เส้นทางสู่ความสำเร็จนั้นอาจมีอุปสรรคมากมายให้ฝ่าฟัน ต้องมีทั้งความรู้ ความเข้าใจ ความมุ่งมั่น และเป้าหมายที่ชัดเจน เป็นพลังสำคัญที่จะขับเคลื่อนองค์กรให้สำเร็จตามที่ตั้งใจไว้
เรนวูด กรุ๊ป (Reignwood Group) กับแผนพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์มิกซ์ยูสระดับเมกะโปรเจกต์มูลค่ากว่า 3 หมื่นล้านบาท เรนวูด ปาร์ค (Reignwood Park) เปิดตัวหลังโควิด-19 ไม่นาน (ปี 2565) เป็นช่วงที่สถานการณ์แพร่ระบาดคลี่คลาย แต่หลายพื้นที่ยังต้องเฝ้าระวังและเศรษฐกิจยังชะลอตัว คาดไม่ถึงว่าจะมีการลงทุนขนาดใหญ่จากภาคเอกชนเกิดขึ้น โครงการนี้จึงเรียกความสนใจและมาพร้อมคำถามว่า “เรนวูด กรุ๊ป” เป็นใคร มาจากไหน มีธุรกิจอะไรเป็นฐานถึงพร้อมลงทุนระดับนี้ได้ขณะที่ทุกคนยังอ่อนล้าจากผลกระทบโควิด-19
“ด้วยความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ของครอบครัวเราที่ทำธุรกิจหลากหลายทั้งในจีนและทั่วโลก เราจึงนำความรู้นั้นพัฒนาโครงการ Reignwood Park ขึ้นมา” วรพนิต รวยรุ่งเรือง ซีอีโอ เรนวูด กรุ๊ป วัย 34 ปี บอกเล่าความเป็นมาของเรนวูด กรุ๊ป ให้ทีมงาน Forbes Thailand ได้ทราบจากคำถามที่หลายคนสงสัยว่าบ้านนี้เป็นใคร มาจากไหนจึงพร้อมลงทุนโครงการใหญ่ระดับนี้
วรพนิตเล่าว่า ครอบครัวของเธอเป็นคนไทยเชื้อสายจีนที่ต่างไปจากคนไทยเชื้อสายจีนส่วนใหญ่ที่เติบโตและสร้างธุรกิจในไทยจนมั่งคั่ง แต่บ้าน “รวยรุ่งเรือง” เป็นไทยเชื้อสายจีนที่กลับไปสร้างธุรกิจในจีน (Beijing) จนประสบความสำเร็จอยู่ที่จีนแผ่นดินใหญ่แผ่กิ่งก้านสาขาการลงทุนและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ไปในหลายภูมิภาค ทั้งสหรัฐอเมริกา อังกฤษ สิงคโปร์ และหลายเมืองใหญ่ของจีน มีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารเรนวูด กรุ๊ป รวมมูลค่ามากกว่า 2 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ (ราว 1 แสนล้านบาท)
ระดับ World-Class
“ช่วงโควิด-19 ขณะที่ทุกคนนิ่งเรามองเป็นโอกาส เลือกลงทุนอสังหาฯ ด้วยการสร้างโครงการให้เป็นแหล่งปลอดภัยเพื่ออยู่อาศัยในระดับ The World-Class Community for Multi-Generational Living” หรือสังคมระดับเวิลด์คลาสเพื่อการใช้ชีวิตในทุกช่วงวัย โดยมีทั้งโรงเรียนนานาชาติ สนามกอล์ฟ โรงแรม คอมมูนิตี้มอลล์ สปอร์ตคอมเพล็กซ์ และที่อยู่อาศัยระดับลักชัวรี่
เรนวูด ปาร์ค เกิดจากมุมมองที่ว่าเมืองไทยมีศักยภาพในการแข่งขันหลายด้าน ทั้งการแพทย์ กีฬา วัฒนธรรม แหล่งท่องเที่ยว ธรรมชาติ และการขยายของเมือง อีกทั้งไทยยังเป็นผู้นำในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยความรักที่เธอและครอบครัวมีต่อประเทศไทยซึ่งเป็นดังบ้านเกิดจึงเกิดเป็นโครงการเรนวูด ปาร์ค ขึ้นในประเทศไทย ดังนั้น ความพิถีพิถันต่างๆ จึงเริ่มมาจากประสบการณ์ที่ต้องการให้ตอบรับต่อตนเองและต่อสังคม และพัฒนาให้เป็นบ้านระดับลักชัวรี่ที่พรั่งพร้อมและเหนือมาตรฐาน
ความแข็งแรงของฐานธุรกิจเรนวูดมาจากบิดาของซีอีโอหญิงท่านนี้ หากย้อนไป 20 ปีก่อน บิดาของเธอมีบทบาทในฐานะนักธุรกิจไทยที่มีชื่อเสียงและมีชื่อไทยว่า “ชาญชัย รวยรุ่งเรือง” ก่อนจะกลับไปทำธุรกิจที่ Beijing และประสบความสำเร็จจาก 4 กลุ่มธุรกิจ รวยรุ่งเรืองสมชื่อสกุล และติดอันดับมหาเศรษฐีจีน (China’s 100 Richest 2022) โดย Forbes ซึ่งขณะนั้นเขามีทรัพย์สินรวม 1 พันล้านเหรียญ (ราว 3.7 หมื่นล้านบาท) มีฐานธุรกิจแข็งแรงในจีน จากนั้นได้ขยายการลงทุนพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ไปในหลายประเทศ ทั้งสนามกอล์ฟ โรงแรม และอื่นๆ
โปรไฟล์ของเรนวูด กรุ๊ป จึงถือเป็นนักพัฒนาอสังหาฯ ระดับนานาชาติก่อนจะเข้ามาพัฒนาโครงการเรนวูด ปาร์ค ในไทยด้วยเป้าหมายที่มากกว่าการทำธุรกิจ เพราะมีการสร้างบ้านของครอบครัวเพื่ออยู่อาศัยในโครงการนี้ด้วย เนื่องจากมีประสบการณ์พัฒนาอสังหาฯ หลากหลายโครงการระดับเวิลด์คลาสจึงได้นำมาใช้พัฒนาโครงการเรนวูด ปาร์คในเมืองไทย โครงการจึงมีความเป็นสากลชัดเจนทั้งรูปแบบการดีไซน์ การใช้พื้นที่ และการบริหารจัดการอย่างยอดเยี่ยม
Reignwood Global Heritage
ไฮไลต์สำคัญคือบ้านของครอบครัวซึ่งเป็นบ้านทรงโรมันขนาดใหญ่สีขาวที่ตั้งตระหง่านอยู่บนเกาะใจกลางโครงการ เป็นบ้านเพดานสูงที่มีห้องรับรองหลากหลายและห้องนอนกว่า 8 ห้อง ซึ่งเป็นหนึ่งใน Reignwood Global Heritage ของโครงการตามที่ซีอีโอหญิงเผยไว้แต่ต้นว่า โครงการนี้สร้างขึ้นเพื่อที่ครอบครัวของเธอจะอาศัยอยู่เองด้วยจึงมีบ้านส่วนตัวอยู่ในโครงการนี้ เป็นบ้านสร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่ และบ่อยครั้งที่วรพนิตใช้บ้านหลังนี้รับรองแขกผู้มาเยือน นับเป็นเรือนรับรองที่สง่างาม ลงตัวทั้งรูปแบบสถาปัตยกรรม ความสวยงามในการออกแบบและฟังก์ชันพื้นที่ใช้งาน
ส่วนบ้านที่สร้างขายในโครงการภายใต้ Reignwood Residence Collection มีไฮไลต์ อาทิ โครงการ Estate ที่เป็นบ้านที่อยู่ล้อมรอบสนามกอล์ฟ Robinswood มีเพียง 41 หลัง โครงการ Sereno บ้านเดี่ยวรอบสนามกอล์ฟพาร์ 3 พื้นที่ใช้สอย 306-322 ตารางเมตร และโครงการ Sonia พื้นที่ใช้สอยกว่า 171 ตารางเมตร เป็นบ้านเดี่ยวสไตล์โมเดิร์นที่ออกแบบพื้นที่ใช้งานภายนอกให้กลมกลืนไปกับธรรมชาติ และจะมีโครงการคอนโดมิเนียม Sanctia เปิดขายในอนาตคอันใกล้
“ที่นี่เราออกแบบให้คนทุกเจเนอเรชั่นอยู่ร่วมกันได้ มีพื้นที่บริการที่ตอบโจทย์คนทุกวัย เป็นคอมมูนิตี้ที่ใหญ่และพร้อม มีโรงเรียนนานาชาติ สปอร์ตคอมเพล็กซ์ สนามกอล์ฟ และคลับเฮ้าส์ขนาดใหญ่” โดยโครงการพัฒนาแล้วเสร็จไปกว่าครึ่ง เช่น สาธารณูปโภคหลัก ถนนทางเข้า สนามกอล์ฟ คลับเฮ้าส์ และอื่นๆ และเปิดให้บริการบ้างแล้วสำหรับการพัฒนาในเฟสแรก
“บ้านใน Reignwood Park ทุกหลังจะมีความเป็นส่วนตัวสูง โดยบ้านแต่ละหลังมีพื้นที่ส่วนตัวไม่ชิดกันเกินไป” วรพนิตย้ำพร้อมอธิบายว่า รูปแบบที่พัฒนานี้บางส่วนได้แนวคิดมาจากประสบการณ์และไอเดียการออกแบบที่เคยทำในหลายประเทศ ทั้งอังกฤษ อเมริกา และประเทศอื่นๆ มาปรับให้เข้ากับประเทศไทยจึงเห็นภาพลักษณ์มีความเป็นอินเตอร์ค่อนข้างชัดเจน
ฐานธุรกิจ 4 กลุ่ม
“ปีนี้ Reignwood Group ครบรอบ 40 ปีเริ่มตั้งแต่ปี 2527 ทำธุรกิจ 4 กลุ่มคือ FMCG มีเครื่องดื่มวิตามินต่างๆ น้ำแร่ VOSS นำเข้าจากนอร์เวย์ ธุรกิจโรงแรมที่พัก สนามกอล์ฟหลายประเทศ ธุรกิจการบิน และธุรกิจ leasing” วรพนิตสรุปคร่าวๆ ถึงพื้นฐานธุรกิจของเรนวูด กรุ๊ป ซึ่งได้แยกแยะเป็นกลุ่มสีเพื่อจำง่าย
ดังนั้น โครงสร้างรายได้ของเรนวูด กรุ๊ป จึงมาจากหลายบริษัทในแต่ละกลุ่มธุรกิจ ซีอีโอหญิงเจน Y บอกเล่ารายละเอียดธุรกิจที่ครอบครัวทำหลายอย่างโดยสรุปเพียงสั้นๆ ว่า ทุกธุรกิจที่ทำถ้านับสินทรัพย์รวมของเรนวูด กรุ๊ป มีมูลค่ากว่า 1 แสนล้านบาท และรายได้ถ้านับรวมทั้ง 4 กลุ่มธุรกิจจะพบว่ามากกว่า 3 หมื่นล้านบาท เป็นรายได้ที่เกิดจากกลุ่มธุรกิจ FMCG ซึ่งเป็นตลาดใหญ่ เป็นสินค้าที่ใช้ในชีวิตประจำวันที่รองรับกำลังซื้อในจีนที่มีมหาศาลตามจำนวนประชากร
เอ็กซ์คลูซีฟไอเดีย
วรพนิตมีบุคลิกค่อนข้างเงียบขรึม พูดน้อย แต่ลงลึกในรายละเอียด เป็นลักษณะของคนที่ทุ่มเทให้กับการทำงาน เธอย้ำว่าทุกอย่างต้องดูที่ผลงานและสิ่งที่ได้ทำล้วนเป็นบทเรียนสำคัญดังเช่นประสบการณ์พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ได้จากอังกฤษ นอกจากรูปแบบและหลักการแล้ววรพนิตบอกว่า การเคารพและยอมรับวัฒนธรรมท้องถิ่นเป็นสิ่งสำคัญมาก “แม้เทคโนโลยีจะก้าวล้ำไปมากแค่ไหน สิ่งที่สำคัญคือการให้เกียรติ เอาใจเขามาใส่ใจเรา พยายามเข้าใจวัฒนธรรมเขา และคิดเสมอว่าโลกไม่ได้หมุนรอบตัวเราเพียงอย่างเดียว เราจึงต้องปรับตัวให้เข้ากับวัฒนธรรมท้องถิ่นให้ได้” เป็นแง่คิดที่เธอใช้มาตลอดคือ เข้าไปมีส่วนร่วมกับท้องถิ่นของที่ตั้งโครงการ
“ทำสนามกอล์ฟก็ไม่ใช่ว่าดูแต่เรื่องตีกอล์ฟอย่างเดียว เมื่อเราได้มีโอกาสมาเป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่ต้องเรียนรู้ที่จะปรับตัวเข้ากับวัฒนธรรมท้องถิ่นด้วยการพูดคุยแลกเปลี่ยน ที่อังกฤษก็ใช้งานจิบชายามบ่ายในการมีส่วนร่วมกับชุมชน” ซีอีโอหญิงยกตัวอย่างวิถีธุรกิจที่แม้จะเอ็กซ์คลูซีฟแค่ไหนก็ต้องให้รู้สึกได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่นั้นๆ
สำหรับประเทศไทยวรพนิตและครอบครัวมองโอกาสเชิงบวกเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว การจะร่วมมือและเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนที่นี่ไม่ใช่เรื่องยาก และอีกประเด็นที่เธอเห็นว่าเป็นจุดแข็งคือ คนไทยมีศักยภาพสูงแต่ยังขาดการสนับสนุนที่ดีพอ หากได้รับการสนับสนุนมากกว่านี้เชื่อว่าคนไทยจะก้าวไปได้ไกลอย่างแน่นอน
ยั่งยืนคู่ชุมชน
โลกเปลี่ยนไปเพราะสิ่งแวดล้อมเปลี่ยน ส่งผลต่อสภาพอากาศ ภัยพิบัติ และเหตุไม่คาดคิดต่างๆ เรนวูด กรุ๊ป มองความเปลี่ยนแปลงนี้และเข้าใจดีว่าทำไมทุกคนจึงให้ความสำคัญเรื่องสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน (sustainability) และ ESG: Environment, Social, Governance
วรพนิตบอกว่า เรนวูดคิดเรื่องนี้มาตั้งแต่ต้นจึงได้ลงทุนด้านสิ่งแวดล้อมและวางแผน ESG ไปไม่น้อย “Reignwood ลงทุนด้านสาธารณูปโภคค่อนข้างมาก ทั้งด้านสิ่งแวดล้อม ระบบน้ำ ระบบไฟฟ้า รวมกว่า 1 หมื่นล้านบาท มีโซลาร์เซลล์ผลิตไฟได้ 1.9 เมกะวัตต์ ประหยัดไฟได้ 10 ล้านบาทต่อปี”
ในเรื่องน้ำกับระบบบำบัดน้ำเสียก็เช่นกัน “เรามีมาตรการบำบัดน้ำที่ได้มาตรฐาน ไม่ปล่อยน้ำเสียสู่แหล่งน้ำ ในโครงการของเราปลูกต้นไม้ไว้เยอะมากเพื่อความร่มรื่นและส่งมอบอากาศอันบริสุทธิ์ ใบไม้ที่ร่วงหล่นเราไม่ทิ้งแต่เก็บกลับมาทำเป็นปุ๋ยชีวภาพเพื่อใช้ภายในโครงการ”
ด้านความปลอดภัย เรนวูด ปาร์ค มีกล้องวงจรปิดกว่า 400 ตัว รักษาความปลอดภัยสูงสุด และจ้างงานคนในพื้นที่กว่าครึ่งของจำนวนพนักงาน 700 คน มีทั้งแคดดี้ พนักงานรักษาความปลอดภัย แม่บ้าน และพนักงานในส่วนอื่นๆ อีกหลายแผนก ส่วนใหญ่มาจากคนในพื้นที่ และมีแผนจะจ้างงานเพิ่มตามโครงการที่กำลังจะเปิดอีกด้วย
ภาพ: วรัชญ์ แพทยานันท์ และ Reignwood Group
เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : ขจรศิษฐ์ สิ่งสรรเสริญ SA สร้างกำไรให้ทุกการใช้ชีวิต