สองพี่น้อง อุษณีย์-เฉลิมชัย มหากิจศิริ เดินหน้าสานต่อขยาย “พีเอ็ม กรุ๊ป” เน้นมองหาธุรกิจ next trend และธุรกิจที่เติบโตสูง พร้อมลดการพึ่งพาธุรกิจที่เป็นวัฏจักร เพื่อลดความเสี่ยงและเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับพอร์ตในระยะยาว เติมเต็มเป้าหมายเป็นบริษัทการลงทุนชั้นนำในเอเชีย
การหยอกล้อแซวกันไปมาระหว่างพี่สาวและน้องชาย อุษณีย์และเฉลิมชัย ระหว่างการสัมภาษณ์ สะท้อนถึงความรักและความผูกพันของสมาชิกในครอบครัวตระกูล มหากิจศิริ ทั้งคู่บอกว่าคุณพ่อประยุทธสอนให้พวกเขารักกัน ช่วยเหลือกัน เกื้อกูลกัน มีอะไรก็พูดคุยกัน จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่า ทั้งสองมีประยุทธเป็นบุคคล “ต้นแบบ” ที่จะดำเนินรอยตาม
และความรักที่คนในครอบครัวนี้ที่มีให้ต่อกันนั้น ได้หลอมรวมกันเป็นหนึ่ง แปรเปลี่ยนเป็นพลัง นำพาพีเอ็ม กรุ๊ป บริษัทการลงทุนขนาดเกือบ 1 แสนล้านบาท ไปสู่อนาคตใหม่ที่ใหญ่ขึ้น เป็นบริษัทการลงทุนชั้นนำในเอเชีย
“เฉลิมชัย” ดูภาพใหญ่
เฉลิมชัยปัจจุบัน 41 ปี ลูกคนกลางจากทั้งหมด 3 คนของประยุทธ ได้รับมอบหมายให้ดูแลภาพใหญ่ของพีเอ็ม กรุ๊ปในด้านการลงทุนและงานด้านการเงิน เขายังนั่งตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) (TTA) ที่ดำเนินธุรกิจ อาทิ ขนส่งทางเรือ ธุรกิจบริการนอกชายฝั่ง ธุรกิจเคมีภัณฑ์เพื่อการเกษตร โดยวิสัยทัศน์ที่เขียนไว้ในรายงานประจำปี 2561 คือ ต้องการเป็นบริษัทเพื่อการลงทุนชั้นนำในเอเชีย
เฉลิมชัยเป็นทายาทรุ่น 2 เข้ามาดูแลพีเอ็ม กรุ๊ปกว่า 10 ปี หลังจากประยุทธเข้าสู่วัยเกษียณ เฉลิมชัยบอกว่า ขณะนี้แนวโน้มเศรษฐกิจโลกยากที่จะคาดเดา ไม่เหมือน 10 ปีที่แล้วที่มีวงจรธุรกิจ (business cycle) ทุกๆ 10 ปี แต่ตอนนี้หากคาดการณ์ล่วงหน้า 3 เดือนข้างหน้าได้ถือว่าดีแล้ว อีกทั้งเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสูงในระบบเศรษฐกิจและโลกการลงทุน ดังนั้น บริษัทจำเป็นต้องปรับตัวให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลง
ในรุ่น 2 อย่างเขาจึงต้องมองหาธุรกิจใหม่ๆ เข้ามาเติมในพอร์ต แต่ต้องศึกษาว่าธุรกิจไหนดีไม่ดีอย่างไร ต้องปรับอย่างไร และตัวไหนจะไปต่อได้ไหม ตัวอย่างเช่น ธุรกิจของ TTA ที่ถูกซื้อมา 7 ปีแล้ว ดำเนินธุรกิจขนส่งทางเรือ ซึ่งมีหลายๆ บริษัทภายใต้ธุรกิจนี้มีผลประกอบการไม่ดี เขาจึงต้องปรับโครงสร้างธุรกิจใหม่อยู่หลายปี ซึ่งบางธุรกิจที่มีผลประกอบการไม่ดี ก็จำเป็นต้องปิดตัวไป
“ผมเป็นคนมอง next trend อะไรที่กำลังจะมา 3 ปีล่วงหน้าจะลงทุนไว้ก่อน อย่างบิตคอยน์ ผมก็ลงทุนไว้แล้ว ผมเป็นหน่วยของ next strategy เน็กซ์อุตสาหกรรมที่กำลังเข้ามา แล้วดูว่าอะไรดี อะไรไม่ดี เข้ากับกลุ่มหรือเปล่า”
อนาคตเขามีเป้าหมายที่จะสร้างให้พีเอ็ม กรุ๊ปเป็นบริษัทการลงทุนชั้นนำในเอเชีย มีการเติบโตแบบ “ยั่งยืน” โดยเข้าลงทุนบริษัททั้งในตลาดฯ และนอกตลาดฯ เน้นธุรกิจที่มีการเติบโตสูง อีกทั้งยังนำแบรนด์ไทยออกไปสู่ตลาดโลก จากเดิมที่นำแบรนด์นอกเข้ามาช่วยสร้างการเติบโตให้กับกลุ่มเป็นส่วนใหญ่ ปัจจุบัน เฉลิมชัยกำลังปั้นผลิตภัณฑ์ P80 เครื่องดื่มลำไยสกัดเข้มข้นธรรมชาติ 100% ซึ่งเป็นนวัตกรรมของไทย โดยเขาตั้งใจที่จะนำสินค้านี้ไปจำหน่ายในตลาดโลก และปั้นให้เป็นแบรนด์ระดับโลกตามมา
ธุรกิจอาหารภายใต้ “อุษณีย์”
อุษณีย์พี่สาวของเฉลิมชัยรับบทบาทดูแลธุรกิจอาหาร แบรนด์สำคัญๆ ในกลุ่มมี 6 แบรนด์ แต่เธอดูแบรนด์หลักอย่างโดนัท Krispy Kreme อย่างไรก็ตาม เธอก็เป็นอีกฟันเฟืองที่ร่วมการตัดสินใจการลงทุนในแต่ละครั้งกับพี่น้องอีก 2 คน โดยแนวทางการลงทุนของเธอ ไม่เน้นอยู่ที่ธุรกิจใดธุรกิจหนึ่ง เนื่องจากปัจจุบันสถานการณ์เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา และมีเทรนด์ใหม่ๆ เกิดขึ้น ทำให้ก่อนการลงทุนต้องรู้ถึงธุรกิจนั้นๆ อย่างถ่องแท้ก่อนการตัดสินใจ
“ครอบครัวเราใหญ่ขึ้น ซับซ้อนขึ้น ธุรกิจมากขึ้น เราค่อยๆ เตรียมความพร้อม ปรับตัวรองรับกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ความแน่นอนคือความไม่แน่นอน เราต้องอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริง ทุกอย่างมันไม่เป๊ะ”
เธอบอกว่า ทุกวันนี้ ธุรกิจของกลุ่มเติบโตขึ้นทุกปี พร้อมกับพยายามหาสินค้าใหม่ๆ เข้ามาเพิ่มในพอร์ต อย่างไรก็ตาม ต้องดูจังหวะเศรษฐกิจและความต้องการของผู้บริโภค เพราะการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว เธอจำเป็นต้องเรียนรู้ตลอดเวลา เพราะโลกธุรกิจมีคนเก่งเยอะมาก นอกจากนี้ เธอยังบอกอีกว่าพีเอ็ม กรุ๊ปจะเดินหน้าต่อไป ภายใต้การเติบโตแบบยั่งยืน มีธุรกิจหลากหลาย ต่างจากรุ่นพ่อของเธอ ที่เน้นแนวอุตสาหกรรม
อ่านเพิ่มเติม ภาพ: ชัยสิทธิ์ จุนเจือดีคลิกอ่านฉบับเต็ม “อุษณีย์-เฉลิมชัย มหากิจศิริ รุ่นที่ 2 รวมพลังขยาย PM Group” ได้ที่ นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนพฤศจิกายน 2562 ได้ในรูปแบบ e-Magazine