'วี ฟาร์ม' เปิดตัวนมข้าวโพด 'ไร่สุวรรณ' มั่นใจคอลแลปแบรนด์หนุนส่วนแบ่งตลาดโตเพิ่ม 10% - Forbes Thailand

'วี ฟาร์ม' เปิดตัวนมข้าวโพด 'ไร่สุวรรณ' มั่นใจคอลแลปแบรนด์หนุนส่วนแบ่งตลาดโตเพิ่ม 10%

บริษัท วี ฟู้ดส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัวน้ำนมข้าวโพด วี ฟาร์ม x ไร่สุวรรณ มั่นใจการคอลแลประหว่าง 2 แบรนด์ดังกล่าวจะช่วยเพิ่มสัดส่วนทางการตลาดโตอีกกว่า 10% หลังตลาดเครื่องดื่มสุขภาพที่เป็นน้ำนมจากพืชขยายตัวต่อเนื่องทุกปีราว 8-9%

 

    อภิรักษ์ โกษะโยธิน ประธานกรรมการบริหาร บริษัท วี ฟู้ดส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตสินค้าภายใต้แบรนด์ วี ฟาร์ม เผยว่า เนื่องในโอกาสที่ธุรกิจครบรอบ 10 ปีในปี 2567 นี้ บริษัทฯ ได้ร่วมมือกับแบรนด์ไร่สุวรรณ ภายใต้ศูนย์วิจัยข้าวโพด และข้าวฟ่างแห่งชาติ (ไร่สุวรรณ) คณะเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พัฒนาสินค้าสุดเอ็กซ์คลูซีฟ 'น้ำนมข้าวโพดวี ฟาร์ม x ไร่สุวรรณ' เพื่อสร้างตลาดใหม่หนุนภาคการเกษตรไทยเติบโตอย่างยั่งยืนมากยิ่งขึ้น

    "ปีที่ผ่านมาน้ำนมข้ำวโพดแบรนด์วี ฟาร์ม มียอดขายโตเกือบ 3 เท่า โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 8,000-9,000 ขวด/วัน ถือเป็นการเติบโตของส่วนแบ่งการตลาดในช่องทางร้านสะดวกซื้อเพิ่มขึ้นเกือบ 15 จุด ทำให้วีฟาร์ม เป็นเจ้าตลาดน้ำนมข้าวโพดในช่องทางร้านค้าสะดวกซื้อ ด้วยส่วนแบ่งทางการตลาดถึง 64% ใน12 เดือนที่ผ่านมา และหากดูสัดส่วนรายได้จากไลน์โปรดักส์ของบริษัทฯ ทั้งหมด สินค้าที่เป็นข้าวโพดฝักและข้าวโพดถ้วยมีสัดส่วน 65% รองลงมาคือน้ำนมข้าวโพดที่มีสัดส่วนรายได้โดดเด่นและโตอย่างต่อเนื่องประมาณ 20% ส่วนสินค้าสแน็กของกินเล่น 13% และอื่นๆ อีกราว 2% อันเป็นผลมาจากการเลือกวัตถุดิบคุณภาพเยี่ยมจากเกษตรกรไทย รวมถึงการทำตลาดที่มุ่งเน้นทั้งช่องทางออนไลน์ ออฟไลน์ และการเข้าถึงผู้บริโภคที่ใส่ใจสุขภาพอย่างแท้จริง"



    ทั้งนี้ การออกโปรดักส์ใหม่ “น้ำนมข้าวโพดวี ฟาร์ม x ไร่สุวรรณ” บริษัทฯ ต้องการตอกย้ำภาพ 2 ผู้นำตลาดน้ำนมข้าวโพด และข้าวโพดหวานพร้อมทาน ที่แม้จะอยู่ในคนละพื้นที่ แต่สามารถส่งต่อสินค้าดี มีคุณภาพได้อย่างทั่วถึง ด้วยการหาซื้อน้ำนมข้าวโพดที่มีรสชาติดีได้ง่ายๆ จากร้านสะดวกซื้ออย่าง 7-อีเลฟเว่นที่มีอยู่กว่า14,000 สาขา และ 7-อีเลฟเว่น Delivery 24 ชั่วโมง ซึ่งสะดวกและตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าได้เป็นอย่างดีทั้งกลุ่มคนรุ่นใหม่ กลุ่มคนทำงาน กลุ่มคนรักสุขภาพและกลุ่มครอบครัว 

    ผู้บริหารของวี ฟาร์ม ยังกล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า งานวิจัยในต่างประเทศมีการระบุถึงตลาดผลิตภัณฑ์นมทางเลือกทั่วโลกจะเติบโตที่ 13% CAGR จนถึงปี 2030 โดยได้รับแรงผลักดันจากเทรนด์การบริโภคที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม เทรนด์การบริโภควีแกน - แพลนต์เบส และภาวะการแพ้แลคโตสจากนมวัวที่เพิ่มขึ้น 

    โดยในปีที่ผ่านมาตลาดน้ำนมจากพืช (Plant-based Milk) ในประเทศไทยมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องราว 8-9% สูงกว่าอัตราเติบโตของนมวัวที่โตเพียง 6% เท่านั้น ดังนั้น วี ฟาร์มจึงยังคงเดินหน้าสนับสนุนผลิตภัณฑ์เกษตร และสินค้าภูมิปัญญาท้องถิ่นของไทยด้วยมาตรฐานนวัตกรรมการผลิตที่ดีเพื่อเปิดโอกาสให้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพจากชุมชนเป็นที่ยอมรับของกลุ่มผู้บริโภคทุกเจเนอเรชัน



    ด้าน รศ. ดร.ธานี ศรีวงศ์ชัย คณบดีคณะเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวว่า ศูนย์วิจัยข้าวโพดและข้าวฟ่างแห่งชาติ ในฐานะผู้ผลิตสินค้าแบรนด์ไร่สุวรรณ เล็งเห็นถึงโอกาสที่จะเข้าถึงผู้บริโภคกลุ่มใหม่ๆ เพิ่มมากขึ้น ซึ่งกลยุทธ์หลักในการขยายตลาดของปีนี้คือ ความร่วมมือกับบริษัท วี ฟู้ดส์ (ประเทศไทย) จำกัด โดยแบรนด์ วี ฟาร์ม ที่มีช่องทางเข้าถึงผู้บริโภคที่กว้างขวาง และนำเสนอสินค้าเกษตรเรือธงอย่างข้าวโพดพันธุ์อินทรี 2 ที่มีรสชาติหวาน หอม สดใหม่ มากด้วยคุณประโยชน์ นำไปแปรรูป และรังสรรค์เป็นสินค้าพิเศษ ที่มีรสชาติอันโดดเด่น แตกต่างจากน้ำนมข้าวโพดทั่วไป

    อีกทั้งความร่วมมือกับแบรนด์ วี ฟาร์มในครั้งนี้ ถือเป็นการทำตลาดเชิงรุกครั้งใหญ่ ที่จะทำให้คนทั่วประเทศได้มีโอกาสรู้จัก และเข้าถึงแบรนด์ไร่สุวรรณ พร้อมทั้งช่วยเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายจากเดิมที่จำกัดเพียงที่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา และที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ สู่โมเดิร์นเทรดที่เข้าถึงผู้บริโภคได้ทุกกลุ่มทั้งประเทศ



เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : 'แม็คกรุ๊ป' โกยรายได้ทะลุ 4 พันล้าน ทำนิวไฮในรอบ 7 ปี บอร์ดอนุมัติปันผลครึ่งปีหลังอีกหุ้นละ 0.40 บาท

ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine