Uber ครบรอบ 3 ปีประเทศไทย เรื่องกฎหมายยังวุ่น นัดคุยกรมขนส่งทางบกตั้งหน่วยงานกลางศึกษากฎหมายรองรับภายใน 6 เดือน เป้าปี’60 เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ เชื่อมต่อปฏิทิน-แชทกับผู้ขับ แย้มอยู่ระหว่างศึกษาเพิ่มบริการ uberPOOL ร่วมโดยสารหลายคนในคันเดียว
ศิริภา จึงสวัสดิ์ ผู้จัดการประจำประเทศไทย
Uber (อูเบอร์) กล่าวว่า ปี 2560 เป็นช่วงครบรอบ 3 ปีของการให้บริการ Uber แอพพลิเคชั่นเรียกรถแบบร่วมเดินทาง (ride-sharing) ในประเทศไทย หลังเปิดบริการครั้งแรกในปี 2557 โดยมีผู้โดยสารและผู้ร่วมขับขี่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เปิดบริการแล้วใน 4 เมือง คือ กรุงเทพฯ-ปริมณฑล เชียงใหม่ เชียงราย และพัทยา-ชลบุรี และเปิดบริการเพิ่มคือ
UberEATS บริการรับส่งอาหาร ซึ่งมีร้านค้าพันธมิตรแล้วกว่า 100 ร้าน
สำหรับประเด็นหลักที่ถือเป็นอุปสรรคของ Uber ประเทศไทยรวมถึงในหลายประเทศทั่วโลก คือ การที่ Uber ยังไม่มีกฎหมายรองรับ
ศิริภา เปิดเผยว่า Uber มีการพูดคุยกับตัวแทนจากกรมขนส่งทางบกแล้ว 1 ครั้ง เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2560 โดยมีแนวคิดร่วมกันในการหาทางออกเชิงกฎหมายให้กับบริการเรียกรถร่วมเดินทาง
“
มีการประชุมกันว่าจะนำ ride-sharing มาให้บริการในไทยโดยมีกฎหมายรองรับได้อย่างไร โดยเราตกลงร่วมกันว่าจะตั้งหน่วยงานกลางขึ้นมาศึกษา ให้ทางกรมขนส่งทางบกเป็นผู้เสนอชื่อหน่วยงานซึ่ง Uber ตกลงร่วมกันว่าเป็นหน่วยงานที่เป็นกลาง แล้วจึงเริ่มศึกษา มองกรอบการประชุมติดตามว่าจะพบกันทุกๆ 2 สัปดาห์ และมีกรอบระยะเวลาการศึกษาออกแบบภายใน 6 เดือน”
ศิริภากล่าวว่า ในระหว่างนี้ Uber ยังให้บริการอยู่ตามปกติ อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า
สมศักดิ์ ห่มม่วง รองปลัดกระทรวงคมนาคม (ตำแหน่งในขณะนั้น) ได้เปิดเผยกับสำนักข่าวทีนิวส์ว่า กรอบระยะเวลาการศึกษาร่วมกันคือ 6 เดือน – 1 ปี ระหว่างนี้ขอให้ Uber หยุดบริการไปก่อน และ Uber ได้รับปากกับกระทรวงคมนาคมแล้ว
ศิริภากล่าวต่อไปว่า ในการประชุมนัดแรก
Uber ได้นำเสนอแนวทางจากต่างประเทศที่รองรับ Uber ให้เป็นบริการที่ถูกกฎหมายแล้ว เช่น มาเลเซีย สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย ซึ่งมีวิธีการที่ต่างกัน แต่มองว่าต้นแบบที่น่าจะนำมาปรับใช้กับประเทศไทยได้คือกฎหมายของมาเลเซีย ซึ่งสร้างระบบการสอบใบขับขี่ในอีกประเภทหนึ่ง แตกต่างจากใบขับขี่สาธารณะ เพื่อมาเป็นผู้ร่วมขับขี่ในบริการเรียกรถร่วมเดินทาง แต่ยืนยันว่าการกำหนดค่าโดยสารจะยังใช้ตามระบบบริการร่วมเดินทางที่ปรับขึ้นลงตามดีมานด์-ซัพพลายของตลาด
พบฟีเจอร์ใหม่ปี’60-สนใจเปิด uberPOOL
ด้านแผนการดำเนินงาน ศิริภายอมรับว่า 3 ปีที่ผ่านมายังเป็นช่วงของการลงทุนโดยยังไม่สร้างกำไร แต่ Uber ยังคงมีการบริการ ลงทุนด้านโปรโมชันการตลาด และนำนวัตกรรมใหม่เข้ามาใช้งานเพิ่ม
โดยปี 2560 มีฟีเจอร์ใหม่ที่เปิดตัวไปแล้วคือ สามารถเรียกรถผ่านแอพพลิเคชั่น Line ได้ทันที และเทคโนโลยีเพื่อให้ผู้ร่วมขับขี่ที่มีความบกพร่องทางการได้ยินสามารถให้บริการได้ ส่วนนวัตกรรมใหม่ๆ ในปีนี้ ได้แก่
- เชื่อมข้อมูลจุดหมายปลายทางในแอพฯ ปฏิทินสู่แอพฯ Uber อัตโนมัติ
- พิมพ์ส่งข้อความระหว่างผู้ร่วมขับขี่กับผู้โดยสารได้ในแอพฯ
- ผู้โดยสารสามารถส่งคำติชมถึงผู้ร่วมขับขี่ได้
- มาตรการรักษาความปลอดภัย Uber จะทำการสุ่มขอให้ผู้ร่วมขับขี่ถ่ายรูปหน้าตนเองในขณะนั้น เพื่อยืนยันตัวตนว่าตรงกับชื่อในบัญชีหรือไม่
- เพิ่ม Call Center ให้กับผู้ร่วมขับขี่ติดต่อได้ในวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา 9.00-18.00น. นอกเหนือจากการส่งข้อความผ่านแอพฯ
ศิริภา กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างศึกษาบริการ
uberPOOL แต่ที่ยังไม่สามารถเปิดใช้ในทันทีเพราะมีอุปสรรคคือ การจราจรที่ติดขัดของไทยจะทำให้ต้องมีผู้เรียกรถในอัตราความถี่สูงมากจึงจะคุ้มค่า จึงยังต้องติดตามแนวโน้มตลาดให้ไปถึงจุดนั้นก่อน
(*uberPOOL เป็นบริการร่วมเดินทางแบบคันเดียวไปได้หลายคนหากไปทางเดียวกันหรือใกล้เคียงกัน และผู้เดินทางสามารถแชร์ค่าโดยสารกันได้)
สำหรับค่าโดยสาร ตลอด 3 ปีที่ผ่านมามีการปรับขึ้นตามดีมานด์ตลาดเป็นระยะ และมีการปรับสัดส่วนรายได้ระหว่าง Uber กับ ผู้ร่วมขับขี่ จากเดิม 20:80 เป็น 25:75 ซึ่งคาดว่าจะไม่มีการปรับใหม่ในเร็วๆ นี้
Forbes in Details
- Uber ทั่วโลก มีการให้บริการแล้ว 450 เมืองใน 74 ประเทศ มีผู้โดยสาร 40 ล้านคนต่อเดือน ให้บริการเฉลี่ย 5 ล้านเที่ยวต่อวัน ทั้งนี้ ข้อมูลเฉพาะในประเทศไทยไม่สามารถเปิดเผยได้ด้วยนโยบายบริษัท
- ยังมีความไม่ชัดเจนเกี่ยวกับเส้นทางรายได้ของ Uber ประเทศไทยและการชำระภาษี
- ศิริภา จึงสวัสดิ์ เป็นผู้จัดการประจำประเทศไทยคนแรกของ Uber แต่งตั้งเมื่อเดือนมีนาคม 60 จากที่ผ่านมา Uber ไทยถูกกำกับดูแลโดย Uber ระดับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
- ในประเทศไทย ผู้โดยสารส่วนใหญ่เป็นชาวไทย รองลงมาคือ ชาวอเมริกัน, สิงคโปร์, มาเลเซีย, สหราชอาณาจักร และจีน