13 บริษัทมหาชนไทย จากการจัดอันดับ 200 Best Under a Billion ประจำปี 2022 - Forbes Thailand

13 บริษัทมหาชนไทย จากการจัดอันดับ 200 Best Under a Billion ประจำปี 2022

FORBES THAILAND / ADMIN
11 Aug 2022 | 06:33 PM
READ 10883

Forbes Asia เผยรายชื่อบริษัทมหาชนในเอเชียแปซิฟิกที่ติดอันดับ 200 Best Under a Billion ประจำปี 2022 หลังวิกฤตโควิด 19 ที่เป็นความท้าทายแก่ธุรกิจทั้งหลาย โดยพบรายชื่อของบริษัทมหาชนไทยปรากฏในการจัดอันดับ

กลับมาอีกครั้งกับการจัดอันดับประจำปีโดย Forbes Asia ที่คัดเลือก 200 บริษัทมหาชนจากทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่มียอดขายประจำปีมากกว่า 10 ล้าน แต่ไม่เกิน 1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ และในปี 2022 นี้ บริษัทมหาชนจากประเทศไทยได้มีรายชื่ออยู่ในการจัดอันดับถึง 13 ราย ซึ่งเป็นธุรกิจที่ประกอบกิจการหลากประเภท ตั้งแต่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จนถึงธุรกิจประเภทอาหารและเครื่องดื่ม โดยปีนี้ พบว่า บริษัท โรงพยาบาลจุฬารัตน์ จำกัด (มหาชน) ยังคงติดอันดับ หลังรายชื่อปรากฏใน Best Under a Billion ประจำปี 2020 อีกทั้ง มีบริษัทมหาชนรายใหม่ที่มีรายชื่อติดโผ อาทิ Asiasoft ที่พัฒนาเกมออนไลน์ หรือ Seppe ที่ประกอบธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ เป็นต้น โดยการจัดอันดับดังกล่าวอิงตามตัวเลขที่เผยแพร่ล่าสุดในวันที่ 11 กรกฎาคม 2022

จากการจัดอันดับ 200 Best Under a Billion ประจำปี 2022 โดย Forbes Asia ปรากฏรายชื่อบริษัทมหาชนจากประเทศไทย 13 ราย ดังนี้

  AP logo AP (Thailand) ประเภทธุรกิจ: อสังหาริมทรัพย์ ยอดขาย: 993 ล้านเหรียญสหรัฐฯ รายได้สุทธิ: 142 ล้านเหรียญสหรัฐฯ มูลค่าตลาด: 1.02 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ก่อตั้งในปี 2534 บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) ประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์สำหรับที่อยู่อาศัย โดยจัดทำโครงการตั้งแต่ บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ และคอนโดมิเนียม ซึ่งมีทำเลที่ตั้งในกรุงเทพมหานครและเขตปริมณฑล รวมถึงเมืองหลักที่ตั้งอยู่ในภูมิภาคต่างๆ โดยเน้นทำเลที่สามารถเดินทางได้สะดวก และเน้นแบบบ้านที่ตรงกับความต้องการผู้บริโภคในแต่ละกลุ่ม นอกเหนือจากการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) ยังให้บริการธุรกิจด้านอื่นๆ อีกด้วย เช่น บริการซ่อมแซมบ้าน ธุรกิจการพัฒนานวัตกรรมดีไซน์ รวมถึง บริการให้คำปรึกษาด้านการลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ใจกลางเมืองแบบครบวงจร เป็นต้น   asian logo Asian Sea ประเภทธุรกิจ: อาหารแช่แข็ง ยอดขาย: 296 ล้านเหรียญสหรัฐฯ รายได้สุทธิ: 33 ล้านเหรียญสหรัฐฯ มูลค่าตลาด: 389 ล้านเหรียญสหรัฐฯ บริษัท เอเชี่ยน ซี คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) อยู่ในกลุ่มบริษัท เอเชี่ยน ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ประกอบธุรกิจผลิตอาหารทะเลแช่แข็งส่งออกให้ลูกค้าทั่วโลก โดยบริษัทเริ่มกิจการจากธุรกิจภายในครอบครัวที่ค้าส่งผลิตภัณฑ์อาหารทะเลให้กับภัตตาคารและห้องเย็นต่างๆ ตั้งแต่ปี 2507 ปัจจุบัน กลุ่มบริษัทเอเชี่ยนประกอบธุรกิจ 4 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์แช่เยือกแข็ง กลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยง กลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์ทูน่าและกลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์น้ำ และเริ่มพัฒนาผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ของตนเองเริ่มจากกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยงสมศักดิ์ อมรรัตนชัยกุล อ่านเพิ่มเติม: LEADS “ASIAN” TO ESG 100 ขยายน่านน้ำสากล   asiasoft Asiasoft ประเภทธุรกิจ: พัฒนาแพลตฟอร์มเกมออนไลน์ ยอดขาย: 58 ล้านเหรียญสหรัฐฯ รายได้สุทธิ: 15 ล้านเหรียญสหรัฐฯ มูลค่าตลาด: 178 ล้านเหรียญสหรัฐฯ บริษัท เอเชียซอฟท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ผู้นำในการให้บริการเกมออนไลน์ทั้งบนมือถือและคอมพิวเตอร์ รวมถึงความบันเทิงในรูปแบบดิจิทัล โดยดำเนินโมเดลธุรกิจผ่านการซื้อลิขสิทธิ์เกมจากเหล่าผู้พัฒนาและนำมาให้บริการแก่ลูกค้าบนแพลตฟอร์ม ตัวอย่างเกมที่เป็นที่นิยมอย่างมากในยุค 2000-2010 ได้แก่ Ragnarok, Yulgang, MapleStory และ Audition ปัจจุบัน บริษัท เอเชียซอฟท์ให้บริการทั้งในไทยและทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งถือเป็นภูมิภาคที่ตลาดเกมเติบโตเร็วที่สุดในโลก อ่านเพิ่มเติม: ปราโมทย์ สุดจิตพร พาเกมออนไลน์หรรษาฝ่าโควิดโตทะยาน   chularat logo Chularat Hospital ประเภทธุรกิจ: โรงพยาบาลเอกชน ยอดขาย: 367 ล้านเหรียญสหรัฐฯ รายได้สุทธิ:  131 ล้านเหรียญสหรัฐฯ มูลค่าตลาด: 1.21 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ บริษัท โรงพยาบาลจุฬารัตน์ จำกัด (มหาชน) เริ่มก่อตั้งในปี 2529 ประกอบกิจการโรงพยาบาลเอกชนซึ่งให้บริการทางการแพทย์เฉพาะทางและจัดจำหน่ายอุปกรณ์ทางการแพทย์ โดยดำเนินธุรกิจภายใต้คอนเซ็ปต์ “The Star of the East” เน้นความปลอดภัยของผู้มาใช้บริการเป็นสำคัญ ปัจจุบัน บริษัทมีสาขาของโรงพยาบาลสถานพยาบาลและคลินิกในกลุ่มรวมทั้งหมด 14 แห่ง ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ให้บริการตั้งแต่จังหวัดกรุงเทพมหานครจนถึงจังหวัดระยองในภาคตะวันออก ปัจจุบัน บริษัทมีทุนจดทะเบียนรวมถึง 1,100 ล้านบาท อ่านเพิ่มเติม: กำพล พลัสสินทร์ นำทัพ CHG ยึดบูรพาทิศ   exoticfoodthailand logo Exotic Food Thailand ประเภทธุรกิจ: ส่งออกผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่ม ยอดขาย: 48 ล้านเหรียญสหรัฐฯ รายได้สุทธิ: 14 ล้านเหรียญสหรัฐฯ มูลค่าตลาด: 185 ล้านเหรียญสหรัฐฯ บริษัท เอ็กโซติค ฟู้ด จำกัด (มหาชน) ก่อตั้งเมื่อปี 2542 ด้วยวัตถุประสงค์ในการเชิดชูอาหารไทยให้ไปถึงระดับโลก โดยบริษัททำการผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ภายในประเทศ อาทิ ซอสปรุงรส ซอสพริกศรีราชา น้ำสลัด อาหารกึ่งสำเร็จรูป รวมถึงน้ำมะพร้าวภายใต้แบรนด์ Coco Loto โดยจุดแข็งของบริษัทคือการเลือกคัดสรรวัตถุดิบคุณภาพดีจากเกษตรกรในประเทศ ผ่านขั้นตอนการผลิตที่ได้มาตรฐานสากล และใช้การออกแบบแพคเกจจิ้งที่ทันสมัย ปัจจุบัน บริษัท เอ็กโซติค ฟู้ด เป็นผู้ส่งออกผลิตภัณฑ์ไปยัง 65 ประเทศและได้รับรางวัลมากมายจากเวทีนานาชาติ อ่านเพิ่มเติม: จิตติพร จันทรัช เสิร์ฟรสชาติความเป็นไทย   lalin property logo Lalin Property ประเภทธุรกิจ: พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ยอดขาย: 198 ล้านเหรียญสหรัฐฯ รายได้สุทธิ: 43 ล้านเหรียญสหรัฐฯ มูลค่าตลาด: 253 ล้านเหรียญสหรัฐฯ บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) เริ่มบริษัทด้วยทุนจดทะเบียนจำนวน 20 ล้านบาท โดยบริษัทดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ประเภทที่อยู่อาศัย ซึ่งเน้นพัฒนาโครงการบ้านจัดสรร ทาวน์โฮม รวมถึงคอนโดมิเนียม นอกจากนี้ บริษัทยังเผยว่าเป็นผู้นำธุรกิจด้านการจัดซื้อโครงการและที่ดินซึ่งเป็นหลักประกันของหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ของสถาบันการเงินต่างๆ รวมทั้งเป็นผู้จัดซื้อจากการประมูลทรัพย์สินจากองค์การเพื่อการปฏิรูประบบสถาบันการเงิน (ปรส.) เพื่อมาพัฒนาโครงการต่อ ปัจจุบัน บริษัทมีทุนจดทะเบียนชำระแล้วทั้งสิ้นจำนวน 825 ล้านบาท อ่านเพิ่มเติม: ลลิลฯ ประเมิน ‘ตลาดอสังหาฯ’ ไทยปี’62 ลดการเติบโตเหลือ 3-4%   MCS Steel logo M.C.S. Steel ประเภทธุรกิจ: ผลิตและจัดจำหน่ายวัสดุก่อสร้าง ยอดขาย: 216 ล้านเหรียญสหรัฐฯ รายได้สุทธิ: 44 ล้านเหรียญสหรัฐฯ มูลค่าตลาด: 169 ล้านเหรียญสหรัฐฯ บริษัท เอ็ม.ซี.เอส.สตีล จำกัด (มหาชน) ซึ่งก่อตั้งในปี 2535 เป็นบริษัทแนวหน้าในไทยที่ผลิตและจัดจำหน่ายโครงสร้างเหล็กขนาดใหญ่ สำหรับโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ด้วยประสบการณ์มากกว่า 30 ปี ในการผลิตโครงสร้างอาคารเหล็กที่ใช้ในอาคารสูง โรงงานไฟฟ้า สะพาน และงานก่อสร้างทั่วไป ปัจจุบัน บริษัทขยายธุรกิจและยกระดับการให้บริการรวมถึงส่งออกงานโครงสร้างเหล็กไปยังหลายโปรเจ็กต์ทั่วโลก โดยเฉพาะที่ญี่ปุ่น ซึ่งมีจำนวนถึง 50,000 ตันต่อปี   mega logo Mega Lifesciences ประเภทธุรกิจ: เวชภัณฑ์ ยอดขาย: 442 ล้านเหรียญสหรัฐฯ รายได้สุทธิ: 61 ล้านเหรียญสหรัฐฯ มูลค่าตลาด: 1.31 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ บริษัท เมก้า ไลฟ์ไซแอ็นซ์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งมีที่ตั้งสำนักงานใหญ่ในประเทศไทยและอยู่ภายใต้การบริหารของซีอีโอชาวอินเดีย Vivek Dhawan เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าด้านเวชภัณฑ์ อาทิ ยาแคปซูลรักษาโรค ​วิตามิน รวมถึงผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเพื่อสุขภาพสำหรับเด็กและผู้ใหญ่ ปัจจุบัน บริษัททำการขยายธุรกิจและส่งออกผลิตภัณฑ์ไปยังหลายภูมิภาค ได้แก่ เอเชียแปซิฟิก ตะวันออกกลาง และกลุ่มประเทศสหราชอาณาจักร อ่านเพิ่มเติม: เจ้าของแบรนด์ดังแชร์ประสบการณ์ธุรกิจ   pioneer motor logo Pioneer Motor ประเภทธุรกิจ: ผลิตมอเตอร์ไฟฟ้า ยอดขาย: 31 ล้านเหรียญสหรัฐฯ รายได้สุทธิ: 3 ล้านเหรียญสหรัฐฯ มูลค่าตลาด: 62 ล้านเหรียญสหรัฐฯ บริษัท ไพโอเนียร์ มอเตอร์ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ผลิตชั้นนำด้านมอเตอร์ไฟฟ้าในเครื่องปรับอากาศ รวมถึงมอเตอร์ที่ใช้ในอุตสาหกรรมทั่วไปและเครื่องสูบน้ำที่มีคุณภาพสูง โดยบริษัทมีการขยายกำลังการผลิตอย่างต่อเนื่อง พร้อมนำนวัตกรรมใหม่ๆ มาปรับใช้เพื่อส่งมอบสินค้าที่ได้มาตรฐานให้แก่ผู้ซื้อ อ่านเพิ่มเติม: วสันต์ อิทธิโรจนกุล PIMO ปั่นมอเตอร์โกอินเตอร์   sappe logo Sappe ประเภทธุรกิจ: อาหารและเครื่องดื่ม ยอดขาย: 108 ล้านเหรียญสหรัฐฯ รายได้สุทธิ: 13 ล้านเหรียญสหรัฐฯ มูลค่าตลาด: 302 ล้านเหรียญสหรัฐฯ บริษัท เซ็ปเป้ จำกัด (มหาชน) ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพและความงามในไทยรวมทั้งเป็นผู้ส่งออกสินค้าเพื่อเจาะตลาดโลกกว่า 98 ประเทศ โดยสินค้าที่เป็นผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มมีตั้งแต่ น้ำผลไม้ เครื่องดื่มแต่งกลิ่นผลไม้ ตลอดจน กาแฟควบคุมน้ำหนักซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์แบบผงพร้อมชง นอกเหนือจากเครื่องดื่มแล้ว เซ็ปเป้ ยังผลิตสินค้าประเภทขนมเพื่อสุขภาพรวมถึงอาหารเสริมชนิดผง เช่น เซ็ปเป้ บิวติ พาวเดอร์ และ เพรียว คลอโรฟิลล์ ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยดีท็อกซ์ขับล้างสารพิษ ปัจจุบัน เซ็ปเป้ ดำเนินธุรกิจภายใต้ 12 แบรนด์ และมีสินค้าที่ใช้วัตถุดิบโดยเกษตรไทย เช่น โมกุ โมกุ ซึ่งเป็นน้ำผลไม้ผสมวุ้นมะพร้าว, เซ็ปเป้ อโลเวร่า และออลโคโค่ ล่าสุดเตรียมรุกผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับกัญชา กัญชง อ่านเพิ่มเติม: โจทย์สองด้านของ SAPPE   supalai logo Supalai ประเภทธุรกิจ: อสังหาริมทรัพย์ ยอดขาย: 911 ล้านเหรียญสหรัฐฯ รายได้สุทธิ: 221 ล้านเหรียญสหรัฐฯ มูลค่าตลาด: 1.27 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) ก่อตั้งในปี 2532 ด้วยทุนจดทะเบียนจำนวน 100,000,000 บาท ดำเนินธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์สำหรับที่อยู่อาศัยและเพื่อการพาณิชย์ โดยในระยะแรกบริษัทได้ประกอบกิจการโครงการบ้านจัดสรร ทั้งที่เป็นบ้านเดี่ยว และทาวน์เฮ้าส์ จนกระทั่งได้เดินหน้าขยายธุรกิจพัฒนาโครงการอาคารชุด อาคารสำนักงานสำหรับให้เช่า ที่พักตากอากาศ รวมถึง รีสอร์ตและโรงแรม ทำให้บริษัท ศุภาลัยขยับขึ้นมาอยู่ในระดับแนวหน้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ อ่านเพิ่มเติม: เคล็ดไม่ลับ “ศุภาลัย” คว้าโอกาสลงทุนต่างแดน   ไทยเทพรส โลโก้ Thaitheparos ประเภทธุรกิจ: อาหาร ยอดขาย: 97 ล้านเหรียญสหรัฐฯ รายได้สุทธิ: 19 ล้านเหรียญสหรัฐฯ มูลค่าตลาด: 302 ล้านเหรียญสหรัฐฯ บริษัท ไทยเทพรส จำกัด (มหาชน) ประกอบกิจการผลิตและจำหน่ายเครื่องปรุงรสอาหาร ภายใต้แบรนด์ชื่อดังและเป็นที่ใช้อย่างแพร่หลายในร้านอาหาร อาทิ ซอสพริกยี่ห้อ “ศรีราชพาณิชย์” รวมถึง “คินซัน” ที่จำหน่าย ซีอิ๊วญี่ปุ่น และ “ภูเขาทอง” ซึ่งประกอบด้วยกลุ่มสินค้าที่เป็นซอสปรุงรส น้ำส้มสายชูกลั่น ซอสมะเขือเทศ ซอสหอยนางรม ซีอิ๊วขาว นอกจากนี้ บริษัท ไทยเทพรส ยังประกอบธุรกิจที่รับผลิตสินค้าตามเครื่องหมายการค้าอื่นๆ อีกด้วย   wice logo WICE Logistics ประเภทธุรกิจ: โลจิสติกส์ ยอดขาย: 239 ล้านเหรียญสหรัฐฯ รายได้สุทธิ: 17 ล้านเหรียญสหรัฐฯ มูลค่าตลาด: 304 ล้านเหรียญสหรัฐฯ บริษัท ไวส์ โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) ดำเนินธุรกิจด้านโลจิสติกส์ โดยให้บริการรับจัดการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ ทั้งทางอากาศและทางทะเลในเส้นทางหลักระหว่างไทยและสหรัฐอเมริกา รวมถึงให้บริการขนส่งสินค้าแบบ Door-to-Door กระทั่งต่อมาบริษัทได้ขยายการให้บริการครอบคลุมถึงการให้บริการด้านพิธีการทางศุลกากร โดยในปี 2558 บริษัทได้แปรสภาพเป็นบริษัทมหาชนจำกัด ด้วยทุนจดทะเบียนจำนวน 300 ล้านบาท อ่านเพิ่มเติม: Best Under A Billion: สุดยอดบริษัทมหาชนรายได้ต่ำกว่าพันล้านแห่งเอเชีย ปี 2022 ที่มาข้อมูล: ForbesAsia, SET Thailand