‘เมเจอร์’ แตกแบรนด์ใหม่ ‘เมทริส’ คอนโดฯไฮไรส์ย่านซีบีดีใหม่-ดีไซน์เรโทร - Forbes Thailand

‘เมเจอร์’ แตกแบรนด์ใหม่ ‘เมทริส’ คอนโดฯไฮไรส์ย่านซีบีดีใหม่-ดีไซน์เรโทร

เมเจอร์ขยายพื้นที่เกาะทำเลขอบเมือง ปักธงขึ้นคอนโดฯไฮไรส์ พระราม 9-พัฒนาการ-ลาดพร้าว พร้อมแบรนด์ใหม่ “เมทริส” ออกแบบแนวเรโทรโมเดิร์นขยายกลุ่มลูกค้าสู่คนรุ่นใหม่ เปิดราคา 9 หมื่น – 1.2 แสนบาท/ตร.ม.

เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ (MJD) เริ่มต้นพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยมาแล้วหลายโครงการตั้งแต่ปี 2544 มีแบรนด์ที่เป็นที่รู้จัก เช่น เอ็ม, มาเอสโตร ที่ผ่านมาเมเจอร์เน้นการพัฒนาภายในเขตซีบีดี เช่น สุขุมวิท สีลม สาทร เป็นหลัก แต่เริ่มแตกทำเลออกไปในย่านขอบเมืองมากขึ้น เช่น มาเอสโตร 19 รัชดา 19-วิภา, เอ็ม จตุจักร เป็นต้น โดยปีนี้เมเจอร์มีการพัฒนาแบรนด์คอนโดมิเนียมใหม่ขึ้นในชื่อ “เมทริส” (Metris) เพื่อขยายรูปแบบสินค้าและกลุ่มลูกค้าที่แตกต่างออกไป ซึ่ง เพชรลดา พูลวรลักษณ์ กรรมการบริหาร บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้แจกแจงการจัดแบรนด์ของเมเจอร์ว่ามีการแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม คือ 1.ซิกเนเจอร์ คอลเลกชัน คอนโดฯไฮไรส์ระดับไฮเอนด์ซึ่งจะมีชื่อเฉพาะของแต่ละโครงการ 2.เอ็ม คอนโดฯไฮไรส์ระดับกลางบน 3.มาเอสโตร คอนโดฯโลว์ไรส์ระดับกลาง
เพชรลดา พูลวรลักษณ์ กรรมการบริหาร บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) 
โดย เมทริส จะมาเติมพอร์ตในฐานะคอนโดฯไฮไรส์ซึ่งมีทำเลในย่าน Expanding CBD หรือทำเลที่ขยายออกจากศูนย์กลางธุรกิจ สำหรับปี 2560 บริษัทจะเปิดคอนโดฯ เมทริส พร้อมกันใน 3 ทำเล มูลค่ารวม 3 โครงการ 4,500 ล้านบาท คือ 1.เมทริส พระราม 9-รามคำแหง ทำเลแยกพระราม 9-รามคำแหง จำนวน 570 ยูนิต 2.เมทริส พัฒนาการ ทำเลถ.พัฒนาการ ซอย 12 จำนวน 341 ยูนิต 3.เมทริส ลาดพร้าว ทำเลถ.ลาดพร้าว ซอย 8 จำนวน 193 ยูนิต แบรนด์เมทริสจะเกาะกลุ่มราคา 9 หมื่น-1.2 แสนบาท/ตร.ม. เน้นห้องชุดที่มีพื้นที่ใช้สอยอยู่อาศัยได้สะดวกสบาย เริ่มต้น 1 ห้องนอน 30 ตร.ม. และ 2 ห้องนอน 45 ตร.ม.
สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการแบรนด์เมทริส
สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการแบรนด์เมทริส
ไฮไลต์ที่แตกต่างอีกส่วนคือการดีไซน์ ซึ่ง เพชรลดา กล่าวว่าจะเป็นดีไซน์แบบ เรโทร-โมเดิร์นนิสต์ ดีไซน์แบบยุค 1950s แต่เพิ่มความทันสมัยขึ้น อาคารจะออกแบบให้ลดทอนความซับซ้อนและใช้วัสดุที่สะท้อนความเป็นธรรมชาติ เช่น ไม้ ปูน โลหะ “กลุ่มลูกค้าเราที่ผ่านมาเป็นกลุ่มระดับกลางถึงบนวัย 35 ปีขึ้นไป แต่เมทริสจะตอบสนองคนยุคมิลเลนเนียลวัย 25-35 ปี ราคาจะยังคงเป็นระดับกลาง เพราะเรามองว่าคนรุ่นใหม่มีกำลังซื้อมากขึ้นจากการเป็นเจ้าของธุรกิจด้วยตนเอง หรือมีอาชีพอิสระที่มีรายได้ดี ดังนั้นสิ่งที่ต่างคือดีไซน์ของโครงการ จะออกแบบให้เข้ากับไลฟ์สไตล์คนยุคมิลเลนเนียลที่ชอบศิลปะแบบเก่าแต่นำมาสร้างใหม่ สิ่งอำนวยความสะดวกก็จะเข้ากับการทำงานนอกออฟฟิศ มีโคเวิร์กกิ้งสเปซที่ใช้งานได้จริง มีเทคโนโลยี Sound Dome พื้นที่ออกกำลังกายจะไม่ใช่แค่ฟิตเนสธรรมดา แต่จะเพิ่มกิจกรรมอย่าง มวยไทย โยคะฟลาย เทคโนยิม เป็นต้น”
สไตล์ Mid-Century ที่จะนำมาใช้ในการออกแบบคอนโดฯเมทริสทั้ง 3 โครงการ
เพชรลดามองว่า ราคาคอนโดฯเมทริสเทียบกับในทำเลเดียวกันอาจจะสูงกว่าคอนโดฯอื่น แต่เชื่อว่าจะเจาะกลุ่มลูกค้าที่ต้องการคุณภาพวัสดุและการก่อสร้างที่ดีได้ โดยคาดหวังยอดขายในช่วงพรีเซลปลายเดือนสิงหาคมนี้ที่ 60% และทยอยขายได้ 100% ก่อนก่อสร้างเสร็จช่วงครึ่งปีหลังปี 2563 นอกจากนี้ฝั่งผู้ซื้อนักลงทุนน่าจะสนใจการเติบโตของราคาที่ดิน เช่น ทำเลพระราม9-รามคำแหง-พัฒนาการ ราคาที่ดินปี 2560 อยู่ที่ 3-4.5 แสนบาท/ตร.ว. เทียบกับรัชดาภิเษกซึ่งราคาขึ้นไปถึง 8 แสน-1.5 ล้านบาท/ตร.ว.แล้วในปีนี้ โดยมีปัจจัยหนุนคือการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม หรือ ทำเลถ.ลาดพร้าว ซึ่งปัจจุบันราคา 5-6 แสนบาท/ตร.ว. เทียบกับฝั่งถ.พหลโยธินราคา 9 แสน-1.5 ล้านบาท/ตร.ว. จึงเชื่อว่าพื้นที่ส่วนขยายซีบีดีน่าจะเติบโตด้านราคาที่ดินได้อีกในอนาคต   Forbes in Details
  • เมทริส พระราม9-รามคำแหง จะเป็นการพัฒนาพื้นที่แบบมิกซ์ยูส โดยมีอาคารสำนักงานให้เช่าในบริเวณเดียวกัน พื้นที่ประมาณ 3 หมื่นตร.ม.
  • คอนโดฯ ทุกแห่งของเมเจอร์มีคอนเซปท์หลักอย่างหนึ่งร่วมกันคือสามารถเลี้ยงสัตว์ได้ (Pet-Friendly)
  • การบริหารโครงการอสังหาริมทรัพย์เพื่อขายของเมเจอร์จะมีการแบ่งเป็นหน่วยธุรกิจ (BU:Business Unit) ซึ่งในอีก BU หนึ่งจะดูแลแบรนด์ เช่น มาร์ค มิวนีค มารุ