เส้นทางพิชิตเป้าหมายในชีวิตของคนเราอาจไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ แต่ไม่ไกลเกินเอื้อมสำหรับผู้ที่มีสายตาอันแหลมคม และ วิสัยทัศน์อันเฉียบขาดเป็นแต้มต่อ ไม่ว่าคุณจะเป็นนักลงทุนในแวดวงอสังหาริมทรัพย์ หรือ กำลังมองหาคฤหาสน์หรูสักหลังที่มาพร้อมคุณภาพชั้นเลิศ นวัตกรรมล้ำสมัย หรูหราคู่ควรสมกับเป็นอีกหนึ่งตัวแทนความสำเร็จที่ทำให้คุณภาคภูมิที่ได้ครอบครอง หนึ่งในคำตอบที่พบแล้วเชื่อว่าจะทำให้คุณไม่อาจเปลี่ยนใจ คือ โครงการกรานาดา ปิ่นเกล้า-เพชรเกษม คฤหาสน์หรูสุดคลาสสิกที่รวมทุกนิยามความสมบูรณ์แบบไว้ในหนึ่งเดียว

<img style="width: 638px; height: 421px;" src="http://forbesthailand.com/uploads/library/98e226d4838be52ecc0b64d74a142094.png" alt="" />

แค่เอ่ยชื่อ “โครงการกรานาดา” หลายคนคุ้นหูเป็นอย่างดี เพราะเป็นอีกหนึ่งผลงานชิ้นเอกจากบริษัท SC Asset อสังหาริมทรัพย์ชั้นนำ ที่ขึ้นชื่อเรื่องความเชี่ยวชาญในการพัฒนาโครงการระดับพรีเมี่ยมจนเป็นที่ยอมรับ กรานาดา ปิ่นเกล้า–เพชรเกษม คือ นิยามของโครงการแนวราบระดับซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ที่รังสรรค์มาอย่างวิจิตรบรรจงเพื่อผู้อยู่อาศัยระดับเอลิสต์ ตอกย้ำความเป็นผู้นำในตลาดบ้านหรู ด้วยความเลอค่าของคฤหาสน์ที่พรั่งพร้อมด้วยความหรูหราอย่างไร้ที่ติ สมกับเป็นโครงการที่อยู่ในระดับท็อปสุดของบริษัท ตั้งแต่ทำเลที่ตั้งที่หาไม่ได้อีกแล้ว นำเสนอความประณีตบรรจงในการออกแบบทุกรายละเอียดเพื่อมอบประสบการณ์สุดลักชัวรี่ในการอยู่อาศัย พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่เหนือชั้น ภายใต้สังคมคุณภาพระดับเอ็กซ์คลูซีฟ มีความเป็นส่วนตัวสูงเพราะทั้งโครงการมีเพียง 36 หลังเท่านั้น

<img style="width: 638px; height: 299px;" src="http://forbesthailand.com/uploads/library/302265cd7e4562d50e5c71f3bd690e00.png" alt="" />

อาณาจักรแห่งความยิ่งใหญ่และเป็นส่วนตัวนี้ เพิ่มมนต์เสน่ห์ของความสง่างามด้วยการออกแบบสภาพแวดล้อมและสถาปัตยกรรมภายในโครงการที่สะท้อนถึงกลิ่นอายของ Modern Spanish ไว้อย่างน่าหลงใหล สอดคล้องกับชื่อโครงการอันได้แรงบันดาลใจมาจากชื่อเมืองกรานาดาของสเปน ซึ่งเป็นเมืองที่เปี่ยมไปด้วยประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรมอันเลืองชื่อ จึงชวนให้สะดุดตาตั้งแต่แรกเห็น ปักหมุดอยู่บนทำเลแห่งความภาคภูมิใจ ติดถนนกาญจนาภิเษก เอื้อต่อการเดินทางไปยังทุกจุดหมายแบบไม่สะดุด ใกล้รถไฟฟ้าสีน้ำเงิน (บางซื่อบางแค) สถานีหลักสอง เพียง 1 กม. และ สายสีเขียว (ส่วนต่อขยายตากสิน บางหว้า) นอกจากนี้ยังใกล้กับทางด่วนศรีรัช-ราชพฤกษ์  แถมยังลงตัวกับทุกไลฟ์สไตล์ของคนทุกเพศทุกวัย โอบล้อมด้วยสาธารณูปโภคและสิ่งอำนวยความสะดวกพร้อมสรรพ  อาทิ เดอะมอลล์ บางแค, รพ.พญาไท 3, รพ.เกษมราษฎร์ และสถานศึกษาชั้นนำ อาทิ อนุบาลเด่นหล้า โรงเรียนเลิศหล้า เป็นต้น

ภายในโครงการถูกรังสรรค์อย่างพิถีพิถัน สมกับเป็นอัครสถานสุดหรูอันทรงเกียรติ ในสไตล์ Classical Simplicity พร้อมมอบประสบการณ์ใช้ชีวิตที่แสนเลอค่าเหนือกาลเวลา เหนือกว่าด้วยไอเดียการออกแบบให้คุณได้ครอบครองความยิ่งใหญ่ก่อนใคร กับ Luxury Function การออกแบบฟังก์ชั่นการใช้งานที่ยกระดับการใช้ชีวิตในคฤหาสน์ ด้วย Grand Living Room ห้องรับแขกขนาดใหญ่ สำหรับรองรับแขกคนสำคัญในทุกโอกาส พร้อมฟังก์ชั่น Double Living Room เพื่อรองรับสมาชิกในครอบครัว เมื่อทอดสายตาออกไปจะพบกับ Private Pool and pavilion ทุกหลัง เพื่อเพิ่มพื้นที่ส่วนตัวสำหรับกิจกรรมสังสรรค์เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ส่วนตัวของครอบครัว รองรับครอบครัวขยายที่มีผู้สูงอายุใช้ชีวิตอย่างสะดวกสบายยิ่งขึ้นด้วย Elegance Elevator สำหรับแบบบ้าน G.Alexander

<img style="width: 638px; height: 383px;" src="http://forbesthailand.com/uploads/library/a081aba9fd28ba59dbcd205b76d1b740.png" alt="" />
<img style="width: 638px; height: 437px;" src="http://forbesthailand.com/uploads/library/97c5a92e25dc16e4a43ff45cf031dc9a.png" alt="" />

ความพิเศษยังไม่หมดเพียงเท่านี้ เพื่อให้สมกับเป็นโครงการ Limited Collection ที่ออกแบบมาเพื่อลูกค้าคนสำคัญ กรานาดา ปิ่นเกล้า-เพชรเกษม พร้อมมอบชีวิตอันเป็นที่สุด ด้วยไฮไลท์สุดพิเศษที่หาไม่ได้ที่ไหนกับประสบการณ์ Luxury Green Living ด้วยแนวคิดการกระจายสวนสวยทั้งโครงการ โดดเด่นด้วย Grand Fountain Street เพื่อให้ผู้อยู่อาศัยสามารถดื่มด่ำกับบรรยากาศความร่มรื่นของธรรมชาติอย่างแท้จริง เพิ่มทัศนียภาพอันน่าอภิรมย์ด้วยการเดินระบบสายไฟใต้ดิน มาพร้อมระบบรักษาความปลอดภัยที่แน่นหนา ทุกๆ หลังจะมีกล้องวงจรปิด 3 จุดในตัวบ้าน พร้อมกับสัญญาณกันขโมยแบบ Magnetic และ Shock Sensor ที่มากับกราฟฟิกแสดงตำแหน่งของสัญญาณกันขโมยทั่วคฤหาสน์ทุกหลัง

ส่วนบริเวณรอบโครงการยกระดับความปลอดภัยสูงสุดด้วย Triple Luxury Security System ที่แบ่งโซนระหว่างผู้อยู่อาศัยและผู้มาติดต่ออย่างชัดเจน ควบคุมการเข้าออกด้วยระบบ Access Card Control และรักษาความปลอดภัยดูแลตลอด 24 ชั่วโมง ติดตั้งระบบ Access Inter พร้อมด้วยกล้องวงจรปิดกระจายตามจุดสำคัญทั่วโครงการ และ ติดตั้งรั้วรอบโครงการสูง 3 เมตร

<img style="width: 638px; height: 327px;" src="http://forbesthailand.com/uploads/library/ee2f2b5169fd7b916b60ddee2a31b324.png" alt="" />
<img style="width: 638px; height: 465px;" src="http://forbesthailand.com/uploads/library/e84f00955541b11b3acdff22d2377f60.png" alt="" />

นอกจากนี้ ยังอุ่นใจในการอยู่อาศัยแบบไร้ขีดจำกัดด้วยนวัตกรรมออกแบบคฤหาสน์ทุกหลังให้อยู่สบาย ตั้งแต่การทดสอบความสมบูรณ์ของเสาเข็มทุกต้น เพื่อป้องกันปัญหาที่ดินทรุด ติดตั้งฉนวนกันความร้อนใต้หลังคาและบนฝ้าเพดาน ติดตั้งฝ้าระบายอากาศที่บริเวณชายคา ผนังก่อด้วยอิฐมวลเบา ติดตั้งกระจกตัดแสง พร้อมเดินท่อกำจัดปลวกพร้อมจุดบริการ

หากใครกำลังมองหาคฤหาสน์หรูที่สะท้อนถึงความสมบูรณ์แบบที่รวมทุกเอกสิทธิ์การใช้ชีวิตไว้ในหนึ่งเดียว ให้กรานาดา ปิ่นเกล้า–เพชรเกษม เป็นคำตอบที่ใช่ของคุณ รายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 089-203-0033 <a href="https://bit.ly/2lBTyk4">https://bit.ly/2lBTyk4</a> เส้นทางเยี่ยมชมโครงการ <a href="http://goo.gl/UJQ4Vl">http://goo.gl/UJQ4Vl</a>

จุดสูงสุดในชีวิตที่คุณมองหาอยู่แค่เอื้อม ณ 'กรานาดา ปิ่นเกล้า-เพชรเกษม' อัครสถานสุดหรูจาก SC Asset

<h2>บริษัทร่วมทุน บีทีเอส แสนสิริ โฮลดิ้ง กรุ๊ป ประกาศจับมือร่วมทุนกันพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย เริ่มประเดิมเปิดตัวโครงการแรก เดอะ ไลน์ จตุจักร-หมอชิต เมื่อปี 2558 จนถึงปัจจุบัน มีการเปิดตัวอย่างต่อเนื่อง 8 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 30,000 ล้านบาท และเริ่มโอนไปแล้ว 1 โครงการ คือ เดอะ ไลน์ สุขุมวิท 71</h2>
โครงการร่วมทุนของบีทีเอส-แสนสิริที่เคยเปิดตัวมาทั้งหมดเป็นคอนโดมิเนียม ส่วนใหญ่อยู่ภายใต้แบรนด์ใหม่ เดอะ ไลน์ ที่กำเนิดขึ้นเฉพาะสำหรับบริษัทร่วมทุนนี้เพื่อเป็นแบรนด์สินค้าระดับกลาง-บน ก่อนจะใช้แบรนด์เดิมของแสนสิริ คือ เดอะ เบส มาเสริมในกลุ่มสินค้าระดับกลาง

โดยเป้าหมายของ บีทีเอส แสนสิริ โฮลดิ้ง กรุ๊ป คือจะเปิดให้ครบ 25 โครงการ มูลค่ารวม 1 แสนล้านบาท ภายในปี 2562 และล่าสุดบริษัทได้แต่งตั้ง “วรางคณา อัครสถาพร” ลูกหม้อที่ทำงานกับบมจ.แสนสิริมานาน 18 ปี ขึ้นเป็น ผู้จัดการทั่วไป บีทีเอส แสนสิริ โฮลดิ้ง กรุ๊ป ซึ่ง Forbes Thailand มีโอกาสได้พูดคุยกับวรางคณาถึงกลยุทธ์แผนการของบริษัทร่วมทุนแห่งนี้ที่กำลังมาแรงในตลาดอสังหาริมทรัพย์

<figure><img style="width: 680px; height: 503px;" src="http://forbesthailand.com/uploads/library/721bf2094293f1dc9aaef37df0293773.png" alt="" width="680" height="503" /><figcaption> วรางคณา อัครสถาพร ผู้จัดการทั่วไป บีทีเอส แสนสิริ โฮลดิ้ง กรุ๊ป </figcaption></figure>

Q: แผนการบริษัทร่วมทุน บีทีเอส-แสนสิริ ปี 2560

A: ปีนี้วางแผนลงทุนทั้งหมด 4 โครงการ มูลค่ารวม 12,000 ล้านบาท จะเปิดโครงการแรกคือ เดอะ เบส เพชรเกษม ในวันที่ 20-21 พ.ค.นี้ ถือเป็นโครงการระดับกลางราคาเฉลี่ย 90,000 บาทต่อตร.ม.

ส่วนอีก 3 โครงการจะเปิดช่วงครึ่งปีหลังของปี ทั้งหมดเป็นโครงการระดับกลางบน มี 2 โครงการที่ตั้งอยู่บนถนนสุขุมวิทตอนต้น บอกกว้างๆ ได้ว่าอยู่ช่วงระหว่างสถานีอโศกถึงเอกมัย มีทั้งโครงการไซซ์ใหญ่และไม่ใหญ่มาก ส่วนอีกโครงการหนึ่งจะอยู่บริเวณถนนสีลม-สาทร เนื้อที่ไม่เกิน 2 ไร่ ยังไม่สรุปว่าจะใช้แบรนด์เดอะ ไลน์หรือจะเพิ่มแบรนด์ใหม่ขึ้นมา

ส่วนที่ดินอื่นๆ ที่เคยมีข่าว อย่างที่ดินบริเวณสถานีพญาไท ยังไม่อยู่ในแผนของบริษัทร่วมทุนปีนี้ และที่ดินยังอยู่กับบมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์

<figure><img style="width: 680px; height: 425px;" src="http://forbesthailand.com/uploads/library/48ab15578dc4b64b0c08defcdf251b66.png" alt="" width="680" height="425" /><figcaption> เดอะ เบส เพชรเกษม โครงการแรกของปี 2560 จากบีทีเอส แสนสิริ โฮลดิ้ง กรุ๊ป มูลค่าโครงการ 1,850 ล้านบาท จำนวน 640 ยูนิต</figcaption></figure>

<div>

<figure><img style="width: 680px; height: 322px;" src="http://forbesthailand.com/uploads/library/73375e1ca0d7d536d65e1344013e5c8a.png" alt="" width="680" height="322" /><figcaption> ตึกสูง 30 ชั้น บนเนื้อที่ 3 ไร่ ทำเลห่างจากสถานีเพชรเกษม 48 (รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน) 120 เมตร</figcaption></figure>

</div>
Q: อัพเดทยอดขาย-รายได้

A: มี 4 โครงการของบริษัทร่วมทุนที่ sold out ขายหมด 100% แล้ว ส่วนที่ยังเหลือขายคือเดอะ เบส การ์เดน-พระราม 9 ยอดขาย 90% และอีก 3 โครงการ คือ เดอะ ไลน์ พหล-ประดิพัทธ์, เดอะ ไลน์ สุขุมวิท 101 และ คุณ บาย ยู ทองหล่อ 12 ยอดขายใกล้เคียงกันที่ 60%

ส่วนการโอน ปีที่แล้วโอนโครงการแรกคือ เดอะ ไลน์ สุขุมวิท 71 มูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท ปีนี้จะมีอีก 1 โครงการโอนในช่วง Q4/60 คือ เดอะ ไลน์ จตุจักร-หมอชิต คาดว่าจะรับรู้รายได้ภายในปีนี้ประมาณ 2,700 ล้านบาท ที่เหลือจะโอนต่อเนื่องถึงปีหน้า

&nbsp;

Q: กลยุทธ์การตลาดปีนี้

A: แน่นอนว่าแบรนด์ เดอะ ไลน์ ที่แข็งแกร่งแล้วเราก็ยังต้องรักษาไว้ และบุกต่อเนื่องในตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะชาวจีนกับฮ่องกงที่เราแข็งแกร่งมากจากอานิสงส์ชื่อเสียงของทางบีทีเอส เราต้องรีบบุกต่อเพราะคู่แข่งเริ่มขยับเข้าไปในตลาดนี้แล้ว

<figure><img style="width: 680px; height: 507px;" src="http://forbesthailand.com/uploads/library/58354378fce28524c224cd3abab40953.png" alt="" width="680" height="507" /><figcaption> ภายในห้องตัวอย่างของเดอะ เบส เพชรเกษม แบบห้องชุด 1-2 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 23-52 ตร.ม. ราคาเฉลี่ย 90,000 บาท/ตร.ม. เริ่ม 1.99 ล้านบาท</figcaption></figure>

แต่สิ่งที่จะเพิ่มเข้ามาคือเทคโนโลยีที่มากขึ้น หลังจากที่แสนสิริประกาศลงทุนใน Property Tech (เทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์) เราจะเริ่มนำเทคโนโลยีมาใช้ในปีนี้ เช่น ระบบโฮมออโตเมชั่น, ระบบ Online Booking, จ่ายเงินจองผ่าน Samsung Pay อีกส่วนคือการเชื่อมโยงกับบีทีเอส ที่ผ่านมาเรามีบัตรร่วมใช้เป็นบัตรแรบบิทกับบัตรเข้า-ออกคอนโดฯได้ในใบเดียว แต่ปีนี้จะเพิ่มขึ้น มีไอเดียเช่น แอพพลิเคชั่นของแสนสิริ-บีทีเอสที่รวมกันใช้ในแอพฯเดียว เพื่อความสะดวกมากขึ้น

&nbsp;

Q: ผลตอบรับ Online Booking

A: เปิดระบบนี้ครั้งแรกในการจองเดอะ เบส เพชรเกษม เมื่อวันที่ 13 พ.ค.60 กันห้องไว้ให้ลูกค้าจองออนไลน์ 50 ยูนิต วันนี้มีจองเข้ามาแล้ว 30 ยูนิต ถือว่าน่าพอใจ หลังจากนี้จะมีระบบจองออนไลน์ก่อนเปิดแกรนด์โอเพนนิ่งที่สำนักงานขายในทุกโครงการแนวสูงของแสนสิริ เพราะมองว่าระบบนี้มีข้อดีที่ทำให้ลูกค้าสะดวกสบายขึ้น ฝั่งบริษัทเองจะประหยัดการทำงานของเซลส์ ลูกค้าสามารถศึกษาข้อมูลทุกอย่างบนอินเทอร์เน็ตได้ และประหยัดการใช้เอกสาร

&nbsp;

Q: มีการลงทุนใน Property Tech หรือยัง

A: batch แรกเราได้สตาร์ทอัพมา 10 กว่าทีม เป็นทีมคนไทยทั้งหมด ขณะนี้กำลังศึกษากันอยู่ว่าจะมีทีมไหนที่น่าสนใจจึงยังไม่ได้ลงทุน แต่ที่จริงสตาร์ทอัพบางทีมไม่ได้ต้องการเงินทุนแต่ต้องการทรัพยากรของเราในการทดลองจริงมากกว่า

<figure><img style="width: 680px; height: 404px;" src="http://forbesthailand.com/uploads/library/a1c0ac70624517da61d11ef5eb327f86.png" alt="" width="680" height="404" /><figcaption> วรางคณาคาดว่าเดอะ เบส เพชรเกษม จะปิดยอดขายได้ 50-60% ภายในสิ้นปีนี้</figcaption></figure>

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events