<h2>ปัจจุบันผู้บริโภคในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกชหันมาให้ความสำคัญกับสุขภาพยิ่งขึ้น ใส่ใจการเลือกอาหาร เครื่องดื่ม ไปจนถึงผลิตภัณฑ์ชนิดอื่นๆ ที่ช่วยส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดี หนึ่งในนั้นคือผลิตภัณฑ์อาหารเสริมจากธรรมชาติ เนื่องจากมีภาพลักษณ์ที่ดูปลอดสารสังเคราะห์ ทำให้ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในหลายตลาด อย่างไรก็ตาม ความเข้าใจนี้อาจนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ไม่ได้ตั้งใจ อาทิ การซื้อผลิตภัณฑ์ที่ยังไม่ผ่านการอนุมัติจากหน่วยงานทางการก่อนวางจำหน่าย รวมไปถึงการรับประทานอาหารเสริมโดยขาดความรู้ความเข้าใจ เพราะ “มาจากธรรมชาติ” ไม่ได้แปลว่าปลอดภัยหรือมีประสิทธิภาพเสมอไป</h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;อเล็กซ์ เตียว ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย พัฒนา และวิทยาศาสตร์ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เฮอร์บาไลฟ์ เห็นถึงความสำคัญของเลือกซื้ออาหารเสริม จึงได้รวบรวมความเชื่อที่ถูกต้องและข้อสังเกต เกี่ยวกับอาหารเสริมจากธรรมชาติ เพื่อให้ผู้บริโภครู้ทันและใช้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนี้ “หลักฐานทางวิทยาศาสตร์” สิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ไม่ว่าจะเป็นอาหารเสริมจากธรรมชาติหรือสังเคราะห์ ความปลอดภัยและประสิทธิภาพล้วนขึ้นอยู่กับส่วนประกอบ ปริมาณที่แนะนำ และการใช้ร่วมกับสารอื่นๆ เช่น สมุนไพรที่ใช้เป็นส่วนประกอบพื้นฐานของอาหารเสริมจากธรรมชาติ แม้จะให้ประโยชน์ แต่บางครั้งอาจเกิดผลข้างเคียงไม่พึงประสงค์เมื่อใช้ร่วมกับยาแผนปัจจุบัน&nbsp; &nbsp; “มาจากธรรมชาติ” ไม่ได้แปลว่าจะไม่มีอันตราย พืชสมุนไพรหลายชนิดอาจเป็นอันตรายได้หากรับประทานไม่ถูกวิธี เช่น รากชะเอม (Licorice root) ที่นิยมใช้ในตำรับยาพื้นบ้านและขึ้นชื่อเรื่องการบรรเทาอาการต่างๆ แต่หากบริโภคในปริมาณมาก โดยเฉพาะในรูปแบบเข้มข้น อาจทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้น และเกิดความไม่สมดุลของเกลือแร่ในร่างกายได้ สิ่งนี้ตอกย้ำว่าการใช้อาหารเสริมจากธรรมชาติก็ต้องใช้ด้วยความระมัดระวังและมีข้อมูลสนับสนุน&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ในทางกลับกัน อาหารเสริมสังเคราะห์ถูกพัฒนาขึ้นให้เลียนแบบสารธรรมชาติ และผ่านกระบวนการทดสอบอย่างเข้มงวดเพื่อให้มั่นใจว่าปลอดภัยและให้ผลตามต้องการ แม้จะมีการถกเถียงกันว่าระหว่างธรรมชาติกับสังเคราะห์แบบใดดีกว่ากัน แต่หลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่ได้รับการตีพิมพ์และผลการทดสอบในห้องปฏิบัติการ ย่อมเป็นแนวทางสำคัญในการประเมินคุณค่าที่แท้จริงของอาหารเสริม ไขข้อน่ารู้ เกี่ยวกับอาหารเสริมจากธรรมชาติ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ถ้าต้องการเลือกใช้อาหารเสริมอย่างมีข้อมูล ผู้บริโภคควรเข้าใจอย่างถ่องแท้ว่าคำว่า “ธรรมชาติ” หมายถึงอะไร และไม่ได้หมายถึงอะไรบ้าง ต่อไปนี้คือ 5 ความเชื่อที่พบได้บ่อย พร้อมคำแนะนำในการอ่านฉลากอาหารเสริมอย่างมีวิจารณญาณ ความเชื่อที่ 1: อาหารเสริมจากธรรมชาติมีความปลอดภัยเสมอ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;หลายคนเข้าใจว่าอาหารเสริมจากธรรมชาติต้องปลอดภัยแน่นอน เพราะไม่ใช่ยา แต่ในความเป็นจริง พืชบางชนิดก็มีสารพิษ เช่น สารหนู (Arsenic) และสารตะกั่ว ซึ่งหากบริโภคโดยไม่ทราบปริมาณที่ปลอดภัย อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อไตและตับ ความเชื่อที่ 2: สามารถรับประทานอาหารเสริมจากธรรมชาติได้ไม่จำกัด&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;บางคนเชื่อว่าสารธรรมชาติจะกินเท่าไรก็ได้โดยไม่เกิดผลข้างเคียง อย่างไรก็ตาม การบริโภคในปริมาณมากเกินไปอาจทำให้เกิดผลกระทบ เช่น วิตามิน A, D, E และ K ซึ่งละลายในไขมัน หากสะสมในร่างกายเป็นเวลานานอาจทำให้เกิดพิษได้ ความเชื่อที่ 3: อาหารเสริมสามารถทดแทนยาได้&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;สิ่งสำคัญที่ต้องเข้าใจคือ อาหารเสริมไม่ใช่ยารักษาโรค และไม่ควรใช้ทดแทนยาที่แพทย์สั่ง โดยเฉพาะในกรณีของโรคเรื้อรังหรือปัญหาสุขภาพเฉพาะทาง อาหารเสริมควรใช้ “ควบคู่” ไปกับการดูแลสุขภาพโดยผู้เชี่ยวชาญ ไม่ใช่ใช้แทน ความเชื่อที่ 4: สามารถทานอาหารเสริมร่วมกับยาได้โดยไม่ต้องระวัง&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;อีกข้อมูลสำคัญคือ การทานอาหารเสริมควบคู่กับยาสามารถทำได้โดยไม่ส่งผลอะไร แต่ความจริงคืออาหารเสริมบางชนิด เช่น สารสกัดจากชาเขียว อาจรบกวนยารักษาโรคหัวใจ หรือกระเทียมอัดเม็ด อาจลดประสิทธิภาพของยาละลายลิ่มเลือด ดังนั้นควรปรึกษาแพทย์ก่อนเริ่มใช้อาหารเสริมควบคู่กับยาเสมอ ความเชื่อที่ 5: อาหารเสริมสามารถแทนอาหารได้&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ไม่มีอาหารเสริมใดสามารถแทนอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการได้อย่างสมบูรณ์ อาหารจากธรรมชาติให้สารอาหาร เส้นใย และองค์ประกอบอื่นๆ ที่ซับซ้อน ซึ่งอาหารเสริมเลียนแบบไม่ได้ แม้อาหารเสริมจะช่วยเสริมสุขภาพ แต่ก็ควรใช้ร่วมกับการรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพอย่างต่อเนื่อง การใช้อาหารเสริมควรมีหลักคิดทางวิทยาศาสตร์&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ก่อนเริ่มใช้อาหารเสริมใดๆ ควรพิจารณาให้รอบด้าน อาหารเสริมที่มีคุณภาพควรผ่านการตรวจสอบจากองค์กรอิสระ และได้รับการรับรองว่าได้มาตรฐานด้านความปลอดภัยและประสิทธิภาพ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นอกจากนี้ ความต้องการเฉพาะด้านสุขภาพของแต่ละคนก็เป็นสิ่งสำคัญในการตัดสินใจว่าอาหารเสริมชนิดใดเหมาะสม เพราะอาหารเสริมที่เหมาะกับคนหนึ่ง อาจไม่เหมาะกับอีกคน การปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้แน่ใจว่าอาหารเสริมที่เลือกใช้ไม่ส่งผลกระทบกับยาหรือโรคประจำตัว&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ด้วยตัวเลือกอาหารเสริมมากมายในท้องตลาด สิ่งที่สำคัญไม่ใช่แค่คำว่า “มาจากธรรมชาติ” บนฉลาก แต่คือคุณภาพ ปริมาณที่เหมาะสม และหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่น่าเชื่อถือ การศึกษาข้อมูลและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญจะช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกใช้อาหารเสริมได้อย่างมีสติ และส่งผลดีต่อสุขภาพในระยะยาว ภาพ: Herbalife เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ :&nbsp;<a href="https://forbesthailand.com/forbes-life/living/ultra-processed-food-can-affect-ncds" alt="เตือนภัยเงียบ! วิกฤตสุขภาพยุคอาหารแปรรูปจัดเต็ม “อิ่ม” แต่ &quot;ขาดสารอาหาร&quot; เสี่ยงโรคเรื้อรังไม่รู้ตัว">เตือนภัยเงียบ! วิกฤตสุขภาพยุคอาหารแปรรูปจัดเต็ม “อิ่ม” แต่ "ขาดสารอาหาร" เสี่ยงโรคเรื้อรังไม่รู้ตัว</a><a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>
<div style="display:none;"><a href="https://www.amorivilla.com/amori-spa/" rel="dofollow">cm8</a></div>
<div style="display:none;"><a href="https://www.amorivilla.com/amori-spa" rel="dofollow">cm8</a></div>

“มาจากธรรมชาติ” ไม่ได้แปลว่าดี ถ้าบริโภคผิดวิธีก็อันตราย! ชวนเจาะลึกเกี่ยวกับอาหารเสริม รับประทานอย่างไรให้ดีต่อสุขภาพ

โอกาสผลิตภัณฑ์สุขภาพของไทยในตลาดโลก

เส้นทางชีวิตของ ‘คุณศิริรัตน์ กิจพ่อค้า’ จากเด็กบนดอย ในจังหวัดเชียงราย สู่เจ้าของแบรนด์ธุรกิจออนไลน์ ผู้ผลิตและจำหน่ายอาหารเสริมเพื่อสุขภาพและความงามที่สร้างโอกาสให้กับชีวิตผู้คน จนสร้างรายได้ระดับพันล้านบาท กับการก้าวสู่เป้าหมายแบรนด์อันดับ 1 ในใจผู้บริโภคชีวิตวัยเด็กของ ‘คุณศิริรัตน์ กิจพ่อค้า’ ประธานกรรมการบริษัท มานา อินโนเวชั่น จำกัด เกิดอยู่บนดอย ที่อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย ที่ได้กินไข่ ก็ถือว่าเป็นอาหารที่อร่อยที่สุดแล้วในตอนนั้น ด้วยความที่ครอบครัวต้องการให้เธอได้เรียนสูงที่สุด จึงลงจากดอยและสนับสนุนการศึกษาอย่างสุดกำลัง จนเรียนจบปริญญาตรีจากนั้นได้เข้าทำงานที่บริษัทหลักทรัพย์ จากมาร์เก็ตติ้ง ขยับสู่นักวางแผนการเงิน ที่ดูแลพอร์ตการลงทุน รวมทั้งวางแผนการเงินให้กับลูกค้าในหลายๆ ด้าน จนประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว ภายใน 4 ปี มีรายได้นับสิบล้านบาท“เป็นคนชอบเรื่องการเงิน ชอบวางแผน อยากให้คนมีสุขภาพการเงินที่ดี ตอนทำที่บริษัทหลักทรัพย์ฯ มีรายได้เยอะ รู้สึกว่าเราประสบความสำเร็จแล้ว แต่มันเป็นความรู้สึกแบบแห้งแล้ง จนวันหนึ่งได้เจอกับคนที่รับสกินแคร์ของเราไปขาย เขามาขอบคุณ ที่ทำให้เขามีรายได้มากขึ้น สามารถดูแลครอบครัวได้ เรารู้สึกดีมาก รู้สึกมีคุณค่า จึงสร้างธุรกิจที่ชื่อว่า MANA อย่างจริงจัง” คุณศิริรัตน์เล่าย้อนถึงจุดเริ่มต้นของ MANA แบรนด์ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเพื่อสุขภาพและความงามที่เติบโตอย่างสูงในวันนี้<figure><div class="se-component se-image-container __se__float-none" contenteditable="false"><figure style="margin: 0px; width: 720px;"><img class="wp-image-68983 size-full" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2022/09/11-mana.jpg" alt="" data-origin="720,409" data-proportion="true" style="width: 720px; height: 409px;" data-size="720px,409px" data-align="none" data-index="0" data-file-name="11-mana.jpg" data-file-size="0"><figcaption>คุณศิริรัตน์ กิจพ่อค้า ประธานกรรมการบริษัท มานา อินโนเวชั่น จำกัด</figcaption></figure></div><figcaption>คุณศิริรัตน์ กิจพ่อค้า ประธานกรรมการบริษัท มานา อินโนเวชั่น จำกัด</figcaption></figure>5 ปี รายได้แตะระดับพันล้านบาทคุณศิริรัตน์ เล่าว่า ผลิตภัณฑ์ MANA เกิดขึ้นจากการที่ตัวเองเป็นคนที่มีผิวแพ้ง่าย ใช้อะไรก็แพ้ไปหมด จึงพยายามเสาะหาผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่เป็นสารสกัดจากธรรมชาติ คิดค้น พัฒนาสูตรด้วยตัวเอง เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ทำให้เกิดการแพ้ มีคนมาถามขอซื้อ และนำไปจำหน่าย ปรากฎว่ามีคนใช้ดีและบอกต่อ ทำให้ผลิตภัณฑ์ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ จากผลิตภัณฑ์สกินแคร์ จนมาเป็นอาหารเสริมคอลลาเจน ที่ร่วมกับสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ในการพัฒนานวัตกรรมใหม่&nbsp; &nbsp; &nbsp; “คอลลาเจน CellEhanZ ที่ดูแลผิวได้ล้ำลึกถึงระดับเซลส์สำหรับชื่อ MANA มาจากพระคัมภีร์ศาสนาคริสต์ ที่เธอยึดถือเล่าเรื่องราวของโมเสส ที่นำเหล่าผู้คนหนีจากความทุกข์ทรมานจากอียิปต์ ข้ามภูเขา จนถึงทะเลแดง เมื่อทัพอียิปต์ไล่หลัง จึงเกิดปรากฎการณ์ทะเลแหวก จนผู้คนหนีได้สำเร็จ เมื่อขึ้นฝั่งได้เผชิญกับความแห้งแล้ง ยากลำบาก ตลอดเส้นทางแทบไม่เจอต้นไม้และน้ำ โมเสกได้อธิฐานและพระเจ้าได้ทำการแสดงอภินิหารอีกครั้ง ที่ทำให้เมล็ดข้าวหล่นลงมาจากฟ้าทุกวัน ซึ่งเรียกว่า “MANA” ที่หล่อเลี้ยงชีวิตผู้คนมาจนถึงปัจจุบัน เปรียบเสมือนแบรนด์ MANA ที่จะสร้างอาชีพให้กับผู้คนตลอด 5 ปี ที่อยู่ในวงการผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงาม คุณศิริรัตน์ ได้มุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการให้ความสำคัญกับการค้นคว้านวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ในเชิงลึก เพราะการแข่งขันของธุรกิจนี้ต้องพัฒนานวัตกรรมในเชิงลึกมากขึ้นเรื่อยๆ อย่างผลิตภัณฑ์คอลลาเจนตัวล่าสุด ที่ได้ญาญ่า อุรัสยา เป็นพรีเซนเตอร์ จนถูกเรียกขานว่า “คอลลาเจนญาญ่า” เน้นการบำรุงผิวในระดับเซลส์ และได้รับรางวัล “THE BEST DIETARY SUPPLEMENT” จาก Hello! Beauty Awards 2022“มีช่วงหนึ่งธุรกิจออนไลน์ได้รับผลกระทบจากกระแสในด้านลบ ทำให้วงการถูกตั้งคำถามถึงความเชื่อมั่น แต่สำหรับผลิตภัณฑ์ของ MANA เราทำอะไรต้องมีมาตรฐานสูงกว่ามาตรฐานทั่วไป เราให้ความสำคัญกับการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีนวัตกรรมต่างๆ ที่มีชื่อเสียงและได้รับรางวัลการันตีจากสถาบันสากล ทำให้ลูกค้าเกิดความเชื่อมั่น และได้ผลลัพท์ที่ดี ทำให้เราเติบโตอย่างต่อเนื่อง” คุณศิริรัตน์กล่าวปัจจุบัน MANA มีผลิตภัณฑ์อยู่ประมาณ 15 รายการ เป็นผลิตภัณฑ์ที่ผู้บริโภคใช้ดีและบอกต่อ จนทำให้รายได้เติบโตอย่างต่อเนื่อง จนปี 2565 นี้ บริษัทฯ มีรายได้รวมถึง 1,000 ล้านบาท<div class="se-component se-image-container __se__float-none" contenteditable="false"><figure style="margin: 0px; width: 720px;"><img class="alignnone size-full wp-image-68974" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2022/09/ooo1.jpg" alt="" data-origin="720,409" data-proportion="true" style="width: 720px; height: 409px;" data-size="720px,409px" data-align="none" data-index="1" data-file-name="ooo1.jpg" data-file-size="0"></figure></div>ก้าวต่อไปขยายตลาดอาเซียน“สิ่งที่เราต้องการไม่ใช่แค่การเติบโตธรรมดา แต่เป็นซูเปอร์โกรท” ศิริรัตน์ กล่าวถึงเป้าหมายในอีก 5 ปีข้างหน้า MANA จะต้องสร้างรายได้เพิ่มขึ้นอีกไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท ที่สำคัญต้องทำให้ตัวแทนที่มีอยู่กว่า 20,000 คน ประสบความสำเร็จมากยิ่งขึ้น นี่คือความท้าทายที่รออยู่ตรงหน้าสำหรับแนวคิดในการพัฒนาธุรกิจของ MANA ไม่ใช่แค่การสร้างยอดขายเพียงอย่างเดียว แต่เป็นการสร้างศักยภาพ พัฒนาคุณภาพชีวิต และความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของผู้คน ทั้งในด้านความคิด และทักษะในการทำธุรกิจ โดยที่ MANA จะอยู่เบื้องหลังคอยสนับสนุน ทั้งระบบการเรียนรู้ ระบบการสั่งซื้อสินค้า และระบบ Fullfillment ของบริษัท เพื่อให้ Dealer ผู้ร่วมธุรกิจของ MANA ทำงานได้ง่ายขึ้น ประสบความสำเร็จกับธุรกิจออนไลน์ได้ง่ายขึ้นและมากขึ้นด้วยปัจจุบัน ธุรกิจออนไลน์ MANA เริ่มขยายตลาดในประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ที่เมียนมาร์ กัมพูชา และจะขยายตลาดไปยังอินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ โดยมีเป้าหมายเป็นแบรนด์ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงามระดับโลกคุณศิริรัตน์ เคยกล่าวว่า อุปสรรคต่างๆ ที่เกิดขึ้นเป็นบันได้สู่ความสำเร็จ ดังนั้นเธอจึงไม่ได้มองว่าสิ่งที่ผ่านเข้ามาเป็นอุปสรรค แต่เป็นก้าวที่จะนำไปสู่ความสำเร็จที่มากขึ้น“อุปสรรคสำคัญที่สุดในตอนนี้ คือตัวเอง เพราะเป็นคนทำงานหนักมาก จนไม่สามารถบาลานซ์ชีวิตได้ ดังนั้นบางครั้งต้องรู้จักพักบ้าง เพื่อจะได้มีแรงบันดาลใจที่จะสู้กับเป้าหมายใหม่ๆ ต่อไป” ศิริรัตน์กล่าวMANA ยังคงยืนยัดในการพัฒนาสินค้า เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของผู้บริโภคและไม่หยุดยั้งในการส่งต่อ ธุรกิจที่จะสร้างความสำเร็จให้ผู้คน จากรุ่นสู่รุ่น

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events