การระบาดใหญ่ของโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบต่อผู้หญิงทั่วโลกเป็นอย่างมาก โดยในเดือนมกราคม 2021 มีผู้หญิงราว 3 ล้านรายลาออกจากงานในสหรัฐอเมริกาเพียงประเทศเดียว ขณะที่ในภาพรวมมีผู้หญิงสูญเสียงานมากกว่า 64 ล้านตำแหน่ง และมีรายได้อย่างน้อย 8 แสนล้านเหรียญในปีที่แล้ว ด้วยเหตุนี้ระยะเวลาที่ใช้ในการปิดช่องว่างค่าจ้างระหว่างเพศทั่วโลกจึงเพิ่มขึ้นจาก 99.5 ปีเป็น 135.6 ปี ตามรายงานของ World Economic Forum
การปะทุของโควิด-19 ในช่วงที่ผ่านมา ได้ผลักภาระให้กับผู้หญิงหลายคนให้ต้องลาออกจากงาน ต่อยอดไปจากประเด็นปัญหาเดิมๆ ไม่ว่าจะเป็นการบริหารจัดการเวลาทำงานและเวลาในการดูแลครอบครัว ความเครียด การขาดโอกาส ค่าจ้างแรงงานที่ต่ำ และในอีกหลายๆ กรณี
ทว่าท่ามกลางวิกฤตที่ทำลายล้างนี้ก็ได้ปรากฎให้เห็นถึงสัญญาณของความก้าวหน้า เพราะล่าสุดสภาคองเกรสได้หยิบยกประเด็นเรื่องการสนับสนุนการดูแลเด็กและการดูแลผู้สูงอายุขึ้นมาพิจารณา ขณะที่การทำงานทางไกลได้เติบโตขึ้นจากการอนุโลมให้เป็นกรณีพิเศษเป็นความสำคัญอันดับต้นๆ สำหรับทุกคน ขณะที่นายจ้างที่ชาญฉลาดพยายามส่งเสริมและสนับสนุนผู้หญิง เพื่อดึงดูดผู้มีความสามารถให้เข้าร่วมงานกับตน
ด้าน Forbes ได้ร่วมมือกับบริษัทวิจัยตลาด
Statista เพื่อระบุบริษัทที่เป็นผู้นำในการพยายามสนับสนุนผู้หญิทั้งภายในและภายนอกองค์กร เพื่อจัดอันดับ
‘บริษัทชั้นนำของโลกที่เป็นมิตรต่อผู้หญิง’ โดยการสำรวจผู้หญิง 85,000 รายใน 40 ประเทศ จากเกณฑ์การให้คะแนนนายจ้าง เช่น การจ่ายค่าตอบแทนและการลาเพื่อเลี้ยงดูบุตร
นอกจากนี้ Statista ยังขอให้ผู้หญิงประเมินว่าบริษัทต่างๆ ใช้แพลตฟอร์มและข้อความทางการตลาดอย่างไร เพื่อส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศหรือเพื่อสร้างภาพลักษณ์เชิงลบให้คงอยู่ต่อไป ขณะที่การเป็นตัวแทนในระดับผู้บริหารและคณะกรรมการก็ถูกนำมาพิจารณาเช่นกัน
จาก 300 บริษัทชั้นนำ มีเพียง 20 แห่งเท่านั้นที่นำโดยผู้หญิง ซึ่งในปีนี้
Hershey Co. ก็ได้ครองตำแหน่งสูงสุดของทำเนียบเช่นเคย หลังจากที่บริษัทเห็นพ้องให้
Michele Buck ซีอีโอคนปัจจุบันนำทัพธุรกิจโรงงานช็อคโกแลตที่มีอายุกว่า 127 ปี หลังจากที่เธอได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งระดับต้นๆ ในปี 2017
ปัจจุบัน บริษัทซึ่งตั้งอยู่ใน Pennsylvania มีสัดส่วนของผู้หญิงในคณะกรรมการธุรกิจราวร้อยละ 42 และคาดว่าภายในปี 2025 จะมีผู้หญิงในกำลังแรงงานเป็นร้อยละ 50 และอีกร้อยละ 42 ในตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงขององค์กร เพิ่มขึ้นจากปัจจุบันที่มีอยู่ที่ร้อยละ 48 และ 37 ตามลำดับ
Alicia Petross หัวหน้าเจ้าหน้าที่ด้านความหลากหลายของ Hershey เผยว่า ขณะนี้บริษัทกำลังตั้งเป้าที่จะปิดช่องว่างการจ่ายเงินทั่วโลก
“ฉันดีใจที่เราอยู่ในช่วงเวลาแห่งการจ่ายค่าตอบแทนสำหรับผู้หญิงที่เท่าเทียมกันในสหรัฐฯ โดยไม่คำนึงถึงสีผิว” เธอกล่าว
“ความเท่าเทียมในการจ่ายค่าตอบแทนเป็นองค์ประกอบสำคัญในการสร้างความมั่นใจว่าผู้หญิงจะเดินหน้าต่อไปในอุตสาหกรรมนี้และในอุตสาหกรรมอื่นๆ”
เพื่อให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าว Hershey ได้เปิดตัวโครงการริเริ่มที่เรียกว่า
Pathways Project ในช่วงที่มีการระบาดใหญ่ ซึ่งเป็นแผน 5 ปีเพื่อทำให้สถานที่ทำงานและชุมชนเป็นสังคมสำหรับทุกเพศทุกวัยมากขึ้น และแอปพลิเคชัน
HSY Care Connect ซึ่วเกิดจากความร่วมมือระหว่างทีมทรัพยากรบุคคลและกลุ่มทรัพยากรธุรกิจของผู้หญิง เพื่อแบ่งปันข้อมูลในด้านการดูแลเด็ก การขนส่ง การสอนพิเศษ และการดูแลผู้สูงอายุ
ด้าน
Lynne Oldham ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลของ
Zoom Video Communications ซึ่งครองอันดับ 9 ของทำเนียบ เผยว่า กลุ่มบริษัทเทคโนโลยีใน Silicon Valley ได้ปรับรูปแบบการการคัดเลือกและจัดจ้างพนักงานใหม่ให้มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น เพื่อสอดรับกับฟีเจอร์ที่ครอบคลุมหลากหลายภาษา ขณะที่การสัมภาษณ์จะเป็นไปในรูปแบบเดียวกันทั้งหมด เพื่อลดช่องว่างทางด้านเพศสภาพ และเพิ่มสัดส่วนการจัดจ้างผู้หญิง
“บางครั้งคุณกำลังมองหาตัวเองผ่านหน้าจอวิดีโอ” Oldham กล่าว
“กระบวนการสัมภาษณ์แบบมีโครงสร้างมีความสำคัญมาก เพราะนั่นทำให้เรามั่นใจว่าการสัมภาษณ์ดำเนินไปอย่างโปร่งใส ซึ่งจะช่วยให้เราลดอคติลงและสามารถดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น”
ในทำนองเดียวกัน Zoom ยังได้ร่วมมือกับพันธมิตรอย่างองค์กรการกุศล เช่น
If Chloe Can ซึ่งเป็นองค์กรในสหราชอาณาจักรที่จัดเวิร์กช็อปและเชื่อมโยงวัยรุ่นกับที่ปรึกษา เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการเข้าสู่ตลาดแรงงาน ขณะที่ในช่วงการระบาดของโควิดที่มีมาตรการเว้นระยะห่าง Zoom ก็ได้เอื้ออำนวยความสำดวกในการเขียนโปรแกรมผ่านบริการต่างๆ โดยไม่เรียกเก็บค่าใช้จ่าย
ขณะที่
Estee Lauder Cos. ยังคงให้ความสำคัญกับกิจกรรมการกุศลอย่างต่อเนื่องหลังจากที่ในปี 1989 เมื่อ Evelyn Lauder ลูกสะใภ้ของผู้ก่อตั้งบริษัท ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งเต้านม บริษัทเครื่องสำอางที่มีชื่อเสียงได้ให้คำมั่นที่จะสร้างความตระหนักในเรื่องสุขภาพเต้านม (Lauder ได้รับการยกย่องว่ามีส่วนช่วยในการสร้างสัญลักษณ์ริบบิ้นสีชมพู) และสนับสนุนเงินเพื่อการวิจัยเป็นมูลค่ามากกว่า 108 ล้านเหรียญในช่วง 3 ทศวรรษที่ผ่านมา
ไม่นานมานี้ ทางแบรนด์ใน New York ได้ร่วมมือกับ
Amanda Gorman นับตั้งแต่ที่เธอก้าวขึ้นเป็นกวีคนแรกที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ เมื่อปีที่แล้ว พัฒนาโครงการริเริ่มด้านการอ่านเขียนสำหรับผู้หญิงและเด็กผู้หญิงมูลค่า 3 ล้านเหรียญ นอกจากนี้ Estee Lauder ยังได้เข้าร่วมโครงการ
Five for 5 Initiative ของ United Nations Foundation ซึ่งมุ่งมั่นที่จะบรรลุเป้าหมาย เช่น กความเท่าเทียมทางเพศภายในปี 2023 และขยายโอกาสในการพัฒนาความเป็นผู้นำของผู้หญิง
Sara Moss รองประธานบริษัทกล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันบริษัทมีโครงการให้คำปรึกษาแล้ว เช่นเดียวกับคณะทำงานที่มุ่งเน้นการขยายผลประโยชน์ เช่น การดูแลเด็กและผู้สูงอายุ ซึ่งจะส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศ
“เรามีวัฒนธรรม เช่นเดียวกับกลยุทธ์ และหลักฐานที่เราส่งเสริมและสนับสนุนผู้หญิงอย่างตรงไปตรงมา” Moss กล่าวพร้อมระบุว่า ร้อยละ 82 ของพนักงานทั่วโลกของบริษัทเป็นผู้หญิง และกว่าร้อยละ 59 ดำรงตำแหน่งในระดับรองประธานขึ้นไป ขณะที่อีกร้อยละ 44 อยู่ในบอร์ดคณะกรรมการ
“สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นได้ว่า ผู้หญิงสามารถประสบความสำเร็จ คุณสามารถเป็นอะไรก็ได้ที่คุณต้องการในบริษัทนี้ เพราะเราได้แสดงให้เห็นแล้ว ไม่ใช่แค่ปีนี้หรือปีที่แล้ว แต่ตลอดช่วงประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา”
พบกับ
10 บริษัทชั้นนำของโลกที่เป็นมิตรต่อผู้หญิง ประจำปี 2021
อันดับ 1
The Hershey Company
อุตสาหกรรม: อาหาร เครื่องดื่ม และบุหรี่
จำนวนพนักงาน: 16,880 ราย
ปีที่ก่อตั้ง: 1894
อันดับ 2
Southwest Airlines
อุตสาหกรรม: การเดินทางและท่องเที่ยว
จำนวนพนักงาน: 56,537 ราย
ปีที่ก่อตั้ง: 1967
อันดับ 3
Miele Gruppe
อุตสาหกรรม: วิศวกรรม การผลิต
จำนวนพนักงาน: 20,900 ราย
ปีที่ก่อตั้ง: 1899
อันดับ 4
Skanska
อุตสาหกรรม: การก่อสร้าง การขุดเจาะ น้ำมันและปิโตรเคมี
จำนวนพนักงาน: 34,000 ราย
ปีที่ก่อตั้ง: 1887
อันดับ 5
Citrix Systems
อุตสาหกรรม: บริการด้านอินเทอร์เน็ตและซอฟต์แวร์
จำนวนพนักงาน: 9,000 ราย
ปีที่ก่อตั้ง: 1989
อันดับ 6
Spotify Technology
อุตสาหกรรม: ความบันเทิงและโฆษณา
จำนวนพนักงาน: 2,960 ราย
ปีที่ก่อตั้ง: 2006
อันดับ 7
Merck KGaA, Darmstadt, Germany
อุตสาหกรรม: เภสัชกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพ
จำนวนพนักงาน: 58,408 ราย
ปีที่ก่อตั้ง: 1668
อันดับ 8
AptarGroup
อุตสาหกรรม: บรรจุภัณฑ์
จำนวนพนักงาน: 13,000 ราย
ปีที่ก่อตั้ง: 1992
อันดับ 9
Zoom Video Communications
อุตสาหกรรม: บริการด้านอินเทอร์เน็ตและซอฟต์แวร์
จำนวนพนักงาน: 4,422 ราย
ปีที่ก่อตั้ง: 2011
อันดับ 10
Iberdrola
อุตสาหกรรม: โครงสร้างพื้นฐาน
จำนวนพนักงาน: 45,000 ราย
ปีที่ก่อตั้ง: 1992
แปลและเรียบเรียงจากบทความ Meet The World’s Top Female-Friendly Companies 2021 เผยแพร่บน Forbes.com โดย ชญาน์นัทช์ ธนินท์พงศ์ภัค
อ่านเพิ่มเติม:
Best Under a Billion: 8 สุดยอดบริษัทรายได้ต่ำกว่าพันล้านเหรียญแห่งเอเชีย ปี 2021