวันนี้ไม่ว่าใครก็สามารถดาวน์โหลด Canva ได้จากทุกที่ และสร้างสรรค์งานได้ภายในเวลา 10 นาที

รายได้ของบริษัทมาจากการขายการบริการแบบที่มีราคาแพงกว่าที่ลูกค้าตั้งใจซื้อแต่แรก โดยเชิญชวนให้ลูกค้าจ่ายเดือนละ 10 เหรียญสหรัฐฯ สำหรับโปรแกรมที่เป็นเวอร์ชั่นแบบพรีเมียม ซึ่งมีลูกเล่นน่าดึงดูดใจกว่าหรือไม่เช่นนั้นก็จากการขายโปรแกรมที่มีประสิทธิภาพกว่าสำหรับลูกค้าบริษัทที่เพิ่งดำเนินการ

เมื่อเร็วๆ นี้ คลังรูปภาพที่ Canva มีหลายล้านภาพคิดเงินอีก 1 เหรียญ แม้จะเล็กน้อยแต่ทั้งหมดนี้รวมกันเป็นรายได้ก้อนโต ปีนี้บริษัทคาดว่าจะทำรายได้เป็นเท่าตัว โดยเพิ่มเป็น 200 ล้านเหรียญ เงินทุนก้อนล่าสุดที่บริษัทได้มาทำให้มีการประเมินมูลค่าบริษัทเป็นตัวเลขกลมๆ ที่ 3.2 พันล้านเหรียญ

Perkins ซึ่งติดทำเนียบ Forbes 30 Under 30 Asia ปี 2016 มีหุ้นในบริษัทราวร้อยละ 15 คิดเป็นมูลค่า 430 ล้านเหรียญ เมื่อรวมกับหุ้นในจำนวนใกล้เคียงกันของผู้ร่วมก่อตั้งวัย 34 ปี Cliff Obrecht ผู้ที่ตอนนี้เป็นคู่หมั้นของเธอ ทั้งสองจะเป็นคู่รักชาวออสเตรเลียที่น่าจะมีสินทรัพย์รวมกันกว่า 800 ล้านเหรียญ

<figure><img class="wp-image-32741 size-full" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/07/Canva-03.jpg" alt="แอปออกแบบ" width="600" height="400" /><figcaption> Cameron Adams (ซ้าย) ร่วมกับ Melanie Perkins และ Cliff Obrecht แห่ง แอปออกแบบ</figcaption></figure>

Canva เผชิญหน้ากับความท้าทายที่ตรงไปตรงมากว่ามาก นั่นคือการเอาชนะธุรกิจรายใหญ่ ทั้งนี้ Canva ประสบปัญหาคลาสสิกเช่นเดียวกับ Atlassian, Slack และ Zoom นั่นคือ โมเดลฟรีเมียมทำให้คุณเป็นที่รู้จัก แต่ผู้ใช้ส่วนใหญ่จะไม่ยอมควักกระเป๋าแม้แต่สตางค์เดียว และแม้ Canva จะบอกว่าบริษัทมีผู้ใช้อยู่ในบริษัทใหญ่เกือบทุกแห่งในขณะนี้ก็ตาม แต่คนเหล่านั้นโดยมากเป็นผู้ใช้บุคคล หรือกลุ่มคนเล็กๆ ประเภทที่ใช้ชื่อปลอมไม่ใช่บัญชีบริษัทที่เป็นทางการ การจะเจาะตลาดบนหมายถึงการขึ้นไปต่อกรกับ Adobe ยักษ์ใหญ่ด้านกราฟิก ที่มีมูลค่าตามตลาดอยู่ที่ 1.49 แสนล้านเหรียญ โดยเฉพาะรายได้จากส่วนธุรกิจด้านออกแบบในไตรมาสสุดท้ายของปี 2019 ก็สูงถึง 1.65 พันล้านเหรียญแล้ว

นอกจากนี้ยังมีบริษัทสตาร์ทอัพที่กำลังมาแรงอีกมากมาย รวมถึง Figma และ Sketch ที่จับลูกค้ามืออาชีพ แต่ก็อาจขยายตลาดไปยังกลุ่มผู้บริโภคทั่วไปได้ไม่ยาก นั่นยังไม่นับรวมสิ่งที่ Canva มองไว้ในอนาคตคือ การลงไปเล่นในสื่อใหม่อย่างวิดีโอและการทำพรีเซนเทชั่น ซึ่งอาจเป็นการลงสนามประลองกับผู้เล่นมากมาย ตั้งแต่ Instagram ที่มีแอปทำวิดีโอเล็กๆ ไปจนถึงไมโครซอฟท์ผู้ผลิต PowerPoint ที่ใช้กันแพร่หลายทั่วโลก

จะบอกว่าหนทางดูมืดมนก็ยังน้อยไป แต่ไม่ใช่สำหรับ Perkins ผู้ที่ประสบความสำเร็จในการเปลี่ยนนักลงทุนจาก Silicon Valley ผู้เต็มไปด้วยความกังขาให้กระโดดมาสนับสนุนบริษัทของเธอเต็มตัว เธอมองตลาดจีนอย่างทะลุปรุโปร่ง และทำตัวเลขในบัญชีธนาคารไปที่ยอดกว่า 200 ล้านเหรียญ สำหรับเธอแล้วทุกอย่างเป็นไปตามแผน “ฉันรู้สึกว่าสิ่งที่เราทำนั้นยอดเยี่ยม แต่เมื่อเทียบกับสิ่งที่เราต้องการทำแล้วนั่นยังถือว่าน้อยมาก เราทำไปแค่ร้อยละ 1 ของสิ่งที่ฉันคิดว่าเป็นไปได้” Perkins กล่าว

ตั้งแต่อดีตมาประเทศจีนเป็นตลาดปราบเซียนสำหรับผู้ผลิตซอฟต์แวร์จากโลกตะวันตก แต่ Canva เป็นความสำเร็จที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก ด้าน Obrecht ซึ่งดำรงตำแหน่งซีโอโอ หนุ่มร่างสูงที่มีบุคลิกเป็นมิตร เขาเปิดสำนักงานนอก Sydney เป็นแห่งแรกที่ Manila ในปี 2014 จากนั้นได้จ้างอดีตหัวเรือใหญ่ของ LinkedIn ประเทศจีน ให้รับผิดชอบสำนักงานในจีนแผ่นดินใหญ่

ทุกวันนี้ทีมวิศวกรท้องถิ่นจัดการดูแล Canva เวอร์ชั่นประเทศจีนเวอร์ชั่นแรก ซึ่งเป็นการพัฒนาตั้งแต่เริ่มต้น โดยมีคุณสมบัติในการเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชันส่งข้อความของจีน และ QR code ที่สร้างได้ง่ายๆ ซึ่งเป็นที่นิยมที่นั่น มีลูกค้าอย่าง McDonald’s China และบริษัทนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ที่นำซอฟต์แวร์นี้ไปใช้กับตัวแทน 1,000 แห่งของบริษัท

&nbsp;

<hr />

<a href="https://www.ookbee.com/shop/magazine/FORBES/312a837b-0af3-4945-9cac-b7be029798c7/june-2020">คลิกอ่านฉบับเต็ม Canva แอปออกแบบ จากสตาร์ทอัพพันล้าน ได้ที่ นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนมิถุนายน 2563 ในรูปแบบ e-magazine</a>

<img class="lazy alignnone wp-image-31977 lazy-loaded" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/07/COVER-FORBES-85-OK-.jpg" sizes="(max-width: 300px) 100vw, 300px" srcset="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/07/COVER-FORBES-85-OK-.jpg 2400w, https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/07/COVER-FORBES-85-OK--229x300.jpg 229w, https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/07/COVER-FORBES-85-OK--768x1008.jpg 768w, https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/07/COVER-FORBES-85-OK--780x1024.jpg 780w" alt="" width="300" height="394" data-lazy-type="image" data-lazy-src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/07/COVER-FORBES-85-OK-.jpg" data-lazy-srcset="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/07/COVER-FORBES-85-OK-.jpg 2400w, https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/07/COVER-FORBES-85-OK--229x300.jpg 229w, https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/07/COVER-FORBES-85-OK--768x1008.jpg 768w, https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/07/COVER-FORBES-85-OK--780x1024.jpg 780w" data-lazy-sizes="(max-width: 300px) 100vw, 300px" />

&nbsp;

Canva แอปออกแบบ จากสตาร์ทอัพพันล้าน

<h2 class="p1">สตาร์ทอัพแพลตฟอร์มออกแบบ Canva เปิดระดมทุนรอบใหม่ ส่งผลให้มูลค่าบริษัทเพิ่มขึ้นเป็น 3.2 พันล้านเหรียญ พร้อมออกโปรดักต์เจาะลูกค้าองค์กร</h2>
Canva สตาร์ทอัพผู้ให้บริการแพลตฟอร์มออกแบบจากออสเตรเลีย เปิดเผยเมื่อวันที่ 16 ตุลาคมที่ผ่านมาว่า บริษัทสามารถระดมทุนได้ 85 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในการระดมทุนรอบใหม่จากนักลงทุนเดิม เช่น Bond, General Catalyst, Bessemer Venture Partners, Blackbird และ Sequoia China
Canva เป็นหนึ่งในบริษัทที่ติดอันดับ<a href="https://www.forbes.com/cloud100/#4dd33d115f94"> Cloud 100 </a>ปี 2019 โดยนิตยสาร Forbes ซึ่งอยู่ในลำดับที่ 6 โดยหลังการระดมทุนรอบนี้ผ่านพ้น ทำให้สตาร์ทอัพรายนี้มีมูลค่าของบริษัทเพิ่มขึ้นเป็น 3.2 พันล้านเหรียญ จากเดิมที่มีมูลค่า 2.5 พันล้านเหรียญในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา
ในบทสัมภาษณ์หนึ่ง Melanie Perkins ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอ Canva กล่าวว่า การระดมรอบใหม่นี้มีจุดประสงค์เพื่อนำเงินไปใช้รับคนเพิ่มและลงทุนในการวิจัยและการพัฒนาเพื่อขับเคลื่อนองค์กร
บริษัทยังยืนยันว่า ปัจจุบันมีลูกค้าใช้งานแพลตฟอร์มของตน 20 ล้านราย/เดือนจาก 190 ประเทศทั่วโลก และมีการสร้างสรรค์งานออกแบบ 36 ชิ้น/วินาที
Canva กลายมาเป็นแพลตฟอร์มที่มีชื่อเสียงเนื่องจากซอฟต์แวร์ที่ใช้งานง่าย มีเทมเพลตมากมายให้กับผู้ใช้ ไม่ว่าจะเป็น เทมเพลตสำหรับสร้างโปสเตอร์โฆษณา, แบนเนอร์บนโซเชียลมีเดีย, อินโฟกราฟิก ฯลฯ โดยกลุ่มลูกค้าก็มีตั้งแต่โรงเรียนไปจนถึงธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
โดยสตาร์ทอัพรายนี้มีเวอร์ชั่นให้บริการฟรีสำหรับผู้ใช้รายบุคคล แต่บริษัทได้ตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นของลูกค้าองค์กรที่ต้องการความเป็นมืออาชีพผ่านบริการระดับพรีเมียมอย่าง Canva Pro ซึ่งมีค่าบริการอยู่ที่ 12.95 เหรียญ/เดือน


<figure><img class="size-full wp-image-22880" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/10/Canva02.jpg" alt="" width="720" height="480" /><figcaption> (จากซ้าย) Cameron Adams, Cliff Obrecht และ Melanie Perkins ผู้ร่วมก่อตั้ง</figcaption></figure>
อย่างไรก็ตาม ในอดีตฐานลูกค้าของบริษัทส่วนใหญ่เป็นลูกค้ารายบุคคลหรือทีมเล็กๆ แต่เป้าหมายใหม่ของบริษัท คือ ความต้องการเพิ่มสัดส่วนลูกค้าองค์กรให้มากขึ้น ซึ่งปัจจุบันลูกค้าองค์กรที่มีส่วนใหญ่จะเป็นบริษัทขนาดใหญ่ในสหรัฐฯ ทำให้บริษัทเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่สำหรับลูกค้าองค์กรโดยเฉพาะซึ่งเรียกว่า Canva for Enterprise
“เราต้องการเป็นแพลตฟอร์มที่ทุกองค์กรในโลกใช้งานจริงๆ” Perkins กล่าว
สำหรับโปรดักต์ใหม่ของลูกค้าองค์กรนั้น Perkins กล่าวว่า บริษัทจะมุ่งโฟกัสไปที่การทำให้แพลตฟอร์มใช้งานง่ายขึ้น ซึ่งจะทำให้มีฟีเจอร์ต่างๆ น้อยลง ไม่ใช่มากขึ้น
“องค์กรจำนวนมากต้องพยายามอย่างหนักในการทำให้ธุรกิจอยู่ในความเป็นแบรนด์ของตน แต่ก็ต้องติดหล่มกับปัญหาเมื่อบริษัทมีสำนักงานหลายแห่งในโลก และแผนกต่างๆ ก็พยายามสร้างคอนเทนต์จำนวนมากขึ้นมา ซึ่งอาจทำให้สูญเสียเอกลักษณ์หรือความเป็นแบรนด์ได้” เธอกล่าว

<ul>
 	<li><a href="https://forbesthailand.com/news/it/%e0%b9%81%e0%b8%ad%e0%b8%9e%e0%b8%9e%e0%b8%a5%e0%b8%b4%e0%b9%80%e0%b8%84%e0%b8%8a%e0%b8%b1%e0%b9%88%e0%b8%99-vsco.html">VSCO สตาร์ทอัพ 500 ล้านเหรียญ ที่ต้องการเป็นมากกว่าแอพฯแต่งภาพ</a></li>
</ul>
โซลูชั่นในการแก้ปัญหาของสตาร์ทอัพผู้ให้บริการแพลตฟอร์มออกแบบรายนี้ คือการป้องกันไม่ให้สิ่งเหล่านั้นเกิดขึ้น โดยนำเสนอโปรดักต์สำหรับลูกค้าองค์กรที่มีเทมเพลต, สี, ฟ้อนต์ และองค์ประกอบงานกราฟิกตามที่ได้รับการอนุมัติจากพนักงานที่ดูแลระบบ ทำให้งานออกแบบแต่ละชิ้นเสมือนได้รับการอนุมัติล่วงหน้าจากบริษัทแล้ว (เทมเพลตของแต่ละบริษัทจะถูกล็อคไว้ให้ใช้งานในองค์กรตัวเองเท่านั้น)
ยกตัวอย่าง ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ตัวแทนขายสามารถใช้เครื่องมือเพื่อออกแบบสื่อการตลาดของตัวเองโดยไม่ต้องพึ่งดีไซเนอร์ เป็นต้น
“วิธีคิดของเรามาจาก pain point ของลูกค้าที่พบปัญหาความไม่สอดคล้องกันระหว่างพนักงานกับแบรนด์ รวมถึงความไร้ประสิทธิภาพภายในองค์กร ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมผู้ใช้มากมายถึงเรียกร้องให้เราสร้างโปรดักต์นี้ขึ้นมา” Perkins ระบุ
Perkins ยังกล่าวถึงเป้าหมายสูงสุดด้วยว่า เธอต้องการให้ทุกคนในโลกที่สามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้และจำเป็นต้องใช้การออกแบบ ใช้แพลตฟอร์มของเธอ
&nbsp;

ที่มา
<ul>
 	<li><a href="https://www.forbes.com/sites/alexkonrad/2019/10/16/canva-3-billion-valuation-after-raise-for-enterprise-push/#2e2311f624ff">Canva Hits $3.2 Billion Valuation After $85 Million Raise For Big-Business Push</a></li>
 	<li><a href="https://techcrunch.com/2019/10/16/canva-now-valued-at-3-2-billion-launches-an-enterprise-product/">Canva, now valued at $3.2 billion, launches an enterprise product</a></li>
</ul>
&nbsp;

<hr />

ไม่พลาดเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ของเรา ติดตามเราได้ที่ <a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/">เพจเฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events