“พาคามาร่า คอฟฟี่ โรสเตอร์” (Pacamara Coffee Roasters) แบรนด์สเปเชียลตี้คอฟฟี่ชื่อดัง ประกาศฉลองครบรอบ 13 ปี เปิดตัวเมนูพิเศษ ‘เดอร์ตี้ ข้าวซอย’ พร้อมตั้งเป้าขยายอีก 12 สาขาปีนี้ทั้งกรุงเทพฯ และหัวเมืองใหญ่ รับเทรนด์คนไทยดื่มกาแฟเพิ่มขึ้นมากกว่าเท่าตัว
ประกาศครบรอบ 13 ปี สำหรับ “พาคามาร่า คอฟฟี่ โรสเตอร์” (Pacamara Coffee Roasters) แบรนด์สเปเชียลตี้คอฟฟี่ชื่อดังที่เริ่มก่อตั้งแบรนด์ตั้งแต่ยุคที่วัฒนธรรมการดื่มกาแฟคลื่นลูกที่สาม (Third Wave Coffee Culture) เข้ามาในเมืองไทยช่วงแรกๆ
ด้วยความใส่ใจควบคุมคุณภาพของเมล็ดกาแฟ ตลอดจนกรรมวิธีการแปรรูปตั้งแต่ต้นน้ำ จนถึงการคั่วและการชงอย่างพิถีพิถันโดยผู้เชี่ยวชาญที่สามารถดึงเอาเอกลักษณ์และรสชาติของเมล็ดกาแฟออกมาได้อย่างโดดเด่น
โดยในช่วงปีที่ผ่านมาพาคามาร่าได้เปิดสาขาเพิ่ม 6 สาขา และในปี 2567 มีแผนขยายสาขาเพิ่มเป็นสองเท่าของปีที่ผ่านมาคือ 12 สาขา เพื่อต้องการขยายฐานผู้บริโภคไปในโซนกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออก รวมถึงในจังหวัดหัวเมืองใหญ่ๆ
โดยสาขาล่าสุดได้เปิดให้บริการไปเมื่อวันที่ 8 มีนาคมที่ผ่านมา ที่เดอะเซอร์เคิล ราชพฤกษ์ ซึ่งเป็นสาขาที่ 25 เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้ากรุงเทพฯ ทางฝั่งตะวันตก คาดว่าเมื่อจบปี 2567 พาคามาร่าจะเป็นแบรนด์สเปเชียลตี้คอฟฟี่ที่มีสาขามากที่สุด โดยรายได้ในปีที่ผ่านมาพาคามาร่าเติบโตขึ้นถึง 40% คิดเป็นส่วนแบ่งตลาด 15% ของร้านกาแฟในเซกเมนต์สเปเชียลตี้คอฟฟี่
โดยพาคามาร่ายังเผยอีกว่าปัจจุบันตลาดกาแฟของประเทศไทยเติบโตอย่างต่อเนื่องและสอดคล้องกับตลาดโลก เทรนด์ที่กำลังมาแรงจาก Market size ของกาแฟพิเศษ (Specialty Coffee) ที่มีอัตราการเติบโตสูงขึ้นเรื่อยๆ เฉลี่ย 5-10% ต่อปี และคิดเป็นสัดส่วน 11% ของตลาดกาแฟทั้งหมด
ขณะที่ในตลาดโลก Market size ของกาแฟพิเศษ (Specialty Coffee) และเมล็ดกาแฟที่มาจากแหล่งเพาะปลูกเดียว (Single Origin) ก็เติบโตอย่างต่อเนื่อง ในปัจจุบันมีสัดส่วน 20% ของตลาดกาแฟทั่วโลก
และจากสถิติการบริโภคกาแฟของคนไทยยังเพิ่มสูงขึ้นอีกเท่าตัว จาก 180 แก้วต่อคนต่อปี เป็น 300 แก้วต่อคนต่อปี อีกทั้งกระแสความนิยมกาแฟพิเศษ (Specialty Coffee) ก็เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วง 7 ปีที่ผ่านมา
ธงธรรม เวชยชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท พีเบอร์รี่ ไทย จํากัด กล่าวว่า “ตลาดกาแฟมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่องทั้งในประเทศไทยและตลาดโลก สวนทางกับราคาของเมล็ดกาแฟที่ปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากปริมาณผลผลิตที่ลดลงจากสภาพอากาศและโรคระบาดในต้นกาแฟ
“การให้ความสำคัญกับคุณภาพของเมล็ดกาแฟเป็นสิ่งที่พาคามาร่าให้ความสำคัญสูงสุด เราไม่เคยหยุดที่จะเรียนรู้นวัตกรรมในการสร้างสรรค์กาแฟใหม่ๆ รวมถึงการคัดสรรเมล็ดกาแฟ Single Origin จากทั่วทุกมุมโลกมาให้คอกาแฟชาวไทยได้ลิ้มลอง ในการสรรหาเมล็ดกาแฟเราเน้นการ ‘Direct Trade’ หรือการซื้อกาแฟสาร (Green Bean) โดยตรงจากเกษตรกร ไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง เพื่อสร้างรายได้และความยั่งยืนให้กับเกษตรกรไทย
“ในปีนี้เราวางแผนจะขยายสาขาเพิ่มอีก 12 สาขา เพื่อให้กลุ่มลูกค้าเป้าหมายสามารถเข้าถึงแบรนด์ของเราได้ง่ายขึ้น ตามคอนเซ็ปต์แบรนด์ Everyday Specialty คือการเป็นการแฟสเปเชียลตี้ที่เข้าถึงง่าย ราคาเหมาะสม และลูกค้าสามารถดื่มได้ทุกวัน
และในโอกาสครบรอบ 13 ปี ทางแบรนด์มีความตั้งใจที่จะส่งเสริมและสนับสนุนความรู้เกี่ยวกับการชงกาแฟให้คนทั่วไปได้เข้าใจกาแฟมากขึ้น จึงได้จัดทำโปรเจ็กต์ CSR ด้วยการมอบความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการชงกาแฟให้กับคนในชุมชน ด้วยอุปกรณ์การชงกาแฟขั้นพื้นฐาน เพื่อให้ผู้เรียนสามารถนำไปประกอบอาชีพได้ รวมถึงผู้ที่ต้องการเรียนรู้การชงกาแฟดื่มเองที่บ้านง่ายๆ ก็สามารถเข้าร่วมโครงการได้เช่นกัน”
สำหรับโปรเจ็กต์ CSR - GIVE THE GIFT OF CAREER “พาคามาร่า คอฟฟี่ โรสเตอร์” (Pacamara Coffee Roasters) จะลงพื้นที่ชุมชนต่างๆ 13 ชุมชน ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ซึ่งเน้นการเข้าไปให้ความรู้ และสอนการชงกาแฟเบื้องต้น พร้อมมอบสูตรเครื่องดื่มต่างๆ เพื่อให้สมาชิกในชุมชนสามารถนำไปประกอบอาชีพได้ โดยจะทยอยไปในชุมชนและศูนย์ฝึกอาชีพรวม 13 แห่งตลอดปี 2567
นอกจากนี้ในวาระครบรอบ 13 ปี “พาคามาร่า คอฟฟี่ โรสเตอร์” (Pacamara Coffee Roasters) ยังมีกิจกรรมและความพิเศษอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น LUCKY PRICE 13 THB DRINKS กับการเปิดตัวเมนูสุดพิเศษ “เดอร์ตี้ ข้าวซอย” (Khao Soi Dirty) เมนูกาแฟที่สื่อถึงจุดเริ่มต้นของแบรนด์ ‘ข้าวซอย’ เป็นหนึ่งในเมนูยอดนิยมของเมืองเชียงใหม่ จังหวัดที่ถือเป็นจุดเริ่มต้นของร้านพาคามาร่าสาขาแรก
โดย “เดอร์ตี้ ข้าวซอย” (Khao Soi Dirty) สามารถลิ้มลองได้ในเดือนมีนาคมนี้ เพียง 13 วันเท่านั้น ตั้งแต่วันที่ 18-30 มีนาคม 2567 เมื่อซื้อเครื่องดื่มเมนูใดก็ได้ 1 แก้ว สามารถแลกซื้อเมนู “เดอร์ตี้ ข้าวซอย” (Khao Soi Dirty) ในราคาพิเศษแก้วละ 13 บาท
และทุกๆ วันที่ 13 ของเดือน ตั้งแต่เดือนเมษายน ไปจนถึงเดือนธันวาคม 2567 เมื่อลูกค้าซื้อเครื่องดื่มเมนูใดก็ได้ 1 แก้ว สามารถแลกซื้อเครื่องดื่มแก้วที่ 2 ในราคาพิเศษเพียง 13 บาทเท่านั้น
นอกจากนี้ยังจัดแคมเปญพิเศษในโอกาสครบรอบ 13 ปีอีกมากมาย ดังต่อไปนี้
-REDEEM 13 POINTS TO GET DRINK FREE! กิจกรรม Blue Friday ในทุกวันศุกร์สุดท้ายของเดือน เริ่มวันศุกร์ที่ 29 มีนาคม 2567 สิทธิพิเศษสำหรับสมาชิกพาคามาร่าทุกระดับ เพียงใช้คาเฟอีนพอยต์ 13 คะแนน แลกรับเครื่องดื่มฟรี 1 แก้ว
-The ORIGIN Challenge (13 YEARS : 13 ORIGINS) กิจกรรมคัดสรรสุดยอดเมล็ดกาแฟจาก 13 แหล่งเพาะปลูก สำหรับเสิร์ฟที่ Specialty Bar ตลอด 45 วัน และให้ลูกค้าได้ร่วมสนุกด้วยการทายว่ากาแฟที่ลูกค้าดื่มมาจากประเทศใด จาก 1 ใน 13 แหล่งเพาะปลูก ถ้าลูกค้าทายถูกจะได้ดื่มฟรีไปเลย พร้อมกิจกรรมสนุกๆ อีกมากมาย เริ่มตั้งแต่ 1 มิถุนายน - 15 กรกฎาคม 2567
-13TH ANNIVERSARY BLEND พบกับเมล็ดกาแฟไทยเบลนด์พิเศษสุดเอ็กซ์คลูซีฟ จากแหล่งเพาะปลูก 5 ดอย 8 เกษตรกรเพื่อฉลองครบรอบ 13 ปี ในงาน ‘Thailand Coffee Fest 2024’
เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : Erewhon ธุรกิจสุดปัง จาก ‘สินค้าออร์แกนิก’ และ ‘สมูทตี้แสนอร่อย’
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine