<h2>คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เชิญ 3 ซีอีโอขององค์กรชั้นนำและศิษย์เก่าของคณะฯ ในงานสัมมนา ได้แก่ นวลพรรณ ล่ำซำ แห่งเมืองไทยประกันภัย ขัตติยา อินทรวิชัย แห่งธนาคารกสิกรไทย และ ผศ.ดร. เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ แห่งเสนาดีเวลลอปเม้นท์ ร่วมแบ่งปันแนวคิด</h2>
รศ.ดร. วิเลิศ ภูริวัชร คณบดี คณะบัญชีฯ จุฬาฯ เผยถึงวิกฤตในครั้งนี้ไม่ได้กระทบแค่ผู้ที่ได้รับเชื้อร่วม 3,000 คน หากแต่ได้ส่งผลกระทบไปถึงทุกๆ คน เพื่อให้ผ่านพ้นวิกฤตนี้ เราจึงต้องมี Co-Strategy เพื่อสู้ Covid-19 จึงเป็นส่วนหนึ่งในการจัดสัมมนาออนไลน์ฟรี “พิชิตวิกฤตธุรกิจโควิด-19”

โดยวิทยากรผู้บริหารชั้นแนวหน้าระดับประเทศร่วมแชร์ประสบการณ์และแนวคิด โดยถือเป็นโมเดลนำร่องของคณะฯ ในการทำ DSR (Digital Social Responsibility) ในการช่วยเหลือสังคมผ่านดิจิทัล

“เหตุการณ์ครั้งนี้เป็น Sudden Shock และมีความไม่แน่นอน ต้องอาศัยปฏิภาณไหวพริบ แก้โจทย์วันต่อวัน กลยุทธ์ต้องไม่แน่นอนปรับเปลี่ยนให้ทัน สิ่งใดที่ไม่เคยทำ ก็ต้องคิดและทำ และเมื่อธุรกิจไม่สามารถดำเนินต่อไป

จำเป็นที่จะต้องมีการ Re-Business และทัศนคติการลดพนักงานคือการมองว่าพนักงานเป็นต้นทุนค่าใช้จ่าย แต่หากมองพนักงานเป็นสินทรัพย์ที่มาร่วมมือกัน เพื่อนำมาสร้างมูลค่าใหม่ และถ้าจำเป็นต้อง Re-Target เปลี่ยนกลุ่มเป้าหมายลูกค้าเดิมที่ไม่ได้ผลแล้ว

นอกจากนั้นผู้นำจะต้อง Re-Think เพื่อให้องค์กรสามารถดำเนินต่อไปได้ Re-Process เปลี่ยนวิธีการดำเนินการธุรกิจในรูปแบบใหม่ และ Reunite ด้วยการร่วมมือกันระหว่างบริษัท จึงจะเป็นการ Co-Strategy อย่างแท้จริง

วันนี้คนส่วนใหญ่อยู่บ้าน เราจึงอาศัยดิจิทัลในการดำเนินชีวิตมากยิ่งขึ้น (Digital Life) เกิดความคุ้นเคยแบบใหม่ และมีข้อมูล (Data) ที่มากมายสามารถนำมาใช้เป็นข้อมูลในการพัฒนาธุรกิจ สร้างความแตกต่าง

นอกจากนั้นการเว้นระยะห่าง (Distance) จะทำให้คนใส่ใจเรื่องสุขภาพมากยิ่งขึ้น จำเป็นอย่างยิ่งที่นักธุรกิจต้องร่วมมือกัน พึ่งพาอาศัย และ ค้าขายกันเองให้มากขึ้น (Domestic) โดยในอนาคตอาจมีคลื่นลูกใหม่ สิ่งที่ทำได้เพื่อรับมือคือการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์จากประสบการณ์ให้ทันท่วงที”

&nbsp;

<img class="alignnone size-full wp-image-29212" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/04/แนวคิดบริหารธุรกิจ.jpg" alt="" width="600" height="316" />

นวลพรรณ ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เมืองไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน) เผยว่า “วิกฤตที่เกิดขึ้นดูเหมือนว่าคนส่วนใหญ่กลัวที่จะติดโรค แต่จากการสำรวจพบว่า คนกลัวการตกงาน การไม่มีรายได้มากกว่า ความยากของวิกฤตครั้งนี้คือความไม่แน่นอน ฉะนั้นจะผ่านพ้นต้องอาศัยความเป็น Team Player คือ ทุกฝ่ายร่วมด้วยช่วยกัน สร้างความสมดุลระหว่างสุขภาพ กับ เศรษฐกิจ

ในวิกฤตย่อมมีโอกาส ด้วยการคิดนอกกรอบและมองทุกมุมให้ครบทุกด้าน และต้องรู้จักที่จะเรียนรู้ทำอะไรในสิ่งใหม่ๆ เชื่อมั่นว่าจะมีหลายธุรกิจ หลายอาชีพ กลับมาได้ในช่วงวิกฤตนี้ และเชื่อว่าจากวิกฤตนี้หลายคนเปลี่ยนแนวความคิดมุมมองไปสู่การเป็นสังคมที่ต้องพึ่งพาอาศัย ให้ความเอื้ออาทร อยู่ร่วมกันอย่างผาสุก มีอาชีพที่มีความสุข และมีความยั่งยืน วัดดัชนีความสำเร็จด้วยความสุขโดยที่จะไม่มองว่าเงินเป็นเรื่องสำคัญที่สุดอีกต่อไป”

&nbsp;

ขัตติยา อินทรวิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) เผยว่า มีโอกาสได้เห็นวิกฤตต่างๆ ที่เกิดขึ้นมาหลายครั้ง แต่สิ่งที่เห็นจากการเกิดวิกฤตมาโดยตลอดคือ เราจะมีความแกร่งขึ้น เก่งขึ้น เตรียมพร้อมรับมือมากขึ้น เพราะในทุกวิกฤตจะสอนให้เราได้เรียนรู้

เช่นเดียวกับวิกฤตโควิด-19 ที่เกิดขึ้นในเวลานี้ หากเทียบกับวิกฤตต้มยำกุ้งมีความแตกต่าง คือกว้างกว่า ไปทุกประเทศ ยาวกว่า คือยาวนานกว่า ลึกกว่า คือกระทบไปทุกอุตสาหกรรม และทุกระดับ คือกระทบกันหมดทุกระดับชั้น

ในฐานะผู้นำที่จะต้องนำพาทุกคนผ่านพ้นวิกฤตนี้ พนักงานและครอบครัวต้องมีความปลอดภัย โมเดลของการทำงานต้องชัดเจน ในขณะเดียวกันเรื่องการสื่อสารกับพนักงานต้องบ่อยมากขึ้น เพื่อสร้างความมั่นใจ

ในส่วนของลูกค้าต้องไม่ฉวยโอกาสในการขึ้นราคา การเจรจาต่อรองต่างๆ ต้องตรงไปตรงมา เวลานี้มีมาตรการให้ความช่วยเหลือต่างๆ ธนาคารต้องเป็นสื่อกลางในการถ่ายโอนความช่วยเหลือนี้ไปยังลูกค้าให้ได้มากที่สุด เร็วที่สุด

หลังจากโควิด-19 ต้องนำพาองค์กรกลับสู่สภาวะปกติให้เร็วที่สุด และ reimagine กลับมาใหม่ภายใต้บริบทใหม่ โดยใช้หลัก 2M 6P คือ Market เข้าใจภาวะการตลาดต่างๆ รวมถึงลูกค้าเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างไร Product Price Place Promotion People Productivity และไม่ลืม Make It Happen ทำให้เกิดขึ้น ให้ครอบคลุม คล่องตัว ยืดหยุ่น และแข็งแกร่งในคราวเดียวกัน

&nbsp;

ผศ.ดร. เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการและกรรมการบริหาร บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เผยว่า “วิกฤตครั้งนี้รุนแรงเป็นเหมือนผลกระทบวิกฤตน้ำท่วมผสมกับวิกฤตต้มยำกุ้ง แต่สิ่งที่ยากในวิกฤตครั้งนี้คือความไม่แน่นอนที่คาดเดาได้ยาก

การแก้ต้องเริ่มจากในองค์กร ใช้แนวทาง CAP (Cope, Adjust, Positioning) โดยที่บริษัทใช้ Cope กับการแก้ปัญหาระยะสั้น โดยให้การช่วยเหลือแก่ลูกค้า คือกลุ่มคนที่กำลังจะซื้ออสังหาริมทรัพย์ รวมถึงลูกบ้าน และคู่ค้า ให้เขาสามารถทำงานได้อย่างราบรื่นที่สุด และพนักงานที่บริษัทต้องสร้างความเชื่อมั่นให้แก่พนักงาน ทั้งในแง่สุขภาพกายใจ

Adjust การปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ เช่น การขายอสังหาฯ ผ่านออนไลน์ ซึ่งปกติลูกค้าที่จะตัดสินใจซื้ออสังหาฯ จะเข้ามาชมประมาณ 3 ครั้ง การขายทางออนไลน์ให้เสมือนกับการชมในรอบแรกของลูกค้าช่วยลดต้นทุนไปได้ ในขณะเดียวกันก็ต้องระดมสมอง

เรื่องของ Positioning หลังโควิดเราอยากเห็นตัวเราเป็นอย่างไร เป็นการมองไปในระยะไกล โดยมีการจัดทำ Business Process ขึ้นเพื่อนำไปสู่สิ่งที่คิดไว้ โดยต้องอยู่ภายใต้ความเป็นจริงของกลไกตลาด ส่วนการตัดสินใจใด ๆ ต้องอยู่บนจุดยืน และคุณค่าขององค์กร โดยคำนึงถึงลูกค้า คู่ค้า พนักงาน และสภาพคล่องของบริษัท

ปิดท้ายเหล่าผู้บริหารชั้นนำเห็นตรงกันว่าดัชนีความสุข ความสมดุล และความเชื่อมั่นองค์กร และประเทศชาติ รวมถึงการปรับเปลี่ยนตัวเอง และมีความยืดหยุ่น จะนำเรารอดจากวิกฤตในครั้งนี้

“เราไม่ได้เป็นสถาบันที่สอนเน้นแค่การทำกำไร เพราะท้ายสุดธุรกิจต้องการความยั่งยืน จึงต้องมีกิจกรรมช่วยเหลือสังคม ถึงแม้ในช่วงวิกฤตนี้ เราไม่สามารถทำ CSR ได้แต่เราสามารถกระทำได้ผ่าน DSR (Digital Social Responsibility) โดยใช้ออนไลน์แพลตฟอร์มต่าง ๆ” รศ.ดร. วิเลิศ ภูริวัชร คณบดี คณะบัญชีฯ จุฬา ฯ กล่าวปิดท้าย

<hr />

<article id="post-28930" class="post-28930 post type-post status-publish format-standard has-post-thumbnail hentry category-news category-other tag-covid-19 tag-2543 tag-3025 tag-11235">
<div class="body-content post-content-wrap post-detail">

ไม่พลาดเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ของเรา ติดตามเราได้ที่ <a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/">เพจเฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

</div>
</article>

คณะบัญชี จุฬาฯ เชิญ 3 ซีอีโอและศิษย์เก่าแบ่งปัน แนวคิดบริหารธุรกิจ จากวิกฤต

นวลพรรณ ล่ำซำ สูตรผสมกลมกล่อม 'ฟุตบอล + ประกัน + Personal Brand'

นวลพรรณ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และซีอีโอ เมืองไทยประกันภัย หญิงแกร่งแห่งวงการธุรกิจประกันภัยและวงการกีฬา ผู้หญิงคนแรกในประวัติศาสตร์ไทยที่พาทีมฟุตบอลหญิงไทยไปเวทีระดับโลกเป็นปีที่ 2 และยังนำทีมการท่าเรือติดอันดับ 3 ในฟุตบอลไทยลีก ในขณะที่ธุรกิจ “เมืองไทยประกันภัย” ที่เธอคุมบังเหียนยังคงเติบโตทางธุรกิจอย่างต่อเนื่องแม้วันนี้ยังเป็นอันดับ 4 ในตลาด วันนี้ซีอีโอหญิงในวัย 52 ปีได้ผสมผสานและเชื่อมโยงโลกของ “ฟุตบอล” “ประกัน” และ “personal brand” ของเธอเองได้อย่างแนบเนียน ภายใต้กลยุทธ์การบริหารชื่อเสียงที่ช่วยเพิ่มมูลค่าและส่งเสริมซึ่งกันและกันอย่างน่าทึ่ง

พัสกร กมลสุวรรณ ทายาทธุรกิจบรรจุภัณฑ์กระดาษที่พัฒนาค้นคว้าและวิจัยนวัตกรรมสู่บริษัทรายแรกและรายเดียวในอาเซียนที่สามารถผลิตบรรจุภัณฑ์กระดาษย่อยสลายได้และกระดาษเวฟได้ เขาพร้อมขยายฐานลูกค้าต่างประเทศเพื่อเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดและกำลังการผลิต 1 พันล้านชิ้นต่อปี โดยตั้งเป้าหมายยอดขายสิ้นปี 1.1 พันล้านบาท

บัญชุสา พุทธพรมงคล ผู้บริหารสาวรุ่นสองของตระกูลพุทธพรมงคล ที่วางเป้าหมายภายใน 3 ปีสู่หลัก 2 พันล้านบาท โดยหวังการเติบโตจากความต้องการใช้อลูมิเนียมเป็นวัสดุโครงสร้างหลักของรถยนต์ไฟฟ้า พร้อมสร้างมูลค่าเพิ่มจากนวัตกรรม

จากประสบการณ์ที่สั่งสมสู่การปั้นแบรนด์ ASAI (อาศัย) ที่สะท้อนบุคลิกคนรุ่นใหม่ พร้อมการกระจายการลงทุนขยายฐานกลุ่มนักท่องเที่ยวรุ่นใหม่ ศิรเดช โทณวณิก ตั้งเป้าหมายการเป็นแบรนด์เอเชียและขยายราว10 สาขาต่อปี รวมถึงการมุ่งเน้นให้กลุ่มดุสิตสามารถเติบโตอย่างยั่งยืน และเป็นแบรนด์ไทยที่ประกาศความภาคภูมิใจในระดับโลก

ศรีริต้า เจนเซ่น นักแสดงและนางแบบดังของเมืองไทยที่โลดแล่นในวงการมากว่า 20 ปี เมื่อ 4 ปีก่อน ศรีริต้าเริ่มก่อตั้งธุรกิจแรกของเธอขึ้นภายใต้แบรนด์ออกานิก้า ซึ่งเป็นธุรกิจสปา เครื่องหอม และร้านอาหารออร์กานิกส์ระดับพรีเมียม ก้าวแรกของเธอมั่นคงด้วยรายได้หลักสิบล้านต่อปี ส่วนก้าวที่สองคือการขยายแบรนด์ออกานิก้าให้เป็นรีสอร์ท รีทรีท แอนด์ สปา ในปี 2562

ภายในฉบับพบการจัดอันดับ 50 อันดับเศรษฐีสิงคโปร์ประจำปี 2018 และ 100 อันดับบริษัทสุดยอดนวัตกรรมโลก The World’s most Innovative Companies โดยมี ซีพี ออลล์ บริษัทไทยหนึ่งเดียวที่ติดในรายชื่อนี้ พบรายงานพิเศษจากงานสัมมนา Forbes Thailand Forum 2018: The Next Tycoons เมื่อมรดกทางธุรกิจจากรุ่นสู่รุ่นคือความท้าทายในมือทายาทยุคใหม่ ร่วมอ่านบทความและเรื่องราวธุรกิจอันหลากหลายเพื่อสร้าง “แรงบันดาลใจของผู้ใฝ่ความสำเร็จ” จาก Forbes Thailand ฉบับ สิงหาคม 2561

<hr />

<img src="http://forbesthailand.com/uploads/library/31e179c163e112c7fe0a4e53288627cc.jpg" alt="" />
<img src="http://forbesthailand.com/uploads/library/d9525785a28d736baed37c6efe39789b.jpg" alt="" />
<img src="http://forbesthailand.com/uploads/library/981205ca565f3c6770aa3681b63cef90.jpg" alt="" />
<div class="clearfix"></div>

AUGUST 2018 – นวลพรรณ ล่ำซำ 'โลกของมาดามแป้ง'

<h2>ผกผัน คือคำที่ นวลพรรณ ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เมืองไทยประกันภัย (MTI)  หรือ "มาดามแป้ง" ในวัย 49 ปี นิยามชีวิตของเธอนับแต่เริ่มบทสนทนากับ Forbes Thailand  </h2>
จุดเปลี่ยนที่นำนวลพรรณ กลับสู่เส้นทางธุรกิจประกัน จากการที่ภาครัฐกำหนดกฎเกณฑ์ให้บริษัทประกันชีวิตและวินาศภัยต้องแยกกันเป็นอิสระ รวมถึงการชักชวนและหว่านล้อมจากภูมิชาย ล่ำซำ รองประธานกรรมการ บมจ. เมืองไทยประกันภัย คุณอา ที่สนินสนม เมื่อ 15 ปีก่อน กระทั่งบริษัทควบรวมกิจการกับ บมจ.ภัทรประกันภัย

ในฐานะผู้บริหาร บมจ. เมืองไทยประกันภัย ปี 2554 คือปีแห่งความผกผันของนวลพรรณและธุรกิจประกันภัยอย่างแท้จริง กับเหตุการณ์ "มหาอุทกภัย’54" ที่ธุรกิจประกันภัยทุกแห่งเจอมาหนักยิ่ง และถือว่าหนักสุดสำหรับวงการและ บมจ. เมืองไทยประกันภัย ที่ขาดทุนกว่า 800 ล้านบาท จากค่าใช้จ่ายเรื่องค่าสินไหมทดแทนและการตั้งสำรอง

แม้หลายคนมองว่าธุรกิจประกันภัยกำลังเข้าสู่ช่วงขาลง หรือ sun set แต่นวลพรรณมองว่าคือ sun rise เพราะด้วยเหตุมหาอุทกภัยปี 2554 ทำให้มีผู้ตระหนักถึงความจำเป็นของการมีประกันภัยมากขึ้น “คนไม่ได้มองที่ราคาค่าเบี้ยต่ำอย่างเดียวแล้วแต่มองว่าถ้าเกิดอะไรขึ้นจะมีคนที่ protect จริงๆ มีส่วนทำให้ธุรกิจเราเติบโตดี” โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์พิเศษที่มีการตอบรับดีมาก เช่น การประกันภัยก่อการร้าย (สำหรับธุรกิจขนาดใหญ่) ประกันภัยสินเชื่อทางการค้า ประกันภัยความรับผิดของกรรมการและเจ้าหน้าบริหารของบริษัท ฯลฯ

นอกจากบทบาทด้านธุรกิจประกันภัยแล้ว ปัจจุบัน "มาดามแป้ง" ยังคงเป็น ประธานกิตติมศักดิ์ บริษัท ซังออนอเร่ (กรุงเทพ) จำกัด นำเข้าและจำหน่ายสินค้า Hermes’ จากประเทศฝรั่งเศสที่เธอก่อตั้งเมื่อปี 2540 และบทบาทที่ผกผันและสร้างชื่อให้กับ มาดามแป้ง อย่างกว้างขวางในปัจจุบัน คือการพา ทีมฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย ได้รับสิทธิ์เข้าแข่งขันฟุตบอลโลกหญิง 2015 ครั้งแรกในประวัติศาสตร์บอล(หญิง)ไทย ในฐานะผู้จัดการทีมฟุตบอลหญิงทีมชาติไทยและเป็นปีที่ 6 ที่ บมจ.เมืองไทยประกันภัย สนับสนุนฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย

สำหรับธุรกิจประกันภัย ปี 2557 ที่ผ่านมา บมจ. เมืองไทยประกันภัย มีอัตราการเติบโตอยู่ที่ราว 17% สวนทางกับอัตราการเติบโตทั้งตลาดที่ 0%  โดยเป้าหมายหลักของ นวลพรรณ คือการพา MTI ไปให้ถึงการเป็นอันดับ 3 ของธุรกิจประกันภัย ให้สำเร็จ

&nbsp;

<hr />

<a href="http://goo.gl/APDH22">อ่าน ฉบับเต็ม “นวลพรรณ ล่ำซำ มุ่งพา MTI สู่ Top 3 ของ ประกันภัย” ได้กับ Forbes Thailandฉบับเดือน FEBRUARY 2015</a>

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events