หลัง ‘เซ็นทรัลชิดลม’ ปรับโฉมครั้งใหญ่ในรอบ 50 ปีด้วยงบกว่า 4,000 ล้านบาท ก้าวสู่ห้างลักชัวรีด้วยการเพิ่มร้าน-เพิ่มสินค้าแบรนด์หรูมากขึ้น ก็ดูเหมือนว่าจะได้รับกระแสตอบรับที่ดีไม่น้อย จากยอดขายในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาโตกว่า 25% ทั้งที่ยังเปิดให้บริการได้เพียง 85% เท่านั้น พร้อมตั้งเป้าเติบโต 30% ในปีหน้าหลังจากเปิดให้บริการครบ 100%
ณัฐธีรา บุญศรี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ในเครือเซ็นทรัล รีเทล กล่าวว่า เซ็นทรัลชิดลมเป็นห้างแรกของกลุ่มที่ให้บริการมาตั้งแต่ปี 1974 เป็นแฟล็กชิปสโตร์และเป็นต้นแบบของห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลทุกสาขาด้วยจุดมุ่งหมายคือการเป็น One Stop Shopping ของลูกค้าและยึดความประทับใจของลูกค้าเป็นศูนย์กลาง จนสามารถครองใจนักช็อปไทยและทั่วโลกมายาวนานกว่า 50 ปี
“ที่ผ่านมาเรามีการรีโนเวตเสมอในทุกๆ 10 ปี ซึ่งจะปรับโฉมใหม่เฉพาะภายใน แต่ครั้งนี้เราทุ่มงบกว่า 4,000 ล้านบาท ปรับโฉมห้างเซ็นทรัลชิดลมใหม่เพื่อก้าวไปอีกขั้นเป็น Number 1 Luxury Department Store in Bangkok และเป็น City destination ของเมืองไทย เนรมิตห้างเซ็นทรัลชิดลมเป็นห้างลักชัวรีระดับโลกแห่งเดียวของประเทศไทยที่สมบูรณ์แบบที่สุดใจกลางกรุงเทพฯ” ณัฐธีรากล่าว
เธอกล่าวเพิ่มเติมว่า กลุ่มเซ็นทรัลมีห้างสรรพสินค้าอยู่กว่า 120 สาขาทั่วโลก หลายๆ แห่งก็เป็น The Store ของเมืองที่ตั้งอยู่ ดังนั้น เซ็นทรัลชิดลมโฉมใหม่นี้จึงถูกวางให้เป็น The Store of Bangkok หรือเรียกได้ว่ามากรุงเทพฯ ก็ต้องคิดถึงเซ็นทรัลชิดลม
ไฮไลต์สำคัญของการปรับโฉมเซ็นทรัลชิดลมคือการดีไซน์สถาปัตยกรรมรวมถึงการตกแต่งที่เปลี่ยนจากเซ็นทรัลชิดลมเดิมไปอย่างเห็นได้ชัด โดยผสมผสานเอกลักษณ์และไอเดียของสถาปัตยกรรมชั้นนำระดับโลกเข้ากับสถาปัตยกรรมไทยได้อย่างลงตัว มีการใช้สถาปนิกทั้งจากอังกฤษ อเมริกัน ญี่ปุ่น และไทย มีการใช้ไม้เข้ามาผสมเป็นจำนวนมาก ทำให้ได้ความรู้โมเดิร์นลักชัวรี แต่ยังคงความอบอุ่นเสมือนเป็นบ้านหลังที่สอง
จุดเด่นสำคัญของงานออกแบบคือลวดลาย Façade ที่สามารถเปลี่ยนแปลงสีสันได้ตามสภาพอากาศ พร้อมเปิดทางเข้าใหม่ Sky Terrace ที่เชื่อมจากรถไฟฟ้าสถานีชิดลมเข้าสู่ห้างเซ็นทรัลชิดลมที่ชั้น 1 โซนลักชัวรีได้โดยตรง ซึ่งแนวคิดในการปรับโฉมใหม่ครั้งนี้ยังได้ต่อยอดมาจากจุดเริ่มต้นของห้างเซ็นทรัลที่ใช้สัญลักษณ์เป็นรูปดอกกุหลาบ จึงตกแต่งในคอนเซปต์ ‘Garden of Rose’ โดยมีหินทำจาก Terrazzo เป็นสี Chidlom Pink สร้างบรรยากาศเสมือนเดินอยู่ท่ามกลางสวนกุหลาบ และให้ความรู้สึกเหมือนเดินช็อปปิ้งที่ห้างหรูในยุโรปด้วย
พร้อมยังสร้างเอกลักษณ์ความเฉพาะตัวเพื่อลูกค้า #CitizentofChidlom แห่งนี้ ด้วย New Identity เป็นสาขาเดียวที่ใช้โลโก้และถุงช็อปปิ้งสี Chidlom Pink หรือ สีชมพูชิดลม
นอกจากงานดีไซน์แล้ว สิ่งที่ต่างไปจากเดิมของเซ็นทรัลชิดลมคือการมีแบรนด์ลักชัวรีมากขึ้น คือกินพื้นที่ชั้น 1 ทั้งชั้น และพื้นที่อีกราว 60% ของชั้น 2 ถ้าคิดเป็นพื้นที่ทั้งหมดของทั้งห้าง โซนลักชัวรีจะมีพื้นที่อยู่ราว 20%
นอกจากนี้โซนลักชัวรียังมีลักษณะเป็น Shop in Shop หรือร้านที่เป็นแบบ Open ไม่มีประตู ทำให้ลูกค้ารู้สึก Welcome หรือได้รับการเชื้อเชิญจากแบรนด์
โดยรวบรวมแบรนด์หรูระดับโลกมากมาย เช่น Bottega Veneta, Balenciaga, Burberry, Celine, Dolce & Gabbana, Emilio Pucci, Fendi, Gucci, Kenzo, Loewe, Louis Vuitton, Miu Miu, Missoni, Prada, Roger Vivier, Versace รวมถึงแบรนด์ที่กำลังจะเปิดให้บริการเดือนธันวาคมนี้อย่าง Chanel
และยังเป็นครั้งแรกในประเทศไทยกับโซน ‘Shoes Avenue’ ที่ให้ลูกค้าได้ลองและเลือกช็อปรองเท้า แบรนด์ลักชัวรีหลากหลายแบรนด์ ครบทุกสไตล์ในพื้นที่เดียว อาทิ Jimmy Choo, Todd’s, Tory Burch, Christian Louboutin, Cult Gia, Sergio Rossi,Tod’s, Sophia Webster, Coperni, Marni, Proenza Schouler และที่ชั้นนี้ยังมี The Bar ที่ “Christian Louboutin” เตรียมเทคโอเวอร์กลายเป็น “Christian Louboutin Bar” ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พร้อมมีเมนูเครื่องดื่มสุดพิเศษด้วย
และยังมีแบรนด์เอ็กซ์คลูซีฟที่มาเปิดที่ห้างเซ็นทรัลชิดลม อย่าง Archivépke, C.P. Company, GCDS, Giuseppe Zanotti, Mardi Mercredi Actif, Mach & Mach, René Caovilla, Rockfish Weatherwear, Simkhai, SUNNEI, Samo Ondoh, Versace Jeans Couture, TAW&TOE วางจำหน่ายแห่งแรกในประเทศไทย
รวมถึงยังมีโซน Sneakers Boulevard & Streetwear Studio อาณาจักรสนีกเกอร์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ และโซน Beauty Galerie โฉมใหม่ที่หรูหราที่สุดในประเทศไทย รวมผลิตภัณฑ์จากแบรนด์ความงามระดับโลกกว่า 150 แบรนด์
“เราดูกำลังซื้อของลูกค้า และพบว่ากำลังซื้อของห้างเซ็นทรัลชิดลมสูงมากพอๆ กับห้างของเราในยุโรป นอกจากนี้เราทำโฟกัสกรุ๊ปกับลูกค้าแล้วพบว่าห้างนี้ยังไม่มีแบรนด์ลักชัวรีที่ลูกค้าต้องการ” ณัฐธีรากล่าว ก่อนจะอธิบายเพิ่มเติมว่า สิ่งที่เซ็นทรัลชิดลมเป็นมาตั้งแต่เปิดให้บริการคือ One Stop Shopping ดังนั้นจึงต้องดึงแบรนด์หรูเข้ามาเปิดเพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่สามารถซื้อของทุกอย่างได้ที่นี่นั่นเอง
ขณะที่ในแง่ของกำลังซื้อ เธอพบว่าลูกค้าของห้างเซ็นทรัลกลุ่มที่ได้เป็น Centifity หรือมียอดใช้จ่ายในเซ็นทรัลอย่างน้อย 600,000 บาท/ปี ซึ่งกลุ่มนี้มีอยู่ 7,000 คน ส่วนใหญ่หรือราว 70-80% ของกลุ่มนี้ช็อปที่เซ็นทรัลชิดลม และโดยเฉลี่ยแล้วยอดใช้จ่ายต่อ visit ของลูกค้าที่ห้างเซ็นทรัลชิดลมอยู่ที่กว่า 20,000 บาท ขณะที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลอื่นอยู่ที่หมื่นกว่าบาท
“เราเริ่มเปิดเดือนเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา โดยเปิดเพียง 85% แต่ผ่านมา 6 เดือนพบว่ายอดขายโต 25% ก่อนหน้านี้ซึ่งเจอโควิดด้วยโตประมาณ 10% เรียกได้ว่าสวนกระแสดีพาร์ตเมนต์สโตร์ที่อื่นที่โตไม่ได้เยอะมาก และถือเป็นการรีโนเวตที่ประสบความสำเร็จมาก
“และจากที่เราได้สัมภาษณ์ลูกค้าบางกลุ่ม เขาบอกว่าไม่รู้ว่ามาบ่อยกว่านี้ได้ยังไงอีก เพราะตอนนี้ก็มาทุกวันแล้ว ที่นี่เดินแล้วให้ความรู้สึกเหมือนเมืองนอก มีสินค้าเอ็กซ์คลูซีฟคอลเลกชั่นที่ไม่มีที่ห้างอื่น ซึ่งพอมีสินค้าลักชัวรี ก็ทำให้ spending per bill ของเรามากขึ้น” ณัฐธีรากล่าว พร้อมระบุว่ายอดใช้จ่ายต่อบิลของเซ็นทรัลชิดลมเพิ่มขึ้นจากก่อนรีโนเวต 10-15% สะท้อนถึงการตอบรับที่ดีของการก้าวสู่การเป็นห้างลักชัวรี
สำหรับปีหน้า 2568 เมื่อเสร็จสมบูรณ์ 100% แล้ว ณัฐธีราตั้งเป้าว่าห้างเซ็นทรัลชิดลมจะสร้างยอดขายเติบโต 30% และมีทราฟฟิกผู้ใช้บริการเพิ่มเป็น 30,000 คน/วัน จากที่ก่อนรีโนเวตอยู่ที่ 25,000 คน/วัน
ทั้งนี้ เซ็นทรัลชิดลมเป็นดีพาร์ตเมนต์สโตร์ที่มียอดขายเป็นอันดับ 1 ในบรรดาดีพาร์ตเมนต์สโตร์ทั้งหมดของกลุ่มเซ็นทรัลที่มีอยู่ 29 สาขา ไม่นับรวมโรบินสันที่มีอยู่ 47 สาขา
ส่วนแผนในอนาคตของห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลและโรบินสันนั้น ปีหน้ายังคงเดินหน้ารีโนเวตและรีแบรนด์โรบินสันอีก 1-2 สาขาให้เป็นเซ็นทรัล หลังจากปีนี้ใช้งบกว่า 250 ล้านบาท รีโนเวตและเปลี่ยนโฉมโรบินสัน บางรัก เป็นเซ็นทรัล บางรัก ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในต้นปีหน้า
“ห้างเซ็นทรัลชิดลมตั้งใจยกระดับทุกด้านเพื่อเป็นลักชัวรีดีพาร์ตเมนต์สโตร์ของเมืองไทยที่ส่งเสริมภาพลักษณ์ด้านการช็อปปิ้งและการท่องเที่ยว ขับเคลื่อนเศรษฐกิจในภาพใหญ่ของรีเทลเพื่อดึงดูดเม็ดเงินเข้าระบบในประเทศ โดยในวันที่ 12 ธ.ค.67 นี้ จะจัดงานฉลองเปิดห้างเซ็นทรัลชิดลมอย่างเป็นทางการ
"โดยทางห้างได้เตรียมจัดงานตอบแทนคำขอบคุณลูกค้าอย่างยิ่งใหญ่ด้วยกิจกรรมและคอนเสิร์ตจากกองทัพศิลปิน-นักร้องชั้นนำ พร้อมเซอร์ไพรส์จากนัม จู ฮยอก (Nam Joo Hyuk) แบรนด์แอมบาสเดอร์คนแรกของห้างเซ็นทรัลชิดลม ร่วมกิจกรรมมากมายยิงยาวข้ามปีไปจนถึงปีหน้า 2568 ฉลองปีใหม่สร้างการเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนอย่างไม่รู้จบ” ณัฐธีรา กล่าวทิ้งท้าย
เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : ทำไมต้อง ‘Chidlom Pink’ ? เจาะลึกการปรับโฉม ‘เซ็นทรัลชิดลม’ ครั้งใหญ่ในรอบ 50 ปี
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine