เป็นเวลานับสิบๆ ปีที่ Forbes ศึกษามูลค่าความมั่งคั่งของมหาเศรษฐีทั่วโลก แต่มูลค่าทรัพย์สินส่วนตัวของ Vladimir Putin ผู้นำรัสเซียยังคงเป็นปริศนาที่ลึกลับที่สุด ยากเสียยิ่งกว่ามูลค่าความมั่งคั่งของบรรดาทายาทตระกูล Dupont ผู้ลึกลับ Queen Elizabeth หรือแม้กระทั่งเงินจากการค้ายาเสพติดของ “El Chapo” Joaquin Guzmán เสียอีก
ตามข้อมูลจากเอกสารที่มี Vladimir Putin คือ ข้าราชการผู้ติดดิน มีรายได้ปีละ 140,000 เหรียญสหรัฐฯ มีรถยนต์ 3 คัน อะพาร์ตเมนต์เล็กๆ 2 แห่ง รถพ่วงคันหนึ่ง กับพื้นที่จอดรถบางส่วน แต่ก็มีการตั้งข้อสงสัยว่า อันที่จริงแล้วเขาน่าจะมีทรัพย์สินมากกว่านั้นนับพันนับหมื่นล้าน ผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินจากสหรัฐฯ ที่เคยอาศัยอยู่ในรัสเซียมายาวนาน 10 ปี และเป็นผู้อยู่เบื้องหลังกฎหมาย Magnitsky Act (กฎหมายที่ทำให้สหรัฐฯ สามารถกำหนดบทลงโทษผู้กระทำผิดด้านสิทธิมนุษยชน ด้วยการอายัดทรัพย์ได้) ยืนยันว่า หลังจากที่ Putin จับกุมเศรษฐีพันล้านน้ำมันคือ Mikhail Khodorkovsky เมื่อปี 2003 เขาก็เริ่มทำข้อตกลงกับบรรดานักธุรกิจผู้ทรงอิทธิพลอื่นๆ “แบ่งมาให้ผมครึ่งหนึ่ง แล้วผมจะให้คุณเก็บไว้อีกครึ่งหนึ่ง” Browder กล่าว เขายังบอกด้วยว่า Putin ขู่จะริบทรัพย์สินของคนพวกนั้นและจับเข้าคุกถ้าไม่ทำตาม จากข้อมูลดังกล่าว Browder คำนวณว่า มูลค่าทรัพย์สินสุทธิของ Putin น่าจะมี 2 แสนล้านเหรียญในปี 2017 ใกล้เคียงกับตำแหน่งชายที่รวยที่สุดในโลกเลยทีเดียว อย่างไรก็ตาม Browder ไม่มีข้อพิสูจน์ใดๆ แต่มีหลักฐานที่ชี้ว่า Putin บังคับให้ผู้ครองอำนาจปกครองในสมัยของ Boris Yeltsin ขายทรัพย์สินกลับคืนให้กับรัสเซียเพื่อเพิ่มอำนาจให้กับตัวเอง ในปี 2005 Roman Abramovich ขายหุ้นส่วนที่เหลือของตนในบริษัทน้ำมัน Sibneft ไปให้กับ Gazprom กลุ่มบริษัทอยู่ในความควบคุมของรัฐในราคา 1.31 หมื่นล้านเหรียญ โดยจ่ายเป็นเงินสด ความเคลื่อนไหวดังกล่าว ทำให้ Putin มีอำนาจควบคุมทรัพย์สินกลุ่มน้ำมันและก๊าซเพิ่มขึ้น ต่อมาในปี 2013 Mikhail Fridman และกลุ่มผู้ครองอำนาจคนอื่นๆ ซึ่งรวมถึง German Khan ด้วยนั้น ขายบริษัทน้ำมันของตนคือ TNK-BP ไปให้รัฐวิสาหกิจ Rosneft ในราคา 5.6 หมื่นล้านเหรียญ (BP ยักษ์ใหญ่อุตสาหกรรมพลังงานของสหราชอาณาจักรได้เงินจากการทำสัญญาครั้งนี้เช่นกัน) ความเป็นไปได้มากที่สุดคือ ประธานาธิบดีรัสเซียทำเงินจากการมอบสัญญาของรัฐบาล รวมทั้งความเป็นเจ้าของธุรกิจให้กลุ่มคนสนิทแลกกับส่วนลดราคา ในปี 2004 Gazprom เริ่มทยอยกระจายทรัพย์สินมีค่าไปให้กลุ่มธุรกิจต่างๆ ที่อยู่ภายใต้ความควบคุมของกลุ่มเพื่อน Putin ในราคาย่อมเยา ซึ่งรวมถึงยักษ์ใหญ่ธุรกิจประกันภัย Sogaz ที่ตกไปเป็นของ Yuri Kovalchuk เพื่อนเก่าเพื่อนแก่ของ Putin ที่ถึงกับมีบ้านในย่านอสังหาริมทรัพย์เดียวกันที่ Ozero นอกจากนี้ เขายังเป็น 1 ในเศรษฐีพันล้านของรัสเซียที่มีอยู่ด้วยกันไม่น้อยกว่า 6 คน รวมถึง Gennady Timchenko และ Arkady กับ Boris Rotenberg ที่ร่ำรวยขึ้นมาได้จากความสัมพันธ์กับรัฐบาลรัสเซีย Putin ยังมีความเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดกับอาณาจักรอาคารขนาดใหญ่บนชายฝั่งทะเลดำ ซึ่ง Alexei Navalny ผู้นำพรรคฝ่ายค้าน (ถูกจำคุก) เรียกว่า “วังของ Putin” มีรายงานว่า Alexander Ponomarenko เศรษฐีพันล้านอีก 1 รายที่สร้างเนื้อสร้างตัวได้เพราะ Putin นั้นซื้อทรัพย์สินดังกล่าวไปในราคา 350 ล้านเหรียญเมื่อ 10 ปีก่อน ต่อมาในปี 2021 หลังจากมูลนิธิของ Navalny ในลิทัวเนียเปิดเผยสารคดีสืบสวนในเรื่องนี้ Arkady Rotenberg เพื่อนเก่าอีกรายของ Putin ก็ประกาศอ้างสิทธิความเป็นเจ้าของ นอกจากนี้ ผู้นำรัสเซียยังเกี่ยวข้องกับเรือซูเปอร์ยอช์ตอีก 3 ลำ คือ Chayka ราคา 18 ล้านเหรียญ Graceful ราคา 120 ล้านเหรียญ และ Scheherazade ราคา 700 ล้านเหรียญ จากการเปิดเผยผ่านการสืบสวนของ Nalvany เมื่อเดือนมีนาคม แต่ใช่ว่าข้อมูลที่กล่าวมาจะสลักสำคัญอะไรเพราะ Putin ปฏิบัติต่อชาวรัสเซียเสมือนกระปุกออมสินส่วนตัวให้กับตัวเขาเองอยู่แล้ว อย่างที่กระทรวงการคลังสหรัฐฯ กล่าวไว้เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ว่า ต่อให้กองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติจำนวน 1 หมื่นล้านเหรียญของรัสเซียจะทำหน้าที่เป็น “กองทุนสินบน” และเห็นได้ชัดว่า Putin สนใจอำนาจในมือมากกว่ากองเงินกองทอง แต่หากใครมีอำนาจขึ้นมาเมื่อไร ทุกอย่างที่มีอยู่ก็อาจโดนยึดไปได้ง่ายๆ เรื่อง: GIACOMO TOGNINI และ JOHN HYATT เรียบเรียง: รัน-รัน ภาพประกอบ: MATT CHASE อ่านเพิ่มเติม: DAO เหนือแฟชั่นคือแพลตฟอร์มคลิกอ่านฉบับเต็มและบทความทางด้านธุรกิจได้ที่นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนกรกฎาคม 2565 ในรูปแบบ e-magazine