<h2>ด้วยประสบการณ์ทำงานเป็นผู้ช่วยสอนที่โรงเรียนประถมในฮ่องกง Matthew Kwok และ Raymond Yang พบว่าเยาวชนมากมายมีปัญหากับการแสดงออกและจัดการอารมณ์ของตนเอง</h2>&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;การขาดแคลนการเรียนรู้เรื่องอารมณ์ในระบบการศึกษาที่มุ่งเน้นผลสอบจุดประกายให้สองคู่หูก่อตั้ง JUST FEEL ธุรกิจเพื่อสังคมด้วยภารกิจในการยกระดับสุขภาวะทางอารมณ์ของนักเรียนในท้องที่&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“ฮ่องกงลงทุนทรัพยากรมหาศาลเพื่อบริการด้านสุขภาพจิตในโรงเรียน แต่หลักๆ แล้วพวกเขาให้ความสำคัญกับการส่งนักสังคมสงเคราะห์ไปดูแลกรณีที่รุนแรง” Kwok ผู้ร่วมก่อตั้งและกรรมการบริหาร JUST FEEL กล่าว “เราไม่อยากให้เริ่มเยียวยานักเรียนแค่ตอนที่พวกเขามีปัญหาสุขภาพจิตกันแล้ว เราอยากสร้างวัฒนธรรมที่สามารถป้องกันไม่ให้มันเกิดขึ้นได้”&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;Kwok กับ Yang ซึ่งปรากฏชื่อบนทำเนียบ Forbes 30 Under 30 Asia ประจำปีนี้ผนึกกำลังร่วมกับ Anthony Ngai อดีตเทรดเดอร์จาก JPMorgan เปิดตัว JUST FEEL ในปี 2018 โดยมีจุดมุ่งหมายสั่งสอนนักเรียน ผู้ปกครอง และครูในการแสดงออกทางอารมณ์และสื่อสารด้วยความเข้าใจความรู้สึกของผู้อื่น&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ธุรกิจเพื่อสังคมนี้เพิ่งระดมทุกรอบล่าสุดเพื่อขยับขยายการดำเนินงานให้ครอบคลุมกิจกรรมต่างๆ ในโรงเรียน เวิร์กช็อปสำหรับผู้ปกครอง และการฝึกสอนครู ต้องขอบคุณเงินบริจาค 3.3 ล้านเหรียญฮ่องกง (420,980 เหรียญสหรัฐฯ) ในเดือนพฤษภาคมจากฝั่งการกุศลของกลุ่มบริษัทยักษ์ใหญ่ในฮ่องกงอย่าง Swire&nbsp;JUST FEEL กำลังอยู่ระหว่างขยายการส่งต่อการเรียนรู้เรื่องอารมณ์ไปยังโรงเรียนต่างๆ ทั่วฮ่องกงในระยะเวลาสามปีนับจากนี้&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“เราประทับใจความพยายามสุดสร้างสรรค์ของ JUST FEEL ในการสนับสนุนสุขภาวะทางจิตของนักเรียนอย่างทั่วถึง” Tina Chan ผู้ดูแลฝ่ายการกุศลของ John Swire &amp; Sons แห่งฮ่องกงเผยทางข้อความตอบกลับ “พวกเขาพัฒนาโมเดลเฉพาะที่มีโอกาสเติบโต รองรับความต้องการที่จำเป็นของนักเรียน ผู้สอน และผู้ปกครอง”​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-none" contenteditable="false"><figure style="margin: 0px;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2023/09/sSSxyMKN5MKg2WzAeJjj.jpg" alt="" data-proportion="true" data-align="none" data-file-name="sSSxyMKN5MKg2WzAeJjj.jpg" data-file-size="0" data-origin="," data-size="," data-rotate="" data-rotatex="" data-rotatey="" data-percentage="auto,auto" origin-size="1440,959" style="" data-index="0"></figure></div>การ์ดประกอบกิจกรรมการสอนของ JUST FEEL &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;จนถึงตอนนี้ JUST FEEL ระดุมทุนได้ราว 31 ล้านเหรียญฮ่องกงจากตระกูลที่มีชื่อเสียงและองค์กรเพื่อการกุศลต่างๆ ซึ่งรวมถึงมูลนิธิ D.H. Chen ของ Vivien Chen ประธานหญิงผู้ทรงเกียรติแห่ง Nan Fung Group, มูลนิธิ WEMP ของ Adrian Cheng ซีอีโอแห่ง New World Development และเงินทุนเพื่อการกุศลจาก Jebsen Group ผู้จำหน่ายสินค้าลักชูรีต่างๆ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;JUST FEEL กล่าวว่ามีนักเรียนเกือบ 26,500 คนที่ได้รับประโยชน์จากโครงการของพวกเขา โดยมีผู้ปกครอง 29,600 คนและครู 5,100 คนที่ได้รับการฝึกอบรม&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“จากที่ได้เห็นปัญหาเกี่ยวกับสุขภาวะทางจิตของเด็กๆ เพิ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว ทางมูลนิธิคิดว่ามีความจำเป็นต้องยื่นมือเข้าช่วยองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรที่มีความคิดแบบเดียวกัน เพื่อนำเสนอวิธีการจัดการที่เป็นไปได้พร้อมเป้าหมายแก้ไขปัญหาที่ต้นตอ และขับเคลื่อนความเปลี่ยนอย่างเป็นระบบในชุมชม” Karen Cheung ผู้ดูแลทรัพย์สินและหัวหน้านักกลยุทธ์แห่งมูลนิธิ D.H. Chen ทั้งยังเป็นลูกสาวของ Vivien Chen กล่าวในข้อความตอบกลับ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;Cheung เสริมว่า “ภารกิจป้องกันโดยการยกระดับความตระหนักรู้และใส่ใจแต่ละบุคคลของ JUST FEEL สอดคล้องกับคุณค่าด้านการสร้างความสัมพันธ์อันเป็นหนึ่งเดียวและเต็มไปด้วยความเคารพต่อคนอื่นๆ ที่พวกเรายึดถือ ทั้งยังเป็นพื้นฐานสำคัญยิ่งในการสร้างสังคมที่ทุกคนมีความเห็นอกเห็นใจกัน”&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;จากการเป็นหนึ่งในประเทศที่มีระบบการศึกษาการแข่งขันสูงที่สุดในโลก ฮ่องกงถูกวิพากษ์วิจารณ์จากความล้มเหลวในการรับมือกับปัญญหาด้านสุขภาพจิตของนักเรียน&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;อัตรากาฆ่าตัวตายในหมู่เยาวชนอายุต่ำกว่า 15 ปีพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ในปี 2021 อ้างอิงข้อมูลจาก Hong Kong Jockey Club Centre for Suicide Research and Prevention ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่าการฆ่าตัวตายในเยาวชนที่เพิ่มขึ้นเป็นผลมาจากการหยุดเรียนเป็นเวลานานระหว่างโควิด-19 แพร่ระบาด&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;แน่นอนว่าต้องใช้เวลานานกว่าจะปฏิรูปวัฒนธรรมได้ ดังนั้น JUST FEEL จึงตั้งเป้าระดมทุนให้ได้อย่างน้อย 5 ล้านเหรียญฮ่องกงในปีหน้าเพื่อช่วยในการดำเนินการที่ต้องใช้เงิน ธุรกิจเพื่อสังคมรายนี้หวังเงินทุนสนับสนุนจากบริษัทที่อุทิศตัวให้กับกิจกรรมเพื่อสังคม (CSR)&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;การเป็นพาร์ทเนอร์กับ JUST FEEL บริษัทเหล่านี้จะช่วยให้เด็กๆ รุ่นถัดไปได้พัฒนาทักษะระหว่างบุคคล ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานร่วมกับผู้อื่นในที่ทำงานของพวกเขาในอนาคต Kwok กล่าว&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“การสื่อสารเป็นรากฐานของการทำงานในทุกบริษัท” Kwok อธิบาย “เมื่อเราปฏิรูปวัฒนธรรมการสื่อสารในโรงเรียนและครอบครัว แท้จริงแล้วเรากำลังเปลี่ยนแปลงการที่นักเรียนเหล่านี้จะมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นในที่ทำงานเมื่อพวกเขาโตขึ้นด้วย”&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;แปลและเรียบเรียงจาก This Social Enterprise Backed By Swire And Nan Fung,s Chen Family Is Teaching Emotional Education In Exam-Obsessed Hong Kong ซึ่งเผยแพร่บน Forbes &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;อ่านเพิ่มเติม :&nbsp;<a href="https://www.forbesthailand.com/world/america/%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B9%8C%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B8%8D%E0%B9%88%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%84-%E0%B8%88%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B9%81%E0%B8%AE%E0%B8%81%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%88%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B9%82%E0%B8%88%E0%B8%A1%E0%B9%82%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B8%A5-ai" alt="เมื่อยักษ์ใหญ่สายเทค จ้างแฮกเกอร์จู่โจมโมเดล AI">เมื่อยักษ์ใหญ่สายเทค จ้างแฮกเกอร์จู่โจมโมเดล AI</a> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;​​​<a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>​

JUST FEEL ธุรกิจเพื่อสังคม ระดมทุนเพื่อสุขภาพจิตที่ดีขึ้นของนักเรียน

<h2>บริหาร "ธุรกิจเพื่อสังคม" แบบ AT&amp;TS, Ynchrony Financia และ Merck แห่งการจัดอันดับ ทำเนียบ JUST 100 บริษัทอเมริกันเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อม</h2>
การจัดอันดับ Just 100 ครั้งที่ 4 ที่ได้รับการจัดทำร่วมกับ Just Capital พันธมิตรด้านงานวิจัยของเรา แสดงรายชื่อบริษัทที่เป็นสมาชิกที่ดีบริหาร ธุรกิจเพื่อสังคม และคะแนนที่พวกเขาทำได้เทียบกับบริษัทมหาชนอื่นๆ ในการปฏิบัติต่อกลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย 5 กลุ่มสำคัญ

ไม่มีอีกแล้วสำหรับคืนวันแห่งการเติบโตแบบไร้ขีดจำกัด ผลตอบแทนจากหุ้นเพียงอย่างเดียวไม่เพียงพออีกต่อไป บรรดาบริษัทห้างร้านถูกตัดสินจากการปฏิบัติต่อพนักงาน ลูกค้า ชุมชน ผู้ถือหุ้นและสิ่งแวดล้อม โศกนาฏกรรมที่มาพร้อมกันจากโควิด-19 และความอยุติธรรมทางเชื้อชาติมีแต่จะเร่งความเร็วในการสร้างการเปลี่ยนแปลงสู่ทุนนิยมที่มีความรับผิดชอบ

&nbsp;

<img class="alignnone size-full wp-image-43605" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/03/ATTandT.jpg" alt="" width="450" height="450" />
AT&amp;T
บริษัทจาก Dallas ขึ้นมายืนใน 10 อันดับแรกของ Just 100 เป็นครั้งแรกในปีนี้ เพราะทำคะแนนได้เป็นกอบเป็นกำจากการบริการลูกค้า โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือในยามฉุกเฉิน เครือข่ายอินเทอร์เน็ตไร้สาย FirstNet ของ AT&amp;T ซึ่งสร้างขึ้นหลังเหตุการณ์ 9/11 ช่วยให้พนักงานผจญเพลิงและชุดปฏิบัติการฉุกเฉินสามารถสื่อสารกันได้ระหว่างเกิดวิกฤต ขณะที่โครงการฟื้นฟูพิบัติภัยมูลค่า 650 ล้านเหรียญของบริษัทก็ได้ส่งโดรนไปช่วยกระตุ้นสัญญาณโทรศัพท์มือถือแก่ลูกค้าที่สัญญาณขาดหายหลังเกิดพายุเฮอร์ริเคนและไฟป่า

ซีอีโอ John Stankey ผู้ที่ขึ้นแท่นผู้บริหารสูงสุดของบริษัทมูลค่า 1.8 แสนล้านเหรียญ (ยอดขายปี 2019) ต่อจาก Randall Stephenson ในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา รู้ดีว่ามีอะไรให้เขาต้องทำอีกมากมาย “เราทำงานกับผู้กำหนดนโยบายและอุตสาหกรรมเพื่อให้การเข้าถึงอินเทอร์เน็ตเป็นไปได้มากขึ้น และมีราคาที่จับจ่ายได้ ผ่านมาตรการอุดหนุนต่างๆ จากภาครัฐสำหรับครัวเรือนที่มีรายได้น้อย และนโยบายด้านเทคโนโลยีที่ส่งเสริมการลงทุนใหม่ๆ ในโครงสร้างสาธารณูปโภคของประเทศเรา” เขากล่าว - Maggie McGrath รายงาน

&nbsp;

<img class="alignnone size-full wp-image-43607" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/03/Ynchrony-Financia.jpg" alt="" width="450" height="450" />
Synchrony Financial
คนงานชาวอเมริกันกว่า 25 ล้านคนถูกพักงาน หรือให้ออกจากงานเมื่อฤดูใบไม้ผลิที่ผ่านมาแต่พนักงานฝ่ายบริการลูกค้าและศูนย์รับเรื่องของ Synchrony Financial โชคดีกว่านั้นแทนที่จะตกงาน พวกเขาได้โบนัส “การจะทำเช่นนั้นได้ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่มันเป็นสิ่งที่ถูกที่ควร” ซีอีโอ Margaret Keane กล่าว

นอกจากนี้ เธอยังได้จัดตั้งกองทุนฉุกเฉินมูลค่า 1.5 ล้านเหรียญแก่พนักงานที่ต้องการความช่วยเหลือในด้านค่าใช้จ่ายทางการแพทย์ที่เกี่ยวข้องกับโควิด-19 ความริเริ่มเหล่านี้ช่วยให้บริษัทมูลค่า 1.3 หมื่นล้านเหรียญ (ยอดขายสุทธิปี 2019) ก้าวกระโดดขึ้นมา 27 ตำแหน่ง มาอยู่ที่อันดับ 20 ในอันดับ Just 100 ของเราการสนับสนุนพนักงานที่มีลูกเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่บริษัทให้ความสำคัญ

เมื่อเดือนมกราคมปีที่ผ่านมา บริษัทผู้ให้บริการบัตรเครดิตจาก Connecticut แห่งนี้ได้เพิ่มวันลาหยุดเพื่อดูแลลูกเป็น 12 สัปดาห์ ตามด้วยเดือนมิถุนายนได้เปิดตัวค่ายฤดูร้อนเสมือนจริงแก่บุตรของพนักงาน “ฉันเชื่ออย่างจริงจังในการสร้างสภาพแวดล้อมที่พนักงานทุกคนรับรู้ว่า เราให้คุณค่าและความไว้เนื้อเชื่อใจกับพวกเขา” Keane กล่าว - Brianne Garrett รายงาน

&nbsp;

<img class="alignnone size-full wp-image-43606" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/03/mersk.jpg" alt="" width="450" height="450" />
Merck
Ken Frazier ซีอีโอของ Merck เป็น 1 ใน 4 ผู้บริหารผิวดำในบริษัทมหาชนชั้นนำขนาดใหญ่ที่สุดของอเมริกา และเขาตระหนักดีในความรับผิดชอบที่มากับตำแหน่งดังกล่าว “ถ้าคุณพออกพอใจกับสภาพการณ์ในปัจจุบัน เท่ากับว่าคุณเห็นดีเห็นงามกับการเหยียดเชื้อชาติและความไม่เท่าเทียมที่ทำกันเป็นระบบที่สภาพการณ์ที่เป็นอยู่ได้ซุกซ่อนไว้” เขากล่าว

เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา บริษัทเวชภัณฑ์ยักษ์ใหญ่จาก New Jersey ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการพัฒนาวัคซีนโควิด-19 จำนวน 2 ตัว และรั้งอันดับ 1 ในประเภทอุตสาหกรรมเวชภัณฑ์ในอันดับ Just 100 ได้หยุดการโฆษณาบน Facebook และ Instagram พร้อมทั้งเรียกร้องให้ทั้งสองแพลตฟอร์ม “ยุติประทุษวาจา การเหยียดเชื้อชาติ และการเลือกปฏิบัติ”

ภายในองค์กรนั้นกลุ่มเชื้อชาติที่ถูกละเลยในสังคมมีสัดส่วนอยู่ที่ร้อยละ 36 ของพนักงานที่จ้างใหม่ในปี 2018 เพิ่มจากร้อยละ 22 เมื่อราว 4 ปีก่อนหน้า มีผู้หญิงคิดเป็นร้อยละ 49 ของกำลังแรงงานทั้งหมด “เป้าหมายของเราคือ การทำให้แน่ใจว่า ความหลากหลายของพนักงานของเราสะท้อนโลกความเป็นจริงภายนอกและคนไข้ของเรา” Frazier กล่าว “เราต้องทำมากกว่า และทำให้ดีกว่า” - Katie Jennings รายงาน

อ่านเพิ่มเติม: <a href="https://forbesthailand.com/world/america/10-%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%94%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B9%80%E0%B8%99%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%9A-just-100-%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%A9%E0%B8%B1%E0%B8%97%E0%B8%AD.html">10 อันดับทำเนียบ JUST 100 บริษัทอเมริกันเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อม</a>

&nbsp;

<hr />

<a href="https://bit.ly/3rrHyB0">คลิกอ่านฉบับเต็มและบทความทางด้านธุรกิจได้ที่นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนมีนาคม 2564 ในรูปแบบ e-magazine</a>

<img class="wp-image-43406 aligncenter" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/03/156310000_2780875332127539_4024725996886331200_o.jpg" alt="" width="300" height="394" />

&nbsp;

บริหาร "ธุรกิจเพื่อสังคม" แบบ AT&TS, Ynchrony Financia และ Merck

<h2>พบ 10 อันดับแรกแห่ง "JUST 100" 100 บริษัทอเมริกันเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อม</h2>
100 บริษัทอเมริกันเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อม อาจไม่พบกับคืนวันแห่งการเติบโตแบบไร้ขีดจำกัดผลตอบแทนจากหุ้นเพียงอย่างเดียวไม่เพียงพออีกต่อไป บรรดาบริษัทห้างร้านถูกตัดสินจากการปฏิบัติต่อพนักงาน ลูกค้า ชุมชน ผู้ถือหุ้นและสิ่งแวดล้อม โศกนาฏกรรมที่มาพร้อมกันจากโควิด-19 และความอยุติธรรมทางเชื้อชาติมีแต่จะเร่งความเร็วในการสร้างการเปลี่ยนแปลงสู่ทุนนิยมที่มีความรับผิดชอบ การจัดอันดับ Just 100 ครั้งที่ 4 ที่ได้รับการจัดทำร่วมกับ Just Capital พันธมิตรด้านงานวิจัยของเรา แสดงรายชื่อบริษัทที่เป็นสมาชิกที่ดีของสังคม และคะแนนที่พวกเขาทำได้เทียบกับบริษัทมหาชนอื่นๆ ในการปฏิบัติต่อกลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย 5 กลุ่มสำคัญ

ระเบียบวิธีวิจัย: Forbes จับมือกับ Just Capital เพื่อประเมินบริษัทมหาชน 928 แห่งที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ (รวบรวมจากดัชนี Russell 1000 ไม่รวมกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ หรือ REITs และการควบรวมกิจการที่อยู่ระหว่างดำเนินการ) Just Capital ดึงข้อมูลจากรายงานที่เปิดเผยแก่สาธารณชนผลสำรวจบริษัท และคลังข้อมูลที่มาจากการมีส่วนร่วมของคนจำนวนมาก (crowdsource) จากนั้นทีมนักวิทยาศาสตร์ข้อมูลและนักสถิติจึงถ่วงน้ำหนักข้อมูลนั้นโดยอ้างอิงผลการสำรวจความเห็นชาวอเมริกัน 95,000 คน ที่มีต่อแง่มุมที่สำคัญที่สุดในพฤติกรรมของกลุ่มธุรกิจ การถ่วงน้ำหนักอ้างอิงจากข้อมูลด้านการปฏิบัติต่อพนักงาน (41%) ชุมชน (20.7%) ลูกค้า (14.8%) ผู้ถือหุ้น (14.7%) และสิ่งแวดล้อม (8.9%)

&nbsp;

10 อันดับ บริษัทอเมริกัน 100 บริษัทอเมริกันเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อม

&nbsp;

<img class="alignnone wp-image-43516 size-full" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/03/001_Satya-Nadella.jpg" alt="บริษัทอเมริกันเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อม" width="416" height="416" />
อันดับที่ 1
Microsoft
Satya Nadella (CEO)

การปฏิบัติต่อพนักงาน: 3
การปฏิบัติต่อลูกค้า: 7
การปฏิบัติต่อชุมชน: 6
การปฏิบัติต่อสิ่งแวดล้อม: 5
การปฏิบัติต่อผู้ถือหุ้น: 20

&nbsp;

<img class="alignnone wp-image-43517 size-full" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/03/002_Jensen-Huang.jpg" alt="บริษัทอเมริกันเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อม" width="416" height="416" />
อันดับที่ 2
 NVIDIA
Jensen Huang (CEO &amp; President)

การปฏิบัติต่อพนักงาน: 1
การปฏิบัติต่อลูกค้า: 14
การปฏิบัติต่อชุมชน: 29
การปฏิบัติต่อสิ่งแวดล้อม: 9
การปฏิบัติต่อผู้ถือหุ้น: 3

&nbsp;

<img class="alignnone wp-image-43518 size-full" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/03/003_Tim-Cook.jpg" alt="บริษัทอเมริกันเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อม" width="416" height="416" />
อันดับที่3
Apple
Tim Cook (CEO)

การปฏิบัติต่อพนักงาน: 20
การปฏิบัติต่อลูกค้า: 1
การปฏิบัติต่อชุมชน: 1
การปฏิบัติต่อสิ่งแวดล้อม: 11
การปฏิบัติต่อผู้ถือหุ้น: 282

&nbsp;

<img class="alignnone wp-image-43519 size-full" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/03/004_Bob-Swan.jpg" alt="บริษัทอเมริกันเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อม" width="416" height="416" />
อันดับที่4
Intel
Bob Swan (CEO)

การปฏิบัติต่อพนักงาน: 9
การปฏิบัติต่อลูกค้า: 2
การปฏิบัติต่อชุมชน: 21
การปฏิบัติต่อสิ่งแวดล้อม: 14
การปฏิบัติต่อผู้ถือหุ้น: 23

&nbsp;

<img class="alignnone wp-image-43520 size-full" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/03/005_Sundar-Pichai.jpg" alt="บริษัทอเมริกันเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อม" width="416" height="416" />
อันดับที่5
Alphabet
Sundar Pichai (CEO)

การปฏิบัติต่อพนักงาน: 11
การปฏิบัติต่อลูกค้า: 9
การปฏิบัติต่อชุมชน: 5
การปฏิบัติต่อสิ่งแวดล้อม: 7
การปฏิบัติต่อผู้ถือหุ้น: 877


<img class="alignnone wp-image-43521 size-full" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/03/006_Jamie-Dimon.jpg" alt="บริษัทอเมริกันเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อม" width="416" height="416" />
อันดับที่6
 JPMorgan Chase
Jamie Dimon (CEO)

การปฏิบัติต่อพนักงาน: 6
การปฏิบัติต่อลูกค้า: 50
การปฏิบัติต่อชุมชน: 41
การปฏิบัติต่อสิ่งแวดล้อม: 26
การปฏิบัติต่อผู้ถือหุ้น: 215


<img class="alignnone size-full wp-image-43522" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/03/007_Marc-Benioff.jpg" alt="" width="416" height="416" />
อันดับที่7
Salesforce
Marc Benioff (Chairman &amp; CEO)

การปฏิบัติต่อพนักงาน: 2
การปฏิบัติต่อลูกค้า: 266
การปฏิบัติต่อชุมชน: 90
การปฏิบัติต่อสิ่งแวดล้อม: 46
การปฏิบัติต่อผู้ถือหุ้น: 123

&nbsp;

<img class="alignnone size-full wp-image-43523" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/03/008_John-Stankey.jpg" alt="" width="416" height="416" />
อันดับที่8
AT&amp;T
John Stankey (CEO)

การปฏิบัติต่อพนักงาน: 35
การปฏิบัติต่อลูกค้า: 5
การปฏิบัติต่อชุมชน: 51
การปฏิบัติต่อสิ่งแวดล้อม: 40
การปฏิบัติต่อผู้ถือหุ้น: 31


<img class="alignnone size-full wp-image-43524" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/03/009_Chuck-Robbins.jpg" alt="" width="416" height="416" />
อันดับที่9
Cisco Systems
Chuck Robbins (CEO)

การปฏิบัติต่อพนักงาน: 28
การปฏิบัติต่อลูกค้า: 44
การปฏิบัติต่อชุมชน: 13
การปฏิบัติต่อสิ่งแวดล้อม: 8
การปฏิบัติต่อผู้ถือหุ้น: 191


<img class="alignnone size-full wp-image-43525" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/03/0010_Shantanu-Narayen.jpg" alt="" width="416" height="416" />
อันดับที่10
Adobe
Shantanu Narayen (CEO)

การปฏิบัติต่อพนักงาน: 10
การปฏิบัติต่อลูกค้า: 21
การปฏิบัติต่อชุมชน: 53
การปฏิบัติต่อสิ่งแวดล้อม: 101
การปฏิบัติต่อผู้ถือหุ้น: 350

เรียบเรียง: Steven Bertoni

อ่านเพิ่มเติม: <a href="https://forbesthailand.com/news/it/amazon-web-services-%e0%b9%80%e0%b8%9c%e0%b8%a2%e0%b9%81%e0%b8%99%e0%b8%a7%e0%b8%84%e0%b8%b4%e0%b8%94%e0%b9%83%e0%b8%ab%e0%b9%89%e0%b8%98%e0%b8%b8%e0%b8%a3%e0%b8%81%e0%b8%b4%e0%b8%88%e0%b8%ad%e0%b8%a2.html">Amazon Web Services เผยแนวคิดให้ธุรกิจอยู่รอด</a>

&nbsp;

<hr />

<a href="https://bit.ly/3rrHyB0">คลิกอ่านฉบับเต็มและบทความทางด้านธุรกิจได้ที่นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนมีนาคม 2564 ในรูปแบบ e-magazine</a>

<img class="wp-image-43406 aligncenter" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2021/03/156310000_2780875332127539_4024725996886331200_o.jpg" alt="" width="300" height="394" />

&nbsp;

10 อันดับทำเนียบ JUST 100 บริษัทอเมริกันเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อม

นรบดี ผดุงเจริญ ปั้น QPER แพลตฟอร์มไทยช่วยกัน

กรุงศรี ออก "พันธบัตรเพื่อผู้ประกอบการหญิง" ปูทางสู่บริบทเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อม

<h2>ความสุขที่ได้รับจากการมีส่วนร่วมเป็นจิตอาสาในสมัยศึกษาอยู่รั้วจามจุรีได้กลายเป็นแรงผลักดันให้ สรวิศ ไพบูลย์รัตนากร Saturday School บันดาลฝันเด็กหลังห้อง โปรแกรมเมอร์หนุ่มตัดสินใจทิ้งอนาคตในบริษัทยักษ์ใหญ่ เพื่อรับงานครูอาสาและก้าวต่อไปยังการเริ่มต้นโครงการสร้างแรงบันดาลใจให้เด็ก พัฒนาศักยภาพนอกตำรามากกว่า 3,000 คนในโรงเรียนวันเสาร์</h2>
บนเส้นทางชีวิตที่ดูเหมือนจะสมบูรณ์แบบทั้งการเป็นหัวหน้านิสิตคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หรือชัยชนะที่ได้รับจากแข่งขัน IEEEXtreme ในอันดับที่ 16 จากทั่วโลก ยังไม่รวมการเข้าร่วมการแข่งขันเขียนโปรแกรมทั้งระดับชาติและระดับนานาชาตินับไม่ถ้วน จนถึงการได้ทำงานเป็นนักเขียนโปรแกรมของบริษัทโทรคมนาคมขนาดใหญ่ของไทย

หากแต่ความสำเร็จตลอดระยะทางกลับไม่ได้เติมเต็มความรู้สึกและความต้องการที่แท้จริงของ สรวิศ ไพบูลย์รัตนากร ซึ่งเพียรพยายามค้นหาคำตอบถึงจุดหมายของชีวิตและการทำตามความฝันในเส้นทางของการเป็นผู้ให้ที่มอบความสุขใจมากกว่าการนั่งอยู่เบื้องหลังคอมพิวเตอร์เขียนโปรแกรมตามวิชาชีพที่ร่ำเรียนมา

“เราถามตัวเองตลอดว่า นี่เราอยู่ในจุดที่ถูกต้องหรือไม่ passion ของเราคืออะไร ซึ่งพบว่าเป็นด้านสังคมทั้งหมด โดยเฉพาะการศึกษาเป็นส่วนที่แก้ปัญหาสังคมได้มาก เพราะเป็นรากฐานของปัญหาต่างๆ ซึ่งส่วนหนึ่งเกิดจากสมัยเรียนมหาวิทยาลัย ผมเคยเป็นหัวหน้านิสิตของคณะและมีส่วนร่วมช่วยผู้ประสบภัยในช่วงน้ำท่วมใหญ่ โดยเราเห็นภาพของการร่วมแรงร่วมใจช่วยเหลือกันของคนจำนวนมากและกลายเป็นความสุขที่ยังประทับใจ” สรวิศเล่าถึงการตัดสินใจเปลี่ยนแปลงชีวิตครั้งใหญ่หลังจากทำงานเป็นโปรแกรมเมอร์เป็นเวลาปีกว่า

ก้าวแรกในวิชาชีพใหม่ของสรวิศเริ่มจากการเป็นครูวิชาคณิตศาสตร์ โรงเรียนเพี้ยนพินอนุสรณ์ ภายใต้โครงการครูผู้นำการเปลี่ยนแปลงรุ่นที่ 1 ของมูลนิธิ Teach For Thailand ประมาณปีครึ่งจึงเริ่มต้นโครงการ Saturday School เปิดพื้นที่ให้เด็ก

<img class="alignnone wp-image-15253 size-full" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/08/sat-school4-01.jpg" alt="สรวิศ ไพบูลย์รัตนากร Saturday School บันดาลฝันเด็กหลังห้อง" width="800" height="533" />

สามารถเลือกเรียนได้ตามความสนใจ ด้วยวิชานอกหลักสูตรจากอาสาสมัครที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะถ่ายทอดความรู้หรือทักษะต่างๆ มากกว่า 30 วิชา เช่น ศิลปะ คอมพิวเตอร์ ตัดต่อวิดีโอ เต้น การแสดง กีฬา ออกแบบสติ๊กเกอร์ไลน์ ถ่ายภาพ โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ซึ่งเปิดสอนเฉพาะวันเสาร์ตั้งแต่เวลา 9.00-12.00 น. ประมาณ 10 สัปดาห์ และให้เด็กนักเรียนนำเสนอผลงานหรือความสามารถหลังจบหลักสูตร

“อุปสรรคมีตลอดทางและท้อแท้บ้าง ทั้งเงินทุนที่ไม่มี เราต้องใช้ทุนส่วนตัวโดยพยายามทำงานต่างๆ อาสาสมัครมาบ้างไม่มาบ้าง หรือช่วงแรกที่เด็กยังไม่รู้จะได้เรียนอะไร แต่ด้วยกำลังใจจากผลที่เกิดขึ้นกับเด็ก และอาสาสมัครที่ลุยไปกับเรา จนเราได้รับการสนับสนุนมากขึ้น หลังจากทำมาช่วงปีที่ 4 เราสามารถจดทะเบียนเป็นมูลนิธิและมีอาสาสมัครสนใจจำนวนมาก” สรวิศกล่าวถึงการจดทะเบียนเป็นมูลนิธิอย่างเป็นทางการเมื่อปี 2561 หลังจากเริ่มต้นโครงการในปี 2557

ในวันนี้ของ Saturday School สามารถสร้างแรงบันดาลใจให้เด็กจำนวนมากกว่า 3,000 คน จากทั้งหมด 7 รุ่น โดยกำลังเข้าสู่รุ่นที่ 8 ในปีที่ 5 พร้อมโรงเรียนพันธมิตรจำนวน 10 โรงเรียน และอาสาสมัครที่ให้ความสนใจเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากหลักสิบสู่หลักร้อยรวมจำนวนราว 300-500 คน ส่วนใหญ่อยู่ในวัยเริ่มต้นทำงานช่วงอายุ 20-30 ปีที่ต้องการร่วมสร้างสรรค์สังคมและมอบโอกาสให้เด็กได้พัฒนาศักยภาพอย่างเท่าเทียมกัน

“ถ้าคะแนนเต็ม 10 เราให้ Saturday School ประมาณ 7-8 คะแนน จากความเชื่อมั่นของคนที่เข้าร่วมและพร้อมเดินต่อ ผมเชื่อในศักยภาพของบุคคลและเด็กแต่ละคนซึ่งมีความสามารถไม่เหมือนกัน เราจะพัฒนาอย่างไรให้เขาเห็นตัวเองได้และทำให้เด็กเชื่อมั่น ไม่ต้องเก่ง แต่มั่นใจในความสามารถของตัวเอง ซึ่งเราต้องการเห็นเด็กทุกคนมีโอกาสเข้าถึงการพัฒนาศักยภาพของตัวเองสูงสุด และกลับไปเปลี่ยนแปลงโลกของตัวเอง ครอบครัว สังคมรอบข้างถึงประเทศ เราให้เด็กนิยาม change the world ด้วยตัวเอง”

ก้าวต่อไปของ Saturday School เพื่อให้เด็กพัฒนาศักยภาพอย่างเต็มที่และสามารถเปลี่ยนแปลงสังคมของตนเองได้ สรวิศวางแผนขยายพื้นที่หรือเพิ่มโอกาสให้ครอบคลุมทั้งจำนวนโรงเรียนในกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด ซึ่งเตรียมดำเนินการกับเครือข่ายที่บ้านเด็กกำพร้า จ.นครศรีธรรมราช และอยู่ระหว่างพิจารณาพื้นที่ จ.ระยอง รวมถึงการเดินหน้าโครงการต่างๆ ที่มีอยู่อย่างต่อเนื่อง เช่น International Saturday School Volunteer อาสาสมัครที่มีความเชี่ยวชาญด้านภาษาสามารถสอนเด็กแลกเปลี่ยนภาษาและวัฒนธรรมได้

<img class="alignnone wp-image-15252 size-full" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/08/sat-school2-01.jpg" alt="สรวิศ ไพบูลย์รัตนากร Saturday School บันดาลฝันเด็กหลังห้อง" width="800" height="533" />

นอกจากนั้น ในโครงการยังมีโปรแกรม Saturday School  Student Support ต่อยอดเด็กที่จบโครงการ ด้วยการติดตามเก็บข้อมูลและสนับสนุนเด็กให้สามารถทำตามความฝันได้อย่างต่อเนื่อง โครงการ Saturday School Universal ขยายไปยังเด็กทั่วไปที่ต้องการประสบการณ์และโอกาสพัฒนาศักยภาพของตัวเองผ่านกิจกรรมนอกหลักสูตร ซึ่งเพิ่มการเวิร์กช็อปบิดามารดาให้เข้าใจบุตรหลานมากขึ้น โดยสามารถสนับสนุนให้ทุนกับมูลนิธิได้ พร้อมทั้งร่วมกับชลิพา ดุลยากร พัฒนา “Inscru” (อินสครู) พื้นที่แบ่งปันไอเดียการสอนของครูไทยทั่วประเทศ ซึ่งได้รับผลตอบรับมีสมาชิกติดตามมากกว่า 60,000 คน

“เด็กทุกคนไม่ว่าจะมาจากครอบครัวไหนควรมีโอกาสพัฒนาศักยภาพของตัวเอง และเปลี่ยนแปลงสังคมของเขา เรามองว่า Saturday School เป็นพื้นที่ให้คนมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้และเปิดโอกาสให้สังคมร่วมกันออกแบบการศึกษาหรือพื้นที่ทดลองเพื่อออกนโยบายที่ส่งผลต่อการศึกษาไทยต่อไปถ้าสุดท้ายแล้วเราสามารถเปลี่ยนแปลงเชิงระบบได้โดยไม่จำเป็นต้องมีเรา” สรวิศในวัย 29 ปีปิดท้าย

ถึงเป้าหมายสูงสุดของความมุ่งมั่นสร้างการเติบโตให้ Saturday School เพื่อให้เกิดการเรียนรู้เข้าถึงทุกพื้นที่มากที่สุด และส่งผลต่อเนื่องยังการออกแบบการศึกษาของประเทศให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ทั้งนี้ สรวิศ ไพบูลย์รัตนากร เป็นอีกหนึ่งหนุ่มสาวชาวไทยจากทั้งหมด 5 ราย ที่ติดในรายชื่อ <a href="https://forbesthailand.com/people/30-under-30/30-under-30-%e0%b8%aa%e0%b8%b8%e0%b8%94%e0%b8%a2%e0%b8%ad%e0%b8%94%e0%b8%ab%e0%b8%99%e0%b8%b8%e0%b9%88%e0%b8%a1%e0%b8%aa%e0%b8%b2%e0%b8%a7%e0%b8%94%e0%b8%b2%e0%b8%a7%e0%b8%a3%e0%b8%b8%e0%b9%88-2.html">จากการจัดอันดับของ 30 UNDER 30: 30 สุดยอดหนุ่มสาวแห่งเอเชียในปี 2019</a>  ในหมวดผู้ประกอบการเพื่อสังคม

ภาพ: กิตติเดช เจริญพร

อ่านเพิ่มเติม
<ul>
 	<li><a href="https://forbesthailand.com/people/30-under-30/30-under-30-%e0%b8%aa%e0%b8%b8%e0%b8%94%e0%b8%a2%e0%b8%ad%e0%b8%94%e0%b8%ab%e0%b8%99%e0%b8%b8%e0%b9%88%e0%b8%a1%e0%b8%aa%e0%b8%b2%e0%b8%a7%e0%b8%94%e0%b8%b2%e0%b8%a7%e0%b8%a3%e0%b8%b8%e0%b9%88-2.html">30 UNDER 30 สุดยอดหนุ่มสาวดาวรุ่งแห่งเอเชียปี 2019: ตอนที่ 1</a></li>
 	<li><a href="https://forbesthailand.com/people/30-under-30/%e0%b8%a0%e0%b8%b2%e0%b8%99%e0%b8%b8%e0%b8%9e%e0%b8%87%e0%b8%a8%e0%b9%8c-%e0%b9%80%e0%b8%95%e0%b8%8a%e0%b8%b0%e0%b9%84%e0%b8%9e%e0%b8%9a%e0%b8%b9%e0%b8%a5%e0%b8%a2%e0%b9%8c-ticketmelon-%e0%b8%ad.html">ภานุพงศ์ เตชะไพบูลย์ Ticketmelon อีเวนต์ไซส์เล็กเปิดโลก</a></li>
 	<li><a href="https://forbesthailand.com/people/30-under-30/band-protocol-%e0%b8%9b%e0%b8%b1%e0%b9%89%e0%b8%99%e0%b9%80%e0%b8%87%e0%b8%b4%e0%b8%99%e0%b8%94%e0%b8%b4%e0%b8%88%e0%b8%b4%e0%b8%97%e0%b8%b1%e0%b8%a5.html">“Band Protocol” ปั้นเงินดิจิทัล ด้วยโซลูชั่นบล็อกเชน</a></li>
 	<li><a href="https://forbesthailand.com/people/30-under-30/%e0%b8%a3%e0%b8%b1%e0%b8%a8%e0%b8%a1%e0%b8%b5-%e0%b8%81%e0%b8%a7%e0%b8%b2%e0%b8%95%e0%b8%a3%e0%b8%b2-sixteenth-street-capital-%e0%b8%98%e0%b8%b8%e0%b8%a3%e0%b8%81%e0%b8%b4%e0%b8%88.html">รัศมี กวาตรา “Sixteenth Street Capital” ธุรกิจเงินทุนเอเชียตลาดเพิ่งเริ่มต้น</a></li>
 	<li><a href="https://forbesthailand.com/people/30-under-30/terra-%e0%b8%a3%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b8%99%e0%b8%ad%e0%b8%b2%e0%b8%ab%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b8%9d%e0%b8%a3%e0%b8%b1%e0%b9%88%e0%b8%87-%e0%b8%a1%e0%b8%b5-story.html">พงษ์ชาญ รัสเซล แห่ง Ter’ra ร้านอาหารฝรั่ง มี “story” วัตถุดิบไทย</a></li>
</ul>
&nbsp;

https://youtu.be/ydyf07V_NGw

<hr />

<a href="https://bit.ly/2XhaPQ1">คลิกอ่านบทความทางด้านธุรกิจและการลงทุนได้ที่ นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนกรกฎาคม 2562 ในรูปแบบ e-Magazine</a>

<img class="lazy alignnone wp-image-10127 lazy-loaded" src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/07/cover-750.jpg" sizes="(max-width: 330px) 100vw, 330px" srcset="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/07/cover-750.jpg 750w, https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/07/cover-750-229x300.jpg 229w" alt="" width="300" height="392" data-lazy-type="image" data-lazy-src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/07/cover-750.jpg" data-lazy-srcset="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/07/cover-750.jpg 750w, https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2019/07/cover-750-229x300.jpg 229w" data-lazy-sizes="(max-width: 330px) 100vw, 330px" />

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events