ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ เผยปี 2567 กวาดยอดขายบ้าน-คอนโดฯกว่า 35,435 ล้านบาท ตามเป้า ทั้งจากโครงการพร้อมอยู่ โครงการเปิดใหม่ และโครงการระหว่าง Ongoing ในทำเลระดับท้อปของประเทศ มั่นใจ Key Success ผ่าน “3I” กลยุทธ์หลัก “Insight -Initiative-Implementation” เข้าใจลูกค้าแบบเจาะลึก ทั้งด้านการพัฒนาสินค้าตอบโจทย์ตลาดยุคใหม่ พร้อมจัดทัพผู้บริหาร ปรับโครงสร้างกลุ่มธุรกิจคอนโดฯใหม่ ลุยต่อไม่หยุดจ่อเปิดเกมส์บุกปี 2568
นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร เปิดเผยว่า ในปี 2567 ที่ผ่านมา บริษัทฯมียอดขาย (Presales) จากโครงการที่อยู่อาศัย 35,435 ล้านบาท จากเป้าหมายที่ตั้งไว้ 35,000 ล้านบาท โดยแบ่งเป็น ยอดขายจากโครงการบ้านจัดสรรหรือที่อยู่อาศัยแนวราบภายใต้ บริษัท บริทาเนีย จํากัด (มหาชน) อยู่ที่ 6,544 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 18% ขณะที่ยอดขายที่อยู่อาศัยแนวสูง(คอนโดมิเนียม) อยู่ที่ 28,891 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 82% ภายใต้ บริษัท ออริจิ้น เวอร์ติเคิลคอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือ ORIGIN VERTICAL เป็นการตอกย้ำความสำเร็จโครงการเปิดใหม่และโครงการพร้อมอยู่ (Ready to move) ขณะเดียวกันยังสะท้อนความเชื่อมั่นของลูกค้าที่มีต่อแบรนด์ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์และการอยู่อ่าศัยที่สร้างความพึงพอใจได้ครอบคลุมตลาด Gen Y - Gen Z
ทั้งนี้ จากยอดขายรวมทั้งหมดในปีที่ผ่านมา แบ่งสัดส่วนตามสถานะโครงการเป็น ที่อยู่อาศัยพร้อมอยู่ (Ready to move) คิดเป็น 55% โดยเป็นโครงการพร้อมอยู่นั้นมีทั้ง คอนโดมิเนียม บ้านเดี่ยว บ้านแฝดกระจายทำเลทั้งในกรุงเทพฯ และหัวเมืองหลักในต่างจังหวัด ส่วนสัดส่วนที่เหลือประมาณ 45% เป็นยอดขายจากโครงการที่เปิดขายใหม่ หรืออยู่ระหว่างดําเนินการก่อสร้าง(Ongoing) ซึ่งโครงการเปิดใหม่ในปี 2567 เน้นพื้นที่ทำเลระดับท้อปของประเทศรวมทั้งสิ้น 12 โครงการ มูลค่ารวม 19,400 ล้านบาท แบ่งเป็นที่อยู่อาศัยแนวราบ 4 โครงการ มูลค่ารวม 4,900 ล้านบาท และเป็นคอนโดมิเนียม 8 โครงการ มูลค่า 14,500 ล้านบาท
สำหรับโครงการคอนโดฯพัฒนาภายใต้แนวคิด “Creative Living for All” สู่ผู้บริโภค มูลค่ารวมกว่า 14,500 ล้านบาท อาทิ
- โครงการ SO Origin Bangtao Beach เป็นคอนโดมิเนียมระดับ Luxury สูง 8 ชั้น จำนวน 3 อาคาร 545 ยูนิต และ1 คลับเฮ้าส์ มูลค่าโครงการ 2,500 ล้านบาท ที่ปัจจุบันมียอดขายไปแล้ว 77%
- โครงการ The Origin Sriracha คอนโด Low Rise 2 อาคาร ความสูง 8 ชั้น จำนวน 499 ยูนิต ตกแต่งสไตล์ญี่ปุ่น ติดถนนใหญ่ ศรีราชา-หนองค้อ ใกล้ด่านมอเตอร์เวย์ แหลมฉบัง-กรุงเทพ มูลค่ารวม 750 ล้านบาท ซึ่งมียอดขายแล้วประมาณ 50%
- โครงการ Origin Place Taopoon Interchange คอนโด High Rise สูง 32 ชั้น จำนวน 673 ยูนิต และ 2 ร้านค้า เลี้ยงสัตว์ได้ มูลค่ารวม 2,300 ล้านบาท ขายไปแล้ว 66%
ส่วนโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบเปิดใหม่ 4 โครงการ มูลค่ารวม 4,900 ล้านบาท พัฒนาภายใต้แนวคิด “Crafting for Everlasting Growth” ภายใต้ 3 Dimensions Strategy ประกอบด้วย
- โครงการ Dusit Suites Residences Khaoyai
- โครงการ Britania Westgate
- โครงการ Britania Ratchaphruek 345
- โครงการ Belgravia Exclusive Ratchaphruek-Rama 5
“เราดำเนินงานด้วยความมุ่งมั่น จาก Insight ของลูกค้า ที่นำมาสู่ข้อมูลด้านการวิจัยและวิเคราะห์เชิงลึกในทุกๆ ด้าน ตั้งแต่ ทำเล การใช้ชีวิต ไลฟ์สไตล์ การลงทุน อย่างจริงจัง เพื่อออกแบบสินค้าและบริการให้ตอบโจทย์การอยู่อาศัยให้มากที่สุดสู่การต่อยอด Initiative ริเริ่มฟังก์ชันใหม่ โปรดักส์ใหม่ อย่างสร้างสรรค์ ตอบสนองทุกมิติของการใช้ชีวิต ตอกย้ำสถานะผู้นำตลาดคอนโดมิเนียม ” นายพีระพงศ์กล่าว ถึง Key Success Factor สำคัญที่ทำให้ ออริจิ้น ประสบความสำเร็จในปี 2567 ที่ผ่านมา ด้วยกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจภายใต้ 3I
นอกจากนี้ ภายใต้กลยุทธ์สร้างประสบการณ์ที่ดีด้านที่อยู่อาศัยให้กลุ่มลูกค้าบ้านและคอนโดฯแล้ว การเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันทางธุรกิจ เพื่อสร้างโอกาสด้านการตลาดและการขายเข้าถึงลูกค้ารายใหม่ ด้วยการตลาดเชิงรุกเจาะกลุ่มลูกค้าต่างชาติ เปิดตัว Origin Agent Club จับมือเอเจนท์กว่า 300 ราย เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จที่ทำให้ยอดขายต่างชาติทั้งปีทะลุ 5,700 ล้านบาท เติบโต 225% และสูงสุดเป็นประวัติการณ์ตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทมา นอกจากนี้ยังเตรียมเดินสายโรดโชว์ในปี 2568 พร้อมกับมีแผนเปิดสำนักงานขายในต่างประเทศ เพื่อนำอสังหาฯไทยเจาะตลาดโลก ไม่เพียงเท่านั้น ปีที่ผ่านมามีการจัดทัพทีมผู้บริหารใหม่ ปรับโครงสร้างใหญ่กลุ่มธุรกิจคอนโดฯ รวมพลังและทีมงานระดับมืออาชีพ วางรากฐาน New S-Curve การกระจายพอร์ตสู่ธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์เพื่อรองรับการเติบโตยั่งยืน
แม้ตลอดปี 2567 ภาพโดยรวมของตลาดที่อยู่อาศัยนั้นเผชิญกับ ความท้าทายจากปัจจัยเสี่ยงในหลายๆ ด้าน แต่ยังเชื่อมั่นว่าผู้บริโภคยังมีความต้องการที่อยู่อาศัย ดังนั้นการจะเลือกเปิดตัวโครงการใหม่ต้องมีองค์ประกอบครบถ้วนและโดดเด่น สร้างแรงกระตุ้นให้ผู้บริโภคสนใจที่เดิมมีแผนจะซื้ออยู่แล้วแต่อาจลังเล
ทั้งนี้ สิ่งที่ ออริจิ้น ให้ความสำคัญ คือ การปรับตัว ระมัดระวังในการดำเนินธุรกิจ การพิจารณาการเปิดตัวโครงการใหม่นั้น จึงมีความยืดหยุ่น เพิ่ม หรือ ลด ตามความเหมาะสมของสถานการณ์ ขณะเดียวกันก็มองหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ทั้งธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำ และ ธุรกิจเมกะเทรนด์ รวมถึงร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจทั้งรายเก่าและรายใหม่ในหลากหลายอุตสาหกรรมตามแผนสร้างการเติบโตและการดูแลผู้บริโภคแบบไม่สิ้นสุด
อย่างไรก็ตาม บริษัทในเครือที่เป็นบริษัทมหาชน ได้แก่ บริษัท บริทาเนีย จำกัด (มหาชน) และบริษัท พรีโม เซอร์วิส โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) จะเตรียมทยอยประกาศแผนการดำเนินธุรกิจประจำปี 2568 ในช่วงไตรมาส 1/2568 นี้ โดย บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) น่าจะประกาศแผนการดำเนินธุรกิจในช่วงเดือน มี.ค.2568 ที่จะเปิดเกมส์บุกตลาดอสังหาฯ อีกครั้ง
สำหรับ บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI มีโครงสร้างธุรกิจหลากหลาย ภายใต้ 4 กลุ่มธุรกิจ
1. กลุ่มธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อการขาย (Residential Development Business) พัฒนาคอนโดมิเนียมและบ้านจัดสรรมาแล้ว 167 โครงการ (ณ สิ้นไตรมาส 4/2567) เช่น แบรนด์ Park Origin, So Origin, Origin Plug & Play, Knightsbridge, Notting Hill, Origin Place, The Origin, Kensington, Hampton, Origin Play, Brixton และ Britania เป็นต้น รวมมูลค่าโครงการทั้งสิ้นกว่า 259,072 ล้านบาท โดยกลุ่มโครงการบ้านจัดสรร หรือที่อยู่อาศัยแนวราบ ดำเนินการภายใต้บริษัท บริทาเนีย จำกัด (มหาชน) หรือ BRI เน้นกลุ่มบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ส่วนกลุ่มโครงการแนวสูงหรือคอนโดมิเนียม ดำเนินการภายใต้บริษัท ออริจิ้น เวอร์ติเคิล คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือ ORIGIN VERTICAL
2. กลุ่มธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำ (Recurring Income Business) เช่น โรงแรม เซอร์วิสอพาร์ตเมนท์ ค้าปลีก
3. กลุ่มธุรกิจบริการ (Service Business) เช่น ธุรกิจให้บริการลูกบ้าน ธุรกิจการจัดการอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจตัวแทนซื้อ ขาย เช่า อสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์
4. กลุ่มธุรกิจเมกะเทรนด์ระยะยาว (Mega Trends) เป็นกลุ่มธุรกิจใหม่ที่มีแนวโน้มเติบโตในระยะยาว เช่น ธุรกิจโลจิสติกส์ ธุรกิจเฮลท์แคร์ ธุรกิจพลังงาน ธุรกิจด้านการเงิน ธุรกิจเอนเตอร์เทนเมนท์ ฯลฯ เพื่อยกระดับคุณภาพการใช้ชีวิตของผู้บริโภคแบบครบวงจร
ภาพ: ออริจิ้น
เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : ‘Woven City’ เมืองแห่งอนาคต แต่อาจไม่ทำกำไรของโตโยต้า เตรียมให้ 100 คนแรกเข้าไปอยู่ในปีนี้
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine