<h2>NUE DISTRICT R9 คอนโดมิเนียม High-Rise ติดห้าง มูลค่าโครงการ 6,663 ล้านบาท ความสำเร็จบทใหม่ของ PROUD และ NOBLE ปิดยอดขายแล้ว 98% ราคาพุ่ง 30% นับตั้งแต่วันเปิดพรีเซลในปี 2565 สะท้อนดีมานด์ New CBD ย่านพระราม 9 โตต่อเนื่อง</h2> &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ท่ามกลางการแข่งขันที่ดุเดือดในตลาดคอนโดมิเนียม ทำเลพระราม 9 กำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดดในฐานะ New CBD ของกรุงเทพมหานคร นับเป็น International Hub ทั้งในภาคธุรกิจและการท่องเที่ยว มีสิ่งอำนวยความสะดวกรายล้อม เช่น การพัฒนาในอนาคตโดยมีโครงการแลนด์มาร์กสำคัญอย่างอาณาจักรใหม่ของเซ็นทรัล พระราม 9 ที่เตรียมขยายพื้นที่ค้าปลีกเพิ่มขึ้นกว่า 92,000 ตร.ม. ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2570&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;อีกทั้งยังได้เปรียบด้านโครงข่ายคมนาคมที่ครอบคลุม ไม่ว่าจะเป็น MRT สายสีน้ำเงิน และยังไม่ไกลจากแอร์พอร์ตลิ้งค์ ตลอดจนรถไฟฟ้าสายสีส้มที่จะเป็นสถานี interchange แห่งใหม่ เชื่อมต่อการเดินทางทำให้พระราม 9 เป็นทำเลที่มีดีมานด์การอยู่อาศัยสูงจากทั้งคนทำงานชาวไทยและชาวต่างชาติที่ต้องการที่พักอาศัยใกล้แหล่งที่ทำงานใจกลางเมือง ตอกย้ำศักยภาพในศูนย์กลางเศรษฐกิจได้เป็นอย่างดี&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;หนึ่งในบทพิสูจน์ของการเติบโตทำเลพระราม 9 ที่ชัดเจนที่สุดในรอบ 3 ปีนี้คือโครงการ NUE DISTRICT R9 ที่มีมูลค่ากว่า 6,663 ล้านบาท โดย บริษัท พราว เรียล เอสเตท จำกัด (มหาชน) ในฐานะเจ้าของโครงการ และ บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้บริหารโครงการ ด้วยทำเลติดเซ็นทรัลพระราม 9 และห่างจาก MRT เพียง 180 เมตร ส่งผลให้โครงการนี้สามารถปิดยอดขายไปได้กว่า 98% แล้ว พร้อมการเติบโตของราคาที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้นถึง 30% นับตั้งแต่วันเปิดพรีเซลในปี 2565​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto; width: 720px;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/11/EAyGTh4Zwe8qWPyCxbdg.jpg" alt="" data-proportion="true" data-size="720px,480px" data-align="center" data-file-name="EAyGTh4Zwe8qWPyCxbdg.jpg" data-file-size="0" origin-size="720,480" data-origin="720px,480px" style="width: 720px; height: 480px;" data-index="0"></figure></div>​ &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นิว ดิสทริค อาร์ 9 (NUE DISTRICT R9) เป็นคอนโดมิเนียม High-Rise จำนวน 1 ตึก 2 ทาวเวอร์ สูง 33 ชั้น และ 41 ชั้น รวม 1,442 ยูนิต บนที่ดินกว่า 6 ไร่ พร้อมพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่ถึง 8 ไร่ 8 โซน หรือกว่า 12,800 ตารางเมตร ภายใต้คอนเซปต์ DYNAMIC URBAN FACILITIES ที่ออกแบบมาเพื่อการใช้งานจริง มีกิจกรรมครบครัน เหมาะกับทุกไลฟ์สไตล์และทุกเจเนอเรชั่น ไม่ว่าจะเป็น Rising Pool, Twilight Pool, Surf Studio, Sky Fitness, Photography Studio, Private Spa, Co-Kitchen, Art Hub และอีกมากมาย รวมถึงพื้นที่ Open space ขนาดใหญ่กว่า 5,700 ตารางเมตร&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ไฮไลต์ของโครงการคือแปลนห้องแบบหน้ากว้างทุกยูนิตซึ่งเป็นรูปแบบห้องที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของโครงการ NUE ที่เน้นการออกแบบพื้นที่และฟังก์ชันให้เป็นสัดส่วนสามารถอยู่อาศัยได้จริง รองรับทั้งการอยู่อาศัยคนเดียว หรือคู่รัก ไปจนถึงครอบครัว โดยทุกยูนิตตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ครบชุดพร้อมเข้าอยู่ เริ่มตั้งแต่ห้องแบบ 1 Bedroom ขนาด 26 และ 30.20 ตารางเมตร ที่จัดสรรฟังก์ชันครบทั้งมุมพักผ่อน มุมทานอาหาร และครัวแยกเป็นสัดส่วน เหมาะกับคนเมืองที่ต้องการความเป็นส่วนตัว&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;นอกจากนี้ ยังมีห้อง 1 Bedroom Plus ขนาด 34.80 ตารางเมตร ที่เพิ่ม พื้นที่มากขึ้นเพื่อการใช้งานที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นห้องทำงาน มุมอ่านหนังสือ หรือเปลี่ยนเป็นห้องนอนเล็กสำหรับแขก ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของคนรุ่นใหม่ได้อย่างลงตัว&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ห้องแบบ 2 Bedroom ขนาด 40.50 ตารางเมตร ที่ถูกออกแบบให้เหมาะสำหรับการอยู่อาศัยร่วมกันของคู่รักหรือครอบครัวเริ่มต้น ด้วยการแยกสัดส่วนห้องนอนชัดเจน และพื้นที่ใช้สอยที่ลงตัว ปิดท้ายด้วยห้องแบบ 2 Bedroom ขนาด 46 ตารางเมตร ที่ให้ความเป็นส่วนตัวสูงสุด เหมาะกับเพื่อนร่วมห้องหรือผู้ที่ต้องการการใช้ชีวิตอิสระในพื้นที่เดียวกัน​<div class="se-component se-image-container __se__float- __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto; width: 720px;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/11/e11tDdq7CJg1BV8YSPZe.jpg" alt="" data-proportion="true" data-size="720px,480px" data-align="center" data-file-name="e11tDdq7CJg1BV8YSPZe.jpg" data-file-size="0" origin-size="720,480" data-origin="720px,480px" style="width: 720px; height: 480px;" data-index="1"></figure></div> ความสำเร็จบทใหม่ของ PROUD และ NOBLE สะท้อนดีมานด์ย่านพระราม 9&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;พสุ ลิปตพัลลภ กรรมการบริหาร บริษัท พราว เรียล เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ PROUD กล่าวว่า NUE DISTRICT R9 ถือเป็นบทพิสูจน์ของศักยภาพแบรนด์ NUE และการเติบโตของย่านพระราม 9 ในฐานะ NEW CBD ที่มีความพร้อมทั้งด้านโครงสร้างพื้นฐาน สิ่งอำนวยความสะดวก และความต้องการจากทั้งผู้ซื้อชาวไทยและต่างชาติ&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ด้วยคอนเซปต์คอนโดติดห้างใจกลางพระราม 9 ที่เป็นมากกว่าที่อยู่อาศัย แต่เป็นการพัฒนาที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตเป็นศูนย์กลางของไลฟ์สไตล์ยุคใหม่ และผลลัพธ์ด้านยอดขายรวมถึงการเพิ่มขึ้นของมูลค่าโครงการ สะท้อนถึงความแม่นยำในการวางกลยุทธ์ตั้งแต่การเลือกทำเล การออกแบบพื้นที่ ไปจนถึงการพัฒนาส่วนกลางให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์คนเมือง&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“ความสำเร็จของโครงการนี้ สะท้อนถึงวิสัยทัศน์ของ PROUD ที่มองเห็นศักยภาพของทำเลพระราม 9 และความต้องการของตลาด เรามั่นใจว่าโครงการนี้จะเป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์ของการลงทุนที่ประสบความสำเร็จ และเป็นภาพสะท้อนของแนวคิด ALL IS WELL เพื่อชีวิตดีที่ยั่งยืน ที่ PROUD ยึดมั่น ในการพัฒนาโครงการระดับ Luxury และ Ultra Luxury” <div class="se-component se-image-container __se__float-center" contenteditable="false"><figure style="margin: auto; width: 720px;"><img src="https://forbesthailand.com/wp-content/uploads/2025/11/gMa4NV5CJAk1Hbr9FNRe.jpg" alt="" data-proportion="true" data-size="720px,480px" data-align="center" data-file-name="gMa4NV5CJAk1Hbr9FNRe.jpg" data-file-size="0" origin-size="720,480" data-origin="720px,480px" style="width: 720px; height: 480px; transform: rotate(0deg);" data-index="2"><figcaption style="margin-top: 0px;"><div>&nbsp;ธงชัย บุศราพันธ์-พสุ ลิปตพัลลภ</div></figcaption></figure></div>​ &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;ธงชัย บุศราพันธ์ รองประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NOBLE กล่าวว่า เดิมทีโครงการของ NOBLE มีอยู่ตามแนว BTS สถานีทองหล่อถึงอารีย์เท่านั้น ซึ่งมีลูกค้าอีกจำนวนมากที่ต้องการจะซื้อโปรดักต์ของ NOBLE แต่ไม่สามารถทำได้ เนื่องด้วยราคาต่อตารางเมตร ทำให้ NOBLE สร้าง NUE ขึ้นมา โดยยังคงจุดแข็งคือโลเคชั่นที่สะดวก เดินทางง่าย แต่ไม่ต้องติดใจกลางเมืองมากนัก&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;พระราม 9 เป็นหนึ่งในทำเลสำคัญของ NOBLE ที่ได้สั่งสมความเชี่ยวชาญมาอย่างยาวนาน ความสำเร็จของ 5 โครงการล่าสุดที่พัฒนาขึ้น ได้แก่ โนเบิล รีวอลฟ์ รัชดา, โนเบิล รีวอลฟ์ รัชดา 2, นิว ดิสทริค อาร์ 9, นิว โนเบิล รัชดา-ลาดพร้าว รวมถึงโครงการพรีเซลล์ล่าสุดอย่าง นิว เอปิค อโศก พระราม 9 รวมแล้วกว่า 5,000 ยูนิต เป็นข้อพิสูจน์ที่ชัดเจนว่าโครงการของเราได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีทั้งด้านยอดขายและการเติบโตของมูลค่าจากการถือครองที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;เฉพาะอย่างยิ่งโครงการ นิว ดิสทริค อาร์ 9 ที่มีมูลค่าโครงการกว่า 6,663 ล้านบาท ซึ่งเปิดขายรอบพรีเซลในปี 2565 ด้วยราคาเริ่มต้นเฉลี่ย 130,000 บาทต่อตารางเมตร และในปัจจุบันราคาปรับเพิ่มขึ้นเฉลี่ยอยู่ที่ 170,000 บาทต่อตารางเมตร หรือเติบโตเพิ่มขึ้น 30% โดยปัจจุบันมียอดขายกว่า 6,496 ล้านบาท หรือกว่า 98% แล้ว&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;“โครงการ NUE DISTRICT R9 ช่วงพรีเซลมียอดขายกว่า 55% หรือ 3,389 ล้านบาท ใน 6 เดือนแรก นับเป็นโครงการที่ประสบความสำเร็จแบบสวนกระแสในช่วงโควิด-19 ทั้งตลาดในและต่างประเทศ ความสำเร็จนี้ไม่ได้เป็นเพียงการตอกย้ำสถานะความเป็นผู้นำตลาดของเราเท่านั้น แต่ยังแสดงให้เห็นว่า NOBLE สามารถเข้าถึงและตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของลูกค้าย่านนี้ได้อย่างชัดเจน” เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : <a target="_blank" href="https://forbesthailand.com/news/property/sc-asset-launchs-bangkok-boulevard-vibhavadi-phaholyothin-2" alt="SC Asset เปิดตัวบ้านหรูโครงการใหม่ 'บางกอก บูเลอวาร์ด' ย่านรังสิต ราคา 13-25 ล้าน กระตุ้นยอดขายส่งท้ายปี">SC Asset เปิดตัวบ้านหรูโครงการใหม่ 'บางกอก บูเลอวาร์ด' ย่านรังสิต ราคา 13-25 ล้าน กระตุ้นยอดขายส่งท้ายปี</a> <a href="https://www.facebook.com/ForbesThailandMagazine/" alt="ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine">ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine</a>

NUE DISTRICT R9 คอนโด High-Rise ติดห้าง ความสำเร็จบทใหม่ของ PROUD และ NOBLE ปิดยอดขายแล้ว 98% สะท้อนดีมานด์ New CBD พระราม 9

<h2>เมเจอร์ขยายพื้นที่เกาะทำเลขอบเมือง ปักธงขึ้นคอนโดฯไฮไรส์ พระราม 9-พัฒนาการ-ลาดพร้าว พร้อมแบรนด์ใหม่ “เมทริส” ออกแบบแนวเรโทรโมเดิร์นขยายกลุ่มลูกค้าสู่คนรุ่นใหม่ เปิดราคา 9 หมื่น – 1.2 แสนบาท/ตร.ม.</h2>
เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ (MJD) เริ่มต้นพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยมาแล้วหลายโครงการตั้งแต่ปี 2544 มีแบรนด์ที่เป็นที่รู้จัก เช่น เอ็ม, มาเอสโตร ที่ผ่านมาเมเจอร์เน้นการพัฒนาภายในเขตซีบีดี เช่น สุขุมวิท สีลม สาทร เป็นหลัก แต่เริ่มแตกทำเลออกไปในย่านขอบเมืองมากขึ้น เช่น มาเอสโตร 19 รัชดา 19-วิภา, เอ็ม จตุจักร เป็นต้น

โดยปีนี้เมเจอร์มีการพัฒนาแบรนด์คอนโดมิเนียมใหม่ขึ้นในชื่อ “เมทริส” (Metris) เพื่อขยายรูปแบบสินค้าและกลุ่มลูกค้าที่แตกต่างออกไป ซึ่ง เพชรลดา พูลวรลักษณ์ กรรมการบริหาร บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้แจกแจงการจัดแบรนด์ของเมเจอร์ว่ามีการแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม คือ

1.ซิกเนเจอร์ คอลเลกชัน คอนโดฯไฮไรส์ระดับไฮเอนด์ซึ่งจะมีชื่อเฉพาะของแต่ละโครงการ
2.เอ็ม คอนโดฯไฮไรส์ระดับกลางบน
3.มาเอสโตร คอนโดฯโลว์ไรส์ระดับกลาง

<figure><img src="http://forbesthailand.com/uploads/library/b0dbee47b37eed371332b3f4e9830c07.png" alt="" width="340" height="454" /><figcaption> เพชรลดา พูลวรลักษณ์ กรรมการบริหาร บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) </figcaption></figure>

โดย เมทริส จะมาเติมพอร์ตในฐานะคอนโดฯไฮไรส์ซึ่งมีทำเลในย่าน Expanding CBD หรือทำเลที่ขยายออกจากศูนย์กลางธุรกิจ สำหรับปี 2560 บริษัทจะเปิดคอนโดฯ เมทริส พร้อมกันใน 3 ทำเล มูลค่ารวม 3 โครงการ 4,500 ล้านบาท คือ

1.เมทริส พระราม 9-รามคำแหง ทำเลแยกพระราม 9-รามคำแหง จำนวน 570 ยูนิต
2.เมทริส พัฒนาการ ทำเลถ.พัฒนาการ ซอย 12 จำนวน 341 ยูนิต
3.เมทริส ลาดพร้าว ทำเลถ.ลาดพร้าว ซอย 8 จำนวน 193 ยูนิต

แบรนด์เมทริสจะเกาะกลุ่มราคา 9 หมื่น-1.2 แสนบาท/ตร.ม. เน้นห้องชุดที่มีพื้นที่ใช้สอยอยู่อาศัยได้สะดวกสบาย เริ่มต้น 1 ห้องนอน 30 ตร.ม. และ 2 ห้องนอน 45 ตร.ม.

<figure><img src="http://forbesthailand.com/uploads/library/8cbc53944565193b3c511d8b3cab3300.png" alt="" width="680" height="381" /><figcaption> สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการแบรนด์เมทริส</figcaption></figure>

<figure><img style="width: 680px; height: 380px;" src="http://forbesthailand.com/uploads/library/0468d9968fd654e4b4fc2373fa8c28fa.png" alt="" width="680" height="380" /><figcaption> สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการแบรนด์เมทริส</figcaption></figure>

ไฮไลต์ที่แตกต่างอีกส่วนคือการดีไซน์ ซึ่ง เพชรลดา กล่าวว่าจะเป็นดีไซน์แบบ เรโทร-โมเดิร์นนิสต์ ดีไซน์แบบยุค 1950s แต่เพิ่มความทันสมัยขึ้น อาคารจะออกแบบให้ลดทอนความซับซ้อนและใช้วัสดุที่สะท้อนความเป็นธรรมชาติ เช่น ไม้ ปูน โลหะ

“กลุ่มลูกค้าเราที่ผ่านมาเป็นกลุ่มระดับกลางถึงบนวัย 35 ปีขึ้นไป แต่เมทริสจะตอบสนองคนยุคมิลเลนเนียลวัย 25-35 ปี ราคาจะยังคงเป็นระดับกลาง เพราะเรามองว่าคนรุ่นใหม่มีกำลังซื้อมากขึ้นจากการเป็นเจ้าของธุรกิจด้วยตนเอง หรือมีอาชีพอิสระที่มีรายได้ดี

ดังนั้นสิ่งที่ต่างคือดีไซน์ของโครงการ จะออกแบบให้เข้ากับไลฟ์สไตล์คนยุคมิลเลนเนียลที่ชอบศิลปะแบบเก่าแต่นำมาสร้างใหม่ สิ่งอำนวยความสะดวกก็จะเข้ากับการทำงานนอกออฟฟิศ มีโคเวิร์กกิ้งสเปซที่ใช้งานได้จริง มีเทคโนโลยี Sound Dome พื้นที่ออกกำลังกายจะไม่ใช่แค่ฟิตเนสธรรมดา แต่จะเพิ่มกิจกรรมอย่าง มวยไทย โยคะฟลาย เทคโนยิม เป็นต้น”

<figure><img style="width: 680px; height: 453px;" src="http://forbesthailand.com/uploads/library/1e657d0c8ad69c2b32d6608d936225c8.png" alt="" width="680" height="453" /><figcaption> สไตล์ Mid-Century ที่จะนำมาใช้ในการออกแบบคอนโดฯเมทริสทั้ง 3 โครงการ</figcaption></figure>

เพชรลดามองว่า ราคาคอนโดฯเมทริสเทียบกับในทำเลเดียวกันอาจจะสูงกว่าคอนโดฯอื่น แต่เชื่อว่าจะเจาะกลุ่มลูกค้าที่ต้องการคุณภาพวัสดุและการก่อสร้างที่ดีได้ โดยคาดหวังยอดขายในช่วงพรีเซลปลายเดือนสิงหาคมนี้ที่ 60% และทยอยขายได้ 100% ก่อนก่อสร้างเสร็จช่วงครึ่งปีหลังปี 2563

นอกจากนี้ฝั่งผู้ซื้อนักลงทุนน่าจะสนใจการเติบโตของราคาที่ดิน เช่น ทำเลพระราม9-รามคำแหง-พัฒนาการ ราคาที่ดินปี 2560 อยู่ที่ 3-4.5 แสนบาท/ตร.ว. เทียบกับรัชดาภิเษกซึ่งราคาขึ้นไปถึง 8 แสน-1.5 ล้านบาท/ตร.ว.แล้วในปีนี้ โดยมีปัจจัยหนุนคือการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม หรือ ทำเลถ.ลาดพร้าว ซึ่งปัจจุบันราคา 5-6 แสนบาท/ตร.ว. เทียบกับฝั่งถ.พหลโยธินราคา 9 แสน-1.5 ล้านบาท/ตร.ว. จึงเชื่อว่าพื้นที่ส่วนขยายซีบีดีน่าจะเติบโตด้านราคาที่ดินได้อีกในอนาคต

&nbsp;

Forbes in Details
<ul>
 	<li>เมทริส พระราม9-รามคำแหง จะเป็นการพัฒนาพื้นที่แบบมิกซ์ยูส โดยมีอาคารสำนักงานให้เช่าในบริเวณเดียวกัน พื้นที่ประมาณ 3 หมื่นตร.ม.</li>
 	<li>คอนโดฯ ทุกแห่งของเมเจอร์มีคอนเซปท์หลักอย่างหนึ่งร่วมกันคือสามารถเลี้ยงสัตว์ได้ (Pet-Friendly)</li>
 	<li>การบริหารโครงการอสังหาริมทรัพย์เพื่อขายของเมเจอร์จะมีการแบ่งเป็นหน่วยธุรกิจ (BU:Business Unit) ซึ่งในอีก BU หนึ่งจะดูแลแบรนด์ เช่น มาร์ค มิวนีค มารุ</li>
</ul>

News

Forbes lists

World

Leaderboard

Commentaries

Forbes life

Events