บริษัท เกษร พร็อพเพอร์ตี้ ผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โครงการมิกซ์ยูส ระดับพรีเมียมและไฮเอนด์ของเมืองไทย ลงทุนกว่า 1,000 ล้านบาท พัฒนาเกษรวิลเลจและเกษรอัมรินทร์ จิ๊กซอว์ชิ้นสุดท้ายโครงการมิกซ์ยูสใจกลางกรุงเทพฯ พร้อมเผยลุคใหม่ของเกษรอัมรินทร์ (Gaysorn Amarin) แบบยิ่งใหญ่ในเดือนมีนาคม 2567 นี้ &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ชาญ ศรีวิกรม์ ประธานบริหาร เกษร พร็อพเพอร์ตี้ และบริษัทในเครือ เกษร กรุ๊ป กล่าวว่า บริษัท เกษร พร็อพเพอร์ตี้ มุ่งมั่นที่จะผลักดันย่านราชประสงค์ หนึ่งในย่านที่สำคัญของกรุงเทพมหานคร ให้กลายเป็นศูนย์กลางไลฟ์สไตล์ที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการ เป็นการเพิ่มทางเลือกและประสบการณ์ชีวิตที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น เพื่อให้ทุกคนได้มาใช้ชีวิตในแบบที่ไม่ซ้ำใคร​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/03/PDtKedQ162R3miTsybCY.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-index="4" data-file-name="PDtKedQ162R3miTsybCY.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style=""><figcaption><div> ชาญ ศรีวิกรม์ ประธานบริหาร เกษร พร็อพเพอร์ตี้ และบริษัทในเครือ เกษร กรุ๊ป</div></figcaption></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;และที่สำคัญเติมเต็มย่านราชประสงค์ให้สมบูรณ์ ที่รวบรวมทุกองค์ประกอบ ทั้งอาคารสำนักงาน ศูนย์การค้า เอ็นเตอร์เทนเมนต์ โรงแรม ที่พักอาศัย และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ หลากหลายรูปแบบ รวมไปถึงพื้นที่สีเขียวและสวนสาธารณะที่เชื่อมโยงถึงกันหมด สามารถเดินถึงกันได้&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ปัจจุบัน การพัฒนาเกษรวิลเลจประกอบด้วย เกษรทาวเวอร์ เกษรเซ็นเตอร์ และเกษรอัมรินทร์ ที่กำลังจะเปิดตัวอย่างเต็มรูปแบบในเดือนมีนาคมนี้ ได้ถูกปรับภาพลักษณ์ใหม่จากอัมรินทร์พลาซ่า ศูนย์การค้าที่เป็นตำนานมากว่า 40 ปี ต่อยอดและแต่งเติมลุคใหม่แต่ยังคงรักษาตำนานของสถาปัตยกรรมแบบ Postmodern ให้มีความทันสมัย ส่งผ่านความเป็น legacy จากรุ่นสู่รุ่น​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/03/ZrnsqM3GXpcTvB7cYUZJ.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-index="0" data-file-name="ZrnsqM3GXpcTvB7cYUZJ.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style=""></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ทำให้ตึกเกษรอัมรินทร์นั้นโดดเด่นด้วยเรื่องเล่าที่ไม่เหมือนโครงการใหม่และตึกอื่นๆ ผ่านเงินลงทุนกว่า 1,000 ล้านบาท จิ๊กซอว์ชิ้นสุดท้ายที่จะเติมเต็มเกษรวิลเลจให้เหนือกว่าศูนย์การค้า และกลายเป็นสถานที่ที่จะสร้างประสบการณ์แบบ “Placemaking Destination” แห่งแรกและแห่งเดียวใจกลางกรุงเทพฯ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;‘เกษรอัมรินทร์’ เป็นศูนย์การค้าล่าสุดที่จะมาเติมเต็มเกษรวิลเลจ โดยมุ่งเน้นการมอบประสบการณ์การใช้ชีวิตรูปแบบใหม่ให้กับคนกรุงเทพฯ ให้ได้ใช้ชีวิตในแบบของตัวเอง เป็นเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใคร ครอบคลุมและตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายภายในที่เดียว และไม่สามารถหาจากที่อื่นได้ โดยเกษรอัมรินทร์จะเข้ามาเติมเต็มประสบการณ์ที่ขาดหายไปของย่านราชประสงค์ (Ratchaprasong District) ผ่านทั้ง 3 โซน ภายใต้แนวคิด MINGLE, ADORE, BOOST และ THRIVE&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;โดย “RAYNUE” ที่เสมือนเป็นเลานจ์ของ Ratchaprasong District ถูกออกแบบมาให้เหมาะกับการพบปะสังสรรค์ พร้อมมอบประสบการณ์ Taste of Time ในแต่ละช่วงเวลาของวัน ได้ลิ้มรสกับอาหารและเครื่องดื่มชั้นเลิศที่จะถูกรังสรรค์ในแต่ละช่วงเวลาที่แตกต่าง ด้วยฝีมือของเชฟและมิกโซโลจิสต์มือรางวัล เป็นสถานที่ต้อนรับและมอบประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นให้กับผู้ที่เข้ามาใน Ratchaprasong District​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/03/WeECBAFpdWrfRo2JGHtA.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-index="1" data-file-name="WeECBAFpdWrfRo2JGHtA.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style=""></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“FORUM” พื้นที่สำหรับจัดอีเวนต์และกิจกรรมต่างๆ ทั้งงานเปิดตัวสินค้า แฟชั่นโชว์ มาร์เก็ต งานแฟร์ จากเหล่านักออกแบบ นักสร้างสรรค์ และช่างฝีมือจากไทยและต่างประเทศ รวมถึงเป็นพื้นที่ให้คนรักศิลปะได้มาเชื่อมต่อกัน&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“THE URBAN” มาร์เก็ตรูปแบบใหม่ที่จะหมุนเวียนส่งมอบประสบการณ์ที่แตกต่างให้กับผู้ที่มาเยือน Ratchaprasong District เพื่อต่อยอดความคิดสร้างสรรค์ แรงบันดาลใจ ความคิดริเริ่ม และการเชื่อมความสัมพันธ์ของลูกค้าที่มายังพื้นที่แห่งนี้ รังสรรและเลือกสรรสินค้าที่มีเอกลักษณ์ที่แตกต่างในแบบฉบับของแต่ละแบรนด์ มีตำนานและเรื่องราวที่ส่งผ่านการออกแบบและการผลิตด้วยฝีมือระดับสูง&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“ที่เกษรวิลเลจ เราเชื่อในความเป็นตัวของตัวเอง เราจึงให้ความสำคัญกับกลุ่มลูกค้าที่รักและเชื่อมั่นในตัวตนของตัวเอง รวมไปถึงพาร์ทเนอร์และร้านค้าที่ภูมิใจนำเสนอตัวตนผ่านแบรนด์และสินค้า และอยากสนับสนุนให้ทุกคนได้ใช้ชีวิตอย่างเพลิดเพลิน สร้างสรรค์ประสบการณ์ที่มีเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใครในแบบฉบับของตัวเอง ตามแนวคิด LIVE YOUR OWN LEGACY ที่เกษรวิลเลจ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“โดยเราตั้งเป้าว่าจะมีทั้งคนไทยและนักท่องเที่ยวมาใช้บริการรวมทั้ง 3 ตึกของเกษรวิลเลจอยู่ที่ 70,000-80,000 คนต่อวัน” ชาญ ศรีวิกรม์ กล่าวเสริม​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/03/WdzFhzH3pEzr4JoApoLb.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-index="2" data-file-name="WdzFhzH3pEzr4JoApoLb.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style=""></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ทั้งนี้ ในเดือนมีนาคมนี้ เกษรอัมรินทร์พร้อมที่จะต้อนรับทุกคน โดยด้านหน้าพบกับ Gaysorn Amarin Cocoon แลนด์มาร์คใหม่ที่เป็นเอกลักษณ์ของเกษรอัมรินทร์ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากรังไหม และยังเป็นจุดเชื่อมต่อภายในทั้งสามอาคาร คือ เกษรทาวเวอร์ เกษรเซ็นเตอร์ และเกษรอัมรินทร์&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;รวมไปถึงร้านค้ามากมายที่เตรียมเปิดให้ทุกคนได้มาเยือน อาทิ LV The Place Bangkok จุดหมายแห่งใหม่ล่าสุดที่รวมคอนเซปต์ครบทุกประสบการณ์ภายในพื้นที่เดียวกัน ตั้งแต่งานนิทรรศการ คาเฟ่ รีเทลสโตร์ และร้านอาหารโดยเชฟชื่อดัง Gaggan Anand พร้อมทั้งดีไซน์สถาปัตยกรรมอันเป็นแรงบันดาลใจ​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2024/03/ecfa5iuyrRd4PxkNZuA6.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="center" data-index="3" data-file-name="ecfa5iuyrRd4PxkNZuA6.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" style=""></figure></div> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ร้านอาหารสไตล์อเมริกัน Mickey's Diner, ร้านบุฟเฟต์นานาชาติ Copper Beyond Buffet, ร้านสเต็กเฮ้าส์ Lawry’s The Prime Ribs, ร้าน Fat Boy Izakaya, ร้านเครื่องแต่งกายสำหรับสุภาพบุรุษอย่าง PAINKILLER Atelier, BASE ฟิตเนสที่ได้รับรางวัล Asia's 'Gym of the Year', ศูนย์ดูแลสุขภาพแบบครบวงจร CEYLA Wellness Studio และอีกมากมาย ​​​​เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ&nbsp;:&nbsp;<a target="_blank" href="https://forbesthailand.com/news/marketing/central-nakhon-pathom-open-30-mar-2024" alt="เผยภาพล่าสุด “เซ็นทรัล นครปฐม” ก่อนเปิดจริง 30 มี.ค. 67">เผยภาพล่าสุด “เซ็นทรัล นครปฐม” ก่อนเปิดจริง 30 มี.ค. 67</a>​ <a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

‘เกษรอัมรินทร์’ ลุคใหม่ ใช้งบรีโนเวทกว่า 1,000 ล้าน เตรียมเปิดตัวเต็มรูปแบบ มี.ค.นี้

<h2>เกษรวิลเลจ เปิดตัวไลฟ์สไตล์แบรนด์รีเทลและผู้เช่ารายใหม่ เสริมความแข็งแกร่งให้กับอาณาจักรอสังหาริมทรัพย์ของกลุ่มทั้ง 3 อาคาร ได้แก่ เกษรเซ็นเตอร์ เกษรทาวเวอร์ และอัมรินทร์พลาซ่าตามกลยุทธ์ระยะยาวของบริษัทฯ ในฐานะผู้นำเออร์บันคอมมิวนิตี้ และไลฟ์สไตล์วิลเลจใจกลางกรุงเทพมหานคร</h2>
ฟ้าฟื้น เต็มบุญเกียรติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เกษรพร็อพเพอร์ตี้ จำกัด กล่าวว่า “เกษรวิลเลจมีความยินดีต้อนรับพันธมิตรใหม่ในเกษรวิลเลจและอัมรินทร์พลาซ่า วิสัยทัศน์ของเราคือการสร้างสรรค์สถานที่ที่คนกรุงเทพฯ จะเลือกมาใช้เวลาไม่ว่าจะเป็นการทำงาน การทานอาหาร ช้อปปิ้ง หรือพบปะสังสรรค์ และรายชื่อแบรนด์ผู้เช่าใหม่ของเรานั้นถือเป็นหนึ่งในเหตุผลหลายประการที่ทำให้เกษรวิลเลจ และย่านราชประสงค์ยังคงเป็นจุดหมายสำคัญสำหรับการช้อปปิ้งและการทำงาน แม้ในช่วงเวลาอันท้าทายเช่นนี้”

ด้านกลุ่มแบรนด์เแฟชั่น ได้แบรนด์ที่ตบเท้าเข้าร่วมใน Fashion Component อย่าง Club21 Group ซึ่งเป็น International Brand มีแบรนด์กว่า 50 แบรนด์เปิดให้บริการบนพื้นที่มากกว่า 1,300 ตารางเมตร ในพื้นที่ชั้นกราวนด์ของเกษรวิลเลจ ประกอบไปด้วย Comme des Garçons สาขาที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และยังมี CDGCDGCDG ซึ่งนับเป็นร้าน Free Standing แห่งแรกในประเทศไทยนอกประเทศญี่ปุ่นที่ได้รับการออกแบบเป็น Open Space รวมถึงร้าน Club21 Multi label brand และ Club21 Men ที่จะเปิดในช่วง Q1 ปี 2564 นอกจากนี้ยังมี Club21 POP-Up Store ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อเร็วๆ นี้, Club21 Pop-Up สโตร์แบ่งเป็น 2 ร้านคือ Women’s Pop-Up และ Men’s Pop-Up

<img class="alignnone size-full wp-image-34129" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/08/08-Jetts-Black.jpg" alt="" width="600" height="400" />

<img class="alignnone size-full wp-image-34128" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/08/05-Club21-Women.jpg" alt="" width="600" height="400" />

นอกจากนี้ในเดือนกันยายนที่จะถึงจะเปิดตัว Jetts Black ฟิตเนสแบบลักชัวรี่แห่งแรกที่ตั้งอยู่ใจกลางสี่แยกราชประสงค์ มีพื้นที่ร่วม 700 ตารางเมตร Jetts Black ตั้งอยู่ชั้น L เกษรเซ็นเตอร์ บริการนี้เป็นส่วนหนึ่งของแนวคิดของการให้บริการด้านเวลล์เนสและความงามแบบครบวงจรที่ทางเกษรวิลเลจได้นำเสนออยู่แล้ว

“Jetts Black เป็นแบรนด์ล่าสุดจากทาง Jetts Fitness ที่สร้างสรรค์ชุมชนของคนกล้า คนมุ่งมั่น และมีจุดมุ่งหมายที่มีไลฟ์สไตล์แอคทีฟที่อยู่ในเมือง นำเสนออุปกรณ์ออกกำลังกายคุณภาพดีที่สุดในโลก บริการระดับยอดเยี่ยม พื้นที่เฉพาะสำหรับการออกกำลังกายแต่ละประเภท พร้อม Personalize เทรนเนอร์ และคลาสเฉพาะต่างๆ อีกมากมาย โดยทั้งหมดนี้ถูกออกแบบมาเพื่อบริการเหนือระดับ สำหรับสมาชิกของเรา” เดน แคนท์เวลล์ กรรมการผู้จัดการประจำประเทศไทยของ Jetts Thailand กล่าว

&nbsp;

จัดเต็มด้านไลฟ์สไตล์วิลเลจ

สำหรับอีกหนึ่งไฮไลท์คือการเปิดตัวสาขาแห่งแรกใน Southeast Asia และแห่งที่ 8 ของโลก กับ AP House by Audemars Piguet แบรนด์นาฬิกาชื่อดังระดับโลกสัญชาติสวิตเซอร์แลนด์ โดยเปิดให้บริการที่ชั้น 4 อาคารเกษรทาวเวอร์ ครอบคลุมพื้นที่มากกว่า 600 ตารางเมตร นอกจากนี้เกษรวิลเลจยังได้ต้อนรับแบรนด์นาฬิกาชั้นนำระดับโลกอย่าง Carl F. Bucherer แบรนด์ที่มีต้นกำเนิดที่เมืองลูเซิร์น หนึ่งในผู้ผลิตนาฬิกาสวิสไม่กี่แบรนด์ที่ยังคงเป็นของตระกูลผู้ก่อตั้งและไม่เคยเปลี่ยนมือซึ่งมาเปิดบูติกครั้งแรกในประเทศไทยกับทางเกษรวิลเลจ รวมไปถึง SARCAR แบรนด์นาฬิกาที่ขึ้นชื่อไปทั่วโลกด้านการผลิตนาฬิกาประดับด้วยเพชรพลอยและอัญมณีล้ำค่าต่างๆ

<img class="alignnone size-full wp-image-34132" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/08/09-AP-House-Bangkok-1.jpg" alt="" width="600" height="383" />

ด้าน พอลล์ กาญจนพาสน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด กล่าวว่า “เรานำ “The Coffee Academics ร้านกาแฟ Specialty Coffee แบรนด์ดังจากฮ่องกงมาเปิดตัวที่เกษรวิลเลจเมื่อช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ณ บริเวณชั้น G เกษรทาวเวอร์ บนพื้นที่มากกว่า 150 ตร.ม. โดยจะเป็นหนึ่งในร้านกาแฟที่พร้อมมอบประสบการณ์สุดพิเศษทั้งการดื่ม และรับประทานอาหาร ร่วมกับร้านอื่นๆ อีก 28 ร้านในเกษรวิลเลจ” นอกเหนือไปจากนี้ที่เกษรวิลเลจยังมีร้าน Burger &amp; Lobster ร้านอาหารอันมีชื่อเสียงโด่งดังจากประเทศอังกฤษและได้ขยายไลน์มาเปิดสาขาแรกและสาขาเดียวในประเทศไทยอีกด้วย

<img class="alignnone size-full wp-image-34130" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/08/12-The-Coffee-Academics_พอลล์-กาญจนพาสน์.jpg" alt="" width="600" height="400" />

ทั้งนี้สำหรับอาคารอัมรินทร์พลาซ่า ซึ่งเป็นหนึ่งในอาคารอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่ในอาณาจักรของเกษรวิลเลจ จัสโค ผู้นำให้บริการด้านพื้นที่ทำงานแบบยืดหยุ่นชั้นนำของเอเชียแปซิฟิก ถือเป็นผู้เช่ารายใหม่ล่าสุด ได้เปิดให้บริการแล้ว ณ ชั้น 5 ของอัมรินทร์พลาซ่า คิดเป็นพื้นที่รวมกว่า 4,500 ตารางเมตร เพื่อมอบประสบการณ์การทำงานแบบเฉพาะสำหรับองค์กรและสตาร์ทอัพ โดยได้รวมไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตแบบมีสีสันใจกลางเมืองเพื่อสร้างสมดุลให้ชีวิตและการทำงาน สมาชิกสามารถเดินทางด้วยรถไฟฟ้าบีทีเอสสู่สถานีชิดลม ซึ่งมีทางเดินสกายวอร์คที่เชื่อมต่อโดยตรง

ฟ้าฟื้น กล่าวเสริมว่า “ความท้าทายของเราคือการปรับกลยุทธ์การตลาดครั้งใหญ่ โดยปรับตัวจากความเป็น Traditional retail mindset มาเป็น Customer centric mindset เป็นพื้นฐานของการคิด การให้ Value ที่แท้จริงกับลูกค้าผ่าน Unique Experience ต่างๆ ที่พัฒนามาจาก In-depth Customer insight จึงทำให้ต้องยกเครื่องทั้งในแง่ของ Communication Activity และ Message ที่จะสื่อสารกับลูกค้าซึ่งได้รื้อแผนที่ถูกวางไว้ตั้งแต่ปีที่แล้วใหม่ทั้งหมด โดยมีการนำดิจิทัลแพลตฟอร์มต่างๆ มาเพิ่มศักยภาพให้เกษรวิลเลจมากขึ้นทั้ง LINE OA ใหม่กับ Loyalty Program, Website รวมถึง Program membership ต่างๆ”

&nbsp;

Gaysorn To You ผู้ช่วยคนใหม่

และเพื่อเป็นการช่วยเหลือผู้เช่า เร็วๆ นี้เกษรวิลเลจได้เปิดตัวบริการ “Gaysorn To You” ผู้ช่วยคนใหม่ในการช้อปปิ้งสินค้าและบริการของเกษรวิลเลจได้อย่างง่ายดาย โดยมีทั้งบริการนำสินค้าไปให้เลือกช้อปปิ้งถึงที่บ้าน บริการจัดส่งสินค้าถึงรถของลูกค้า และบริการจัดส่งสินค้าให้ถึงหน้าบ้าน เพื่อเป็นการลดการสัมผัส และหลีกเลี่ยงการออกจากบ้านในกรณีที่ลูกค้าต้องการความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว และในส่วนของ The Cook ซึ่งเป็นศูนย์อาหารของอัมรินทร์พลาซ่าก็ได้รวบรวมร้านอาหารชื่อดังในมิชลินไกด์ไว้อย่างคับคั่ง และได้เปิดตัวบริการจัดส่งอาหารถึงบ้านด้วยแพลตฟอร์มดิจิทัลของ LINE อีกด้วย

อีกทั้งในช่วงวิกฤตการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เกษรวิลเลจ ได้จัดให้มีการสื่อสารอย่างถูกต้องรวดเร็วแก่ลูกค้าและผู้เช่า  เตรียมนำ LINE Beacon ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการเชื่อมต่อข้อมูลผ่าน Bluetooth แล้วลิ้งค์เข้าสู่แอพพลิเคชั่น “ไทยชนะ” โดยอัตโนมัติทำให้สามารถติดตามผู้ที่มาใช้บริการในเกษรวิลเลจได้ หากเกิดกรณีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

<img class="alignnone size-full wp-image-34131" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2020/08/15-Gaysorn-Membership-Cards.jpg" alt="" width="600" height="317" />

“แม้ที่ผ่านมาเราจะปรับตัวให้เข้ากับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วเสมอ แต่การระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้ส่งผลให้พฤติกรรมลูกค้าเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว และก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการใช้ชีวิตในรูปแบบใหม่ (The New Normal) ซึ่งเป็นโจทย์สำคัญในขณะนี้ เกษรวิลเลจในฐานะของศูนย์การค้าในย่านราชประสงค์ซึ่งถือเป็นพื้นที่สาธารณะ ที่มีความสะอาด ปลอดภัย

การันตีจากแผนแม่บท 6 ข้อ 47 มาตรการ ดูแลทั้งย่านครอบคลุม 4 โซนสำคัญ คือ พื้นที่สาธารณะ ศูนย์การค้า อาคารสำนักงาน และศูนย์อาหาร และเพิ่งได้รับตราสัญลักษณ์ SHA (Amazing Thailand Safety and Health Administration) 100% ทั้งย่าน จะเป็นการสร้างความมั่นใจให้แก่คนในประเทศในการขยับและปรับตัวกลับมาใช้ชีวิตในแบบ New Normal อย่างปลอดภัย สบายใจ

และอีกหนึ่งจุดเด่นสำคัญคือ Space Ratio 1:16 หรือการจำกัดจำนวนผู้ใช้บริการภายในศูนย์ 1 คน ต่อ 16 ตร.ม. เพื่อเพิ่มความมั่นใจ บวกกับการได้พันธมิตรใหม่ที่เข้ามาเติมเต็มในทุกพื้นที่ในเกษรวิลเลจให้กลายเป็นแลนด์มาร์คด้านธุรกิจ การค้า และการท่องเที่ยวที่มีศักยภาพเทียบเท่าย่านดังระดับโลก

อ่านเพิ่มเติม: <a href="https://forbesthailand.com/commentaries/insights/%e0%b9%80%e0%b8%9b%e0%b8%b4%e0%b8%94%e0%b9%82%e0%b8%9c-5-%e0%b8%97%e0%b8%b3%e0%b9%80%e0%b8%a5%e0%b8%99%e0%b9%88%e0%b8%b2%e0%b8%88%e0%b8%b1%e0%b8%9a%e0%b8%95%e0%b8%b2-%e0%b8%a3%e0%b8%b2%e0%b8%84.html">เปิดโผ 5 ทำเลน่าจับตา ราคาอสังหาฯ เพิ่มขึ้นสูงสุด</a>

<article id="post-34018" class="post-34018 post type-post status-publish format-standard has-post-thumbnail hentry category-marketing category-news tag-891 tag-11994 tag-11992 tag-1970 tag-11993">
<div class="body-content post-content-wrap post-detail">
<div>

<hr />

ไม่พลาดเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ของเรา ติดตามเราได้ที่ <a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/">เพจเฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

</div>
</div>
</article>

เกษรวิลเลจ เปิดกลยุทธ์ปรับคอนเซ็ปต์ย้ำผู้นำไฮเอนด์ไลฟ์สไตล์เออร์บันวิลเลจ

<h2>กลุ่มสินค้าซูเปอร์ลักชัวรี่ต้องแตกต่างและมีจุดขายที่บอกได้ว่าต่างจากสินค้าทั่วไปอย่างไร การสร้างแบรนด์สินค้าระดับนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ “เกษรพร็อพเพอร์ตี้” สามารถสร้างได้ทั้งแบรนด์โครงการและคอร์ปอเรท ตามคำบอกเล่าของ ชาญ ศรีวิกรม์</h2>
การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในตลาดส่วนใหญ่จะเน้นสินค้ากลุ่มแมสเป็นหลักขณะที่สินค้าไฮเอนด์ทั้งกลุ่มลักชัวรี่และซูเปอร์ลักชัวรี่มีให้เลือกไม่มากนัก แต่หนึ่งในนั้นคือโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของผู้ประกอบการรายเล็กจากตระกูลเศรษฐีเก่าอย่าง “ศรีวิกรม์”ที่ดำเนินงานในนามบริษัท เกษร พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด

ภายใต้การบริหารของ ชาญ ศรีวิกรม์ ประธานกรรมการ บริษัท เกษร พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด กับประสบการณ์ 30 ปีในธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งทุกโครงการล้วนเป็นไฮแบรนด์บิสิเนสด้วยคุณลักษณ์ของโครงการคอนเซปท์และจุดขายที่ชัดเจน นับตั้งแต่เกษร พลาซ่า พื้นที่ค้าปลีกที่เน้นไฮแบรนด์ช็อปปิ้ง และเกษร ทาวเวอร์ อาคารสำนักงานยุคใหม่ที่มีคอนเซปท์โดดเด่น และราคาค่าเช่าสูงสุดในตลาดสำนักงานกรุงเทพฯ ในปัจจุบัน

ล่าสุดกับโครงการคอนโดมิเนียมใหม่ “เทลล่า ทองหล่อ” คอนโดมิเนียมซูเปอร์ลักชัวรี่โครงการที่ 3 จากเกษร พร็อพเพอร์ตี้

ที่นำที่ดินเกือบ 2 ไร่ ริมถนนทองหล่อ (ปากซอยทองหล่อ 13 เดิมเป็นร้านต้นเครื่อง) ของตระกูลผู้บริหารร่วม คือ ฟ้าฟื้น เต็มบุญเกียรติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เกษร พร็อพเพอร์ตี้ จำากัด ผู้ซึ่งร่วมบริหารเกษรพร็อพเพอร์ตี้มาตั้งแต่ต้นมาพัฒนาเป็นคอนโดมิเนียมสุดหรูที่ออกแบบโดยคำนึงถึงสัมผัสทั้งห้าของการใช้ชีวิต

ด้วยแนวคิด “Canvas of Life” ให้ผู้อยู่อาศัยได้ใช้ชีวิตที่เปี่ยมไปด้วยศิลปะและแรงบันดาลใจโดยเฉพาะกับห้องเพนท์เฮ้าส์ที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อกลางเดือนตุลาคม “เทลล่า สกาย วิลล่า” ขนาดพื้นที่ 394 ตารางเมตร ราคาขายกว่า 254 ล้านบาท หรือคิดเป็นราคาต่อตารางเมตรที่ 7.3 แสนบาท เป็นห้องชุดที่ออกแบบตกแต่งอย่างมีคลาส ด้วยเฟอร์นิเจอร์คอลเล็คชั่นของ Roberto Cavalli Home Interiors จากอิตาลี ที่ยอมให้ใช้โลโก้ Roberto Cavalli แห่งแรกในโครงการเรซิเดนซ์เชี่ยลจากเดิมที่ใช้เฉพาะในโรงแรมเท่านั้น ฝ่ายขายโครงการอธิบายว่าราคากว่า 254 ล้านบาท นอกจากทำเลที่ตั้งแล้ว วัสดุตกแต่งยังนำเข้าทั้งหมด

รวมถึงเฟอร์นิเจอร์ห้องครัวและเครื่องใช้ทุกชิ้น เช่น ตู้เย็นราคา 1.7 ล้านบาท ชุดห้องครัว ราคา 7 ล้านบาท และห้องอื่นๆ ที่ตกแต่งแบบ fully furnished ทั้งหมดก็มีราคาที่ใกล้เคียงกัน จึงบอกได้ว่าราคาที่กำาหนดไว้มีที่มาที่ไป ไม่ใช่กำาหนดขึ้นตามใจผู้ขาย

ชาญ ศรีวิกรม์ ให้สัมภาษณ์ Forbes Thailand ถึงแนวคิดในการทำาธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของเกษร พร็อพเพอร์ตี้ว่าไม่เฉพาะโครงการเทลล่า ทองหล่อเท่านั้นที่มีความเป็นซูเปอร์ลักชัวรี่ แต่ทุกโครงการที่บริษัทพัฒนามาตั้งแต่ต้นก็จัดอยู่ในกลุ่มลักชัวรี่และซูเปอร์ลักชัวรี่มาโดยตลอด “ตั้งแต่โครงการแรก โดมัส สุขุมวิท 16 และ 18 และโหมด ที่สุขุมวิท 61 ในช่วงที่เปิดตัวเราเปิดขายในราคาสูงที่สุดในตลาดขณะนั้น”

โดยโครงการโดมัส สุขุมวิท 16 เปิดขายที่ราคา 8 หมื่นบาทต่อตารางเมตรเมื่อปี 2547 ปัจจุบันราคาซื้อขายปรับขึ้นไปที่เกือบ 3 แสนบาทต่อตารางเมตร แต่หาซื้อไม่ได้แล้วและทุกวันนี้ยังมีลูกค้ายื่น waiting list แสดงความสนใจซื้อโครงการเข้ามาแม้จะผ่านมานานกว่า 15 ปีแล้วก็ตาม

“สิ่งที่ทำให้มูลค่าโครงการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง น่าจะเป็นการบริหารจัดการที่เกษรมีบริษัทบริหารโครงการของตัวเองคือ บริษัท เกษร เรสซิเดนเชียล เซอร์วิส จำากัด ซึ่งเรามีทีมงานของตัวเอง และให้ความสำคัญกับงานบริหารพื้นที่ส่วนกลาง ดูแลเรื่องคุณภาพทำให้มีมูลค่าเพิ่มที่ดี” ประธานกรรมการ เกษร พร็อพเพอร์ตี้ ย้ำและว่ากลุ่มเกษรได้พัฒนาบุคลากรด้านการบริหารอาคารรองรับทั้งโครงการที่พักอาศัย พื้นที่ค้าปลีกและอาคารสำานักงาน ภายใต้การฝึกอบรมให้มีมาตรฐานเดียวกัน เป็นดีเอ็นเอของเกษร พร็อพเพอร์ตี้ ที่เน้นเรื่องคุณภาพการบริการและให้ความสำาคัญกับการบริหารทรัพย์สิน ให้มีมาตรฐานที่ดีอย่างต่อเนื่อง โดยแต่ละส่วนสามารถแลกเปลี่ยนทีมงานระหว่างกันเพื่อการบริหารจัดการที่ดีที่สุด

<img class="alignnone size-full wp-image-24770" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/12/เทลล่า-ทองหล่อ-01.jpg" alt="" width="800" height="469" />
<h2>ทำด้วยใจ-มากกว่าแค่ธุรกิจ</h2>
นอกจากมีทีมบริหารนิติบุคคลของตัวเองแล้ว ทั้งชาญและฟ้าฟื้น ซึ่งเป็นผู้บริหารหลักของเกษร พร็อพเพอร์ตี้ ต่างก็นั่งเป็นประธานนิติบุคคลของแต่ละโครงการ โดยชาญเป็นประธานนิติบุคคลโครงการโดมัส สุขุมวิท 18 และฟ้าฟื้นเป็นประธานนิติบุคคล โครงการโหมด สุขุมวิท 61 ทำให้การประชุมนิติบุคคลเพื่อพิจารณาเรื่องการพัฒนาต่างๆ ภายในโครงการเดินหน้าได้อย่างราบรื่น โดยเฉพาะการขอมติปรับปรุงโครงการที่ทำาอย่างต่อเนื่องช่วยเพิ่มมูลค่าในระยะยาว

“เราไม่ทำตลาดแมส มีคนทำเยอะแล้วมันไม่สร้างข้อแตกต่าง และไม่สนุก” คือเบื้องลึกของแรงบันดาลใจสำาหรับชาญในการทำาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งจะเห็นว่าทั้งพื้นที่ค้าปลีก อาคารสำนักงาน และที่พักอาศัยของกลุ่มเกษรทุกโครงการล้วนเป็นตลาดลักชัวรี่และซูเปอร์ลักชัวรี่ นับจากการเริ่มต้นพัฒนาและเปิดบริการเกษร พลาซ่ามาตั้งแต่ ปี 2537 กลุ่มเกษรก็พัฒนาโครงการระดับลักชัวรี่และซูเปอร์ลักชัวรี่ เป็นไฮแบรนด์บิสิเนสมาโดยตลอด

ด้วยแนวคิดที่แตกต่างแม้จะทำพร็อพเพอร์ตี้เพื่อการอยู่อาศัย แต่ก็วางตัวให้เป็นมากกว่าพร็อพเพอร์ตี้เพื่อขายด้วยแนวคิด “Your Living Experience Your Journey With It” เป็นประสบการณ์ในชีวิตไม่ใช่แค่ที่อยู่อาศัยเขาพิสูจน์คำกล่าวนี้ด้วยคุณภาพโครงการที่มีการพัฒนาต่อเนื่อง แม้จะขายและส่งมอบให้ลูกค้าไปแล้วก็ยังคงบริหารจัดการให้เพิ่มค่าด้วยทีมนิติบุคคลของกลุ่มเกษร และตัวผู้บริหารหลักที่ร่วมเป็นหนึ่งในทีมบริหารนิติบุคคล ตอกย้ำาว่าทำาด้วยใจและจะอยู่กับมันไปตลอด

นับจากเริ่มต้นธุรกิจเกษร พร็อพเพอร์ตี้ มาถึงปัจจุบันผ่านมากว่า 15 ปี บริษัทพัฒนาที่พักอาศัยในแบบคอนโดมิเนียมมาแล้ว 3 โครงการคือ โดมัส สุขุมวิท 16, 18 โครงการ โหมด สุขุมวิท 61 และโครงการเทลล่า ทองหล่อ ทุกโครงการล้วนตรงกับความเป็นแบรนด์เกษร พร็อพเพอร์ตี้ ที่เน้น Refine Quality Living ให้ความสำคัญเรื่องคุณภาพการอยู่อาศัย และมุ่งสร้าง Experiential of Living ประสบการณ์ของการอยู่อาศัยซึ่ง ชาญบอกว่า ดีเอ็นเอของเกษร พร็อพเพอร์ตี้ คือการมีนวัตกรรม การดีไซน์ มีความเป็นงานฝีมือ craftsmanship experience ในทุกโครงการที่ทำ จึงมีจุดเด่นที่แตกต่าง ทำให้ตอบคำถามได้ว่าอะไรที่ทำให้เป็นโครงการลักชัวรี่และซูเปอร์ลักชัวรี่

“อยากทำอะไรที่ไม่มีคนทำ เราชอบทำอะไรที่มีอินโนเวชั่น และไม่แข่งกับ listed company ทำไปสนุกๆ” ชาญกล่าวทิ้งท้ายถึงเจตจำนงการทำธุรกิจของเกษร พร็อพเพอร์ตี้ ซึ่งสะท้อนว่า สิ่งที่ทำนี้เป็นมากกว่าแค่การลงทุนเพื่อธุรกิจ แต่มันคือการพัฒนาที่พิถีพิถันในวิถีของไฮแบรนด์บิสิเนสที่ยืนยันได้ด้วยตัวสินค้าและบริการ

<hr />

<a href="https://bit.ly/2OSAe1p">คลิกเพื่ออ่านเรื่องราวทางธุรกิจที่น่าสนใจอื่นๆ ได้ที่ นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนธันวาคม 2562 ได้ในรูปแบบ e-Magazine</a>

<img class="alignnone wp-image-24517" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/11/cover-December-2019.jpg" alt="" width="300" height="394" />

ชาญ ศรีวิกรม์ ปั้น “เกษร” นำวิถีไฮแบรนด์บิสิเนส

<h2>เกษร ทาวเวอร์ อาคารใหม่ในพื้นที่ “เกษรวิลเลจ” พร้อมเปิดตัวอย่างเป็นทางการ เสริมแกร่งย่านราชประสงค์ หวังกระตุ้นจำนวนนักช้อปเพิ่มจาก 2 หมื่นคนเป็น 3 หมื่นคนต่อวัน ยอดจองพื้นที่ออฟฟิศแตะ 85% ปรับเพิ่มค่าเช่าเป็น 1,350 บาท/ตร.ม. สูสีแชมป์อาคารปาร์คเวนเชอร์ฯ</h2>
ชาญ ศรีวิกรม์ ประธาน กลุ่มเกษร พร็อพเพอร์ตี้ เปิดเผยว่า อาคาร เกษร ทาวเวอร์ ถนนราชดำริ เตรียมเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการแล้วในวันที่ 14 กันยายนนี้ โดยอาคารนี้เป็นส่วนหนึ่งของ เกษรวิลเลจ ซึ่งเป็นพื้นที่มิกซ์ยูสออฟฟิศ-รีเทลรวม 4 อาคารคือเกษร ทาวเวอร์, ศูนย์การค้าเกษร, อัมรินทร์ ทาวเวอร์ และอัมรินทร์ พลาซ่า

โดยเกษร ทาวเวอร์ เป็นอาคารก่อสร้างใหม่เชื่อมต่อกับศูนย์การค้าเกษร งบการลงทุนทั้งหมด 3 พันล้านบาท มีพื้นที่เช่าแบ่งเป็นส่วนรีเทล 1 หมื่นตร.ม. และพื้นที่สำนักงานให้เช่า 2 หมื่นตร.ม. การก่อสร้างอาคารนี้ทำให้เกษรวิลเลจโดยรวมมีพื้นที่รีเทลเพิ่มขึ้น 75% ขณะที่ออฟฟิศบิลดิ้งมีพื้นที่เช่าเพิ่มขึ้น 400%

<figure><img class="wp-image-9548 size-full" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/06/83.1.png" alt="" width="680" height="453" /><figcaption> โมเดลจำลองย่านราชประสงค์</figcaption></figure>

นอกจากนี้ เกษรวิลเลจยังตั้งอยู่ในย่านราชประสงค์ และเป็นส่วนหนึ่งของ ราชประสงค์ วอล์ค ที่เชื่อมต่อตั้งแต่สกายวอล์คของบีทีเอสชิดลม-สยาม ทะลุผ่านเกษร พลาซ่าและเกษร ทาวเวอร์ เลียบตามถนนราชดำริไปยังศูนย์การค้าแพลตตินัม ซึ่งราชประสงค์ วอล์คนี้จะผ่านอาคาร 18 ตึกที่มีทั้งศูนย์การค้า ออฟฟิศ และโรงแรมชั้นนำ

ทั้งนี้ หลังจากเกษร ทาวเวอร์เสร็จสมบูรณ์ บริษัทมีแผนทยอยรีโนเวตฝั่งอัมรินทร์ ทาวเวอร์และอัมรินทร์ พลาซ่าต่อไปด้วยงบลงทุนไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท

<figure><img class="wp-image-9549 size-full" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/06/83.2.png" alt="" width="680" height="453" /><figcaption> ราชประสงค์ วอล์ค บริเวณจุดเชื่อมต่อจากเกษร ทาวเวอร์ ไปยังศูนย์การค้าแพลตตินัม</figcaption></figure>

“การจัดพื้นที่ในห้างสรรพสินค้า เมื่อก่อนเราจัดกันเป็น Mechanical Box จัดเป็นโซนแบ่งแยกกันตามประเภทสินค้า แต่ตอนนี้ลูกค้าต้องการ Street Experience คือเดินชมและค้นพบสินค้าที่ชอบด้วยตนเอง และการมีราชประสงค์ วอล์คจะทำให้ย่านทั้งย่านขนาด 88 ไร่เชื่อมต่อกัน ในระยะเดิน 15 นาทีจากแยกราชประสงค์มีครบเครื่องทั้งออฟฟิศ รีเทล โรงแรม ขณะนี้กำลังพูดคุยกับกลุ่มโรงแรมบนถนนราชดำริ เช่น เซนต์รีจิส เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับย่านราชประสงค์” ชาญกล่าว

ชาญ มองว่าย่านราชประสงค์จะยังคงเป็นใจกลางเมือง (City Centre) ที่มีสไตล์เด่นชัด อย่างไรก็ตาม ยังมีย่านอื่นๆ ที่คาดว่าอาจจะเป็นพื้นที่สำคัญใหม่ๆ ของเมืองได้ เช่น บริเวณสามย่าน-สี่พระยาที่เครือทีซีซีกับจุฬาฯพัฒนาร่วมกัน, โครงการ One Bangkok ในเครือทีซีซี, ไอคอนสยาม จากกลุ่มร่วมทุนสยามพิวรรธน์-MQDC-ซีพี, แยกพระราม 9-รัชดา พื้นที่พัฒนาของกลุ่มจีแลนด์ เป็นต้น

<figure><img class="wp-image-9551 size-full" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/06/83.4.png" alt="" width="680" height="437" /><figcaption> ชาญ ศรีวิกรม์ ประธาน กลุ่มเกษร พร็อพเพอร์ตี้</figcaption></figure>

ด้าน ฟ้าฟื้น เต็มบุญเกียรติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เกษร พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด กล่าวว่า ไฮไลต์ของเกษร ทาวเวอร์ ส่วนออฟฟิศบิลดิ้งมีการจัดพื้นที่ให้มีการใช้งานได้มีประสิทธิภาพขึ้น โดย 1 คนใช้พื้นที่ราว 6-7 ตร.ม.เท่านั้น ต่างจากออฟฟิศแบบเก่าที่มักจะใช้ 1 คนต่อ 10 ตร.ม. สำหรับพื้นที่รีเทล มีส่วนที่โดดเด่นคือโซน Urban Retreat บนชั้น 10-12 เป็นโซนสุขภาพและความงามโดยเฉพาะ มีร้านที่จะเป็นแม่เหล็กสำคัญ เช่น ปัญญ์ปุริ เวลเนส, วอนจิน แอท เกษรวิลเลจ คลินิกความงามจากเกาหลีใต้, La Vie ศูนย์สุขภาพและเวชศาสตร์ชะลอวัย เป็นต้น

<figure><img class="wp-image-9552 size-full" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/06/83.5.png" alt="" width="680" height="453" /><figcaption> บริเวณล็อบบี้ของเกษร ทาวเวอร์</figcaption></figure>

ฟ้าฟื้น กล่าวว่า ขณะนี้ออฟฟิศบิลดิ้งมีผู้เช่าแล้วกว่า 85% และปรับราคาค่าเช่าเป็น 1,350 บาท/ตร.ม. ด้านรีเทลมีการเช่าแล้ว 81% ค่าเช่าสูงสุด 3,500 บาท/ตร.ม. โดยปัจจุบันเกษรวิลเลจมีผู้ใช้บริการ 2 หมื่นคน/วัน คาดว่าหลังเกษร ทาวเวอร์เปิดอย่างสมบูรณ์จะทำให้มีผู้ใช้บริการเพิ่มเป็น 3 หมื่นคน/วันภายในช่วงต้นปี 2561

ทั้งนี้ Forbes Thailand รายงานว่า ปัจจุบันค่าเช่าสำนักงานสูงสุดในไทยคือที่อาคารปาร์คเวนเชอร์ อีโคเพล็กซ์ พัฒนาโดยบมจ.ยูนิเวนเจอร์ ค่าเช่าอยู่ที่ราว 1,300-1,400 บาท/ตร.ม. เกษร ทาวเวอร์จึงถือเป็นออฟฟิศบิลดิ้งที่มีค่าเช่าสูงใกล้เคียงกัน

กรกฎ ศรีวิกรม์ กรรมการบริหาร เกษรวิลเลจ กล่าวต่อว่า ด้านร้านค้าแม่เหล็กในเกษร ทาวเวอร์ที่จะดึงดูดผู้ใช้บริการ อาทิ Burger &amp; Lobster ร้านเบอร์เกอร์จากอังกฤษ, Eric Kayser ครัวซองส์จากฝรั่งเศส, Lonely Two-Legged Creature แบรนด์เสื้อผ้าโดยดวงฤทธิ์ บุนนาค และแฟล็กชิพสโตร์ที่ใหญ่ที่สุดของ Erb เป็นต้น ทั้งหมดจะเริ่มให้บริการวันที่ 14 กันยายนนี้ และเปิดเต็มรูปแบบภายในสิ้นเดือนตุลาคม’60

<figure><img class="wp-image-9553 size-full" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/06/83.6.png" alt="" width="680" height="453" /><figcaption> เกษร เออร์เบิน รีสอร์ท พื้นที่ส่วนกลางบนชั้น 19-20 เปิดให้เช่าพื้นที่สำหรับจัดประชุม-จัดเลี้ยง โดยมีทั้งโซนในร่มและกลางแจ้ง</figcaption></figure>

<figure><img class="wp-image-9554 size-full" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/06/83.7.png" alt="" width="680" height="453" /><figcaption> (จากซ้าย) กรกฎ ศรีวิกรม์ กรรมการบริหาร เกษรวิลเลจ, ชาญ ศรีวิกรม์ ประธาน กลุ่มเกษร พร็อพเพอร์ตี้ และ ฟ้าฟื้น เต็มบุญเกียรติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เกษร พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด</figcaption></figure>

เปิดแล้ว! “เกษร ทาวเวอร์” ตึกออฟฟิศ-รีเทลใหม่กระตุ้นนักช้อปสู่ย่านราชประสงค์เพิ่ม 1 หมื่นคน

<h2>ร้านชาพรีเมียมจากเยอรมนี 1823 Tea Lounge by Ronnefeldt เตรียมแผนขึ้นสู่ปีที่ 3 ในตลาดเมืองไทย วางกลยุทธ์สร้างแบรนด์เป็นแหล่งความรู้-เปิดประสบการณ์ด้าน ‘ชา’ ในราคาเข้าถึงได้ ชูจุดขายร้านชาแห่งเดียวที่มี Tea Master ประจำร้าน เน้นดึงดูดชาวไทยเพิ่มโอกาสซื้อซ้ำ</h2>
Rami Sambath ผู้จัดการทั่วไป ร้านชา 1823 Tea Lounge by Ronnefeldt บนศูนย์การค้าเกษร เปิดเผย Forbes Thailand ว่า ปีนี้ร้าน 1823 Tea Lounge by Ronnefeldt จะครบรอบ 2 ปีในเดือนกรกฎาคมนี้ โดยเตรียมกลยุทธ์ต่อยอดทางธุรกิจ วางตำแหน่งแบรนด์เป็นแหล่งความรู้ด้านชาและเปิดประสบการณ์ใหม่ให้กับลูกค้า เพื่อให้เกิดความแตกต่างจากแบรนด์อื่นในตลาด

<img src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/a7a45fe44535f3142e02a13152fe301c.png" alt="" />
บรรยากาศภายในร้าน 1823 Tea Lounge by Ronnefeldt

เริ่มจากในเดือนพฤษภาคมนี้ ร้าน 1823 Tea Lounge by Ronnefeldt จะจัดมีตติ้ง แนะนำการจับคู่ชากับอาหาร (Tea &amp; Food Pairing) รับสมัครไม่เกิน 15 คน และจะจัดมีตติ้งรูปแบบดังกล่าวเป็นประจำทุกเดือนตลอดปีนี้ โดยบางครั้งอาจปรับเปลี่ยนเป็นมีตติ้งการชิมชา (Tea Tasting) รวมทั้ง Rami Sambath ยังเป็น Tea Master ผู้เดียวที่ทำงานอยู่ในประเทศไทยขณะนี้ ช่วยเสริมความน่าเชื่อถือให้กับร้าน

นอกจากนี้ จะมีการคิดค้นเมนูใหม่เพิ่มเติมจากฝีมือพ่อครัวระดับ 3 มิชลินสตาร์ของร้าน เน้นเป็นอาหารหรือขนมที่มีชาเป็นส่วนประกอบ อาทิ โซบะชาเขียว หมุนเวียนออกจำหน่ายประจำฤดูกาลเพิ่มเติมจากเมนูหลักที่มีของร้าน ซึ่งทั้งหมดนี้คาดหวังว่าจะช่วยสร้างสรรค์ประสบการณ์ด้านชาให้กับลูกค้าชาวไทย

<img style="width: 680px; height: 453px;" src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/122ea050b4c3632bf71a11a66623403c.png" alt="" />
ตัวอย่างเมนูจากชาของร้าน - ไอศกรีมชา Earl Grey

Rami กล่าวต่อว่า ปัจจุบันร้าน 1823 Tea Lounge by Ronnefeldt วางตำแหน่งในตลาดร้านชาเป็นร้านระดับพรีเมียม แต่ระดับราคาอาหารและชายังเข้าถึงได้ง่าย เช่น ใบชาขนาด 50 กรัม จำหน่ายในราคา 450-1,500 บาท หรือขนมมาการอง จำหน่ายชิ้นละ 50-55 บาท

โดยมีจำนวนลูกค้าใช้บริการ (traffic) ประมาณ 150-200 คนต่อวัน ค่าใช้จ่ายเฉลี่ย 600 บาทต่อคน แบ่งเป็นกลุ่มลูกค้าชาวไทย 50% และชาวต่างชาติ 50% ซึ่งกลยุทธ์การเป็นแหล่งเรียนรู้ด้านชานั้น เพื่อดึงดูดลูกค้าชาวไทยเพิ่มขึ้น เนื่องจากลูกค้าชาวไทยมีโอกาสซื้อซ้ำมากกว่านักท่องเที่ยว

“รายได้รวมไม่สามารถเปิดเผยได้ แต่ตลอดเกือบ 2 ปีที่ผ่านมา ผลการดำเนินงานเป็นที่น่าพอใจและเป็นเทรนด์ขาขึ้น เนื่องจากกรุงเทพฯเป็นเมืองที่พร้อมสำหรับร้านชาคุณภาพอยู่แล้ว จึงไล่ตามแบรนด์อื่นที่เข้าสู่ตลาดก่อนได้ไม่ยาก หลังจากนี้จะเน้นการสร้างแบรนด์ให้เข้มแข็งขึ้น” Rami กล่าว

<img style="width: 340px; height: 510px;" src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/9f60974af272122fc88fc11c4b698f31.png" alt="" />

ทั้งนี้ ร้านชา 1823 Tea Lounge by Ronnefeldt ก่อตั้งในปีค.ศ.1823 ที่เมือง Frankfurt ประเทศเยอรมนี และเป็นร้านชาพรีเมียมของแบรนด์นี้ร้านแรกและร้านเดียวในโลก ซึ่ง กรกฎ ศรีวิกรม์ กรรมการบริหาร ศูนย์การค้าเกษร วางตำแหน่งร้านนี้ให้เป็นแฟลกชิปผลักดันความเป็นลักเซอรี่ ไลฟ์สไตล์ของเกษร พลาซ่า และย่านการค้า เกษร วิลเลจ ที่เปิดตัวไปเมื่อต้นปีที่ผ่านมา

&nbsp;

Forbes in Details

Rami Sambath ผู้จัดการทั่วไป ร้านชา 1823 Tea Lounge by Ronnefeldt ยังเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับชาอีกหลายประการ ดังนี้

- Tea Master คือผู้เชี่ยวชาญด้านไวน์ ในทำนองเดียวกับซอมเมอลิเยร์ของเครื่องดื่มไวน์ ซึ่งมีสถาบันให้การรับรอง แต่จะได้รับการยอมรับต้องมาจากการสั่งสมประสบการณ์ตลอดชีวิต
- ชาขายดีของร้านคือ Gaysorn Blend, Bangkok Blend และ Milky Oolong ส่วนอาหารขายดีคือ มิโซะแซลมอนย่างไฟ
- ในไทยมีแหล่งปลูกชาคุณภาพยอดเยี่ยมเป็นชาชนิดชาอู่หลง อยู่ในจังหวัดเชียงราย รองลงมาคือชาดำซึ่งมีคุณภาพดี

ร้านชา 1823 Tea Lounge by Ronnefeldt วางกลยุทธ์รุกตลาดไทยในฐานะแหล่งความรู้ด้านชา

เกษร พร็อพเพอร์ตี้ จัดทัพรุกธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ครั้งใหญ่ ทุ่มงบราว 3.5 พันล้านบาทในเฟสแรก สร้าง “เกษรวิลเลจ” บนพื้นที่กว่า 180,000 ตารางเมตรย่านราชประสงค์ ขึ้นแท่นอาณาจักรธุรกิจและไลฟ์สไตล์รูปแบบใหม่ พร้อมผลักดันให้กลายเป็นแลนด์มาร์คด้านธุรกิจ การค้า และการท่องเที่ยวที่มีศักยภาพเทียบเท่าย่านดังระดับโลก คาดเสร็จสมบูรณ์ทั้งหมดในปี 2563 โดยมี ชาญ ศรีวิกรม์ ประธานกลุ่มเกษร พร็อพเพอร์ตี้ พร้อมด้วย ฟ้าฟื้น เต็มบุญเกียรติ และ กรกฎ ศรีวิกรม์ สองผู้บริหาร บริษัท เกษร พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ร่วมแถลงข่าว

ชาญ เผยรายละเอียดของ เกษรวิลเลจ ว่า เป็นการรวมตัวกันของ 4 โครงการภายใต้การบริหารของ เกษร พร็อพเพอร์ตี้ ประกอบด้วย ศูนย์การค้าเกษร ใช้งบราว 400 ล้านบาท นำเสนอประสบการณ์การช็อปปิ้งด้านแฟชั่น อาหาร และไลฟ์สไตล์ระดับลักชัวรี เกษร ทาวเวอร์ ที่ใช้งบราว 3 พันล้านบาท สร้างเป็นอาคารสำนักงานที่ตอบโจทย์การทำงานสมัยใหม่พร้อมพื้นที่สวนลอยฟ้ากลางแจ้ง คาดว่าจะดำเนินการเฟสแรกแล้วเสร็จในเดือนมิถุนายนนี้

ศูนย์การค้าอัมรินทร์ พลาซ่า เน้นประสบการณ์การช็อปปิ้งที่สนุกและคุ้มค่าด้วยเอาท์เล็ทสินค้าแบรนด์ดัง คาดการปรับปรุงแล้วเสร็จราวปี 2562-2563 และ อัมรินทร์ ทาวเวอร์ ที่ใช้งบราว 70 ล้านบาท ทำเป็นสำนักงานให้เช่าด้วยแนวคิดบูทีกออฟฟิศ คาดว่าจะปรับปรุงแล้วเสร็จในปี 2561

ประธานกลุ่มเกษร พร็อพเพอร์ตี้ กล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า พฤติกรรมของผู้บริโภคและนักท่องเที่ยวในปัจจุบันเติบโตบนตลาดออนไลน์มากขึ้น ธุรกิจค้าปลีกจึงต้องปรับกลยุทธ์ใหม่ให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายเพิ่มขึ้น ซึ่ง เกษรวิลเลจ เป็นหนึ่งในรูปแบบธุรกิจที่ เกษร พร็อพเพอร์ตี้ นำมาใช้เพื่อดึงดูดให้มีผู้เข้ามาใช้บริการ

คาดว่าหลังจากเปิดตัว เกษรวิลเลจ แล้ว ทราฟิกของย่านราชประสงค์จะเติบโตเพิ่มขึ้นเป็นราว 450,000 คน/วัน จากเดิม 300,000 คน/วัน ส่วนศูนย์การค้าจะมีปริมาณทราฟิกเพิ่มเป็น 30,000 คน/วัน จากเดิม 10,000 คน/วัน และขยายฐานลูกค้าจากเดิมที่เน้นกลุ่มลักชัวรี เป็นครอบคลุมลูกค้าที่ชื่นชอบไลฟ์สไตล์อันโดดเด่น และสร้างความรู้สึกให้ทุกคนเข้าถึง เกษรวิลเลจ ได้ง่ายขึ้น

<img style="width: 680px; height: 453px;" src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/163d505cd48dbbe49e8061c79a5e7c07.png" alt="" />

<img style="width: 680px; height: 463px;" src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/fb3dcb0b9de8e6119070a69234d9c676.png" alt="" />

<img style="width: 680px; height: 440px;" src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/9a8a67ec935e68dc38704bfb3b341d05.png" alt="" />

<img style="width: 680px; height: 322px;" src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/880185f5619dccc74f29c5dcb67af013.png" alt="" />

<img style="width: 680px; height: 425px;" src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/b01f9ee95744d58d3c7699fd1c5d8ef1.png" alt="" />

<img style="width: 680px; height: 345px;" src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/068ddd6d030a3f15c04d841afc9dd9ec.png" alt="" />

<img style="width: 680px; height: 425px;" src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/8a81596f3c305a0702eeddb118821758.png" alt="" />

<img style="width: 680px; height: 463px;" src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/6f3e339e4f5709afb2b83989295570af.png" alt="" />

<img style="width: 680px; height: 283px;" src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/0ccdbb9197b585b4435881c9705380e6.png" alt="" />

<img style="width: 680px; height: 324px;" src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/b5447db1457c57624e23ae55b4891314.png" alt="" />

<img style="width: 680px; height: 453px;" src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/a8f7af2b514fad9a61c68392db4b63b9.png" alt="" />

<img style="width: 680px; height: 340px;" src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/f527d2c22aa7746821c8defad749771b.png" alt="" />

<img style="width: 680px; height: 340px;" src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/175f8de425e56994666eef6eb6f96b70.png" alt="" />

<img style="width: 680px; height: 374px;" src="http://www.forbesthailand.com/uploads/library/4500a99dc16ba5f5000fc20e01deb0b5.png" alt="" />

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events