ในงาน CES 2025 ที่สหรัฐอเมริกาเมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา โตโยต้า มอเตอร์ ระบุถึงความคืบหน้าโครงการ ‘เมืองแห่งอนาคต’ ของบริษัทซึ่งตั้งอยู่ที่เชิงภูเขาไฟฟูจิในญี่ปุ่น ว่ามีแผนจะย้ายผู้อยู่อาศัย 100 คนแรกเข้าไปอยู่ในเมืองภายในฤดูใบไม้ร่วงปีนี้
โตโยต้าเผยว่า ผู้อยู่อาศัยในช่วงแรกของเมืองแห่งอนาคตที่มีชื่อว่า Woven City นั้นส่วนใหญ่จะประกอบด้วยพนักงานของบริษัทและครอบครัว และจะค่อยๆ ขยายจำนวนผู้อยู่อาศัยเป็นประมาณ 2,000 คน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของระยะเริ่มต้น
“ในปีนี้ ผู้อยู่อาศัยจะเริ่มย้ายเข้ามาอยู่ ในขณะที่เราค่อยๆ เนรมิตให้ Woven City มีชีวิตชีวาขึ้น” Akio Toyoda ประธานบริษัทโตโยต้า กล่าวในการแถลงข่าวที่งาน CES ในลาสเวกัส “เราตั้งเป้าที่จะเร่งสปีดเรื่องการทดสอบและพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ Woven City”
Toyoda เปิดตัวแผนการพัฒนาเมืองแห่งนี้ในฐานะ “ห้องทดลองที่มีชีวิต” เมื่อ 5 ปีก่อนในฐานะประธานโตโยต้าในขณะนั้น โดยเขาระบุว่านี่จะเป็นเมืองที่มีความยั่งยืนอย่างสมบูรณ์ และจัดแสดงโลกแห่งความเป็นจริงสำหรับปัญญาประดิษฐ์, หุ่นยนต์ขั้นสูง, รถยนต์ไร้คนขับ และบ้านอัจฉริยะ
แต่โครงการ Woven City นี้จะไม่เปิดให้สาธารณชนเข้าชมเป็นวงกว้างไปอีกอย่างน้อย 2 ปี และประธานบริษัทโตโยต้ากล่าวว่าโครงการนี้อาจ “ไม่ทำกำไรเลย”
“โครงการ Woven City จะทำให้โตโยต้ามีรายได้หรือไม่? อาจจะไม่” Toyoda กล่าว “ในฐานะพลเมืองโลก ผมเชื่อว่าโตโยต้ามีความรับผิดชอบในการลงทุนเพื่ออนาคตร่วมกันของเรา”
ส่วนสำคัญของโครงการ Woven City ของโตโยต้าคือแพลตฟอร์มซอฟต์แวร์ใหม่และระบบปฏิบัติการรถยนต์ที่เรียกว่า Arene ซึ่งออกแบบมาเพื่อเร่งการพัฒนารถยนต์และลดต้นทุน โดยบริษัทวางแผนที่จะนำระบบนี้มาใช้ในปีนี้และทำให้เป็นองค์ประกอบหลักของรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นที่จะออกตั้งแต่ปี 2026 เป็นต้นไป
ทั้งนี้ ในปี 2023 โตโยต้าแต่งตั้งหัวหน้าคนใหม่ของบริษัท Woven ซึ่งเป็นบริษัทในเครือที่โตโยต้าเข้าไปถือหุ้นทั้งหมด ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลง จากการเน้นด้านการวิจัยไปสู่การมีส่วนร่วมมากขึ้นในการผลิตยานยนต์รุ่นถัดไป
ภาพ: Toyota
แปลและเรียบเรียงจาก Toyota Aims to Open Its Futuristic City in Japan This Year
เรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : ตลาด EV เดือดสะเทือน Tesla ยอดขายตกครั้งแรกในรอบ 12 ปี
ไม่พลาดบทความและเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ติดตามเราได้ที่เฟซบุ๊ก Forbes Thailand Magazine