ONE BANGKOK
อภิมหาโปรเจกต์พลิกกรุงเทพฯ
คงไม่เกินจริงไปนัก หากจะกล่าวว่า โครงการวัน แบ็งค็อก (One Bangkok) เป็นอภิมหาโปรเจกต์ที่จะพลิกกรุงเทพฯ ให้ก้าวสู่ความเป็นเมืองมหานคร ด้วยพื้นที่โครงการขนาดใหญ่ใจกลางเมือง มูลค่าการพัฒนามหาศาล เป็นอีกหนึ่งโครงการที่จะไม่ใช่แค่รองรับดีมานด์แต่ต้อง “ครีเอทดีมานด์” ใหม่ๆ ให้เกิดขึ้นในตลาดอสังหาริมทรัพย์
จากการผสมผสำนประเภทอสังหาริมทรัพย์ที่หลากหลายบนพื้นที่ 104 ไร่ โดยสร้างความสมดุลให้กับแต่ละส่วนผสม จนอาจกลายเป็นโครงการ mixed-use ที่มีองค์ประกอบครบมากที่สุดแห่งแรกก็เป็นได้ก่อนจะมาเป็นวัน แบ็งค็อก ที่ดินแปลงนี้เดิมเคยเป็นโรงเรียนเตรียมทหารเก่า และเคยเป็นสวนลุมไนท์บาซาร์ แหล่งค้าขายสินค้าแฟชั่นและดีไซน์ขนาดใหญ่แห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ จนเมื่อปี 2557 สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ได้นำที่ดินผืนนี้มาเปิดประมูลใหม่มีผู้สนใจเข้าร่วมประมูลจำนวนมาก ซึ่งแรกเริ่มกลุ่มเซ็นทรัลเป็นผู้ได้รับการคัดเลือกให้พัฒนาที่ดินผืนนี้
แต่ท้ายที่สุดก็พลิกโผ บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของกลุ่มเจริญ สิริวัฒนภักดี เจ้าสัวเบียร์ช้าง เป็นผู้ได้รับสิทธิในการพัฒนาโรงเรียนเตรียมทหารเก่าแห่งนี้ และพัฒนาในนามบริษัท วัน แบงค็อก โฮลดิ้งส์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างบริษัท ทีซีซี แอสเซ็ท (ประเทศไทย) และบริษัท เฟรเซอรส์ พร็อพเพอร์ตี้ โฮลดิ้ง จำกัดบริษัทอสังหาริมทรัพย์สัญชาติสิงคโปร์ที่กลุ่มครอบครัวสิริวัฒนภักดี เข้าซื้อกิจการเมื่อหลายปีก่อนด้วยความเป็นที่ดินขนาดใหญ่ บนทำเลใจกลางเมือง ทำให้ที่ดินแปลงนี้ถูกจับตามองจากคนในวงการอสังหาริมทรัพย์อย่างมาก โดยกลุ่มสิริวัฒนภักดีประกาศเปิดตัว วัน แบ็งค็อก อย่างเป็นทางการเมื่อปีที่ผ่านมา พร้อมวางเป้าหมายให้เป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ของกรุงเทพฯยกระดับภาพลักษณ์ของกรุงเทพฯ ในฐานะเมืองที่เป็นประตูเชื่อมโลกกับเอเชีย มูลค่าการลงทุนมากกว่า 1.2 แสนล้านบาท

SAMYAN MITRTOWN
ประเดิมปลุกพระราม 4
สำหรับโครงการสามย่านมิตรทาวน์จะเป็นโครงการแรกในกลุ่ม mixed-use ใหม่ที่จะสร้างเสร็จในย่านพระราม 4 ซึ่งล่าสุดประกาศจะเปิดให้บริการในเดือนกันยายน 2562 โดยทำเลที่ตั้งอยู่บริเวณหัวมุมถนนพระราม 4 - พญาไท ติดรถไฟฟ้าใต้ดินสถานีสามย่านและมีทางเชื่อมเข้าสู่ตัวโครงการ บนพื้นที่รวมเกือบ 14 ไร่ บนที่ดินเช่าสำนักงานจัดการทรัพย์สินจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งเดิมเคยเป็นตลาดสามย่านเก่าตั้งแต่ปี 2508 จนถึงปี 2551 สำนักงานจัดการทรัพย์สินจุฬาฯ ได้ย้ายตลาดสามย่านเก่าไปยังตลาดสามย่านใหม่บริเวณจุฬาลงกรณ์ ซอย 15
พื้นที่บริเวณตลาดสามย่านเก่าแห่งนี้ทิ้งร้างนานเป็นเวลาหลายปี จนกระทั่งปี 2557 บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ภายใต้อาณาจักร “สิริวัฒนภักดี” ก็ได้สิทธิกำรพัฒนำที่ดินผืนนี้ไป โดยให้พัฒนาในนาม บริษัท เกษมทรัพย์ภักดี จำกัด ซึ่งเป็น บริษัทที่ถือหุน โดยบริษัท แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ โกลเด้นแลนด์ ในสัดส่วน 49% และบริษัท ทีซีซี แอสเซ็ทส์ (ประเทศไทย) จำกัด ถือหุ้นในสัดส่วน 51% ของทุนจดทะเบียน 3 พันล้านบาทในเชิงการพัฒนาและบริหารโครงการสามย่านมิตรทาวน์ กลุ่มครอบครัวสิริวัฒนภักดีได้ส่งต่อให้ทีมโกลเด้นแลนด์เป็นผู้พัฒนา


SINDHORN VILLAGE คอนโดฯ ลีสโฮลด์ปลุกกระแสลงทุน
แผนพัฒนาโครงการขนาดใหญ่ของภาคเอกชนหลายโครงการที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตล้วนพัฒนาบนสิทธิการเช่าของหน่วยงานรัฐ เพราะเมื่อเมืองขยายตัว ที่ดินของภาคเอกชนย่านใจกลางเมืองจะได้รับการพัฒนาจนเต็มเกือบทุกแปลง “ที่ดินสิทธิการเช่า” ย่านใจกลางเมืองจะเป็นทางเลือกสำคัญของนักพัฒนาที่ดิน รวมถึงโครงการที่อยู่อาศัยแบบสิทธิการเช่า (leasehold) ก็จะได้รับการยอมรับมากขึ้น “สินธรวิลเลจ” (Sindhorn Village) เป็นหนึ่งในโมเดลของโครงการที่อยู่อาศัยขนาดใหญ่แบบสิทธิการเช่าบนทำเลใจกลางเมือง ที่อาจจะสะท้อนภาพของโครงการที่อยู่อาศัยใจกลางเมือง หรือทำเลที่มีศักยภาพในแบบสิทธิการเช่าที่คาดว่าจะมีมากขึ้นในอนาคต โดยสินธรวิลเลจถือกำเนิดขึ้นจากนโยบายการพัฒนาสังหาริมทรัพย์แนวใหม่ของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ที่มอบหมายให้บริษัท สยามสินธร ดำเนินการพัฒนาโครงการแบบผสมผสานบนพื้นที่ 52 ไร่ย่านหลังสวนตรงข้ามกับสวนลุมพินี ซึ่งจัดได้ว่าเป็น prime area อันดับต้นๆ ของกรุงเทพฯ สยามสินธรได้วางแนวคิดให้โครงการสินธรวิลเลจเป็น mixed-use ด้านที่อยู่อาศัยขนาดใหญที่ตั่้งใจให้อาคารมีอายุการใช้งานยาวนานถึง 100 ปี

SINGHA COMPLEX ปั้นอาณาจักรรับ CBD ใหม่
หลังจากที่กลุ่มภิรมย์ภักดีได้ที่ดินแปลงนี้ไปครอง ก็มีเพียงกระแสข่าวว่าเป็นเพราะกลุ่มเบียร์สิงห์ต้องการย้ำยสำนักงานใหญ่จากย่านสามเสนมายังที่ดินแปลงนี้ จนเมื่อกลุ่มเบียร์สิงห์เข้ำสู่สนามรบเรียลเอสเตทอย่างเต็มรูปแบบด้วยการซื้อกิจการของบริษัท รสา พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) และควบรวมเป็นบริษัทสิงห์ เอสเตท แผนพัฒนาที่ดินกว่า 9 ไร่แปลงนี้ก็ชัดเจนขึ้นนั่นจึงเป็นที่มาของ “สิงห์ คอมเพล็กซ์” (Singha Complex) ซึ่งเป็นโครงการ mixed-use ที่มีทั้งอาคารสำนักงาน ศูนย์การประชุมระดับนานาชาติ โรงแรมระดับ 5 ดาว พื้นที่ค้าปลีก และคอนโดมิเนียมมูลค่ารวมกว่า 1 หมื่นล้านบาท โดยเมื่อโครงารนี้แล้วเสร็จ แน่นอนว่าจะเป็นอีกหนึ่งศูนย์รวมใหม่ของกรุงเทพฯ เพราะตามแผนแล้วในสิงห์ คอมเพล็กซ์จะมีพื้นที่ที่เป็นฮอลล์คอนเสิร์ต ที่กลุ่มเบียร์สิงห์ควาดหวังว่าจะดึงคอนเสิร์ต ที่ทางกลุ่มเป็นสปอนเซอร์มาจัดที่ฮอลล์แห่งนี้ ก็จะดึงคนกลุ่มคนรุ่นใหม่เข้ามาสู่พื้นที่นี้ ที่ผ่านมาทำเลอโศก-เพชรบุรี แม้จะมีรถไฟฟ้าใต้ดินสถานีเพชรบุรีและมีแอร์พอร์ตลิงค์สถานีมักกะสันผ่าน แต่ไม่ใช่ย่านที่มีแม่เหล็กอะไรดึงดูดให้มา แต่การที่มีสิงห์ คอมเพล็กซ์เกิดขึ้นก็มีแนวโน้มที่จะทำให้ย่ำนอโศก-เพชรบุรีเปลี่ยนไป ซึ่งเมื่อรวมกับพื้นที่ใกล้เคียงอย่างพระราม 9 ที่มีอาคารสำนักงานจำนวนมาก สิงห์ คอมเพล็กซ์ จะเป็นหนึ่งในแรงหนุนที่จะทำให้บริเวณพระราม 9 - เพชรบุรี เป็นโซนศูนย์กลางธุรกิจแห่งใหม่ของกรุงเทพฯ
คลิกอ่านครบทุกเรื่องราวจาก "BANGKOK 2025 & BEYOND NEW NODES, NEW URBANISM" ForbesLife Thailand ฉบับพิเศษ November 2018
