ซีอีโอเซ็นทารา มองกรณีปล่อยเช่าคอนโดรายวัน ไม่เป็นธรรมต่อธุรกิจโรงแรม หวังรัฐแก้ไขเรื่องนี้อย่างจริงจัง ชี้นักท่องเที่ยวจีนกลุ่มนี้หายไปก็ไม่เป็นไร เพราะอาจไม่ใช่ตลาดที่เราต้องการ อยากให้เน้นนักท่องเที่ยวกลุ่มที่มีคุณภาพมากกว่า
จากประเด็นข่าวทุนจีนกว้านซื้อคอนโดมิเนียมในไทยแล้วปล่อยให้บริการที่พักรายวันแก่นักท่องเที่ยวผ่านแพลตฟอร์มจองที่พัก ซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ตาม พ.ร.บ.โรงแรม พ.ศ. 2547 โดย ธีระยุทธ จิราธิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โรงแรมและรีสอร์ทในเครือเซ็นทารา ให้มุมมองต่อประเด็นนี้และผลกระทบต่อการท่องเที่ยวไทย ในงานแถลงข่าวเมื่อวันที่ 28 ก.พ. 2568 ที่ผ่านมา โดยระบุว่า
“ผมไม่ค่อยเชื่อมั่นเรื่องปริมาณ เพราะปริมาณนักท่องเที่ยวไม่ได้บ่งบอกว่าเราจะประสบความสำเร็จหรือไม่ แต่เป็นที่คุณภาพของนักท่องเที่ยวมากกว่า เพราะเราจะเห็นว่าค่าเฉลี่ยต่อห้องของไทยยังต่ำอยู่ถ้าเทียบกับภูมิภาคนี้ ถึงแม้ปีที่ผ่านมาเราจะดึงนักท่องเที่ยวได้ดีกว่าใคร เพราะฉะนั้นผมไม่อยากให้เอาปริมาณนักท่องเที่ยวเป็นการวัด หรือคำนวณการใช้จ่ายต่อหัว ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่าใช้จริงหรือเปล่า
“อย่างข่าวล่าสุดเรื่องการปล่อยคอนโดฯ ให้เช่าเป็นที่พักรายวัน กลุ่มนี้ก็ไม่มีข้อมูลว่าหายไปมากน้อยแค่ไหน ซึ่งเป็นเรื่องที่ eye opening เหมือนกันว่าเดี๋ยวนี้แบบนี้แล้วเหรอ เพราะเราก็ไม่ได้อยู่ธุรกิจนี้เหมือนกัน
“ในฐานะผู้ประกอบการผมก็แฮปปี้เหมือนกัน เพราะนักท่องเที่ยวจะได้กลับเข้ามาสู่ในระบบ ถามว่าคนจีนจะหายไปไหม ถ้าพวกนั้นหายไป ผมถือว่านั่นอาจไม่ใช่ตลาดที่เราต้องการหรือเปล่า เข้ามาก็เข้ามาถูกๆ ใช้ทรัพยากรของเรา แล้วก็ไป ผมว่าเราอยากได้นักท่องเที่ยวที่มีคุณภาพ ชื่นชอบเมืองไทย มาเที่ยวเมืองไทย มากินอาหารเมืองไทย และใช้จ่ายอย่างที่ควรจะป็น เพราะเราไม่รู้เลยว่าที่เข้ามาแบบนั้นทำอะไรบ้าง
“สิ่งที่เราเห็นหลังโควิดคือนักท่องเที่ยวจีนแบบกรุ๊ปทัวร์หายไปค่อนข้างเยอะ แต่มาเป็นแบบ individual มากขึ้น Room Rate และการใช้จ่ายก็ดีขึ้น แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกรณีของ Airbnb เราไม่รู้เลยว่าหายไปเท่าไหร่ในระบบ แต่เมื่อเห็นแบบนี้แล้ว เชื่อว่ารัฐบาลคงไม่ปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไป เพราะเป็นการทำธุรกิจที่ไม่แฟร์ เพราะคุณเอาคอนโดฯ มาขายเป็นรายวัน ขณะที่คนที่ทำโรงแรม กว่าจะได้ใบอนุญาตโรงแรมมา การทำธุรกิจมันมี Cost แต่นี่ไม่มีอะไรเลย มันเป็นการทำธุรกิจบนพื้นฐานที่มันไม่แฟร์ต่อกัน
“ผมเชื่อว่ารัฐบาลน่าจะต้องเข้มมากกว่านี้ในการดูแลเรื่องเหล่านี้ ซึ่งแม้ว่าในประเทศอื่นจะให้ทำได้ แต่เรื่องเหล่านี้ขึ้นอยู่กับการจัดการของแต่ละประเทศมากกว่า ถ้าจะทำให้อยู่ในกรอบก็ทำได้ ต้องมีกฎเกณฑ์ที่ชัดเจน ไม่ใช่ว่าแอบทำแบบนี้ มันผิดกฎหมาย ผมดีใจที่มีการเปิดเผยเรื่องนี้ หวังว่าหน่วยงานราชการจะมีวิธีการดำเนินการอย่างจริงจัง และเชื่อว่าผู้ประกอบการโรงแรมทุกคนอยากให้รัฐบาลดำเนินการต่อ ไม่ใช่มีข่าวแล้วเงียบไป”
ภาพ: เครือเซ็นทารา
เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : ‘เซ็นทารา มิราจ ลากูน มัลดีฟส์’ ตัวจริงรีสอร์ทสำหรับครอบครัวแห่งมัลดีฟส์
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine