<h2>ไมเนอร์ โฮเทลส์ ประกาศการกลับมาเปิดให้บริการ เอ็นเอช คอลเลคชั่น มัลดีฟส์ รีธี รีสอร์ท (NH Collection Maldives Reethi Resort) อีกครั้ง ในวันที่ 18 ธันวาคม 2568 นี้ พร้อมมอบประสบการณ์การเข้าพักที่ผสมผสานระหว่างเสน่ห์ดั้งเดิมของมัลดีฟส์และความสะดวกสบายร่วมสมัยได้อย่างลงตัว ในอะทอลล์ที่สวยงามมากที่สุดแห่งหนึ่ง</h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;รีสอร์ทแห่งนี้ซึ่งเคยเป็นที่รู้จักในชื่อ รีธี บีช รีสอร์ท (Reethi Beach Resort) กำลังอยู่ในขั้นตอนสุดท้ายของการปรับปรุงที่ดำเนินมาแล้วเป็นเวลากว่าหกเดือน เพื่อเปลี่ยนเป็น เอ็นเอช คอลเลคชั่น มัลดีฟส์ รีธี รีสอร์ท โดยได้มีการปรับโฉมวิลล่า ร้านอาหาร และสิ่งอำนวยความสะดวกใหม่ทั้งหมด ในขณะที่คงรักษาความงดงามทางธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ของเกาะเอาไว้&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;เอ็นเอช คอลเลคชั่น มัลดีฟส์ รีธี รีสอร์ท ตั้งอยู่ในบาอะทอลล์ (Baa Atoll) ซึ่งเป็นเขตสงวนชีวมณฑลของยูเนสโก (UNESCO Biosphere Reserve) สามารถเดินทางได้ด้วยเครื่องบินน้ำเพียง 35 นาทีจากสนามบินนานาชาติเวลานา (Velana International Airport) โดยอ่าวฮานิฟารู (Hanifaru Bay) เป็นอ่าวที่มีชื่อเสียงด้านกระเบนราหู ปลาฉลามวาฬ และเต่า ซึ่งอยู่ห่างออกไปไม่ถึง 20 นาที​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/10/Z8aniwTEfix6c3Gv1pUX.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-index="0" data-file-name="Z8aniwTEfix6c3Gv1pUX.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style=""></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;เอ็นเอช คอลเลคชั่น รีธี ประกอบด้วยวิลล่าทั้งหมด 105 หลัง ทั้งแบบริมชายหาดและกลางน้ำ ซึ่งออกแบบอย่างพิถีพิถันเพื่อผสมผสานเสน่ห์แบบดั้งเดิมของมัลดีฟส์เข้ากับความสะดวกสบายสมัยใหม่ สำหรับผู้เข้าพักที่เลือก บีช วิลล่า สามารถตื่นมารับวิวทะเลอันงดงามและสัมผัสการพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติบนชายหาดที่ห่างเพียงไม่กี่ก้าว&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;รีสอร์ทยังได้เพิ่มวิลล่าพร้อมสระว่ายน้ำส่วนตัวอีก 16 หลัง เพื่อให้ผู้เข้าพักได้เพลิดเพลินกับการแช่น้ำในบรรยากาศส่วนตัวได้อย่างสะดวกสบาย ทางด้านเหนือของเกาะคือที่ตั้งของวิลล่าเหนือน้ำบนทะเลสีฟ้าใส พร้อมระเบียงส่วนตัวที่เปิดรับวิวพาโนรามา เหมาะสำหรับอาบแดดในเวลากลางวัน หรือชมดาวที่ส่องประกายในยามค่ำคืน <div class="se-component se-image-container __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/10/SQVHQSXf7zrK3PkyVgfe.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-index="2" data-file-name="SQVHQSXf7zrK3PkyVgfe.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style=""></figure></div>​&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;รีสอร์ทแห่งนี้ยังนำเสนอร้านอาหารและบาร์ 7 แห่งที่คัดสรรมาอย่างพิถีพิถันและต่างมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ผู้เข้าพักสามารถเลือกได้อย่างเพลิดเพลินกับตัวเลือกที่หลากหลายจาก 3 ห้องอาหารหลักของ เอ็นเอช คอลเลคชั่น รีธี ได้แก่ Alifaan ร้านอาหารริมชายหาดสไตล์กริลล์ที่โดดเด่นด้วยการปรุงอาหารบนเตาถ่าน, Kaiyo ห้องอาหารกลางน้ำที่ผสานเสน่ห์ของท้องทะเล ท้องฟ้า และศิลปะการปรุงอาหารเอเชียเข้าด้วยกัน และ Jumla ห้องอาหารที่เสิร์ฟอาหารตลอดทั้งวัน นำเสนอรสชาติจากทั่วโลกควบคู่กับวัตถุดิบสดใหม่จากเกาะ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;สำหรับผู้ที่ต้องการเพลิดเพลินกับอาหารว่างและเครื่องดื่มสไตล์ทรอปิคอลริมสระ สามารถเลือกผ่อนคลายได้ที่ Madumaithri บาร์อินฟินิตี้พูลใหม่ริมชายหาด หรือดื่มด่ำกับเมนูสุขภาพที่เหมาะกับทุกวัยที่ Aqua Bar ข้างสระว่ายน้ำหลักของรีสอร์ท​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/10/FJT8TEQT3eb4T57NU1KE.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-index="3" data-file-name="FJT8TEQT3eb4T57NU1KE.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style=""></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;เมื่อพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า แขกผู้เข้าพักสามารถเปลี่ยนบรรยากาศได้ที่บาร์ริมทะเล Atardecer อีกแห่งที่เหมาะอย่างยิ่งช่วงเวลาชมพระอาทิตย์ตกดิน ที่นอกจากจะมีทาปาส ค็อกเทลและเครื่องดื่มหลากหลายแล้ว ยังมีดนตรีจากดีเจและกิจกรรมความบันเทิงให้ได้เพลิดเพลิน อีกหนึ่งมุมลับบนเกาะคือ Handhuvaru บาร์รัมที่แฝงตัวอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ โดดเด่นด้วยบรรยากาศสงบหรูหรา&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;สำหรับผู้ที่มองหาประสบการณ์การรับประทานอาหารสุดพิเศษ รีสอร์ทยังมีไวน์เซลลาร์สำหรับ Fine Dining ที่จะพาแขกออกเดินทางบนเส้นทางรสชาติอันประณีต หรือจะเลือก Adrift สำหรับการรับประทานอาหารส่วนตัวในบรรยากาศกลางแจ้งสุดพิเศษของรีสอร์ทก็ได้เช่นกัน​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/10/pZNrbZGWJsJ9o5xofavb.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-index="4" data-file-name="pZNrbZGWJsJ9o5xofavb.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style=""></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;เอ็นเอช คอลเลคชั่น รีธี ดึงเสน่ห์ความงดงามของธรรมชาติออกมาอย่างเต็มที่ เพื่อนำเสนอประสบการณ์ใหม่ๆ ที่มีชีวิตชีวาทั้งบนบกและในน้ำ ผู้เข้าพักสามารถสนุกกับการดำน้ำตื้นที่แนวปะการังรอบเกาะซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของปลาหลากหลายสายพันธุ์ หรือเลือกไปทริปดำน้ำที่ อ่าวฮานิฟารู (Hanifaru Bay) เพื่อชมกระเบนราหู ปลากระเบน และปลาฉลามวาฬ ทั้งยังมีตัวเลือกกีฬาทางน้ำหลากหลาย สำหรับผู้ที่รักการผจญภัยและกิจกรรมทางน้ำ เช่น เจ็ตสกี เวคบอร์ด ฟลายบอร์ด คายัค วินด์เซิร์ฟ ไฮโดรไบค์ และสแตนด์อัพพายบอร์ด&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;REVIVE Spa ที่ได้รับการปรับโฉมใหม่ เป็นจุดหมายสำหรับการดูแลสุขภาพแบบองค์รวมที่ได้รับแรงบันดาลใจจากธรรมชาติ ผู้เข้าพักสามารถเลือกผ่อนคลายริมชายหาดหรือสระว่ายน้ำหลัก หรือคงความกระฉับกระเฉงได้ที่ Activity Centre ซึ่งมีฟิตเนส ห้องเกมส์ คิดส์คลับ และสนามสำหรับเทนนิส แบดมินตัน วอลเลย์บอล และพิคเคิลบอล เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ :&nbsp;<a target="_blank" href="https://forbesthailand.com/forbes-life/travel-forbes-life/michelin-guide-announce-michelin-key-2025" alt="‘มิชลิน ไกด์’ เผยรายชื่อ โรงแรมยอดเยี่ยม 62 แห่งในไทย ที่ได้รับรางวัล ‘กุญแจมิชลิน’">‘มิชลิน ไกด์’ เผยรายชื่อ โรงแรมยอดเยี่ยม 62 แห่งในไทย ที่ได้รับรางวัล ‘กุญแจมิชลิน’</a><a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

ไมเนอร์ โฮเทลส์ เตรียมเปิดให้บริการ ‘NH Collection Maldives Reethi Resort’ อีกครั้ง หลังปรับโฉมใหญ่

<h2>ไมเนอร์ โฮเทลส์ (Minor Hotels) วางศิลาฤกษ์โครงการโรงแรมอวานีแห่งแรกในสิงคโปร์&nbsp;โรงแรมไลฟ์สไตล์ขนาด 200 ห้อง คาดเปิดให้บริการในไตรมาส 2 ปี 2570&nbsp;</h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ไมเนอร์ โฮเทลส์ (Minor Hotels) บริษัทผู้ดำเนินธุรกิจโรงแรมระดับโลก ที่มีโรงแรม รีสอร์ต และเรสซิเดนซ์ รวมมากกว่า 640 แห่งใน 57 ประเทศ ฉลองก้าวสำคัญด้วยพิธีวางศิลาฤกษ์โครงการโรงแรมอวานีแห่งแรกในสิงคโปร์ ซึ่งจัดขึ้น ณ ที่ตั้ง เลขที่ 24 ถนน Peck Seah ในย่านตันจงปาการ์ (Tanjong Pagar) อันคึกคัก&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;พิธีนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการก่อสร้างโรงแรมไลฟ์สไตล์สูง 14 ชั้น ที่มีกำหนดเปิดให้บริการในไตรมาส 2 ปี 2570 โดยโครงการนี้เป็นการพัฒนาโดยความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ระหว่าง ไมเนอร์ โฮเทลส์ บริษัท Kajima Development จากสิงคโปร์ และบริษัท Al Wathba Investment จากอาบูดาบี ช่วยตอกย้ำความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติต่อศักยภาพของตลาดการท่องเที่ยวในสิงคโปร์ &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;พิธีดังกล่าวมีแขกผู้มีเกียรติเข้าร่วมงานกว่า 50 ท่าน โดยมีผู้บริหารและพันธมิตรโครงการร่วมเป็นประธานในพิธี ได้แก่ นายวิลเลียม อี. ไฮเน็ค (William E. Heinecke) ประธานและผู้ก่อตั้ง ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล (Minor International) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ ไมเนอร์ โฮเทลส์ (Minor Hotels), นายดิลิป ราชากาเรีย (Dillip Rajakarier) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ไมเนอร์ โฮเทลส์ และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล,&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ฯพณฯ โมฮาเหม็ด ไซฟ์ อัล สุไวดี (H.E. Mohamed Saif Al Suwaidi) กรรมการผู้จัดการ Al Wathba Investment; นายชูอิจิ โออิชิ (Shuichi Oishi) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Kajima Development, นายวินสตัน จู เหวินติง (Winston Zhu Wenting) กรรมการผู้จัดการ Kim Hua Construction Pte. Ltd. และนางแองเจลีน ชาน (Angelene Chan) ประธานกรรมการ DP Architects&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ในขณะที่แขกพิเศษที่ให้เกียรติเข้าร่วมงาน ได้แก่ ฯพณฯ ฮิโรชิ อิชิกาวะ (H.E. Hiroshi Ishikawa) เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำสิงคโปร์ และ ฯพณฯ นางอุรีรัตน์ เจริญโต เอกอัครราชทูตไทยประจำสิงคโปร์​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/08/itmkQD1X4VFtDNNrEq5p.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="itmkQD1X4VFtDNNrEq5p.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="0"></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;พิธีสำคัญนี้เริ่มต้นด้วยคำกล่าวต้อนรับโดยนายไฮเน็ค ซึ่งได้เน้นย้ำถึงความสำคัญเชิงกลยุทธ์ของโครงการและการขยายแบรนด์อวานี ในเมืองสำคัญทั่วโลก ต่อด้วยการนำเสนอภาพรวมของโครงการและวิสัยทัศน์เบื้องหลังโรงแรมแห่งใหม่นี้โดยตัวแทนจากทีมพัฒนา ก่อนแขกผู้มีเกียรติได้ร่วมกันตักดินเพื่อเป็นสัญลักษณ์ประกาศการเริ่มต้นอย่างเป็นทางการของโครงการใหม่ที่น่าตื่นเต้นของ อวานี โฮเทลส์ แอนด์ รีสอร์ท (Avani Hotels &amp; Resorts) ณ หนึ่งในเมืองที่มีความเจริญรุ่งเรืองมากที่สุดของเอเชีย&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;โดยนายวิลเลียม อี. ไฮเน็ค ประธานและผู้ก่อตั้ง ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล ได้กล่าวว่า “พิธีวางศิลาฤกษ์ในวันนี้เป็นช่วงเวลาแห่งความภาคภูมิใจของ ไมเนอร์ โฮเทลส์ ที่ได้นำแบรนด์อวานีมาสู่สิงคโปร์ ด้วยความร่วมมือจากพันธมิตรที่ไว้วางใจได้อย่าง Kajima และ Al Wathba เรากำลังสร้างสรรค์โครงการที่ไม่เพียงสะท้อนถึงความมุ่งมั่นร่วมกันในด้านนวัตกรรมและความเป็นเลิศ แต่ยังเฉลิมฉลองเอกลักษณ์ของการผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมและความทันสมัยของเมืองแห่งนี้อีกด้วย”&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ฯพณฯ โมฮาเหม็ด ไซฟ์ อัล สุไวดี กรรมการผู้จัดการ Al Wathba Investment กล่าวเสริมว่า “เรารู้สึกเป็นเกียรติที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของก้าวสำคัญนี้ พิธีวางศิลาฤกษ์ครั้งนี้ไม่เพียงเป็นจุดเริ่มต้นของการก่อสร้างเท่านั้น แต่ยังเป็นการสะท้อนวิสัยทัศน์ร่วมกันในการสร้างประสบการณ์ด้านการบริการและการต้อนรับที่มีเอกลักษณ์ที่ถ่ายทอดจิตวิญญาณของสิงคโปร์และพลังแห่งความร่วมมือของเรา”&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นายชูอิจิ โออิชิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Kajima Development ยังได้กล่าวในแถลงการณ์ว่า “พิธีวางศิลาฤกษ์ครั้งนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องของเราต่อสิงคโปร์ และความเชื่อมั่นในศักยภาพการเติบโตระยะยาวของวงการการบริการของที่นี่ เรารู้สึกภาคภูมิใจที่ได้เริ่มต้นโครงการที่มีส่วนส่งเสริมอนาคตของเมืองในฐานะจุดหมายปลายทางระดับโลกร่วมกับพันธมิตรของเรา”​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/08/nn2amnVxGjFVE2FYdf3K.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="nn2amnVxGjFVE2FYdf3K.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="1"></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;โรงแรมอวานี สิงคโปร์ แห่งใหม่ ขนาด 200 ห้องพัก ซึ่งจะตั้งอยู่ใจกลางย่านตันจงปาการ์ จะมอบประสบการณ์การพักผ่อนในเมืองระดับพรีเมียมที่ผสานเสน่ห์ของมรดกทางสถาปัตยกรรมของย่านอาคารเก่าแก่ของสิงคโปร์เข้ากับสไตล์ร่วมสมัยอันเป็นเอกลักษณ์ของอวานี&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;โดยมีสิ่งอำนวยความสะดวกประกอบด้วยสระว่ายน้ำบนดาดฟ้า ห้องออกกำลังกาย อวานี ฟิต (AvaniFit) ร้านอาหารที่มีคอนเซ็ปต์ และทางเดินเชื่อมระหว่างถนน Peck Seah และ Tras Street ทำเลที่ตั้งซึ่งอยู่ห่างจากสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินตันจงปาการ์ไม่ถึง 200 เมตร และห่างจากสถานีแมกซ์เวล (Maxwell) เพียง 350 เมตร จะช่วยมอบการเชื่อมต่อที่สะดวกสบายไปยังย่านดาวน์ทาวน์ มารีน่า เบย์ และย่านสำคัญอื่นๆ ทั้งสำหรับนักท่องเที่ยวในประเทศและต่างประเทศ ภาพ: Minor Hotels เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : <a target="_blank" href="https://forbesthailand.com/news/property/travel/saha-group-mou-thaiobayashi-to-build-hotel" alt="&quot;ไทยโอบายาชิ&quot; จับมือ “เครือสหพัฒน์” ลงนาม MOU ร่วมทุนกันครั้งแรก ลุยสร้างโรงแรมหรูระดับ 5 ดาว บนทำเลศักยภาพย่านราชดำริ คาดเปิดให้บริการปี 2572">"ไทยโอบายาชิ" จับมือ “เครือสหพัฒน์” ลงนาม MOU ร่วมทุนกันครั้งแรก ลุยสร้างโรงแรมหรูระดับ 5 ดาว บนทำเลศักยภาพย่านราชดำริ คาดเปิดให้บริการปี 2572</a>​<a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

ไมเนอร์ โฮเทลส์ ปักธง ‘อวานี’ แห่งแรกในสิงคโปร์! เตรียมเปิดประตูรับนักเดินทางปี 2570!

<h2>Minor Hotels เผยอานิสงส์จากปรากฏการณ์ ‘The White Lotus’ ส่งผลให้โรงแรมในเครืออนันตราทั้งสามแห่งที่เป็นโลเคชั่นหลักในการถ่ายทำซีรีส์ฮิตของ HBO มียอดชมเว็บเพิ่ม 104% ยอดจองห้องพักผ่านออนไลน์เพิ่ม 41%</h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;โดยซีรีส์ The White Lotus ซีซันสาม ซึ่งถ่ายทำในประเทศไทยและเริ่มออกอากาศไปเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ปลุกกระแสความสนใจในรีสอร์ตภายใต้เครืออนันตราอย่าง อนันตรา ลาวาณา เกาะสมุย รีสอร์ท, อนันตรา บ่อผุด เกาะสมุย รีสอร์ท และอนันตรา ไม้ขาว ภูเก็ต วิลล่าส์ เพิ่มขึ้น โดยปริมาณการเข้าชมเว็บไซต์ของรีสอร์ททั้งสามแห่งในเดือนกุมภาพันธ์สูงขึ้นถึงร้อยละ 104 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า และยอดการจองห้องพักโดยตรงผ่านช่องทางออนไลน์ยังเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 41 ในช่วงระยะเวลาเดียวกัน​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/03/Pen4sAkWV1BeUebTMSwY.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-index="0" data-file-name="Pen4sAkWV1BeUebTMSwY.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style=""></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ข้อมูลการจองห้องพักเผยให้เห็นถึงปรากฏการณ์ที่น่าจับตามอง โดยอัตราการจองห้องพักพุ่งสูงขึ้นในวันที่ 17 และ 24 กุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นช่วงเวลาออกอากาศสองตอนแรกของซีรีส์ดัง โดยเฉพาะยอดการจองห้องพักจากลูกค้ารายย่อย เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 53 ในสัปดาห์แรก และพุ่งสูงขึ้นกว่าร้อยละ 180 ในสัปดาห์ถัดมา เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นอกจากนี้ ข้อมูลรายสัปดาห์ของจำนวนการค้นหาบนแพลตฟอร์มการจองออนไลน์ของโรงแรมอนันตราทั้งสามแห่ง ยังแสดงให้เห็นถึงการเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 100 เมื่อเทียบกับสัปดาห์เดียวกันของปีก่อนหน้า​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/03/VSdN8MXTQSxvAZLiQJnv.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-index="1" data-file-name="VSdN8MXTQSxvAZLiQJnv.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style=""></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;แม้ว่าอิทธิพลของ The White Lotus จะส่งผลชัดเจนที่สุดต่อกลุ่มโรงแรมอนันตราที่ปรากฏในซีรีส์ ไมเนอร์ โฮเทลส์ ยังได้เผยว่าโรงแรมระดับลักชัวรีทั้งหมดในประเทศไทยของกลุ่ม ยังมียอดการเข้าชมเว็บไซต์จากทั่วโลกเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน โดยในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา มีอัตราการเติบโตเกือบร้อยละ 40 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ซึ่งส่วนใหญ่มาจากตลาดนักท่องเที่ยวหลัก ได้แก่ สหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา อินเดีย เยอรมนี และฝรั่งเศส&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;Dillip Rajakarier ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ไมเนอร์ โฮเทลส์ กล่าวว่า “เรารู้สึกตื่นเต้นมากที่ได้เห็นนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกได้รับแรงบันดาลใจจากทัศนียภาพอันโดดเด่นในซีรีส์ The White Lotus ในฐานะที่เราเป็นเจ้าของและผู้ดำเนินธุรกิจโรงแรม รีสอร์ท และที่พักอาศัยมากกว่า 30 แห่งทั่วประเทศไทย เราคาดหวังว่าปรากฏการณ์นี้จะไม่เพียงกระตุ้นความสนใจเกี่ยวกับประเทศไทยในตลาดโลก แต่ยังจะช่วยเสริมตำแหน่งของไทยในการเป็นจุดหมายปลายทางระดับลักชัวรีสำหรับการพักผ่อนและการดูแลสุขภาพในระดับสากลอีกด้วย”​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/03/Yz1Rwt4oEieUJ1utFYHY.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-index="2" data-file-name="Yz1Rwt4oEieUJ1utFYHY.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style=""><figcaption><div>Dillip Rajakarier</div></figcaption></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ทั้งนี้ ไมเนอร์ โฮเทลส์ ยังเป็นเจ้าของ โฟร์ซีซั่นส์ รีสอร์ท เกาะสมุย ซึ่งเป็นสถานที่ถ่ายทำหลักของ The White Lotus ซีซันสามด้วยเช่นกัน เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ :&nbsp;<a target="_blank" href="https://forbesthailand.com/forbes-life/travel-forbes-life/centara-mirage-lagoon-maldives-family-resort" alt="‘เซ็นทารา มิราจ ลากูน มัลดีฟส์’ ตัวจริงรีสอร์ทสำหรับครอบครัวแห่งมัลดีฟส์">‘เซ็นทารา มิราจ ลากูน มัลดีฟส์’ ตัวจริงรีสอร์ทสำหรับครอบครัวแห่งมัลดีฟส์</a> <a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

ไมเนอร์ รับอานิสงส์ The White Lotus โรงแรม ‘อนันตรา’ สามแห่งในเรื่อง ยอดชมเว็บ-ยอดจองพุ่ง

<h2>ไมเนอร์ โฮเทลส์ (Minor Hotels) เจ้าของและผู้ประกอบการโรงแรมระดับโลก ประกาศขยายแบรนด์เอ็นเอช โฮเทลส์ แอนด์ รีสอร์ท (NH Hotels &amp; Resorts) ในกรุงเทพฯ ประเทศไทย ด้วยการเปิดตัวโรงแรม เอ็นเอช กรุงเทพฯ อโศก เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2568 โดยโรงแรมแบบ select-service แห่งนี้เป็นโรงแรมภายใต้แบรนด์เอ็นเอชแห่งที่สองในกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นการเปิดตัวหลังจาก เอ็นเอช กรุงเทพฯ สุขุมวิท บูเลอวาร์ด เปิดให้บริการไปเมื่อไม่นานมานี้</h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;โรงแรม เอ็นเอช กรุงเทพฯ อโศก ตั้งอยู่ติดถนนสุขุมวิท ใจกลางย่านอโศก ทำเลสะดวกสบายสำหรับทั้งนักธุรกิจและนักท่องเที่ยว อยู่ห่างจากสถานีรถไฟฟ้า BTS อโศก และสถานีรถไฟใต้ดิน MRT สุขุมวิท ซึ่งเป็นระบบขนส่งสาธารณะหลักของกรุงเทพฯ เพียง 100 เมตร จึงทำให้แขกผู้เข้าพักสามารถเดินทางไปยังย่านธุรกิจ แหล่งช็อปปิ้ง และย่านความบันเทิงต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ไม่ว่าจะเป็น ห้างสรรพสินค้า Terminal 21, EM District, ย่านราชประสงค์, สยาม และศูนย์กลางไลฟ์สไตล์ที่เพิ่งเปิดใหม่อย่าง One Bangkok ได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้ยังอยู่ใกล้กับสวนเบญจกิติและศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ และใช้เวลาเดินทางจากสนามบินนานาชาติทั้งสองแห่งของกรุงเทพฯ โดยรถยนต์ประมาณ 40 นาที​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/03/E1uQsubBtufgyP1kFGst.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-index="0" data-file-name="E1uQsubBtufgyP1kFGst.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style=""></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;โรงแรมแห่งใหม่นี้ประกอบด้วยห้องพักจำนวน 95 ห้อง ขนาดเริ่มต้นที่ 32 ตารางเมตร ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ทันสมัย พร้อมหน้าต่างบานสูงจากพื้นจรดเพดาน ครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่ตอบโจทย์ความต้องการของแขกผู้ที่มองหาที่พักในเมืองใหญ่&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;แขกผู้เข้าพักสามารถเพลิดเพลินกับการออกกำลังกาย ณ ฟิตเนส ผ่อนคลายที่สระว่ายน้ำบนชั้นดาดฟ้า และห้องอาหารที่เปิดให้บริการตลอดทั้งวัน เสิร์ฟทั้งอาหารนานาชาติ เมดิเตอร์เรเนียน และอาหารไทย รวมถึงบาร์ริมสระน้ำให้บริการเครื่องดื่มและอาหารว่าง​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/03/e3oAitdetQFd3qNcZ4Jp.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-index="1" data-file-name="e3oAitdetQFd3qNcZ4Jp.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style=""></figure></div> ​ &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;Dillip Rajakarier ประธานเจ้าหน้าที่บริหารไมเนอร์ โฮเทลส์ และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ได้กล่าวถึงการขยายแบรนด์ท่ามกลางการคาดการณ์จำนวนนักท่องเที่ยวที่จะทำสถิติสูงสุดในปี 2568 ว่า “เรามีความตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่งที่ได้ขยายแบรนด์ เอ็นเอช โฮเทลส์ แอนด์ รีสอร์ท ด้วยการเปิด เอ็นเอช กรุงเทพฯ อโศก ซึ่งเป็นโรงแรมแห่งที่เจ็ดในกรุงเทพฯ ของเรา ที่เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้มีทางเลือกในการสัมผัสประสบการณ์ประเทศไทยได้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น เราขอขอบคุณครอบครัวนฤหล้าที่ให้ความไว้วางใจไมเนอร์ โฮเทลส์ ในการเข้าบริหารโรงแรมแห่งนี้ และหวังที่จะเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างกันให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นในอนาคต”&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;Kirin Narula กรรมการผู้จัดการของบริษัท ควอลิตี้ อินน์ กล่าวเสริมว่า “การขยายความสัมพันธ์กับไมเนอร์ โฮเทลส์ เพื่อเปิดโรงแรม เอ็นเอช กรุงเทพฯ อโศก เป็นการตัดสินใจที่ง่ายมาก เนื่องจากความเชี่ยวชาญในการดำเนินธุรกิจโรงแรมและเข้าใจตลาดการบริการในกรุงเทพฯ ของไมเนอร์ที่อยู่ในระดับแนวหน้า ดังที่ได้เห็นผ่านความร่วมมือในการเปิดโรงแรม เอ็นเอช กรุงเทพฯ สุขุมวิท บูเลอวาร์ด เรามุ่งหวังที่จะร่วมงานกับทีม ไมเนอร์ โฮเทลส์ เพื่อทำให้ เอ็นเอช โฮเทลส์ แอนด์ รีสอร์ท เป็นตัวเลือกที่โดดเด่นสำหรับนักท่องเที่ยวที่มองหาความคุ้มค่าในการเดินทางมากรุงเทพฯ”​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/03/1vs73it1nvmNaMKDfYGx.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-index="2" data-file-name="1vs73it1nvmNaMKDfYGx.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style=""></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;เอ็นเอช กรุงเทพฯ อโศก เป็นการขยายตัวล่าสุดของแบรนด์ เอ็นเอช โฮเทลส์ แอนด์ รีสอร์ท ในเอเชีย โดยในปี 2567 ไมเนอร์ โฮเทลส์ ได้เปิดตัวโรงแรมเอ็นเอชแห่งแรกในประเทศศรีลังกา เอ็นเอช เบนโตตา ซีแซนด์ รีสอร์ท (NH Bentota Ceysands Resort), มัลดีฟส์ เอ็นเอช มัลดีฟส์ คูดา ราห์ รีสอร์ท (NH Maldives Kuda Rah Resort) และกรุงเทพฯ เอ็นเอช กรุงเทพฯ สุขุมวิท บูเลอวาร์ด (NH Bangkok Sukhumvit Boulevard) และ เอ็นเอช โบ๊ทลากูน ภูเก็ต รีสอร์ท (NH Boat Lagoon Phuket Resort) ในจังหวัดภูเก็ต ณ ปัจจุบัน แบรนด์ เอ็นเอช โฮเทลส์ แอนด์ รีสอร์ท มีสถานที่เปิดให้บริการมากกว่า 230 แห่งทั่วโลก รวมถึงห้าแห่งในสามประเทศในเอเชีย ได้แก่ ศรีลังกา, มัลดีฟส์ และประเทศไทย ภาพ: Minor Hotels เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ :&nbsp;<a target="_blank" href="https://forbesthailand.com/news/travel/centara-to-open-9-new-hotels-in-2025" alt="‘เซ็นทารา’ กางแผนปี 68 เปิดโรงแรมใหม่ 9 แห่ง อัปเกรด ‘เซ็นทารา แกรนด์ฯ กระบี่’ สู่แบรนด์ ‘รีเซิร์ฟ’">‘เซ็นทารา’ กางแผนปี 68 เปิดโรงแรมใหม่ 9 แห่ง อัปเกรด ‘เซ็นทารา แกรนด์ฯ กระบี่’ สู่แบรนด์ ‘รีเซิร์ฟ’</a> <a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

Minor Hotels เปิดโรงแรมเอ็นเอชแห่งที่สองในกรุงเทพฯ ทำเล ‘อโศก’ ตอบโจทย์นักธุรกิจ-นักท่องเที่ยว

<h2>ไมเนอร์ โฮเทลส์ รุกตลาดธุรกิจท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (medical tourism) ในจังหวัดภูเก็ต ด้วยการเปิดตัวลายัน ไลฟ์ บาย อนันตรา (Layan Life by Anantara) ศูนย์ดูแลสุขภาพระดับโลกรูปแบบใหม่บนพื้นที่กว่า1,767 ตารางเมตร ท่ามกลางธรรมชาติและบรรยากาศรีสอร์ทหรูริมทะเลของ อนันตรา ลายัน ภูเก็ต รีสอร์ท โดยนำศาสตร์การบำบัดและเทคโนโลยีล้ำสมัยมาเชื่อมต่อกับไลฟ์สไตล์การพักผ่อน และการดูแลสุขภาพแบบองค์รวมภายใต้คอนเซ็ปต์ Whole of Life </h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ภูเก็ตยังเป็นหมุดหมายสำคัญสำหรับการท่องเที่ยวกลุ่มลักชัวรี่ รายงานของ The Phuket Luxury Report ประจำปี 2024 โดย C9 Hotelworks บริษัทที่ปรึกษาด้านการท่องเที่ยว โรงแรมและอสังหาริมทรัพย์เปิดเผยว่า เกาะภูเก็ตได้พัฒนาสู่จุดหมายปลายทางแห่งไลฟ์สไตล์และที่พักอาศัยระดับหรู และเป็นทำเลที่มีศักยภาพสูงในด้านการเติบโตของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพในระดับโลก&nbsp; &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;โดย Wellness Economy ของประเทศไทยประจำปี 2565 จัดอยู่ในอันดับที่ 24 ของโลก ด้วยมูลค่ารวม 1.2 ล้านล้านบาท ขณะที่มูลค่าของการท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ Wellness Tourism อยู่ที่ 269 พันล้านบาท&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ทริเชีย แบนนิสเตอร์ ผู้อำนวยการด้านเวลเนส ลายัน ไลฟ์ บาย อนันตรา เปิดเผยว่า เพื่อตอบสนองตลาดการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพของภูเก็ตที่กำลังขยายตัว ลายัน ไลฟ์ บาย อนันตรา จึงได้ผสานความเชี่ยวชาญทางด้านสุขภาพเข้ากับเทคโนโลยี ทีมผู้เชี่ยวชาญ และความเป็นเลิศในด้านบริการการพักผ่อนระดับหรูของอนันตรา ลายัน รีสอร์ท เพื่อให้กลุ่มลูกค้าผู้รักสุขภาพได้รับบริการการดูแลสุขภาพรวมถึงการพักผ่อนในระดับเวิลด์คลาส&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ลายัน ไลฟ์ฯ เปิดตัวอย่างเป็นทางการปลายปี 2567 ที่ผ่านมา กลุ่มเป้าหมายคือ ลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูงและกลุ่มผู้รักสุขภาพที่มองหาประสบการณ์การดูแลสุขภาพและการพักผ่อนระดับหรู โดยเจาะกลุ่มลูกค้าที่เข้าพักโรงแรม ลูกค้าจากภายนอกหรือมีที่พำนักในจังหวัดภูเก็ต หากแยกตามสัญชาติเป็นคนไทย 50% ต่างชาติ 50% โดยลูกค้าต่างชาติมาจากตะวันออกกลาง รัสเซีย เยอรมนี สวิตเซอร์แลนด์ สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา มีผู้ใช้บริการวันละ 50-80 ราย และมีอัตราการเติบโต 25% ในปี 2568​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/02/CBGCymw7dZ4hvESq7oiM.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="CBGCymw7dZ4hvESq7oiM.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="0"></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ตัวอาคารแบ่งเป็น 2 ชั้น ได้รับการออกแบบตามหลักการไบโอฟิลิก (biophilic) ซึ่งเชื่อมโยงให้กลมกลืนกับความสดชื่นของธรรมชาติและบรรยากาศรีสอร์ทริมทะเล โดยตกแต่งด้วยโทนสีธรรมชาติ โปร่งโล่งสบาย&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ชั้นล่างประกอบด้วยห้องออกกำลังกาย สตูดิโอโยคะและพิลาทิส ห้องนั่งสมาธิ สระวารีบำบัด ซาวน่า และห้องอบไอน้ำ ขณะที่ชั้นบนอำนวยความสะดวกทางการแพทย์และการบำบัด อาทิ ห้องแพทย์แผนไทย ห้องวิตามินบำบัด ห้องบำบัดด้วยความเย็น (Ice-pod) ห้องบำบัดด้วยออกซิเจนความดันสูง (hyperbaric chamber) ห้องสำหรับการดีท็อกซ์ลำไส้ (hydro colonic therapies) และห้องจ่ายสมุนไพรไทย&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ทั้งนี้ โปรแกรมการดูแลสุขภาพมีตั้งแต่ 3, 5, 7 และ10 วัน ราคาเริ่มต้น 51,600 บาท รวมทรีตเมนต์และอาหาร (ไม่รวมห้องพัก)&nbsp;โดยแต่ละโปรแกรมจะเริ่มต้นด้วยการให้คำปรึกษาด้านสุขภาพ การตรวจวินิจฉัย อาทิ การตรวจภาวะนอกเหนือพันธุกรรมอีพีเจเนติกส์ (epigenetic) และการตรวจกายภาพผ่านเครื่องสแกนร่างกายแบบ 3 มิติ เพื่อค้นหาพิมพ์เขียวของสุขภาพ ก่อนที่ทีมผู้เชี่ยวชาญทั้งแพทย์แผนปัจจุบัน แพทย์แผนไทย และนักกายภาพบำบัด วิเคราะห์ผลตรวจก่อนออกแบบโปรแกรมเฉพาะบุคคลตามวิธี Life Method ซึ่งประกอบด้วย 4 เสาหลักของสุขภาพแบบองค์รวม ประกอบด้วย&nbsp; <div class="se-component se-image-container __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/02/ueGnRd7S77uv2WupDusy.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="ueGnRd7S77uv2WupDusy.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="1"></figure></div>​ &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;1. เวชศาสตร์ชะลอวัย เป็นการวินิจฉัยที่สามารถบ่งชี้ความเสี่ยงด้านสุขภาพในอนาคต เช่น การใช้เครื่องสแกนร่างกาย 360 องศา โดยวัดเปอร์เซ็นต์ไขมัน มวลกล้ามเนื้อ การวิเคราะห์ท่าทางแบบ MOTI เพื่อประเมินความไม่สมดุลของท่าทางและกล้ามเนื้อ การวิเคราะห์ผิวหน้า การทดสอบโลหะหนักในร่างกาย เป็นต้น&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;2. การแพทย์แผนไทย เป็นการรักษาโดยคำนึงถึงลักษณะเฉพาะของร่างกาย อารมณ์ และจิตใจ แนวทางการบำบัด เช่น นวดแบบราชสำนัก เผายา&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;3. การแพทย์ทางเลือก เป็นการบำบัดแบบองค์รวมที่ช่วยรักษาความสมดุลของสุขภาพ 4. เวชศาสตร์วิถีชีวิต เช่น รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ นอนหลับอย่างมีประสิทธิภาพ การจัดการความเครียด การออกกำลังกาย&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;สำหรับอัตราค่าสมาชิกมี 3 แบบคือ ราคา 1 ล้านบาท, 1.3 และ 1.9 ล้านบาท โดยตั้งเป้าหมายสมาชิกปีละ 100 ราย และมีผู้สมัครบ้างแล้ว &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ลูกค้าสามารถเลือกใช้บริการดูแลสุขภาพพร้อมเข้าพักกับอนันตรา ลายัน ภูเก็ต รีสอร์ท หรือลายัน เรสซิเดนเซส บาย อนันตรา เรสซิเดนซ์สุดหรู โดยภายในอนันตรา ลายัน มี Active Zone ที่นำเสนอกิจกรรมทั้งในร่มและกลางแจ้งหลากหลาย ทั้งสนามเทนนิส เวทีมวย หน้าผาจำลอง ซิปไลน์ จักรยาน สระว่ายน้ำ กีฬาทางน้ำ คายัก แพดเดิ้ลบอร์ด วินด์เซิร์ฟ บริการสปา และกิจกรรมสันทนาการที่ส่งเสริมวัฒนธรรมไทยและการเรียนรู้&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ปัจจุบันเครืออนันตรามีโรงแรมและรีสอร์ทกว่า 50 แห่งในประเทศไทย มัลดีฟส์ อินโดนีเซีย เวียดนาม จีน กัมพูชา มาเลเซีย ศรีลังกา มอริเชียส เซเชลส์ โมซัมบิก แซมเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ กาตาร์ โอมาน ตูนิเซีย โปรตุเกส สเปน ฮังการี และอิตาลี โดยมีโครงการเปิดโรงแรมเพิ่มในเอเชีย ตะวันออกกลาง และยุโรป ​ภาพ:&nbsp; Layan Life by Anantara&nbsp; เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ :&nbsp;แอสคอทท์ ปักหมุด 'Somerset สุขุมวิท 71' มั่นใจทำเลตอบโจทย์นักท่องเที่ยว คาดครึ่งหลังปี 68 ยอดจองห้องพัก 80%​ ​<a href="https://www.mebmarket.com/?action=book_details&amp;book_id=348467" alt="อ่านบทความฉบับเต็มและเรื่องราวธุรกิจอื่นๆ ที่น่าสนใจได้ที่นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ในรูปแบบ e-magazine">อ่านบทความฉบับเต็มและเรื่องราวธุรกิจอื่นๆ ที่น่าสนใจได้ที่นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ในรูปแบบ e-magazine</a><div class="se-component se-image-container __se__float-none" contenteditable="false"><figure style="margin: 0px;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/02/kePD3566dkQAuCrfybzi.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="none" data-file-name="kePD3566dkQAuCrfybzi.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-percentage="auto,auto" data-rotatex="" data-rotatey="" style="" data-index="2"></figure></div>

'Minor Hotels' ทุ่ม 500 ล้าน เปิด 'Layan Life by Anantara'

ไมเนอร์ฯ เผยกำไรสุทธิไตรมาส 1/67 พลิกกำไร 1,146 ล้านบาท ผลดีจากกำไรค่าเงินฯ 919 ล้านบาท

<h2>“ไมเนอร์ โฮเทลส์” (Minor Hotels) ผู้ประกอบการเชนโรงแรมไทย รุกตลาด "บราซิล" ต่อเนื่อง ประกาศเปิดตัว “อนันตรา เปรอา เซอารา รีสอร์ท” ซึ่งถือเป็นโรงแรมแห่งที่ 2 ภายใต้แบรนด์ “อนันตรา” ในประเทศบราซิล พร้อมเปิดให้บริการปี 2569 </h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“ไมเนอร์ โฮเทลส์”&nbsp;(Minor Hotels)&nbsp;เจ้าของโรงแรม ผู้ประกอบการ และนักลงทุน ซึ่งปัจจุบันมีโรงแรมและรีสอร์ทกว่า 530 แห่งใน&nbsp;56&nbsp;ประเทศทั่วทวีปเอเชียแปซิฟิก ตะวันออกกลาง ยุโรป อเมริกา แอฟริกา และมหาสมุทรอินเดีย ได้ประกาศเปิดตัว&nbsp;“อนันตรา เปรอา เซอารา รีสอร์ท”&nbsp;(Anantara Prea Ceara Resort)&nbsp;รีสอร์ทภายใต้แบรนด์ “อนันตรา” แห่งที่ 2 ในประเทศบราซิล โดยรีสอร์ทจะตั้งอยู่ในรัฐเซอารา ทางฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศนี้&nbsp;มีกำหนดจะเปิดให้บริการในปี 2569 &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ดิลิป ราชากาเรีย&nbsp;ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ไมเนอร์ โฮเทลส์ กล่าวว่า&nbsp;“เมื่อปี 2565 ที่ผ่านมา เราได้ประกาศเปิดตัว อนันตรา มามูคาโบ บาเฮีย รีสอร์ท (Anantara Mamucabo Bahia Resort) ซึ่งเป็นอนันตราแห่งแรกในบราซิลที่พร้อมจะเปิดให้บริการในปี 2568 ทางเรารู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่งกับการประกาศศเปิดตัวรีสอร์ทแห่งที่ 2 ในประเทศดังกล่าว เราพร้อมที่จะร่วมงานอย่างใกล้ชิดกับกลุ่มบริษัท&nbsp;Grupo Carnauba&nbsp;ในการพัฒนารีสอร์ทแห่งนี้ให้ประสบความสำเร็จและบรรลุผล”&nbsp; <div class="se-component se-image-container __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/06/V7DVAexxrM2tBF6jD1ef.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="V7DVAexxrM2tBF6jD1ef.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="0"></figure></div>​ &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ทั้งนี้ โครงการ อนันตรา เปรอา เซอารา รีสอร์ท&nbsp;จะตั้งอยู่บนชายหาดเปรอา (Prea Beach) ในเขตเทศบาลครูซ (Cruz) ใกล้กับ เจริโคอาโคอารา (Jericoacoara) ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันโด่งดังของบราซิล มาพร้อมกับห้องพักและวิลล่ากว่า 60 หลัง ห้องพักแบบบังกะโล 25 ห้อง โดยบางห้องมาพร้อมกับสระว่ายน้ำส่วนตัว รวมไปถึงห้องเพรสซิเดนเชียลสวีท ขนาดกว้างกว่า 120 ตารางเมตร&nbsp;​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/06/UgucAb4Av7HhapddeG3M.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="UgucAb4Av7HhapddeG3M.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="1"></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ซึ่งรีสอร์ทแห่งนี้จะตั้งอยู่ในโครงการอสังหาริมทรัพย์สุดหรูอย่าง&nbsp;“Vila Carnauba”&nbsp;ทำให้แขกผู้เข้าพักอนันตราสามารถใช้บริการสิ่งอำนวยความสะดวกในโครงการดังกล่าวได้ เช่น ร้านอาหาร บาร์ สนามกีฬา ฟิตเนส คลับสำหรับเด็ก โรงเรียนสอนเล่นไคท์เซิร์ฟ&nbsp;(Kitesurf) และเส้นทางชมธรรมชาติที่หลากหลาย ตัวรีสอร์ทยังจะมีร้านอาหารพื้นเมืองและอนันตรา สปา (Anantara Spa) ซึ่งมีบริการทรีตเมนต์และโปรแกรมเพื่อสุขภาพมากมายให้เลือกสรร&nbsp; <div class="se-component se-image-container __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/06/BrNyawiPpdF9cF2D2MCS.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-file-name="BrNyawiPpdF9cF2D2MCS.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style="" data-index="2"></figure></div>&nbsp; อ่านเพิ่มเติม: ​<a href="https://www.forbesthailand.com/other/news/makro-%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%8A%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B9%87%E0%B8%99-%E0%B8%8B%E0%B8%B5%E0%B8%9E%E0%B8%B5-%E0%B9%81%E0%B8%AD%E0%B9%87%E0%B8%81%E0%B8%8B%E0%B9%8C%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%B2-%E0%B8%95%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%A2%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%9A%E0%B9%82%E0%B8%95" alt="MAKRO เปลี่ยนชื่อเป็น “ซีพี แอ็กซ์ตร้า” ตอกย้ำเส้นทางการเติบโต">MAKRO เปลี่ยนชื่อเป็น “ซีพี แอ็กซ์ตร้า” ตอกย้ำเส้นทางการเติบโต</a>​<hr class="__se__solid"><a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

 “ไมเนอร์ โฮเทลส์” เชนโรงแรมไทยรุกตลาดบราซิล เปิดตัวโรงแรม “อนันตรา” แห่งที่ 2  

<h2>Minor Hotels และ NH Hotel Group ประกาศการลงนามในข้อตกลงดำเนินการบริหาร Villa Padierna Palace ซึ่งเป็นโรงแรมของ Villa Padierna Group ที่ตั้งอยู่ในเมือง Marbella  ทางตอนใต้ของสเปน โดยได้เข้าบริหารทันทีภายใต้สัญญาเช่าแปรผัน (variable lease agreement)</h2>
หลังจาก Minor Hotels ได้เข้าซื้อกิจการของ NH Hotel Group ในเดือนตุลาคม 2561 ที่ผ่านมา ข้อตกลงครั้งนี้นับเป็นการรวมตัวครั้งแรกของแบรนด์จากทั้งสองบริษัท โดย Villa Padierna จะได้รับการรีแบรนด์เป็น โรงแรมอนันตรา ซึ่งเป็นลักซ์ชัวรี่แบรนด์ของเครือ Minor Hotels ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

Minor Hotels และ NH Hotel Group เริ่มกลยุทธ์การบูรณาการโดยการนำแบรนด์โรงแรมทั้งหมดในกว่า 50 ประเทศทั่วโลก มารวมไว้ภายใต้องค์กรเดียวกัน โดยเริ่มจากการโอนโรงแรมในโปรตุเกสและบราซิลของกลุ่ม Minor Hotels ไปไว้ภายใต้การดูแลของ NH Hotel Group เมื่อต้นปีที่ผ่านมา เพื่อรับประโยชน์จากความเชี่ยวชาญของ NH Hotel ในภูมิภาคดังกล่าว และปรับแบรนด์ของโรงแรมในเครือ Minor และ NH Hotel ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งจะช่วยให้ผู้ปฏิบัติงานที่ดูแลรับผิดชอบกลุ่มโรงแรมสามารถใช้ประโยชน์จากการขยายแบรนด์ และการรีแบรนด์ได้อย่างเต็มที่ การลงนามในข้อตกลงบริหาร Villa Padierna และการรีแบรนด์เป็นโรงแรมอนันตรา ซึ่งจะบริหารโดย NH Hotel Group ภายใต้คำแนะนำและการกำกับดูแลของ Minor Hotels และด้วยความเป็นผู้นำและความเชี่ยวชาญของทั้งสองบริษัท ยังเป็นก้าวแรกสู่ความสำเร็จอันสำคัญของกลยุทธ์นี้

<img class="alignnone size-full wp-image-7271" src="http://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/05/Villa-Padierna-Palace-Aerial-View.jpg" alt="" width="638" height="427" />

Villa Padierna ซึ่งตั้งอยู่ในย่าน คอสตา เดล โซล ที่มีชื่อเสียงโด่งดังในหมู่นักกอล์ฟทั่วโลก จะเปิดตัวอีกครั้งภายใต้ชื่อ Anantara Villa Padierna Palace Benahavis Marbella Resort และจะกลายเป็นโรงแรมอนันตรา แห่งแรกในสเปน ซึ่งเป็นตลาดหลักของกลุ่ม NH Hotel และเป็นโรงแรมอนันตราแห่งที่สองในยุโรป โดยแห่งแรก คือ Anantara Vilamoura Algarve Resort ในโปรตุเกส ที่เปิดตัวไปเมื่อ 2 ปีที่แล้ว

Dillip Rajakarier ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Minor Hotels ให้ความเห็นว่า “เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะได้เปิดตัวแบรนด์อนันตราซึ่งเป็นแบรนด์หรูของเราในประเทศสเปน ด้วยการเปิด อนันตรา วิลล่า ปาเดียร์น่า พาเลซ เบนาฮาวิส มาร์เบย่า รีสอร์ท ในอนาคตอันใกล้นี้ ซึ่งในขณะเดียวกัน ก็สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเราที่จะรวมแบรนด์ในพอร์ตโฟลิโอของไมเนอร์ โฮเทลส์ และ เอ็นเอช รวมถึงการผสานความเชี่ยวชาญในด้านการบริหารจัดการ ผ่านความร่วมมือและการขยายตลาดของเรา”

Ramón Aragonés Marín ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เอ็นเอช โฮเทล กรุ๊ป กล่าวว่า “ข้อตกลงนี้แสดงถึงความก้าวหน้าในการควบรวมกับไมเนอร์ โฮเทลส์ และยังเป็นโอกาสแรกของเอ็นเอช ในการนำเสนอความหรูหราเหนือระดับ ที่จะเชื่อมนักเดินทางกับประสบการณ์ท้องถิ่น ณ จุดหมายปลายทางในยุโรป”

<img class="alignnone size-full wp-image-7272" src="http://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/05/Villa-Padierna-Palace-Deluxe-Room.jpg" alt="" width="638" height="425" />

<img class="alignnone size-full wp-image-7273" src="http://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/05/Villa-Padierna-Palace-Pool-View.jpg" alt="" width="638" height="425" />

Villa Padierna ล้อมรอบด้วยสนามกอล์ฟ 3 แห่ง และอยู่ในทำเลที่เปรียบเป็นใจกลาง 'สามเหลี่ยมทองคำ' ซึ่งประกอบด้วย Marbella, Benahavís และ Estepona ทั้งสามเมืองนับเป็นเมืองท่องเที่ยวสำคัญทางชายฝั่งทะเลตอนใต้ของสเปน โดย Villa Padierna พรั่งพร้อมด้วยห้องพักอันหรูหรา งานศิลปะ อาหารท้องถิ่น และพื้นที่ส่วนตัวสำหรับการพักผ่อน และการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม ซึ่งรีสอร์ทแห่งนี้ได้รับการออกแบบโดย Ed Gilbert สถาปนิกชาวอังกฤษ ในรูปแบบคฤหาสน์สไตล์แคว้นทัสคานีอันหรูหราโอ่อ่า และเป็นที่ตั้งของผลงานศิลปะดั้งเดิมกว่า 1,200 ชิ้น

นอกจากนั้น รีสอร์ทยังมีห้องพักแบบวิลล่าสุดเอ็กซ์คลูซีฟ เป็นอีกตัวเลือกในการเข้าพัก ซึ่งผสานรวมความพิเศษเฉพาะตัวของบ้านพักแบบส่วนตัว กับความหรูหราสะดวกสบายของโรงแรม และหนึ่งในนั้นคือ Obama Villa ซึ่งถูกเปลี่ยนชื่อหลังจาก Michelle Obama อดีตสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง เลือกที่จะใช้วันหยุดพักผ่อนของเธอในสเปน เมื่อช่วงฤดูร้อนปี 2010

Villa Padierna Golf Club ตั้งอยู่ในใจกลางหุบเขา ให้บริการสนามกอล์ฟที่ทันสมัย โดยผู้ชื่นชอบกีฬากอล์ฟสามารถเลือกได้ถึง 3 คอร์สซึ่งอยู่ใกล้กับบริเวณของรีสอร์ท ได้แก่ Flamingos Golf, Alterini Golf และ Tramores Golf และยังมีสถาบัน The Tramores Golf Academy โดย Michael Campbell ซึ่งเป็นโรงเรียนสอนกอล์ฟแห่งเดียวในยุโรปที่มีความเชี่ยวชาญการเล่นเกมสั้นและคลาสส่วนตัวอีกด้วย

&nbsp;

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events