30 Under 30 สุดยอดหนุ่มสาวดาวรุ่งแห่งสหรัฐอเมริกา ปี 2019 (ตอน 1) - Forbes Thailand

30 Under 30 สุดยอดหนุ่มสาวดาวรุ่งแห่งสหรัฐอเมริกา ปี 2019 (ตอน 1)

FORBES THAILAND / ADMIN
10 Feb 2019 | 10:33 AM
READ 18968

พบกับนักปฏิวัติรุ่นใหม่จำนวน 600 คนในทำเนียบ 30 Under 30 ประจำปี 2019 ของ Forbes สุดยอดหนุ่มสาวดาวรุ่งผู้สร้างความเปลี่ยนแปลงในหลากหลายวงการ ตั้งแต่ใน Hollywood จนถึงวงการสุขภาพ

การคัดเลือกบุคคลผู้ทรงเกียรติเหล่านี้มาจากผู้ได้รับการเสนอชื่อหลายพันคน เป็นขั้นตอนที่กินเวลานานและน่าหวั่นใจ การคัดเลือกใช้กระบวนการกลั่นกรอง 3 ชั้นซึ่งอาศัยความรอบรู้และความเชี่ยวชาญของกลุ่มคนที่ได้รับการยอมรับในวงกว้าง ผู้สื่อข่าวมากฝีมือ และกรรมการผู้ชำนาญการ จนได้รายชื่อผู้เข้ารอบสุดท้ายซึ่งเป็นบุคคลที่ล้วนแต่เป็นผู้กล้าได้กล้าเสียตัวเอ้ที่ใช้เครื่องมือทำมาหากินอันเดิมด้วยวิธีการใหม่ที่ไม่ซ้ำใคร  

Gregory Rockson, 27 ปี ผู้ร่วมก่อตั้ง, MPHARMA หมวด เทคโนโลยีองค์กร

เมื่อครั้งที่ยังเป็นเด็ก Gregory Rockson เจ็บออดๆ แอดๆ เป็นประจำ “ในอดีตเคยมีคำพูดติดตลกที่บ้านเกิดของผมในประเทศกานาว่าผมเป็นทารกน้อยที่แวะเวียนไปโรงพยาบาลอย่างสม่ำเสมอ ผมโชคดีที่รอดชีวิตมาได้” Rockson กล่าว เป็นเรื่องยากสำหรับคนแอฟริกันทั่วๆ ไปที่จะได้รับการดูแลรักษาจากแพทย์ คนส่วนใหญ่ไม่มีประกันสุขภาพ ในแอฟริกาใต้ซึ่งเป็นประเทศที่มีความเจริญมากที่สุดในทวีปแอฟริกา ประชากรเพียง 17% เท่านั้นที่มีประกันสุขภาพ และคนเหล่านั้นต้องควักกระเป๋าจ่ายเงินเพื่อซื้อความคุ้มครองด้วยตัวเอง สิ่งที่เลวร้ายยิ่งไปกว่านั้นก็คือ มีเชนร้านขายยาขนาดใหญ่เพียงไม่กี่แห่ง และร้านขายยาเล็กๆ ก็ไม่มีกำลังซื้อมากพอที่จะหาซื้อยาในราคาถูก ด้วยเหตุนี้เองที่ mPharma ของ Rockson ก้าวเข้ามาในฐานะร้านขายยาที่ทำประโยชน์ให้กับผู้จัดการร้าน mPharma จะเป็น ตัวแทนร้านขายยาหลายๆ แห่งในการซื้อยา และจัดหาซอฟต์แวร์ให้กับบรรดาร้านขายยาเหล่านั้น เพื่อใช้ในการตรวจสอบสินค้าคงคลังและคาดการณ์ความต้องการของผู้ป่วย mPharma จะซื้อยาครั้งละมากๆ โดยได้รับส่วนลดมากถึง 40% เมื่อเปรียบเทียบกับราคายาที่ร้านขายยาทั่วไปต้องจ่าย ปัจจุบันร้านขายยาจำนวน 200 ร้านจาก 4 ประเทศเป็นลูกค้าของ mPharma แล้ว mPharma มีความพร้อมด้วยเงินลงทุน 12 ล้านเหรียญจากอภิมหาเศรษฐี Jim Breyer และผู้ลงทุนอีกหลายราย  

Liza Koshy, 22 ปี ดาราในแวดวงดิจิทัล หมวด วงการ Hollywood

“ที่ทำงานของฉันจริงๆ แล้วคือโทรศัพท์ของฉันนั่นเอง” ดาราตลกและนักแสดงสาวอย่าง Liza Koshy กล่าว และโทรศัพท์ก็เป็นแหล่งรวมบรรดาแฟนๆ ของเธอ ช่องบน YouTube ของ Koshy มีสมาชิกทั้งหมด 16.2 ล้านคน และมียอดวิว 2.5 พันล้านวิว Koshy มีความเชี่ยวชาญในการเล่นมุขที่เป็นคำพูดสองแง่สองง่าม การแสดงตลกโดยใช้ท่าทางและการล้อเลียน หนึ่งในวิดีโอที่มีผู้ชมมากที่สุดของเธอคือคลิปวิดีโอล้อเลียนการสอนแต่งหน้าซึ่งมีอยู่เกลื่อน YouTube เธอเริ่มต้นถ่ายวิดีโอความยาว 6 วินาทีบน Vine โดยใช้โทรศัพท์มือถือตั้งแต่ยังเป็นวัยรุ่น และขยับขยายจนกลายเป็นช่องบน YouTube ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก “ในที่สุด ฉันรู้ว่าตัวฉันสามารถพูดได้นานกว่า 6 วินาทีมาก” ในปี 2016 Koshy ได้สัมภาษณ์ประธานาธิบดี Obama ในการรณรงค์ให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งออกมาใช้สิทธิลงคะแนนเสียง ผู้บริหารสถานีโทรทัศน์สะดุดตา Koshy เข้า และว่าจ้างเธอเป็นพิธีกรรายการเกมโชว์ Double Dare ของ Nickelodeon ที่นำกลับมาปัดฝุ่นใหม่ เป็นพิธีกรรายการ TRL ที่ MTV นำกลับมาทำใหม่ และรับบทในละครเรื่อง Freakish ของ Hulu เมื่อพูดถึงจอเงิน เธอได้โอกาสแสดงในภาพยนตร์เรื่อง Tyler Perry’s Boo! A Madea Halloween และพลาดไม่ได้กับผลิตภัณฑ์กระเป๋าโดย Liza Koshy ที่จะวางจำหน่ายในช่วงฤดูใบไม้ร่วงนี้  

Trevor Martin, 29 ปี ผู้ร่วมก่อตั้ง, MAMMOTH BIOSCIENCES หมวด การดูแลสุขภาพ

ในธุรกิจการตรวจทดสอบ เทคโนโลยีทุกอย่างที่แพทย์ใช้มีอายุเก่าแก่ถึง 30 ปี “ผมมองว่าการวินิจฉัยโรคนั้นย่ำอยู่กับที่” Martin กล่าว เพื่อหยุดยั้งความไม่ก้าวหน้า Martin ค้นพบหนึ่งในเทคโนโลยีในสาขาเทคโนโลยีชีวภาพที่ร้อนแรงที่สุด นั่นก็คือเอนไซม์ชื่อ CRISPR แต่เดิมแบคทีเรียใช้เอนไซม์นี้เพื่อต่อสู้กับเชื้อไวรัส ปัจจุบันนักวิทยาศาสตร์ใช้เอนไซม์นี้เป็นหนึ่งในกลวิธีในการปรับปรุงยีน เนื่องจากเอนไซม์ CRISPR สามารถพุ่งเป้าไปยังจุดที่กำหนดในดีเอ็นเอ และแยกส่วนดีเอ็นเอได้ ทำให้การตัดต่อยีนประสบผลสำเร็จ อย่างไรก็ดีผลการวิจัยใหม่จากห้องปฏิบัติการของผู้ร่วมค้นพบเอนไซม์ CRISPR อย่าง Jennifer Doudna แสดงให้เห็นว่าเอนไซม์ CRISPR ไม่เพียงแต่สามารถใช้เป็นเครื่องมือในการตัดแต่งเท่านั้น หากแต่ยังใช้เป็นเครื่องมือในการสืบค้นทางพันธุกรรมได้อีกด้วย “วินาทีที่เราเห็นรายงานการวิจัยเหล่านี้ เรารู้ทันทีเลยว่านี่เป็นหนทางในการพัฒนาการวินิจฉัยโรคต่อไปในอนาคต” Martin กล่าว Mammoth Biosciences บริษัทของ Martin ระดมเงินทุนได้ 23 ล้านเหรียญในปีนี้จาก Mayfield, NFX และนักลงทุนรายบุคคลอย่างเช่น Tim Cook ซีอีโอของ Apple “ในอดีต เอนไซม์ CRISPR เคยเป็นเครื่องมือในการตัดแต่งยีน ปัจจุบันมีการใช้เอนไซม์นี้เป็นเครื่องมือในการตัดแต่งยีนและวินิจฉัยโรค ใครจะรู้ว่าในอนาคตเอนไซม์ดังกล่าวจะเป็นอะไรได้อีกบ้าง” Martin กล่าว  

Nadia Masri, 27 ปี ผู้ก่อตั้ง, PERKSY หมวด การตลาดและโฆษณา

“ผู้คนทำให้ฉันหลงใหล ฉันมักตั้งคำถามว่าทำไมพวกเขาจึงทำสิ่งนั้น สิ่งนี้ อะไรที่เป็นตัวขับเคลื่อนพฤติกรรมของคน” Nardia Masri กล่าว ในปี 2018 เธอเริ่มต้นแอพฯ Perksy บนโทรศัพท์มือถือ ผู้ใช้งานแอพฯ จะล็อกอินและทำแบบสำรวจซึ่งประกอบด้วยคำถามจากบริษัทต่างๆ อย่างเช่น Smucker’s และ Pepsi บรรดาบริษัทห้างร้านยอมจ่ายเงินตั้งแต่ 60,000-300,000 เหรียญต่อปีเพื่อส่งคำถามของตนเข้าร่วมในแอพฯ Perksy (บางบริษัทจ่าย 5,000-10,000 เหรียญต่อโครงการ) ผู้ใช้งานสามารถสะสมแต้มจากการทำแบบสำรวจจนเสร็จสมบูรณ์ และสามารถแลกแต้มเหล่านั้นเป็นบัตรของขวัญและสิทธิในการสมัครสมาชิกสำหรับบริการต่างๆ อย่างเช่น Netflix ได้ Masri กล่าวว่า 85% ของผู้ใช้งานแอพฯ ทำแบบสำรวจจนเสร็จสมบูรณ์ เปรียบเทียบกับอัตราของผู้ทำแบบสำรวจของนักวิจัยการตลาดส่วนใหญ่จนแล้วเสร็จ ซึ่งอยู่ที่เพียง 1-3% ตัวอย่างคำถามในแอพฯ อย่างเช่น “คุณมีสัตว์เลี้ยงหรือไม่” หรือ “คุณคิดอย่างไรกับบริษัท Uber” คำถามข้อหนึ่งเกี่ยวกับแคมเปญโฆษณาในวันแม่ของลูกค้ารายหนึ่งมีว่าคุณรู้สึกอย่างไรกับแม่ของคุณ คำตอบซึ่ง Masri ยินดีอย่างยิ่งที่จะประกาศให้ทุกคนรับรู้ก็คือ “โดยรวมแล้ว คนเรารักแม่”  

Blake Griffin, 29 ปี ผู้เล่นตำแหน่ง POWER FORWARD, ทีม DETROIT PISTONS; และผู้ร่วมก่อตั้ง, MORTAL MEDIA หมวด กีฬา

หลังจากที่ทีมบาสเกตบอลในลีก NBA อย่าง L.A. Clippers ได้ใช้สิทธิดราฟต์ Blake Griffin เป็นตัวเลือกแรกในปี 2009 Griffin ก็ชนะการแข่งขัน Slam Dunk ได้รับรางวัลผู้เล่นหน้าใหม่ยอดเยี่ยม และมีชื่อติดทีมรวมดาราถึง 5 ครั้ง เงินทองต่างก็ไหลมาเทมา เมื่อปี 2017 Griffin ได้ต่อสัญญาอีก 5 ปีในมูลค่า 171 ล้านเหรียญ สัญญาฉบับนั้นบวกกับรายได้จากสปอนเซอร์จากแบรนด์อย่าง Red Bull และ Nike’s Jordon ทำให้เขากลายเป็นหนึ่งในบรรดาคนดังที่มีรายได้มากที่สุดในโลก Griffin ทำเงินได้ 35.5 ล้านเหรียญในปีที่แล้ว ปัจจุบัน Griffin ให้เงินทำงานนอกสนามบาสเกตบอลผ่านบริษัทโปรดักชั่นใน Hollywood ของตัวเองอย่าง Mortal Media “เราต้องการเจาะตลาดภาพยนตร์ โทรทัศน์ ดิจิทัล และวางรากฐานให้กับบริษัทที่จะสามารถทำเงินให้เราได้ในตอนที่เราเลิกอาชีพที่ทำอยู่ในขณะนี้” Mortal Media ขายโครงการบนจอเงินและจอแก้วได้ทั้งหมด 8 โครงการแล้ว โดยในจำนวนนี้ 5 โครงการกำลังอยู่ในระหว่างการพัฒนาอย่างเข้มข้น อาทิ การนำภาพยนตร์ดังอย่าง White Men Can’t Jump และ The Rocketeer ของ Disney’s กลับมาสร้างใหม่   อ่านเพิ่มเติม บรรณาธิการ: Steven Bertoni และ Alexandra Wilson ผู้ช่วยบรรณาธิการ: Alexandra Sternlicht เรียบเรียง: ริศา
คลิกอ่านเรื่องราวของหนุ่มสาว "30 under 30 แห่งสหรัฐอเมริกาปี 2019" อีก 15 คนได้ที่ นิตยสาร Forbes Thailand ฉบับ มกราคม 2562 ในรูปแบบ e-Magazine