<h2>รายได้ Box Office จากการขายตั๋วหนังในปีนี้ต้องสะดุดเพราะการประท้วงหยุดงานนานหลายเดือนใน Hollywood จนทำให้ภาพยนตร์ถูกเลื่อนฉายออกไป และอีกหลายเรื่องไม่ประสบผลสำเร็จได้ตามที่คาดหวัง</h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ตัวเลขรายได้รวมในสหรัฐอเมริกาสำหรับปี 2023 นี้อาจต่ำกว่า 9 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ที่บรรดานักวิเคราะห์เคยคาดการณ์ไว้ อุตสาหกรรมภาพยนตร์ยังคงต้องดิ้นรนเพื่อกลับไปยังจุดที่เคยเฟื่องฟูก่อนโควิด-19 พร้อมเตรียมตัวเผชิญความท้าทายในปี 2024&nbsp; &nbsp;&nbsp;The Hollywood Reporter ประเมินว่ารายได้รวมจากการขายตั๋วปี 2023 จะจบลงที่ราว 8.8 - 8.9 พันล้านเหรียญ โดยอ้างอิงความคิดเห็นจากเหล่าผู้บริหารสตูดิโอต่างๆ และ Rich Greenfield นักวิเคราะห์จาก LightShed Ventures ซึ่งให้เหตุผลว่าที่รายได้จากการขายตั๋วตกต่ำลงเป็นผลมาจากสถานการณ์โควิด-19 การประท้วง และแพลตฟอร์มสตรีมมิง&nbsp; &nbsp;&nbsp;เมื่อต้นปีนี้ นักวิเคราะห์บางคนคาดการณ์ว่ารายได้จากการขายตั๋วจะมีมูลค่า 9 พันล้านเหรียญ โดยรายหนึ่งเผยกับ CNBC ว่ายอดอาจแตะ 1 หมื่นล้านเหรียญเลยทีเดียว ด้วยความคาดหวังว่า Box Office จะทะยานสู่ระดับก่อนหน้าโควิด-19 แพร่ระบาดอีกครั้ง&nbsp; &nbsp;&nbsp;การประท้วงของนักแสดงและนักเขียนพาให้กระบวนการผลิตภาพยนตร์ต้องหยุดชะงัก และหลายเรื่องต้องเลื่อนกำหนดการฉายออกไปปีหน้า (เช่น Dune: Part 2 ที่คาดว่าจะกวาดรายได้มหาศาล) IndieWire ประเมินว่าการประท้วงดังกล่าวทำให้ Box Office ต้องสูญเงินไปราว 500 ล้านเหรียญ&nbsp; &nbsp;&nbsp;ด้านภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่ผลประกอบการตกต่ำอย่างมากในปีนี้ สะท้อนความยากลำบากในการต่อสู้กับกระแสความนิยมภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่ที่ลดลงอย่างเห็นได้ชัด การเปิดตัวแฟรนไชส์ฟอร์มยักษ์ใหม่ๆ หลายเรื่องก็ไปไม่ถึงเป้า (เมื่อเดือนมกราคม Variety คาดการณ์รายได้จากภาพยนตร์ Mission: Impossible ที่ 1 พันล้านเหรียญ แต่เอาเข้าจริงกลับทำได้เพียงครึ่งเดียวเท่านั้น)&nbsp; &nbsp;&nbsp;นอกจากนี้ จำนวนภาพยนตร์ที่เข้าฉายในโรงปีนี้ก็มีน้อยกว่าที่ผ่านมา และเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้รายได้ Box Office ตกลง จากข้อมูลของ Variety มีภาพยนตร์เข้าฉายเพียง 88 เรื่องในปีนี้ จาก 108 เรื่องในปี 2019 ที่พารายได้รวมทะยาน 1.05 หมื่นล้านเหรียญ ทั้งที่ราคาตั๋วภาพยนตร์ ณ เวลานั้นต่ำกว่าปัจจุบันราว 15%&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;Box Office ยังต้องสะดุดอีกครั้งเมื่อสิ้นปีใกล้เข้ามา ด้วยรายได้ในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาตกลง 11% เทียบกับพฤศจิกายนปีก่อน หลังภาพยนตร์ที่ Disney ภูมิใจนำเสนออย่าง Wish และ The Marvels กลับล้มเหลวไม่เป็นท่า แทบดับฝันบรรดานักวิเคราะห์ที่หวังว่าตัวเลขรวมจะแตะ 9 พันล้านเหรียญ แม้จะได้ Wonka มาช่วยเพิ่มรายได้ในสัปดาห์ที่ผ่านมาก็ตาม&nbsp; &nbsp;&nbsp;สำหรับภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์น่าจับตามองเรื่องสุดท้ายของปี 2023 คงเป็น Aquaman and the Lost Kingdom จาก DC Studios ที่มีกำหนดฉายวันที่ 22 ธันวาคมในสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญหลายคนไม่ได้ตั้งความหวังกับภาพยนตร์เรื่องนี้เท่าใดนัก โดยคาดการณ์ว่าจะทำเงินได้เพียง 40 ล้านเหรียญเท่านั้นในวันหยุดยาวสี่วันที่มีการเปิดตัว แปลและเรียบเรียงจาก&nbsp;<a href="https://www.forbes.com/sites/conormurray/2023/12/18/hollywoods-rough-year-heres-why-box-office-sales-could-fall-short-of-expectations-and-worsen-next-year/?sh=287267fa7f2b" alt="Hollywood’s Rough Year: Here’s Why Box Office Sales Could Fall Short Of Expectations-And Worsen Next Year">Hollywood’s Rough Year: Here’s Why Box Office Sales Could Fall Short Of Expectations-And Worsen Next Year</a>​ เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ :&nbsp;<a href="https://www.forbesthailand.com/news/global/starbucks-large-investment-in-china" alt="ร้านกาแฟโตไวในแดนชา! Starbucks ตั้งเป้าขยาย 9,000 สาขาทั่วประเทศจีน">ร้านกาแฟโตไวในแดนชา! Starbucks ตั้งเป้าขยาย 9,000 สาขาทั่วประเทศจีน</a> <a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

ดับฝัน Hollywood รายได้ Box Office ต่ำกว่าเป้า ผลกระทบประท้วงหยุดงานและขาลงหนังฮีโร่ 

<h2>ท่ามกลางการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ทำให้โอกาสในการเดินทางท่องเที่ยวระหว่างประเทศเป็นอันต้องชะงักไป การรับชมความบันเทิงจากทางบ้านจึงอาจเป็นตัวเลือกที่ปลอดภัยที่สุดในการผ่อนคลายความกังวลในช่วงปีที่ผ่านมา</h2>
ขณะที่ การทยอยเปิดพรมแดนในหลายประเทศก็ได้กลายเป็นโอกาสอันดีให้กับอุตสาหกรรมภาพยนตร์ที่ได้รับผลกระทบจนต้องระงับการถ่ายทำในต่างแดน สามารถกลับมาเริ่มดำเนินการได้อีกครั้งหนึ่ง เพื่อให้ผู้ชมได้ติดตามภาคต่อของภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ที่ห่างหายไปนาน

พบกับ 6 พิกัดเด่นที่จะปรากฏในภาพยนตร์บล็อคบัสเตอร์ที่คุณไม่ควรพลาดแห่งปี 2021 และ 2022

อิตาลี

<figure><img class="wp-image-44390" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/04/borgo-agnazia.jpg" alt="พิกัดจากภาพยนตร์บล็อคบัสเตอร์" width="720" height="480" /><figcaption> Borgo Egnazia</figcaption></figure>

2 ภาพยนตร์บล็อกบัสเตอร์ฟอร์มยักษ์แห่งปีที่กำลังจะเริ่มถ่ายทำในอิตาลี คือ James Bond’s No Time To Die ที่แคว้น Puglia ทางตอนใต้ในเดือนตุลาคมนี้ และ Mission Impossible: 7 ที่โรม ในเดือนพฤษภาคม 2022

แม้ว่า Puglia หรือย่านตรงส้นรองเท้าบู้ทของอิตาลีนั้น เป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องของทะเลสวย อาหารอร่อย และสภาพชีวิตการเป็นอยู่ของผู้คนที่เรียบง่ายและอัธยาศัยดี แต่บรรยากาศการถ่ายทำของ James Bond ในภาคนี้ คือ <a style="color: #008000;" href="https://www.forbes.com/sites/duncanmadden/2021/04/17/from-cruise-to-craig-luxury-vacations-inspired-by-the-latest-blockbuster-movies/?sh=316f7d1810c1">Borgo Egnazia</a> โรงแรมสุดหรูที่ถูกออกแบบมาให้คล้ายคลึงกับพระราชวัง Apulian ในหมูบ้าน Apulian ที่โอบล้อมไปด้วยวิวธรรมชาติของทะเล Adriatic ท่ามกลางสิ่งอำนวยความสะดวกความงามระดับโลก อย่างห้องอาหารรางวัลมิชลินสตาร์ Due Camini

<figure><img class="wp-image-44392" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/04/de.jpg" alt="พิกัดจากภาพยนตร์บล็อคบัสเตอร์" width="720" height="480" /><figcaption> Hotel de Russie</figcaption></figure>

ด้าน Mission Impossible เลือกสถานที่ถ่ายทำเป็นโรงแรม <a style="color: #008000;" href="https://www.inspiringtravelcompany.co.uk/luxury-holidays/europe/italy/rome-and-surrounding-area/hotels/hotel-de-russie">Hotel de Russie</a> ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับ Spanish Steps หรือบันไดสเปนที่กว้างที่สุดและยาวที่สุดในทวีปยุโรป ที่แต่เดิมเคยที่ตั้งของสถานฑูตสเปน ซึ่งได้รับการตกแต่งสวยงามและล้อมรอบไปด้วยสถาปัตยกรรมแกะสลักอันงดงามอันเป็นเอกลักษณ์แบบโรมันของกรุงโรม

ขณะที่โรงแรม Rocco Forte Hotel ยังคงรักษาไว้ซึ่งกลิ่นอายของอารยธรรมของฟลอเรนซ์ แต่ในขณะเดียวกันก็ผสานให้เข้ากับการตกแต่งห้องอาหารแบบกลางแจ้ง เพื่อรับอากาศบริสุทธิ์ใต้แสงอาทิตย์ อย่างร้านอาหาร Le Jardin de Russie และบาร์ Stravinskij ใจกลางวิวสวน

อเมริกาเหนือ

เช่นเดียวกับ The Matrix: 4 ภาพยนตร์ West Side Story ซึ่งได้รับอิทธพลจากบทละครของ William Shakespeare อย่าง Romeo&amp;Juliet ก็จะเริ่มถ่ายทำในมหานครนิวยอร์กปลายปีนี้เช่นกันที่ <a style="color: #008000;" href="https://www.forbes.com/sites/duncanmadden/2021/04/17/from-cruise-to-craig-luxury-vacations-inspired-by-the-latest-blockbuster-movies/?sh=316f7d1810c1">The Pierre </a>

โรมแรมหรูสไตล์ทัชมาฮาลบนถนน Fifth Avenue แห่งนี้เป็นที่รู้จักในด้านการตกแต่งที่โอ่อ่าสง่างาม ท่ามกลางการบรรเลงดนตรีแจ๊สสด ที่ชวนให้นึกภาพ Romeo&amp;Juliet เลยทีเดียว ทั้งยังโดดเด่นด้วยวิวสวนสาธารณะขนาดใหญ่อย่าง Central Park

<figure><img class="wp-image-44396" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/04/palace.jpg" alt="พิกัดจากภาพยนตร์บล็อคบัสเตอร์" width="720" height="405" /><figcaption> The Palace Hotel</figcaption></figure>

ขณะที่ความยิ่งใหญ่ของ <a style="color: #008000;" href="https://www.forbes.com/sites/duncanmadden/2021/04/17/from-cruise-to-craig-luxury-vacations-inspired-by-the-latest-blockbuster-movies/?sh=316f7d1810c1">The Palace Hotel</a> นั้นได้ถูกวางเป็นฉากถ่ายทำภาพยนตร์ Matrix เป็นที่เรียบร้อย ด้วยความระยิบระยับของทองและคริสตัลที่รายล้อมไปในทุกส่วนของอาคาร สะท้อนให้เห็นถึงการผสมผสานความหรูหราและทันสมัยได้อย่างลงตัว

สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

<figure><img class="wp-image-44397" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/04/q.jpg" alt="พิกัดจากภาพยนตร์บล็อคบัสเตอร์" width="720" height="487" /><figcaption> Qasr Al Sarab Desert Resort</figcaption></figure>

อาบูดาบี เมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2 ของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ คือ สถานที่ถ่ายทำ Dune ภาพยนตร์มหากาพย์ผจญภัย แนวไซไฟ ที่คนทั่วโลกต่างตั้งตารอคอย ซึ่งมีกำหนดเริ่มถ่ายทำภาคใหม่ในเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้ และด้วยฉากสุดแสนอลังการในทะเลทรายอาจทำให้คุณอยากเดินทางเข้าพักใน <a style="color: #008000;" href="https://www.inspiringtravelcompany.co.uk/luxury-holidays/middle-east/abu-dhabi/hotels/qasr-al-sarab-desert-resort-by-anantara">Qasr Al Sarab Desert Resort</a> 

รีสอร์ตในเครืออนันตราแห่งนี้ ตั้งอยู่ท่ามกลางทะเลทรายอันกว้างใหญ่  พร้อมให้คุณสัมผัสประสบการณ์ความงามท่ามกลางภูมิประเทศอันแห้งแล้งของอาบูดาบี ที่ซ่อนการตกแต่งภายในที่มีกลิ่นอายแบบอาหรับ

แปลและเรียบเรียงจากบทความ From Cruise To Craig: Luxury Vacations Inspired By The Latest Blockbuster Movies เผยแพร่บน Forbes.com

อ่านเพิ่มเติม: <a style="color: #003300;" href="https://forbesthailand.com/world/การจัดอันดับ-20-ประเทศที่.html">การจัดอันดับ 20 ประเทศที่มีความสุขที่สุดในโลก ประจำปี 2021</a>

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events