LINE MAN เปิดตัวบริการใหม่ Mart Service รุกตลาดออนไลน์ซูเปอร์มาร์เก็ต - Forbes Thailand

LINE MAN เปิดตัวบริการใหม่ Mart Service รุกตลาดออนไลน์ซูเปอร์มาร์เก็ต

LINE MAN ผนึกสตาร์ทอัพ Happy Fresh เปิดตัวบริการใหม่ Mart Service ส่งของกินของใช้ถึงบ้าน รับแนวโน้มตลาดซูเปอร์มาร์เก็ตออนไลน์โต

หลังให้บริการในประเทศไทยมาตั้งแต่มิถุนายน 2016 ซึ่งขยายบริการไปทั้งส่งอาหารเดลิเวอรี่, เรียกแท็กซี่, ส่งพัสดุ, ส่งของด่วน และบริการสั่งซื้อของในร้านสะดวกซื้อ ล่าสุด  LINE MAN ได้เปิดตัวบริการใหม่ Mart Service บริการซูเปอร์มาร์เก็ตออนไลน์ รับกระแสการเติบโตของตลาดซูเปอร์มาร์เก็ตออนไลน์ในประเทศไทย

Jayden Kang รองประธานบริหารฝ่ายกลยุทธ์ LINE ประเทศไทย และหัวหน้าธุรกิจ LINE MAN กล่าวว่า จากความสำเร็จของเราในปี 2019 ที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นจำนวนร้านอาหารที่ให้บริการมากกว่า 100,000 ร้าน พื้นที่ให้บริการที่ครอบคลุม 7 จังหวัด และจำนวนยอดสั่งอาหารเติบโตขึ้นถึง 3 เท่า ซึ่งในปีนี้เรายังมุ่งมั่นพัฒนาแอปพลิเคชั่นให้ตอบโจทย์คือการเป็นผู้ช่วยในชีวิตประจำวันของยูสเซอร์ ไม่ว่าจะเป็น

  • ตั้งเป้าขยายการให้บริการเพิ่มเติมอีก 15 จังหวัด
  • พัฒนาบริการเดลิเวอรี่มากขึ้น
  • เปิดตัวบริการ Mart Service บริการที่ 6 บนแอปพลิเคชั่น ซึ่งเป็นบริการซูเปอร์มาร์เก็ตออนไลน์
Jayden Kang

“Mart Service เป็นการร่วมมือกับ Happy Fresh พันธมิตรซึ่งเป็นผู้เล่นหลักในตลาดซูเปอร์มาร์เก็ตออนไลน์ โดยเป็นสตาร์ทอัพจากอินโดนีเซียที่ Naver บริษัทแม่ของ LINE Corporation และ LINE Ventures หน่วยงานบริหารการลงทุนในสตาร์ทอัพ ร่วมกันลงทุน เพื่อต่อยอดและเติมเต็มระบบนิเวศของไลน์แมน”

วรานันท์ ช่วงฉ่ำ หัวหน้ากลุ่มพัฒนาธุรกิจและการตลาด LINE MAN กล่าวว่า สำหรับ Mart Service นั้นจุดเด่นอยู่ที่บริการส่งถึงประตูบ้านโดยพนักงาน Happy Fresh นอกจากนี้ยังเป็นบริการที่มีความพิถีพิถัน เนื่องจากพนักงาน Happy Fresh จะได้รับการฝึกจนมีทักษะในการเลือกสินค้า รวมถึงยังตอบโจทย์ในเรื่องการควบคุมค่าใช้จ่าย โปรโมชั่น ความสามารถในการจ่ายผ่านบัตรเครดิตหรือเลือกจ่ายปลายทาง และเลือกช่วงเวลาในการรับสินค้าได้

โดยยูสเซอร์สามารถเลือกรับสินค้าได้ตามช่วงเวลา ตั้งแต่ 08.00-22.00 น. และในช่วงแรกที่ให้บริการจนถึงสิ้นเดือนมีนาคม บริษัทยังจัดโปรโมชั่นส่งฟรีเมื่อซื้อสินค้าขั้นต่ำ 250 บาท อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการเปิดเผยที่แน่ชัดว่าหลังจากพ้นช่วงเวลาโปรโมชั่นดังกล่าวแล้วค่าบริการจะอยู่ในอัตราเท่าใด

ขณะที่บริการ LINE Convenience จากไลน์แมนซึ่งเป็นบริการซื้อของจากร้านสะดวกซื้อโดยเฉพาะเซเว่นอีเลฟเว่นเป็นหลัก คิดค่าบริการเริ่มต้นกิโลเมตรแรก 55 บาท กิโลเมตรถัดไป 9 บาท ส่วน Happy Fresh ก็คิดค่าบริการจัดส่งตามระยะทาง จึงเป็นไปได้ว่า Mart Service จะคิดค่าบริการตามระยะทางเช่นกัน

ทั้งนี้ ปัจจุบัน Mart Service มีร้านค้าให้บริการจากพันธมิตรกว่า 30 ราย อาทิ เทสโก้ โลตัส, บิ๊กซี, โฮม เฟรช มาร์ท, กูร์เมต์ มาร์เก็ต, โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ เป็นต้น ครอบคลุมทั้งอาหารสด อาหารแห้ง ของใช้ในบ้าน สินค้าอุปโภค-บริโภค อาหารสัตว์ โดยในช่วงแรกให้บริการในพื้นที่กรุงเทพฯ เป็นหลัก ส่วนการขยายซูเปอร์มาร์เก็ตและพื้นที่ให้บริการ ต้องวางแผนร่วมกับ Happy Fresh อีกครั้ง

วรานันท์ ช่วงฉ่ำ

วรานันท์ กล่าวว่า ปัจจุบัน LINE MAN มีแอคทีฟยูสเซอร์อยู่ที่ 3 ล้านราย/เดือน ในช่วงระยะเริ่มต้นนี้จึงตั้งกลุ่มเป้าหมายไว้ที่ผู้ใช้แอปของเราเป็นหลัก ซึ่งวางเป้าไว้กลุ่มคนรุ่นใหม่, คุณแม่รุ่นใหม่ และกลุ่มร้านอาหารขนาดเล็กที่ใช้บริการสำหรับสั่งของเข้าร้านในปริมาณไม่มาก โดยกลุ่มเป้าหมายเหล่านี้เป็นกลุ่มเป้าหมายนี้เป็นข้อมูลที่ทำร่วมกับ Happy Fresh

“ตอนนี้เราเพิ่งให้บริการมาได้ 3 สัปดาห์ จึงอาจยังบอกสัดส่วนไม่ได้ว่าในแอคทีฟยูสเซอร์ 3 ล้านราย มีลูกค้ากลุ่มเป้าหมายอยู่เท่าไหร่ แต่เราก็หวังว่า Mart Service จะมียอดจำนวนการใช้งาน (transaction) มาเป็นอันดับ 4 จากบริการทั้งหมด 6 บริการในแอปพลิเคชั่นของเรา”

วรานันท์ ระบุอีกว่า สำหรับตลาดซูเปอร์มาร์เก็ตออนไลน์นั้นมีมูลค่า 2-3% ของมูลค่าตลาดซูเปอร์มาร์เก็ต โดยถึงแม้ online grocery จะเป็นเรื่องที่ไม่ใหม่สำหรับชาวไทย แต่ช่วงเวลานี้เป็นจุดที่เห็นได้ว่าผู้บริโภคคุ้นเคยกับบริการเดลิเวอรี่และแอปต่างๆ เป็นอย่างมาก จึงมั่นใจว่า Mart Service จะเข้ามาสอดรับกับความเคลื่อนไหวของตลาดนี้

“ปัจจุบันเรายังไม่เห็นคู่แข่งที่ลงมาทำการตลาดใน online grocery ยังชัดเจน ดังนั้น ปีนี้จึงยังเป็นช่วงระยะเริ่มต้นของตลาดนี้ จึงมองว่าตลาดยังมีโอกาสเติบโตได้อีก” วรานันท์ กล่าวทิ้งท้าย

 

Forbes Facts

  • หลังให้บริการมาราว 3 สัปดาห์ สินค้าที่มีลูกค้าสั่งซื้อมากที่สุด คือ เครื่องดื่มในลักษณะเป็นแพ็ค, แพมเพิร์สเด็ก และขนม
  • ยอดซื้อเฉลี่ยอยู่ที่ 600 บาท/บิล
  อ่านเพิ่มเติม  
ไม่พลาดเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ของเรา ติดตามเราได้ที่ เพจเฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine