‘เซ็นทารา มิราจ ลากูน มัลดีฟส์’ ตัวจริงรีสอร์ทสำหรับครอบครัวแห่งมัลดีฟส์ - Forbes Thailand

‘เซ็นทารา มิราจ ลากูน มัลดีฟส์’ ตัวจริงรีสอร์ทสำหรับครอบครัวแห่งมัลดีฟส์

ภาพจำของ ‘มัลดีฟส์’ สำหรับหลายคนคือเดสติเนชั่นสำหรับการฮันนีมูน หลายคนมีมัลดีฟส์เป็นหนึ่งใน Bucket List จุดหมายปลายทางที่ต้องมากับคนรักให้ได้สักครั้ง แต่ปัจจุบันที่นี่เริ่มไม่ใช่แค่ที่ท่องเที่ยวสำหรับคู่รักฮันนีมูนเพียงอย่างเดียวแล้ว หลังเริ่มมีนักท่องเที่ยวกลุ่มครอบครัวมาเยือนมากขึ้น ทำให้เริ่มมีรีสอร์ทที่รองรับนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้มากขึ้น ล่าสุดคือ ‘เซ็นทารา มิราจ ลากูน มัลดีฟส์’ ที่แม้เพิ่งเปิดให้บริการได้ไม่นาน แต่เรียกได้ว่านี่คือ “รีสอร์ทที่วางคอนเซปต์มาเพื่อตอบโจทย์กลุ่มครอบครัวอย่างแท้จริง”


    ก่อนหน้านี้เครือโรงแรมและรีสอร์ทเซ็นทาราเปิดให้บริการรีสอร์ทในมัลดีฟส์อยู่แล้ว 2 แห่งด้วยกัน คือ มัชชาฟูชิ ไอส์แลนด์ รีสอร์ทและสปา มัลดีฟส์ เดอะ เซ็นทารา คอลเล็กชั่น และ เซ็นทารา ราสฟูชิ รีสอร์ทและสปา มัลดีฟส์ แน่นอนว่าได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวในกลุ่มคู่รักที่อยากใช้เวลาช่วงวันหยุดพักผ่อนด้วยกัน และสัมผัสประสบการณ์ความงดงามที่เหนือคำบรรยายของหาดทรายสีขาวและท้องทะเลสีฟ้าสดใสของหมู่เกาะในมหาสมุทรอินเดียแห่งนี้

    แต่ล่าสุดภายใต้งบลงทุนราว 200 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เครือโรงแรมและรีสอร์ทเซ็นทาราได้พัฒนารีสอร์ทในมัลดีฟส์ใหม่ 2 โครงการ ตั้งอยู่ในเกาะสวรรค์ในมาเล่ อะทอลล์เหนือ หนึ่งในเกาะในกลุ่มมัลดีฟส์ที่มีความสวยงามอย่างเหนือชั้น ได้แก่ เซ็นทารา มิราจ ลากูน มัลดีฟส์ ซึ่งเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการแล้ว และอีกหนึ่งแห่งที่อยู่ติดกันคือ เซ็นทารา แกรนด์ ลากูน มัลดีฟส์ ที่จะเปิดให้บริการในเดือนเมษายน 2568 นี้

วิลล่าเหนือน้ำของเซ็นทารา แกรนด์ ลากูน มัลดีฟส์


    แอนดรูว์ แจนสัน ผู้จัดการทั่วไป โรงแรมเซ็นทารา มิราจ ลากูน มัลดีฟส์ และโรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ ลากูน มัลดีฟส์ ฉายภาพให้เห็นถึงการท่องเที่ยวในมัลดีฟส์ว่ายังเป็นจุดหมายปลายทางที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง จากตัวเลขนักท่องเที่ยวที่แตะ 2 ล้านคนในปี 2567 ที่ผ่านมา มากกว่าช่วงก่อนโควิดเสียอีก ขณะที่ในปี 2568 นี้คาดว่านักท่องเที่ยวที่มาเยือนมัลดีฟส์จะแตะ 2.2 ล้านคน

    ไม่เพียงแค่จำนวนนักท่องเที่ยวเท่านั้นที่เพิ่มขึ้น แอนดรูว์เผยว่าจำนวนรีสอร์ทในมัลดีฟส์ก็เพิ่มขึ้นด้วย จาก 5 ปีที่แล้วที่ทั่วมัลดีฟส์มีรีสอร์ทอยู่กว่า 130 แห่ง ปัจจุบันเพิ่มขึ้นเป็น 178 แห่ง และคาดว่าอีก 3 ปีจะเพิ่มขึ้นอีกมากกว่า 30 แห่ง

แอนดรูว์ แจนสัน ผู้จัดการทั่วไป โรงแรมเซ็นทารา มิราจ ลากูน มัลดีฟส์ และโรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ ลากูน มัลดีฟส์


    ขณะที่รัฐบาลมัลดีฟส์เองก็กำลังขยายเทอร์มินัลใหม่ในสนามบินในเมืองมาเล่เพิ่ม เพื่อให้สามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้ 7 ล้านคนต่อปี จากเดิมรองรับได้ 2 ล้านคนต่อปี โดยเทอร์มินัลใหม่นี้จะเปิดให้บริการในเดือนกรกฎาคมนี้

    นอกจากการท่องเที่ยวที่เติบโต ก็ยังเห็นภาพที่เปลี่ยนไปด้วย คือการที่มัลดีฟส์ได้กลายเป็นจุดหมายปลายทางของกลุ่มครอบครัวมากขึ้น โดยแอนดรูว์บอกว่าแม้ปัจจุบันภาพรวมของมัลดีฟส์ นักท่องเที่ยวกลุ่มคู่รักจะยังเป็นกลุ่มหลักด้วยสัดส่วนถึง 60% แต่กลุ่มครอบครัวก็เพิ่มมากขึ้นเป็น 30% แล้ว และมีรีสอร์ทที่รองรับกลุ่มครอบครัวมากขึ้นด้วย

    “10 ปีที่แล้วมัลดีฟส์เรียกว่าแทบจะไม่มีนักท่องเที่ยวกลุ่มครอบครัว แต่ตอนนี้เริ่มเปลี่ยนไปแล้ว มัลดีฟส์ไม่ได้เป็นจุดหมายปลายทางที่มาในครั้งเดียวในชีวิตอีกแล้ว ด้วยจำนวนไฟลต์บินที่เพิ่มขึ้น ตัวเลือกโรงแรมมีมากขึ้น มัลดีฟส์เองก็ยังเป็นเดสติเนชั่นที่ Affordable Luxury อยู่ ทำให้นักท่องเที่ยวมาได้หลายครั้ง คนที่มาเพราะฮันนีมูนไปรอบหนึ่ง ก็อาจกลับมาอีกครั้งพร้อมลูกๆ เป็นต้น” แอนดรูว์กล่าว



    สำหรับ ‘เซ็นทารา มิราจ ลากูน มัลดีฟส์’ คือโรงแรมเซ็นทารา มิราจ แบรนด์ธีมรีสอร์ทยอดนิยมสำหรับครอบครัวแห่งที่ 4 ของเซ็นทาราในโลก แน่นอนว่าภายใต้แบรนด์ธีม ‘มิราจ’ ทำให้รีสอร์ทนี้พัฒนาขึ้นภายใต้คอนเซปต์ Family Resort ดังนั้นการออกแบบทุกอย่างจึงเน้นไปที่การตอบโจทย์นักท่องเที่ยวกลุ่มครอบครัว ตั้งแต่จำนวนห้องพักที่กว่า 70% ของห้องพัก 175 ห้องของที่นี่นั้นเป็น Family Room

ห้อง Bunk Bed กั้นเป็นห้องย่อยในห้องพักแบบ Family Room


    ความเป็นห้อง Family Room ห้องเซ็นทารา มิราจ ลากูน มัลดีฟส์ มีไฮไลต์สำคัญที่โดดเด่นและแตกต่างจากที่อื่นอย่างเห็นได้ชัด คือ การมี ‘Bunk Bed’ ที่กั้นเป็นสัดส่วนแยกเป็นห้องย่อยภายในห้องพักแบบ Family Room ทุกห้อง มอบความเป็นส่วนตัวให้กับทั้งผู้ใหญ่และเด็กๆ

ห้องพักส่วนชายหาด


    ห้องพักทุกห้องได้รับการตกแต่งในสไตล์ร่วมสมัย ไม่ว่าจะเป็นห้องพักริมหาด หรือวิลล่าเหนือน้ำ ก็มีโต๊ะรับประทานอาหาร มีอ่างอาบน้ำ, อ่างจากุซซี่ที่ระเบียง หรือสระว่ายน้ำส่วนตัวด้วย

ห้องวิลล่าเหนือน้ำแบบ Pool Villa



    ที่น่าสนใจคือห้องพักในรูปแบบ Over Water Villa หรือวิลล่าเหนือน้ำซึ่งเป็นรูปแบบที่พักที่โดดเด่นและเป็นสัญลักษณ์ของการมาพักผ่อนที่มัลดีฟส์ ซึ่งแน่นอนว่าหลายรีสอร์ทจะมีวิลล่าเหนือน้ำไว้ให้บริการด้วย แต่ความน่าสนใจของเซ็นทารา มิราจ ลากูน มัลดีฟส์ คือวิลล่าเหนือน้ำของที่นี่มีรูปแบบที่เด็กสามารถเข้าพักได้ทันที เพราะมีระเบียงที่มีไม้กั้นชัดเจนเพื่อความปลอดภัย ต่างจากวิลล่าเหนือน้ำปกติที่มักเป็นระเบียงเปิดโล่งที่ผู้ปกครองที่ต้องการพาลูกๆ เข้าพักจะต้องเซ็นยินยอมก่อน

ห้องวิลล่าเหนือน้ำสำหรับครอบครัว ระเบียงมีที่กั้น


    การเป็นรีสอร์ทสำหรับครอบครัวของเซ็นทารา มิราจ ลากูน มัลดีฟส์ ยังรวมไปถึงการมอบความสนุกสุดหรรษาสำหรับทุกครอบครัวอย่างเต็มรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น สวนน้ำกลางแจ้งขนาดใหญ่ ที่มาพร้อมสระว่ายน้ำทั้งสำหรับผู้ใหญ่และเด็ก รวมถึงสระน้ำวนเลซี่ริเวอร์ (Lazy River) ความยาวกว่า 240 เมตรที่ไม่มีรีสอร์ทไหนมี

สระว่ายน้ำกลางแจ้งพร้อมสไลเดอร์


สระน้ำวนเลซี่ริเวอร์ (Lazy River) ที่ในมัลดีฟส์มีที่นี่เพียงที่เดียว


    นอกจากนี้ยังมีโซนเครื่องเล่นน้ำสำหรับเด็กโดยเฉพาะ อีกทั้งยังมีคิดส์คลับและแคนดี้สปาสำหรับคุณหนูๆ และสปาเซ็นวารีสำหรับคุณพ่อคุณแม่ ทั้งนี้ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มลูกค้าทุกช่วงอายุได้อย่างครบครันนั่นเอง


แคนดี้สปาสำหรับเด็กๆ


    เซ็นทารา มิราจ ลากูน มัลดีฟส์ ยังมาพร้อมห้องอาหารและบาร์รวมแล้ว 5 จุดด้วยกัน ได้แก่ The Sailhouse ห้องอาหารนานาชาติที่มีที่นั่งทั้งในร่มและกลางแจ้ง โดยให้บริการตลอดทั้งวัน, ห้องอาหาร Acqua ร้านอาหารอิตาเลียนที่เน้นอาหารทะเล, ห้องอาหาร Suan Bua ร้านอาหารไทยโมเดิร์น

ห้องอาหาร The Sailhouse


    รวมไปถึง Mirage Beach Bar บาร์ริมชายหาดบรรยากาศสบายๆ พร้อมวิวพระอาทิตย์ตกที่สวยงาม ให้บริการของว่างเบาๆ เมนูค็อกเทลธีมทรอปิคอล และเครื่องดื่มสำหรับเด็กๆ นอกจากนี้ยังมี Dolphin Bar บาร์ริมสระว่ายน้ำที่สนุกสนาน และ Scoops บาร์ไอศกรีมรสเด็ดที่ไม่ควรพลาด

ห้องอาหาร Acqua


    นอกจากพักผ่อนและสนุกสนานภายในรีสอร์ท ที่นี่ยังมีกิจกรรมที่น่าสนใจอื่นๆ เพิ่มเติม เช่น การนั่งเรือไปชมโลมา (มีค่าบริการเพิ่มเติม) ที่สามารถใช้เวลาในช่วงเย็นนั่งเรือออกไปชมโลมากระโดด (Spinner dolphin) ฝูงใหญ่ที่มาว่ายน้ำโชว์ตัวให้เราได้เห็นกันแบบใกล้ชิด พร้อมๆ กับการนั่งกลับท่ามกลางบรรยากาศพระอาทิตย์ตกอันสุดแสนประทับใจ


    แอนดรูว์กล่าวเพิ่มเติมว่า คาดหวังว่าที่นี่จะเป็นรีสอร์ทสำหรับครอบครัวที่ดีที่สุดในมัลดีฟส์ โดยหลังจากเปิดให้บริการได้ไม่นานก็ได้รับการตอบรับที่ค่อนข้างดี โดยเฉพาะห้องพักในรูปแบบ Family ที่แทบจะเต็มตลอดเวลา ขณะที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่มาพักที่นี่มีทั้งคนไทย, จีน, รัสเซีย, สหราชอาณาจักร และอินเดีย โดยแอนดรูว์ตั้งเป้าอัตราการเข้าพัก (Occupancy Rate) ของปีนี้ไว้ที่ 45-55%

บรรยากาศในห้องพัก


    สำหรับราคาห้องพักในช่วงที่เพิ่งเปิดให้บริการนี้อยู่ที่ราวๆ คืนละ 400-1,000 เหรียญสหรัฐ ขึ้นอยู่กับช่วงเวลา รูปแบบห้องพัก และจำนวนมื้ออาหารที่ต้องการ โดยมีรูปแบบ All Inclusive ให้บริการด้วย ซึ่งจะรวมอาหาร 3 มื้อที่สามารถรับประทานหลายเมนูในห้องอาหารต่างๆ ในรีสอร์ทได้ ทั้งยังรวมมินิบาร์ที่มีขนมและเครื่องดื่มตั้งแต่น้ำผลไม้จนถึงไวน์เย็นๆ ไว้ให้บริการ

คิดส์คลับ


    เรียกได้ว่าหากต้องการพาครอบครัวไปเยือนมัลดีฟส์แล้วล่ะก็ ที่นี่จะเป็นรีสอร์ทที่สร้างความประทับใจให้กับทุกช่วงวัยได้อย่างแน่นอน



ภาพ: เซ็นทารา มิราจ ลากูน มัลดีฟส์ และ กนกวรรณ มากเมฆ



เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : ‘เซ็นทารา แกรนด์ มิราจ บีช รีสอร์ท พัทยา’ Themed Hotel แห่งแรกของไทย ปรับโฉมใหญ่เสร็จแล้ว! พร้อมมอบความสนุกกว่าเดิม

ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine