‘เกษรอัมรินทร์’ ลุคใหม่ ใช้งบรีโนเวทกว่า 1,000 ล้าน เตรียมเปิดตัวเต็มรูปแบบ มี.ค.นี้ - Forbes Thailand

‘เกษรอัมรินทร์’ ลุคใหม่ ใช้งบรีโนเวทกว่า 1,000 ล้าน เตรียมเปิดตัวเต็มรูปแบบ มี.ค.นี้

บริษัท เกษร พร็อพเพอร์ตี้ ผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โครงการมิกซ์ยูส ระดับพรีเมียมและไฮเอนด์ของเมืองไทย ลงทุนกว่า 1,000 ล้านบาท พัฒนาเกษรวิลเลจและเกษรอัมรินทร์ จิ๊กซอว์ชิ้นสุดท้ายโครงการมิกซ์ยูสใจกลางกรุงเทพฯ พร้อมเผยลุคใหม่ของเกษรอัมรินทร์ (Gaysorn Amarin) แบบยิ่งใหญ่ในเดือนมีนาคม 2567 นี้


    ชาญ ศรีวิกรม์ ประธานบริหาร เกษร พร็อพเพอร์ตี้ และบริษัทในเครือ เกษร กรุ๊ป กล่าวว่า บริษัท เกษร พร็อพเพอร์ตี้ มุ่งมั่นที่จะผลักดันย่านราชประสงค์ หนึ่งในย่านที่สำคัญของกรุงเทพมหานคร ให้กลายเป็นศูนย์กลางไลฟ์สไตล์ที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการ เป็นการเพิ่มทางเลือกและประสบการณ์ชีวิตที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น เพื่อให้ทุกคนได้มาใช้ชีวิตในแบบที่ไม่ซ้ำใคร

ชาญ ศรีวิกรม์ ประธานบริหาร เกษร พร็อพเพอร์ตี้ และบริษัทในเครือ เกษร กรุ๊ป


    และที่สำคัญเติมเต็มย่านราชประสงค์ให้สมบูรณ์ ที่รวบรวมทุกองค์ประกอบ ทั้งอาคารสำนักงาน ศูนย์การค้า เอ็นเตอร์เทนเมนต์ โรงแรม ที่พักอาศัย และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ หลากหลายรูปแบบ รวมไปถึงพื้นที่สีเขียวและสวนสาธารณะที่เชื่อมโยงถึงกันหมด สามารถเดินถึงกันได้

    ปัจจุบัน การพัฒนาเกษรวิลเลจประกอบด้วย เกษรทาวเวอร์ เกษรเซ็นเตอร์ และเกษรอัมรินทร์ ที่กำลังจะเปิดตัวอย่างเต็มรูปแบบในเดือนมีนาคมนี้ ได้ถูกปรับภาพลักษณ์ใหม่จากอัมรินทร์พลาซ่า ศูนย์การค้าที่เป็นตำนานมากว่า 40 ปี ต่อยอดและแต่งเติมลุคใหม่แต่ยังคงรักษาตำนานของสถาปัตยกรรมแบบ Postmodern ให้มีความทันสมัย ส่งผ่านความเป็น legacy จากรุ่นสู่รุ่น


    ทำให้ตึกเกษรอัมรินทร์นั้นโดดเด่นด้วยเรื่องเล่าที่ไม่เหมือนโครงการใหม่และตึกอื่นๆ ผ่านเงินลงทุนกว่า 1,000 ล้านบาท จิ๊กซอว์ชิ้นสุดท้ายที่จะเติมเต็มเกษรวิลเลจให้เหนือกว่าศูนย์การค้า และกลายเป็นสถานที่ที่จะสร้างประสบการณ์แบบ “Placemaking Destination” แห่งแรกและแห่งเดียวใจกลางกรุงเทพฯ

    ‘เกษรอัมรินทร์’ เป็นศูนย์การค้าล่าสุดที่จะมาเติมเต็มเกษรวิลเลจ โดยมุ่งเน้นการมอบประสบการณ์การใช้ชีวิตรูปแบบใหม่ให้กับคนกรุงเทพฯ ให้ได้ใช้ชีวิตในแบบของตัวเอง เป็นเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใคร ครอบคลุมและตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายภายในที่เดียว และไม่สามารถหาจากที่อื่นได้ โดยเกษรอัมรินทร์จะเข้ามาเติมเต็มประสบการณ์ที่ขาดหายไปของย่านราชประสงค์ (Ratchaprasong District) ผ่านทั้ง 3 โซน ภายใต้แนวคิด MINGLE, ADORE, BOOST และ THRIVE

    โดย “RAYNUE” ที่เสมือนเป็นเลานจ์ของ Ratchaprasong District ถูกออกแบบมาให้เหมาะกับการพบปะสังสรรค์ พร้อมมอบประสบการณ์ Taste of Time ในแต่ละช่วงเวลาของวัน ได้ลิ้มรสกับอาหารและเครื่องดื่มชั้นเลิศที่จะถูกรังสรรค์ในแต่ละช่วงเวลาที่แตกต่าง ด้วยฝีมือของเชฟและมิกโซโลจิสต์มือรางวัล เป็นสถานที่ต้อนรับและมอบประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นให้กับผู้ที่เข้ามาใน Ratchaprasong District


    “FORUM” พื้นที่สำหรับจัดอีเวนต์และกิจกรรมต่างๆ ทั้งงานเปิดตัวสินค้า แฟชั่นโชว์ มาร์เก็ต งานแฟร์ จากเหล่านักออกแบบ นักสร้างสรรค์ และช่างฝีมือจากไทยและต่างประเทศ รวมถึงเป็นพื้นที่ให้คนรักศิลปะได้มาเชื่อมต่อกัน

    “THE URBAN” มาร์เก็ตรูปแบบใหม่ที่จะหมุนเวียนส่งมอบประสบการณ์ที่แตกต่างให้กับผู้ที่มาเยือน Ratchaprasong District เพื่อต่อยอดความคิดสร้างสรรค์ แรงบันดาลใจ ความคิดริเริ่ม และการเชื่อมความสัมพันธ์ของลูกค้าที่มายังพื้นที่แห่งนี้ รังสรรและเลือกสรรสินค้าที่มีเอกลักษณ์ที่แตกต่างในแบบฉบับของแต่ละแบรนด์ มีตำนานและเรื่องราวที่ส่งผ่านการออกแบบและการผลิตด้วยฝีมือระดับสูง

    “ที่เกษรวิลเลจ เราเชื่อในความเป็นตัวของตัวเอง เราจึงให้ความสำคัญกับกลุ่มลูกค้าที่รักและเชื่อมั่นในตัวตนของตัวเอง รวมไปถึงพาร์ทเนอร์และร้านค้าที่ภูมิใจนำเสนอตัวตนผ่านแบรนด์และสินค้า และอยากสนับสนุนให้ทุกคนได้ใช้ชีวิตอย่างเพลิดเพลิน สร้างสรรค์ประสบการณ์ที่มีเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใครในแบบฉบับของตัวเอง ตามแนวคิด LIVE YOUR OWN LEGACY ที่เกษรวิลเลจ

    “โดยเราตั้งเป้าว่าจะมีทั้งคนไทยและนักท่องเที่ยวมาใช้บริการรวมทั้ง 3 ตึกของเกษรวิลเลจอยู่ที่ 70,000-80,000 คนต่อวัน” ชาญ ศรีวิกรม์ กล่าวเสริม


    ทั้งนี้ ในเดือนมีนาคมนี้ เกษรอัมรินทร์พร้อมที่จะต้อนรับทุกคน โดยด้านหน้าพบกับ Gaysorn Amarin Cocoon แลนด์มาร์คใหม่ที่เป็นเอกลักษณ์ของเกษรอัมรินทร์ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากรังไหม และยังเป็นจุดเชื่อมต่อภายในทั้งสามอาคาร คือ เกษรทาวเวอร์ เกษรเซ็นเตอร์ และเกษรอัมรินทร์

    รวมไปถึงร้านค้ามากมายที่เตรียมเปิดให้ทุกคนได้มาเยือน อาทิ LV The Place Bangkok จุดหมายแห่งใหม่ล่าสุดที่รวมคอนเซปต์ครบทุกประสบการณ์ภายในพื้นที่เดียวกัน ตั้งแต่งานนิทรรศการ คาเฟ่ รีเทลสโตร์ และร้านอาหารโดยเชฟชื่อดัง Gaggan Anand พร้อมทั้งดีไซน์สถาปัตยกรรมอันเป็นแรงบันดาลใจ


    ร้านอาหารสไตล์อเมริกัน Mickey's Diner, ร้านบุฟเฟต์นานาชาติ Copper Beyond Buffet, ร้านสเต็กเฮ้าส์ Lawry’s The Prime Ribs, ร้าน Fat Boy Izakaya, ร้านเครื่องแต่งกายสำหรับสุภาพบุรุษอย่าง PAINKILLER Atelier, BASE ฟิตเนสที่ได้รับรางวัล Asia's 'Gym of the Year', ศูนย์ดูแลสุขภาพแบบครบวงจร CEYLA Wellness Studio และอีกมากมาย



​​เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : เผยภาพล่าสุด “เซ็นทรัล นครปฐม” ก่อนเปิดจริง 30 มี.ค. 67

ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine