เบื้องหลังความสำเร็จของ Ryan Reynolds ‘ใช้ข้อจำกัดปลุกพลังสร้างสรรค์’ - Forbes Thailand

เบื้องหลังความสำเร็จของ Ryan Reynolds ‘ใช้ข้อจำกัดปลุกพลังสร้างสรรค์’

คนส่วนใหญ่รู้จัก Ryan Reynolds ในฐานะดาราดังแห่ง Hollywood เจ้าของบทนำจากภาพยนตร์เรื่อง Deadpool และ Green Lantern แต่หากใครเคยดูรายการ Welcome to Wrexham ก็น่าจะพอรู้ว่าเขาประสบความสำเร็จในฐานะเจ้าของธุรกิจด้วยเช่นกัน


    แล้วคุณรู้ไหมว่าเขาประสบความสำเร็จมากแค่ไหน?

    Forbes ประเมินมูลค่าธุรกิจทั้งหมดของ Ryan Reynolds รวมอยู่ที่ราว 1.4 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งมีทั้งสโมสรฟุตบอลสัญชาติอังกฤษ แบรนด์เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เอเจนซีโฆษณา และอื่นๆ

    ชัดเจนเลยว่าผู้ชายคนนี้ไม่เคยขาดไอเดียดีๆ เลย เขายกระดับความคิดสร้างสรรค์ของตัวเองซึ่งนำไปสู่ความสำเร็จ และเมื่อเร็วๆ นี้เขาก็เพิ่งจะแบ่งปันคำแนะนำดีๆ ที่อาจฟังดูเหนือความคาดหมาย ทว่าก็มีประสิทธิภาพและใช้งานได้จริง


การเป็นนักแสดงดังไม่ง่าย และมีวันที่เงินขาดมือเช่นกัน

    หลายคนอาจคิดว่าการเป็นนักแสดงแถวหน้าของ Hollywood จะช่วยเปิดโอกาสให้สามารถเข้าถึงทรัพยากรต่างๆ ที่จำเป็นในการผลักดันแต่ละโปรเจ็กต์จนสำเร็จลุล่วงด้วยดี แต่ความคิดนั้นผิดถนัด

    Reynolds เผยในการให้สัมภาษณ์เพื่อโปรโมตภาพยนตร์ Deadpool and Wolverine กับ New York Times ว่า การทำภาพยนตร์ Deadpool ภาคแรกนั้นเป็นไปอย่างยากลำบาก เขาสู้เพื่อโปรเจ็กต์นี้ถึง 10 ปีก่อนจะมีคนตกลงร่วมด้วย ซึ่งทุนที่ได้มาก็น้อยมาก และบรรดาโปรดิวเซอร์ก็ไม่เชื่อว่าภาพยนตร์เรื่องนี้มีเสียงตอบรับที่ดี

    “ผมยอมไม่รับค่าจ้างเพื่อทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้มีโอกาสฉายในโรงครับ พวกเขาไม่ยอมให้นักเขียนบทคู่ใจของผม Rhett Reese กับ Paul Wernick เข้าร่วม ผมก็เลยเอาเงินที่ผมได้มาไม่มากนักจ่ายให้พวกเขาได้มาร่วมทีมกับผม” Reynolds ย้อนรำลึกความหลัง

    แทนที่ Reynolds จะมองว่าการที่คนอื่นๆ ไม่เชื่อมั่นเหมือนเขาและทุนที่มีไม่มากจะทำให้ภาพยนตร์ล้มเหลว เขากลับพบว่าการทำงานภายใต้ข้อจำกัดอันท้าทายช่วยเพิ่มระดับความคิดสร้างสรรค์ของเขา

    “หนึ่งในศัตรูตัวฉกาจของความคิดสร้างสรรค์คือเวลาและเงินที่มากเกินไป” นักแสดงหนุ่มกล่าว

    การไม่มีเงินไปจ้างทีมสตันต์แมนและทำระเบิดสุดอลังการนับเป็นการบังคับให้ทีมงาน Deadpool ต้องทุ่มเทกับคาแรกเตอร์และเนื้อเรื่องอยู่กลายๆ ซึ่งท้ายที่สุดแล้วก็เป็นปัจจัยสำคัญในการเอาชนะใจคนดู พาภาพยนตร์ Deadpool ดังเป็นพลุแตกกวาดรายได้ 782.8 ล้านเหรียญจากทุนสร้างเพียง 58 ล้านเหรียญ


เงินเยอะเกินไป อาจดับไฟสร้างสรรค์

    นอกเหนือจากธุรกิจภาพยนตร์แล้ว แนวคิดของ Reynolds ยังนำไปประยุกต์ใช้ในธุรกิจอื่นได้ด้วยเช่นกัน เพราะเป็นข้อเท็จจริงทั่วไปที่ใครอีกหลายๆ คนต่างเคยประสบมา ยกตัวอย่างกรณีที่เกิดขึ้นในปี 2016 ซึ่งเป็นปีที่เงินลงทุนไหลสะพัด Mark Suster นักลงทุนผู้เชี่ยวชาญออกมาเตือนบรรดาสตาร์ทอัพให้ระมัดระวังไม่ระดมทุนมากเกินไป เพราะการมีเงินมากจะทำให้วินัยทางการเงินหละหลวมและเพิ่มความคาดหวังที่ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริงแก่บริษัท และความคิดสร้างสรรค์ในการทำงานก็ยังลดน้อยลงอีกด้วย

    “แน่นอนครับว่าผู้ก่อตั้งธุรกิจมักจะไม่รู้สึกแบบนี้กัน แต่ข้อจำกัดบีบคั้นให้เกิดความคิดสร้างสรรค์จริงๆ” Suster เขียนไว้ในบล็อก “ผมมองว่ามันเป็นการกระตุ้น เพราะมันก็เป็นวิธีหนึ่งในการย้ำเตือนตัวเองให้กระบวนการทำงานมีความคืบหน้าเสมอ” และเสริมว่า “เงินเยอะไป อาจดับไฟสร้างสรรค์”

    เช่นเดียวกับ Gary Vaynerchuk นักธุรกิจชาวอเมริกันผู้เป็นเจ้าของกิจการอันหลากหลาย เขาเคยบอกว่าข้อจำกัดจะช่วยให้แน่วแน่กับเป้าหมายและเพิ่มความคิดสร้างสรรค์ “การมีทรัพยากรจำกัดบังคับให้คุณต้องตัดสินใจเด็ดขาดว่าจะทำอะไรและไม่ทำอะไร”

    สอดคล้องกับกรณีของ Evan Williams ผู้ร่วมก่อตั้ง Twitter และ Medium ผู้เคยเล่าว่าหลัง Twitter ประสบความสำเร็จ เขาก็ได้รับการสนับสนุนด้านเงินทุนอย่างล้นหลามของที่หันมาทำ Medium จนเขาต้องสร้างข้อจำกัดขึ้นมาเพื่อกระตุ้นไฟสร้างสรรค์ของทีมงาน

    “กับ Medium เรามีทีมวิศวกรที่จะสร้างอะไรก็ได้ ตอบโจทย์เป้าหมายอันยิ่งใหญ่ และเงินทุนมหาศาล แต่เราจะมั่นใจได้อย่างไรว่าเราจะไม่สร้างสิ่งที่ซับซ้อนจนเกินไปและคนอื่นๆ จะไม่เข้าใจ ด้วยการกำหนดเดดไลน์ครับ” Williams อธิบาย “เรามีสิ่งต้องทำในระยะเวลาสั้นๆ มากกว่าทีมอื่นๆ ที่ผมเคยเห็น มันทั้งวิเศษและสนุก บอกตามตรงครับ ก่อนกำหนดเดดไลน์ เราเถลไถลกันไปเรื่อยเลย”

    แน่นอนว่ามีวิทยาศาสตร์รองรับแนวคิดของพวกเขา ผลการศึกษาหลายชิ้นเผยว่า แรงกดดันด้านเวลาอย่างต่อเนื่องและความยุ่งวุ่นวายไร้ที่สิ้นสุดอาจส่งผลเสียต่อความคิดสร้างสรรค์ก็จริง แต่การทำงานภายใต้ข้อจำกัดในระยะเวลาสั้นๆ ช่วยให้ไม่วอกแวกและตระหนักในหน้าที่ ซึ่งผลักดันให้ผู้คนสามารถตัดสิ่งรบกวนออกไป ทุ่มเทกับสิ่งสำคัญ และทำงานได้อย่างยอดเยี่ยม


ข้อจำกัดเท่ากับความคิดสร้างสรรค์

    ผู้ประกอบการฝีมือดีมากมายต่างก็หวังว่าจะมีปัญหาแบบเดียวกับ Evan Williams หรือ Ryan Reynolds ทว่าการขาดแคลนเวลาและเงินก็เป็นอุปสรรคของใครหลายคนด้วยเช่นกัน คงไม่มีใครออกมาต่อต้านการอัดฉีดเงินให้ผู้ประกอบการรายย่อยที่เข้าไม่ถึงโอกาสแต่คุ้มค่าที่จะลงทุนหรอก

    กว่าจะไปถึงจุดที่ประสบความสำเร็จได้ ผู้คนมากมายต้องคอยพะวงว่าความฝันจะถูกฉุดรั้งไว้ด้วยปัจจัยด้านเวลาและเงิน หากสิ่งนี้กำลังเกิดขึ้นกับคุณ ขอให้นึกถึงคำพูดของ Reynolds เอาไว้คอยย้ำเตือนตัวเองว่า เราสามารถมองมุมกลับและพลิกสถานการณ์จากร้ายให้กลายเป็นแรงผลักดันได้

    การมีทรัพยากรพร้อมสรรพเป็นเรื่องดี แต่อย่าลืมว่าข้อจำกัดก็ส่งผลเชิงบวกได้ด้วยเช่นกัน การมีเงินและเวลาน้อยทำให้คุณจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับสิ่งที่จำเป็นโดยมิอาจหลีกเลี่ยง พาให้คุณทำงานเร็วขึ้นและปลุกจิตวิญญาณนักสู้ คุณจะนึกไอเดียดีๆ ได้ซึ่งหากสถานการณ์ต่างออกไป ความคิดเหล่านั้นก็อาจไม่มีในหัวของคุณ

    ท้ายที่สุดแล้ว ข้อจำกัดก็อาจทำให้คุณประสบความสำเร็จได้มากกว่าการมีอิสระเรื่องเงินและเวลาเสียอีก


แปลและเรียบเรียงจาก With 13 Words, Ryan Reynolds Just Exploded a Huge Myth About Creativity and Success


เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : ‘มหาเศรษฐีโลก’ เล่าเรื่องแม่ ผู้สร้างแรงบันดาลใจสู่ความยิ่งใหญ่ระดับสากล

ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine